0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

ตอนที่3 ชายปริศนาในชุดคลุมสีดำ

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

0ctogus

0ctogus
Admin

“ต่อจากนี้เราจะทำยังไงกันต่อ” นั่นคือประโยคที่ชานยอลพูดขึ้นท่ามกลางโต๊ะกินข้าวของครอบครัวของเขา  คริสเหลือบตามองเด็กน้อยทั้งสองที่กำลังสนุกสนานกับการแต่งจานให้เป็นหน้าตลกๆ และเขี่ยผักไปไว้ที่จานแม่ ร่างสูงปรามด้วยสายตาดุ ก่อนจะตอบคำถามชานยอล


“เรื่องไปหาท่านพ่อ คงต้องรอจนกว่าท่านจะกลับมาประทับที่วัง ช่วงนี้ในนรกมีแต่เรื่องวุ่นๆ” โยดาเงี่ยหูฟังอย่างสนใจ เด็กหญิงตัวน้อยถือช้อนส้อมค้าง พร้อมกับเคี้ยวอาหารอย่างช้าๆ


“เกิดอะไรขึ้นที่นั่นหรอ ในนรกมีความวุ่นวายด้วยหรอ” ชานยอลเอ่ยถาม เขาไม่คิดว่าในนรกสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเศร้า อับเฉา และแห้งเหี่ยวจะมีความวุ่นวายได้หรอก พวกวิญญาณถูกคุมอยู่ในอำนาจของฮาเดสจนหมด ไม่มีทางที่จะลุกขึ้นมาต่อกรอะไรได้



  ร่างสูงหัวเราะน้อยๆก่อนจะตักของโปรดให้ชานยอล


“วุ่นวายทีเดียวล่ะ พวกอสูรกายในทาทาร์รัสกำลังอยากจะแหกคุก”


“อสูรกาย..” โยดาพึมพำอย่างตื่นเต้นก่อนจะสนใจฟังต่อ


“พวกมันเริ่มแผนนี้มาสักพักแล้ว แต่พ่อของฉันรอเวลาจนกว่าจะจับได้คาหนังคาเขา แล้วก็ลงโทษพวกมันสถานหนัก ตอนนี้ก็แค่รอเวลาให้พวกมันติดกับเท่านั้น” คริสอธิบายต่อ ชานยอลนั่งฟังก่อนจะเหลือบไปเห็นคราบซอสที่ติดมุมปากโยดา ร่างโปร่งยืดตัวไปเช็ดให้ คริสที่ลอบมองอยู่ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเหลือบไปเห็นโยฟาน เจ้าตัวแสบของบ้านเอาซอสมะเขือเทศมาละเลงปากตัวเองให้เลอะบ้าง


“คุณหม่ามี๊ ปากพี่ฟานเลอะ!!” เด็กน้อยว่าพร้อมกับยื่นหน้าจะให้เช็ดให้


“มานี่เลย เดี๋ยวพ่อเช็ดให้” คริสว่าก่อนจะคว้าผ้าเช็ดปากมาเช็ดให้ โยฟานเบะปากประท้วง


“หื้ออออ คุณป๊า”


“เจ้าเล่ห์ดีนัก” ร่างสูงเขกหัวลูกชายเบาๆ ชานยอลกับโยดาส่งเสียงหัวเราะคิกคัก


“เหมือนใครก็ไม่รู้เนอะ” ร่างโปร่งเอ่ยแซว คริสกลั้นยิ้มพยายามตีหน้าขรึม ก่อนจะพาเปลี่ยนเรื่องเอาซะดื้อๆ


“ถ้าจะลงไปหาพ่อฉันก็คงต้องรออีกหน่อย แต่ไม่น่าจะนานมากหรอก”


“หรอ” ชานยอลยังคงไม่เลิกล้ออีกฝ่าย คริสทำหน้านิ่งใส่ ก่อนจะพูดต่อ


“ฉันมีเรื่องจะถามความเห็นจากนายด้วย….” ร่างโปร่งพยายามกลั้นหัวเราะก่อนจะตอบ


“อะไรล่ะ ว่ามาสิ”


