0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

Secretofsuperstar EP5

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

1    Secretofsuperstar EP5 Empty Secretofsuperstar EP5 Fri Nov 14, 2014 9:43 am

0ctogus

0ctogus
Admin

ตลอดทางที่คนขับรถขับมาตามท้องถนน หลังจากที่คริสจูบชานยอลแล้วก็ไม่มีเสียงทะเลาะอะไรเล็ดลอดมาจากทางเบาะด้าน หลังอีก ... ตอนนี้ชานยอลกำลังใช้ความคิดอย่างหนักที่จะเอาตัวรอดในคืนนี้ หากเขาเข้าไปทายาและนวดให้คริสจะมีอะไรที่เป็นอันตรายเกิดขึ้นกับตัวเขาหรือ ไม่...

"ชานยอล นายนั่งเหม่อคิดอะไรอยู่....นายกลัวมากเหรอ"

คริสพูดพร้อมกับยิ้มออกมาขำๆเมื่อเห็นท่าทางวิตกจริตของชานยอล เขาจ้องมองไปที่ชานยอลที่กำลังนั่งคิ้วขมวดอยู่ข้างๆ

"ปะ เปล่า ฉันจะกลัวทำไม....ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวซะหน่อย ฮ่าๆ"

ชานยอลแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนความรู้สึกตัวเอง ยิ่งชานยอลเป็นแบบนี้คริสก็ยิ่งอดขำไม่ได้ หน้าของชานยอลตอนนี้มันตลกชะมัด....

รถแวนคันหรูของคริสวิ่งมาตามทางเรื่อยๆไม่นานนักก็สิ้นสุดการเดินทาง ......คนขับรถของคริสค่อยๆเลี้ยวรถเข้ามาจอดในบริเวณลานจอดรถช้าๆเมื่อรถจอด สนิททั้งคริสและชานยอลก็เดินลงมาจากรถแวนคันนั้น...

"ลุง เอาของคุณชานยอลไปไว้บนห้องด้วย"

....สิ้นเสียงของคริสลุงคนขับรถก็กระวีกระวาดเดินไปหยิบแฟ้มเอกสารและกระเป๋าเสื้อผ้าของชานยอลจากทางด้านหลังรถ

"ไม่ต้องฮะลุง เดี๋ยวผมทำเอง"

ชานยอลเดินเข้าไปยกกระเป๋าของเขาเองและแกล้งถ่วงเวลารื้อดูเอกสารต่างๆที่ด้านหลังรถและกระเป๋าเสื้อผ้าของเขา

"เอ๊ เอกสารผมเอามาครบมั้ยนะ" ชานยอลแกล้งพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับลุงคนขับรถช่วยเดินเข้ามาหาเอกสารที่ด้านหลัง

"คริสนายขึ้นไปก่อนแล้วกัน ฉันขอเช็คเอกสารบางตัวก่อน"

"อือเร็วๆล่ะ ฉันง่วงแล้ว"

คริสเดินนำห่างออกไปทางหน้าบ้านโดยมีชานยอลยืนมองอย่างโล่งใจ ชานยอลถอนหายใจออกมาเมื่อคริสเดินไปได้ไกลพอสมควรแล้ว อย่างน้อยก็ยังดีที่ถ่วงเวลาได้ซักหน่อย...

"ลุงฮะ ลุงอย่าเพิ่งกลับได้มั้ยฮะ"

ชานยอลพูดกับลุงคนขับรถประจำตัวของคริสด้วยน้ำเสียงร้องขอและเว้าวอนลุงคน ขับ...สิ่งที่ชานยอลกำลังจะทำคืออะไร คุณลุงคนนั้นมีท่าทีงุนงงกับชานยอลแต่ก็เอ่ยตอบชานยอลไปตามมารยาท...

"ไม่ได้หรอกครับคุณชานยอล คุณคริสเธอจะให้ลุงมาพักเวลาที่เธอจะเรียกใช้เท่านั้น"

"แล้วอีกอย่าง คุณคริสเธอก็ไม่ค่อยชอบให้ใครมายุ่มย่ามที่บ้านเธอเท่าไร"

"อ่าว ทำไมล่ะครับลุง อยู่เป็นเพื่อนผมก่อน นั่งคุยกับผมในบ้านก็ได้"

ชานยอลยังคงดื้อรั้นชวนคุณลุงคนขับรถของคริสให้อยู่ที่บ้านในเวลาคับขันและพอที่จะมีใครช่วยเหลือเขาได้บ้าง