“ฉันคิดมาสักพักแล้ว ฉันอยากให้ลูกใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติมากที่สุด  ถึงพวกเขาจะไม่มีอายุขัย ไม่ต้องทำอะไรตามที่คนปกติทำ แต่ฉันอยากให้ทุกอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ฉันอยากให้เขา…” ร่างสูงเว้นช่วงก่อนจะสบตาชานยอลด้วยสายตาจริงจัง


“เข้าเรียนในโรงเรียนมนุษย์”


“ว่าอะไรนะคริส!!!” ชานยอลที่กำลังอารมณ์ดีโพล่งถาม การเรียนในโรงเรียนมนุษย์เท่ากับการไปอยู่ไกลหูไกลตาเขา ที่นั่นอาจจะมีปีศาจ กึ่งเทพ และศัตรูมากมายรายล้อมอยู่ แล้วถ้าเขากับคริสไม่ได้อยู่ด้วย ลูกๆจะเป็นยังไง จะเอาตัวรอดได้รึเปล่า แล้วถ้าเกิดใครมาทำอะไรขึ้นมา เขาจะทำยังไง


“ฉันไม่เห็นด้วยเด็ดขาด ยังไงลูกก็ต้องอยู่กับเรา” ร่างโปร่งพูดเด็ดขาด ร่างสูงมองสบตาก่อนจะพูดอย่างใจเย็น


“เราจะให้เขาอยู่กับเราตลอดเวลาไม่ได้”


“ทำไมจะไม่ได้ นี่ลูกเรา เรามีสิทธิจะดูแลเขายังไงก็ได้ หลักสูตรมนุษย์ไม่เห็นจำเป็นต้องเรียนเลย”


“แต่เราอยู่ในโลกมนุษย์ จะเป็นยังไงถ้าคนรอบข้างถามว่าทำไมไม่ส่งลูกไปเรียน” ร่างโปร่งอ้ำอึ้งก่อนจะเถียงข้างๆคูๆ


“ก็ใช้มนตร์บิดเบือนสิ”


“โอลิมปัสมีคำสั่งไม่ให้ใช้มันพร่ำเพื่อไม่ใช่หรือ” ชานยอลเม้มปาก ขมวดคิ้วมุ่น ทำสีหน้าอย่างที่ชอบทำในตอนกำลังไม่พอใจ ร่างสูงยิ้มน้อยๆก่อนจะเลื่อนมือไปกุมมือเรียวไว้


“ไว้ใจลูกเราเถอะ พวกเขาเก่งกว่าที่เราคิดไว้” ชานยอลน้ำตาคลอเบ้า ดวงตากลมโตเหลือบมองเด็กน้อยทั้งสองที่จ้องเขาตาใสแป๋ว


“คุณแม่ให้พี่โยดาเรียนสือนะคะ พี่โยดาอยากตะมีเพื่อนยกๆ” เด็กน้อยอ้าแขนประกอบท่าทาง


“ใช่ๆ คุณหม่ามี๊ให้พวกเราเรียนนะครับ นะคร้าบบบ นะคร้าบบบบ” โยฟานทำตาเล็กตาน้อยขอความเห็นใจจนร่างโปร่งหลุดยิ้มกับท่าทางของลูก  คริสวาดแขนโอบไหล่พร้อมกับบีบแขนคนขี้แยเบาๆ


“เห็นไหม ลูกยังอยากไปเรียนเลย” ชานยอลเบ้ปากน้อยๆก่อนจะยื่นมือไปลูบผมเด็กน้อยทั้งสองเบาๆ


“หนูอยากไปเรียนจริงๆหรอ” เด็กน้อยทั้งสองพยักหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง ร่างโปร่งถึงกับหลุดถอนหายใจ


“เฮ้อ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วแม่จะขัดใจอะไรได้ ก็ได้ แต่ลูกต้องสัญญากับแม่ก่อนนะ”


“ได้เลย!!!” คู่แฝดรับคำอย่างขยันขันแข็ง


“ตอนพ่อแม่ไม่อยู่ ห้ามทำอะไรแผลงๆ ห้ามใช้พลังพร่ำเพื่อ ห้ามใช้พลังแกล้งคนอื่น ต้องเชื่อฟังคุณครู แล้วก็ห้ามเถลไถล อ้อ อีกข้อ ห้ามหนีออกไปซนที่ไหนนอกโรงเรียนเด็ดขาด”


“ลูกจะกลายเป็นนักโทษอยู่แล้วชานยอล ปล่อยเขาบ้างเถอะ” คริสพูดอย่างติดตลก ชานยอลค้อนขวับก่อนจะหันมากำชับกับลูกอีกครั้ง


“เข้าใจไหมลูก”


“เข้าใจครับ // เข้าใจค่ะ!!!”  ทั้งสองคนตะเบ๊ะด้วยท่าทางขึงขัง ชานยอลแย้มยิ้มทั้งๆที่ในใจก็ยังห่วงเจ้าตัวน้อยทั้งสองอยู่


“ถ้างั้นคืนนี้เราต้องรีบอาบน้ำนอนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปโรงเรียนไม่ทัน เอ้า ใครจะไปอาบน้ำกับแม่บ้าง” ร่างโปร่งบอกก่อนจะตั้งท่าวิ่งกลับไปที่ห้องพัก


“พี่ฟาน!!!” โยฟานร้องดัง ก่อนจะพุ่งตัววิ่งตามไปด้วย


“พี่โยดาด้วย  อ๋อยยย  ไม่รอกันเลย” โยดาตัวน้อยโอดครวญก่อนจะถกกระโปรงที่ยาวกรอมเท้าขึ้นมาถึงเข่าแล้วออกวิ่ง ร่างสูงมองภาพตรงหน้าอย่างเอ็นดู


“พี่โยดาจะรีบอาบน้ำ พี่โยดาจะรีบนอน พรุ่งนี้มีภารกิจใหญ่รอพี่โยดาอยู่~” เด็กหญิงตัวน้อยพูดเจื้อยแจ้ว พลางคิดในใจว่า ลงไปเยี่ยมคุณปู่ในทาทาร์รัสจะถือเป็นการเถลไถลมั้ยน้า คงไม่หรอก ก็เราแค่ไปเยี่ยมคุณปู่นี่นา คุณแม่จะต้องไม่ดุ ฮิฮิ




-----------------------------------------------------




   ชานยอลไม่เคยคิดว่าเขาจะมีวันนี้ ทั้งชีวิตของเขาเคยเป็นผู้อยู่หลังรั้วโรงเรียน แล้วมีผู้ปกครองมาส่งอยู่หน้าประตูตลอด แต่วันนี้ทุกอย่างมันกลับกัน เขาต้องทำหน้าที่นั้น เขาต้องมายืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนเพื่อส่งลูกๆเข้าไปเรียนเป็นวันแรก…


“อย่าลืมที่แม่บอกนะ ห้ามทำอะไรแผลงๆ ห้ามใช้พลังพร่ำเพื่อ ห้าม…”


“ห้ามใช้พลังแกล้งคนอื่น ต้องเชื่อฟังคุณครู ห้ามเถลไถล ห้ามหนีออกไปซนที่ไหนนอกโรงเรียนเด็ดขาด!!! พวกเราจำได้หมดแล้วววว~” เด็กน้อยสองคนพูดแทรกก่อนที่เขาจะกระโดดไปกระโดดมาอย่างกระตือรือร้น


“ดูสิ พูดจนลูกจำได้เลย” คริสแกล้งแซวจนชานยลส่งค้อนให้เป็นรางวัล


“ไม่ช่วยก็เงียบไปเลยไป ไอ้ผีดิบ!!!” ร่างโปร่งหยิกสีข้างพร้อมกับกระซิบรอดไรฟัน


“งั้นก็เอาปากมาปิดสิครับ…” ดวงตาคมมองอีกคนอย่างเจ้าเล่ห์ ชานยอลถลึงตาใส่ก่อนจะหันไปหาลูกๆแทน ให้ตายเถอะ นี่เขาคว้าผู้ชายบ้าๆแบบนี้มาเป็นแฟนได้ยังไงกันนะ!!!