"ไม่ได้จริงๆครับคุณชานยอล...แม่บ้านยังไม่มีใครอยู่ซักคน คุณคริสเธอเจ้าระเบียบ และอีกอย่างคนที่เธอจะให้มาพักที่บ้านก็คือคนที่เธอพึงพอใจเท่านั้น"

... คุณลุงคนขับรถยังคงเอ่ยตอบชานยอลไปด้วยท่าทีปฎิเสธ คุณลุงเองก็ไม่อยากจะเดือดร้อนเช่นกัน เพราะเวลาที่คริสโกรธขึ้นมา แม้แต่คนรับใช้อย่างเขาที่อยู่ใกล้ชิดกับคริสมาหลายปีก็ยังไม่ต้องการจะเข้า ใกล้เขา......


"หมายความว่ายังไงฮะ คนที่คริสพึงพอใจ" ชานยอลยังคงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

"เอ่อ....คุณชานยอลโชคดีนะครับ ผมเห็นผู้จัดการคนเก่าๆของคุณคริส เวลาทำอะไรให้เธอไม่พอใจ เธอก็ไล่ตะเพิดทุกราย ที่บ้านนี้ไม่ค่อยมีผจก.ของคุณคริสมานอนหรอกครับ เธอไม่ค่อยชอบอยู่ใกล้ๆผจก."

ลุงคนขับรถพูดกระซิบเบาๆกับชานยอลโดยไม่ลืมที่จะมองไปยังประตูหน้าบ้านว่าคริสจะเดินออกมาตามชานยอลเมื่อไร

"อ่าวแล้วผมละฮะ"

... ชานยอลยังคงทำหน้างงๆตอนเอ่ยถามกับคุณลุงคนขับ แล้วทำไมต้องให้ผมมาทำงานที่บ้านทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ชอบอยู่ใกล้กับผจก.แล้ว ผมก็เพิ่งรู้ว่าที่จริงแล้วที่บ้านนี้ ผจก.ส่วนตัวคนเก่าๆของคริสยังไม่ค่อยได้เข้ามาพักซักเท่าไร

"ลุงไม่ทราบเหมือนกันครับ พูดเยอะมันจะไม่ดีต่อตัวลุง ลุงขอตัวก่อนดีกว่า"

คุณลุงคนขับรถพูดพลางเดินเปิดประตูรถและรีบขึ้นไปนั่งตำแหน่งคนขับ...

"อ่าว ลุง เดี๋ยวก่อนซิฮะ ลุง ลุง"

ชานยอลเรียกลุงไว้แต่ไม่ทัน เขายืนไตร่ตรองกับคำพูดของคุณลุงคนขับแต่ก็ยังคิดไม่ตกว่าเพราะสาเหตุอะไร ที่คริสทำกับเขาแบบนี้ หรือว่า...ต้องการจะแกล้งเขา...

ชานยอลเดินคอตก หอบหิ้วแฟ้มเอกสารและกระเป๋าเสื้อผ้าของเขาเข้าไปในตัวบ้านพร้อมกับมองสำรวจ รอบๆว่าคริสยังคงอยู่บริเวณนั้นหรือไม่ หรืออาจจะเข้าห้องนอนไปแล้ว....ในขณะที่ชานยอลกำลังรีบเดินขึ้นบันไดไป เงียบๆก็มีฝ่ามืออุ่นๆเดินโอบเอวเขาจากทางด้านหลัง ...

"มองหาฉันเหรอ...ฉันอยู่นี่ชานยอล"

คริสพูดพร้อมกับยิ้มละมุนให้กับชานยอล รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ เขานึกขำในอาการกลัวของชานยอลในตอนนี้ คริสรู้ดีว่าชานยอลกำลังคิดอะไรเกี่ยวกับตัวเขา...

"คะ คริส นายยังไม่ขึ้นห้องเหรอ"

ชานยอลเบิกตากลมโตของเขาด้วยความตกใจเมื่อคริสโผล่มาจากทางด้านหลังของเขาทั้งๆที่เขาเพิ่งจะเห็นว่าไม่มีใครอยู่บริเวณนี้....