“ลูกต้องทำตามที่แม่บอกด้วยนะ ห้ามขัดคำสั่งข้อไหนเป็นอันขาด แล้วก็เย็นนี้รอพ่อกับแม่อยู่ที่ห้องเดี๋ยวจะพ่อกับแม่จะรีบมารับ  เข้าใจไหมครับตัวยุ่งทั้งสอง~” ร่างโปร่งว่าก่อนจะบิดจมูกคู่แฝดเบาๆ เด็กน้อยหัวเราะคิกคัก


“เธอดูบ้านนั้นสิ น่ารักจังเลยเนอะ คุณแม่ยังสวยอยู่เลย แถมคุณพ่อก็หล่อมากด้วย” เสียงผู้ปกครองที่เดินผ่านมากระซิบกระซาบกัน  ร่างโปร่งก้มมองตัวเองก่อนจะนิ่งคิด นี่เขาสวยตรงไหนกัน หูก็กาง ขาก็โก่ง สงสัยมนตร์บิดเบือนคงพลางให้เขาเป็นคุณแม่สวยหวานอย่างนั้นซะละมั้ง


“ถึงจะดูเหมือนทอมแต่ก็ดูน่ารักเนอะ”


“ฮึ” คริสหลุดขำเมื่อได้ยินคำพูดของผู้ปกครองท่านนั้น ร่างโปร่งหันไปค้อนขวับ พลางบ่นกระปอดกระแปดในใจ ทำไมเขาจะต้องได้พรจากอะโฟร์ไดท์ที่ทำให้อ่านความคิดกันออกด้วยนะ!!


“เดี๋ยวอะโฟไดท์ก็โกรธหรอก” ร่างสูงเตือน ชานยอลพรูลมหายใจอย่างกระฟัดกระเฟียดก่อนจะหันกลับไปหาลูก


“ป่ะ รีบเข้าเรียนกันได้แล้ว เดี๋ยวสาย อย่าลืมที่แม่บอกนะ ห้าม…”


“ห้ามทำอะไรแผลงๆ ห้ามใช้พลังพร่ำเพื่อ ห้ามใช้พลังแกล้งคนอื่น ต้องเชื่อฟังคุณครู ห้ามเถลไถล  ห้ามหนีออกไปซนที่ไหนนอกโรงเรียนเด็ดขาด……..พวกหนูจำได้แล้วววว” เด็กน้อยกระโดดไปมา


“เก่งจริงๆเลยนะ!  ไปเร็วรีบเข้าเรียนได้แล้ว” ชานยอลว่าอย่างไม่จริงจังนัก


“บ๊ายบายยยย รักคุณป๊าคุณมี๊นะ” โยฟานกับโยดาพูดพร้อมกันก่อนจะยื่นหน้าหอมแก้มพ่อกับแม่ แล้ววิ่งเข้าโรงเรียนไปอย่างร่าเริง โดยมีคริสกับชานยอลมองส่งจากด้านหลัง ร่างสูงค่อยๆพูดขึ้นอย่างช้าๆ


“วันนี้ลูกต้องมีความสุขแน่”


“แต่ก็ไม่รู้จะมีใครมาแกล้งรึเปล่า ลูกเรา…” ชานยอลหยุดพูดเมื่อเห็นสายตาดุของคริสมองมา ร่างโปร่งเบ้ปากก่อนจะตอบ


“ก็ห่วงนิดนึงได้มั้ยล่ะ นั่นลูกนะนั่นลูก!!”


“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ คุณภรรยา…” คริสมองหน้าอีกคนแล้วยิ้มกริ่ม ชานยอลแสร้งทำหน้าเหรอหราก่อนจะรีบหลบตา


“ง่วงแล้วอะ กลับไปนอนกันเหอะ” ร่างโปร่งหันหลังเดินเข้าไปในเงานำคริส ร่างสูงอมยิ้มน้อยๆก่อนจะตอบ


“ทำมากกว่านอนได้ไหม…”


“ไม่ต้องเลยไอ้ผีดิบ!!!” ชานยอลฟาดเข้าที่แขน คริสหัวเราะในลำคอก่อนจะเดินทางผ่านเงา พาเขากับชานยอลกลับไปที่บ้าน…




----------------------------------------



“คุณพ่อคุณแม่กลับบ้านไปแล้ว!!!” เด็กหญิงตัวน้อยร้องอย่างดีใจขณะที่เธอแอบมองพ่อกับแม่อยู่หลังพุ่มไม้  ต่อไปเธอก็ต้องหาทางหนีลงไปในทาทาร์รัสให้ได้  ว่าแต่…เธอจะลงไปได้อย่างไรล่ะ เธอไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน เธอไม่รู้ว่ามันไปทางไหน และต้องใช้อะไรในการเดินทาง เธอรู้แค่ทาทาร์รัสอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของนรก และนรกคือสถานที่ที่คนตายไป…


“คนตาย…” เด็กหญิงตัวน้อยพึมพำ ถ้าเธอเรียกวิญญาณออกมาถามจะผิดคำสั่งของแม่ไหมนะ แล้วถ้าเรียกออกมาพวกวิญญาณจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อหรือเปล่า ไม่ได้ๆ เธอจะให้พ่อกับแม่รู้เรื่องนี้ไม่ได้ เด็กหญิงตัวน้อยส่ายหน้าก่อนจะค่อยๆมุดออกมาจากพุ่มไม้ เธอจะทำยังไงดีนะ เธอจะลงไปที่นั่นได้ยังไง เธอจะทำยังไงให้พ่อแม่ไม่รู้ดี


“นี่! ทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ!!!” จู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น โยดารีบหันขวับไปตามเสียง เด็กหญิงตัวน้อยเบิกตาโพล่ง ภารโรงวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังชะโงกหน้ามาถาม ในมือของเขาถืออะไรบางอย่างที่ดูคล้ายกรรไกรอันยักษ์


“คุณลุง…” โยดามองอย่างตื่นๆ ชายคนนั้นขมวดคิ้วก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ


“โอ้ เด็กนักเรียนนี่ มาทำอะไรตรงนี้ล่ะยัยหนู ที่นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่นนะ” เด็กหญิงตัวน้อยลนลานตอบคำถาม


“หนูมา หนูมา หนูมาดูไส้เดือน!!! คุณไส้เดือนตัวน่ารัก!!!” โยดาตอบอย่างขยันขันแข็งเกินจริง ภารโรงถึงกับหัวเราะในความน่ารักของเธอ


“ยัยหนูคนนี้นี่น่ารักจริงๆ ชอบไส้เดือนเหรอยัยหนู” คนถูกถามพยักหน้าหงึกหงัก  ก่อนที่ภารโรงคนนั้นจะช้อนดินที่มีไส้เดือนขึ้นมาให้ดู


“นี่ไง ไส้เดือนของหนู” เขาบอกด้วยรอยยิ้มใจดี โยดาตัวน้อยที่เกรงกลัวไส้เดือนถึงกับชะงักกับรอยยิ้มของเขา เธอเม้มปากแน่นรวบรวมกำลังใจก่อนจะค่อยๆชะโงกหน้าเข้าไปดูไส้เดือน


“คุณลุงไม่กลัวมันหรอคะ”


“โอ้ กลัวทำไมล่ะ ถึงพวกมันจะดูไม่น่ารักแต่มันก็มีประโยชน์กับเรานะ ดูอย่างตัวนั้นสิ ที่มันไชดินอยู่ นั่นทำให้ดินร่วนซุยนะ” เขาพยักพเยิดให้ดูไส้เดือนตัวหนึ่งที่กำลังไชดินอยู่


“ถ้าไม่มีพวกมันต้นไม้พวกนี้ก็จะขึ้นไม่ได้หรอกนะ มันน่ะคือวิศวกรทางดินของโลกเชียวนะยัยหนู” เขาพูดพร้อมกับยิ้มให้เธอจนดวงตานั้นเล็กหยี โยดามองรอยยิ้มมีความสุขนั้นก่อนจะค่อยๆเขยิบเข้าไปรองมือให้ไส้เดือนตัวหนึ่งเลื้อยมาหาเธอ


“นายเก่งขนาดนั้นเลยหรอคุณไส้เดือน”


“ใช่แล้ว…บางครั้งสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในโลกก็ต้องการพึ่งรากฐานเล็กๆแต่มั่นคงแบบนี้ล่ะนะ เอ้อ! นี่ยัยหนู กริ่งโรงเรียนดังแล้วนะ ต้องรีบไปเข้าแถวแล้ว” โยดาเบิกตาโพลงก่อนจะรีบคืนไส้เดือนให้ลุงคนนั้น


“งั้นหนูไปก่อนนะคะ บ๊ายบายค่ะคุณลุง” เด็กหญิงตัวน้อยว่าก่อนจะรีบวิ่งกลับไปที่ห้อง โดยไม่ลืมที่จะเหลียวมองมาข้างหลัง….



ที่เธอตกใจไม่ใช่เพราะลุงคนนั้นถือกรรไกรมาด้วย แต่เพราะ เคียวขนาดใหญ่ของยมทูตที่เดินตามลุงอยู่ข้างหลังต่างหากที่ทำเธอฉงน


“ทำไมต้องตามคุณลุงด้วยล่ะ…” เธอพึมพำ ก่อนที่เสียงโยฟานจะดังขึ้น


“พี่โยดา~ มาเข้าแถวเร็ววววว คุณครูจะตีแล้วววว” เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งไปหาคู่แฝด ก่อนที่เธอจะมองย้อนกลับไปยังที่ที่ภารโรงคนนั้นเคยยืนอยู่ เธอสัมผัสได้ เธอรับรู้ได้ถึงความตาย…. ในโรงเรียนนี้กำลังจะมีคนตายงั้นเหรอ…



----------------------------



ตลอดทั้งวันโยดาคอยแอบมองภารโรงคนนั้นอยู่ตลอด ทุกครั้งที่เธอเห็นเขา เธอจะต้องเห็นผู้ชายตัวใหญ่ที่อำพรางใบหน้าอยู่ใต้เสื้อคลุมและถือเคียวด้ามใหญ่คนนั้นเดินตามหลังเขาอยู่ตลอด ผู้ชายคนนั้นไม่เคยพูดอะไรกับลุงภารโรง ไม่เคยแตะตัว ไม่เคยทำอะไรให้ เหมือนว่าเขามีหน้าที่แค่เป็นเงาตามตัวอยู่เฉยๆ แต่ที่น่าแปลกก็คือ ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเห็นเขานอกจากเธอ..


“พี่โยฟานๆ” เด็กน้อยเรียกคู่แฝด ขณะที่นักเรียนทุกคนกำลังเล่นกันอยู่ในสนามเด็กเล่น โยฟานเงยหน้าขึ้นจากกองทรายที่เล่นอยู่


“อะไรหรอพี่โยดา~”


“พี่โยฟานเห็นผู้ชายที่ถือเคียวคนนั้นไหม” เด็กหญิงตัวน้อยชี้ไปที่ชายคนนั้น โยฟานมองตามก่อนจะขมวดคิ้ว



“ไหนๆ ใครถือเคียว ไม่เห็นจะมีเลยยยย พี่โยดาถูกคุณผีหลอกแล้ววว” โยฟานเอ่ยตอบก่อนจะมุดเครื่องเล่นหายไปอีกฝั่ง โยดาจ้องไปที่ชายคนนั้นอย่างฉงน เธอรู้ว่านั่นไม่ใช่ผี และเธอก็ไม่ได้ตาฝาด แต่เธอไม่เข้าใจ เธอไม่รู้ว่าเขาคือใคร แล้วทำไมต้องเดินตามลุงภารโรงด้วย  
   


   เด็กหญิงตัวน้อยจ้องมองอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งที่ลุงคนนั้นเดินเข้ามาตัดแต่งต้นไม้ใกล้ๆ เธอเหลือบตามองชายคนนั้น ก่อนที่ความอยากรู้จะสั่งการให้เธอพลั้งปากถาม


“ตามคุณลุงทำไมหรอคะ”  โยดาเอ่ยถาม ชายถือเคียวเงยหน้าขึ้น แม้ไม่เห็นใบหน้าที่ซ่อนอยู่แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองเธอกลับ ชายปริศนาคนนั้นไม่เอ่ยตอบเธอ


“ตามคุณลุงทำไมหรอคะ” เธอถามขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ภารโรงจะเริ่มสงสัย


“ยัยหนู หนูคุยกับลุงหรอ” เด็กหญิงตัวน้อยส่ายหน้า ก่อนจะชี้ไปที่ด้านหลังของเขา


“หนูคุยกับคุณลุงคนนี้อยู่” ชายกลางคนหันไปมองด้านหลังอย่างงุนงง ก่อนที่เขาจะขยับเข้ามาใกล้……..โยดาได้กลิ่นถึงความตาย


“หนูคุยกับใคร ไม่มีใครตามลุงมาเลยนะ”


“นี่ไงคะ นี่ไง ลุงถือเคียวคนนี้กำลังตามคุณลุงอยู่!!” โยดาพยายามอธิบาย ก่อนที่เสียงแหบแห้งและเย็นยะเยือกจนแทบจะกดดันให้เรารู้สึกอยากฆ่าตัวตายจะดังขึ้น ฉับพลันนั้นบรรยากาศรอบตัวก็เหมือนถูกห่อหุ้มด้วยความตาย โลกทุกอย่างกลายเป็นเทา และดูเหมือนจะมีแต่เธอกับเขาเท่านั้นที่รับรู้ถึงโลกนี้


“เจ้าเห็น..” เด็กหญิงตัวน้อยไม่ตอบอะไรแต่เธอกลับจ้องมองเขานิ่ง


“เจ้าเห็นข้าได้อย่างไร…” โยดาส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะตอบ


“หนูแค่เห็น…..คุณลุงตามลุงภารโรงคนนี้ทำไมหรอคะ ทำไมจะต้องตามด้วยหรอคะ” ชายคนนั้นไม่ตอบแต่กลับเอื้อมมือมาแตะหน้าผากเธอ เขานิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนที่เขาจะพูดด้วยความฉงน


“ไม่เคยเห็นความตายมาก่อน…แล้วเจ้ามองเห็นข้าได้อย่างไร” โยดาขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะส่ายหน้าไปมา


“หนูไม่รู้”


“เจ้าเป็นใคร ปีศาจ เทพเจ้า  หรือเวทมนตร์กลใด จงตอบข้ามา”


“หนูเป็นคน คนเฉยๆ” โยดาตอบพาซื่อ ชายคนนั้นดูร้อนรนมากขึ้น


“ไม่มีทาง ไม่มีทางที่คนปกติจะมองเห็นข้า” เขายืนกรานก่อนจะวางมือบนศีรษะของโยดาอีกครั้ง ฉับพลันนั้นไอเย็นเยียบก็แผ่ไปทั่วร่างของเด็กน้อย เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในน้ำที่เย็นจัด ร่างกายเหมือนจะเยือกแข็งกลายเป็นน้ำแข็ง แต่นอกจากนั้นแล้วเธอก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย…


“เป็นไปไม่ได้ …. เป็นไปไม่ได้…” ชายถือเคียวพึมพำซ้ำไปซ้ำมา ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นอีกครั้ง


“ไม่มีทางที่มนุษย์ธรรมดาจะไม่มีอายุขัย นี่คือกลมายาใด ไม่มีทางที่ท่านฮาเดสจะปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้!!!” โยดาตาโตก่อนจะถามอย่างกระตือรือร้น


“รู้จักกับคุณป…รู้จักกับท่านฮาเดสหรอ” เด็กน้อยรีบเปลี่ยนคำพูด เธอจะให้ใครรู้ว่าเธอเป็นหลานของเทพเจ้าแห่งความตายคนนั้นไม่ได้ ยมทูตตนนั้นตวัดตามามองก่อนจะคว้าแขนเธอไว้


“เจ้าต้องลงไปพบท่านฮาเดสกับข้า!!! ข้าจะปล่อยเรื่องนี้ไว้ไม่ได้” เด็กน้อยกำลังจะตอบก่อนที่เสียงหนึ่งจะดังขึ้น


“โอ๊ะ!!!” จู่ๆเสียงภารโรงก็ดังขึ้น โยดารีบหันขวับไป ลุงคนนั้นทรุดฮวบลงกับพื้น มือกุมหัวใจเอาไว้แน่น ดวงตาลึกโหลนั้นเบิกโพลง ปากอ้าค้าง ก่อนที่เขาจะกระตุกถี่ๆ


“คุณลุงคะ คุณลุง!!!” เธอรีบวิ่งเข้าไปหา ชั่ววินาทีที่สัมผัสร่างนั้นเธอก็รับรู้ได้ถึงความตาย


“ช่วยคุณลุงเร็ว ช่วยคุณลุงเร็ว คุณลุงกำลังจะตายนะ!!” เธอร้องบอกกับชายคนนั้น แต่เขากลับ….


เงื้อเคียวขึ้นแล้วพูดด้วยเสียงเย็นเยียบ…


“ถึงเวลาที่ต้องตายแล้ว….จงดับสูญ…”


ฉับ!!!


เคียวนั้นฟันร่างของลุงภารโรง แต่ใบมีดของมันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อสังหาร แต่เหมือนเป็นการดึงวิญญาณให้หลุดออกจากร่างเสียมากกว่า ลุงภารโรงในร่างของวิญญาณสีเทายืนไร้สติอยู่ตรงนั้น ท่าทางของเขาดูมึนงงและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น


“ฉัน…ฉัน….ฉันเป็นอะไรไป” เขาพูดด้วยความสับสน ยมทูตเอ่ยบอกด้วยเสียงเรียบ



“เจ้าตายแล้ว”


“เป็นไปไม่ได้!! ผมยัง ผมยัง….นั่น นั่นยัยหนูนี่!!” เขาพูดก่อนจะเดินเข้ามาหา หมายจะสัมผัสตัว ยมทูตสะบัดมือไล่ร่างเขาออกไป


“นี่ไม่ใช่เรื่องของเจ้า อีกสักพักท่านเฮอร์มีสจะมารับเจ้าไปยังนรก ส่วนเด็กคนนี้……” เขาเว้นช่วงก่อนจะคว้าแขนโยดาไว้


“เป็นธุระที่ข้าต้องพาไปหาท่านฮาเดสเอง” สิ้นเสียงนั้นประตูแห่งเงาก็เปิดออก ก่อนที่ยมทูตจะพาโยดาลงไปสู่ขุมนรกในส่วนที่ลึกที่สุด และอันตรายที่สุด…



ทาทาร์รัส…

http://0ctogus.forumth.com

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