"ก็รอขึ้นห้องพร้อมนายไง"

คริสลอบมองชานยอลด้วยแววตาขบขัน..พร้อมกับจงใจพูดประโยคที่สามารถแกล้งชานยอลได้อีก

"รีบขึ้นไปนวดยาให้ฉันปะ ฉันง่วงละเราจะได้นอนกันซักที"

เรา...เราจะได้นอนกันซักที...หมายความว่ายังไง...ชานยอลยังคงกระวนกระวายใจเขารีบหลบดวงตากลมโตของเขา
ไปทางอื่นและอยากจะให้ช่วงเวลาที่เดินขึ้นบันไดไปเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของเขา

คริสเดินจูงแขนชานยอลเข้ามาที่ห้องนอนของเขาโดยที่ไม่ให้ชานยอลไปเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าและแฟ้มเอกสารก่อนเขาลอบมองใบหน้าของชานยอลที่ตอนนี้คงกำลังหาทางออกในการเอาตัวรอดอยู่...การ ได้แกล้งชานยอลเป็นอะไรที่สนุกที่สุดในชีวิตของคริส....บ้านหลังนี้ที่แสน น่าเบื่อมันก็น่าอยู่และดูสนุกสนานขึ้นเมื่อมีชานยอลมาอยู่ใกล้ๆเขา

"ชานยอล นายกลัวฉันจริงๆเหรอ" คริสเอ่ยถามกับชานยอลเรียบๆเขากำลังค้นหาคำตอบจากสายตาของชานยอล

"ฮ่าๆ บ้าเหรอคริส ฉันจะกลัวนายทำไม นายไม่ใช่ผี" ....

ชานยอลยังคงแกล้งหัวเราะตลกเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกในใจของเขา เสียงการเต้นของหัวใจของชานยอลตอนนี้หากมีหมอมาวัดระดับการเต้นของมัน คงจะนึกว่าชานยอลอาจจะใกล้มีอาการช็อคแล้วก็เป็นได้...

"อือ ถ้าไม่กลัวก็ดีแล้ว งั้นนายถอดเสื้อให้ฉันหน่อย"

คริสพูดพลางโอบเอวด้านหลังของชานยอลและดึงเขาเข้ามาหาตัว ตอนนี้ตัวของชานยอลอยู่ในระยะประชิดกับหน้าอกหนาแกร่งของคริส.... มันใกล้มากเสียจนคริสแทบจะได้ยินเสียงหัวใจของชานยอล...

"เอ่อ....ฉะ ฉัน"

... ชานยอลยังคงพูดจาตะกุกตะกักในขณะที่อยู่ในอ้อมกอดของคริส..นี่เขากำลังจะทำ อะไร..เขาจะแกล้งผมหรือกำลังเล่นตลกอะไรกันแน่ ...ชานยอลยังคงมีสายตาเลิ่กลั่กและมีอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด

กลิ่นน้ำหอมจางๆจากตัวของคริสมันทำให้น่าหลงใหลและเคลิบเคลิ้ม ยิ่งใบหน้าที่แสนจะเพอร์เฟคอยู่ตรงหน้าเขาใกล้ๆแบบนี้มันยิ่งทำให้หัวใจที่เต้นแรงของชานยอลแทบจะหยุดเต้น...สองเสียงที่กำลังดังเถียงกันอยู่ในใจของชานยอล....ใจนึงอยากจะวิ่งหนีคริสจากห้องนี้ไปไกลๆ...แต่อีกใจก็อยากจะยืนอยู่ตรงนี้ให้นานเท่านาน

"ครั้งแรกของนายเหรอชานยอล" คริสโน้มหน้าลงช้าๆเพื่อกระซิบที่ข้างใบหูของชานยอล

บ้าจริง!....ครั้งแรก...คริสหมายถึงอะไร....ใบหน้าของชานยอลเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา นี่ผมเริ่มมีอาการเขินอายต่อหน้าเขาอีกแล้วใช่ไหม....คำพูดแบบนี้มันถามกันได้ด้วยเหรอ...ชานยอลไม่คิดจะตอบคำ ถามนั้นได้แต่ยืนก้มหน้าและกำลังกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัว เขา...ซึ่งเขาก็ตอบไม่ได้เช่นกันว่าเขาต้องการหรือไม่ต้องการมันกันแน่

"ชานยอล นายจะไม่ตอบฉันเหรอ หืม" คริสยังคงก้มหน้าของตนเองลงมาใกล้ชานยอลมากขึ้นไปอีก

"อาา คริส! เรามาถอดเสื้อของนายกันก่อนดีกว่า ฮ่าๆ เมื่อไรแขนนายจะหายซักทีนะ ฉันจะได้ตั้งใจทำงานของฉันให้ดีที่สุด ว่าแต่เสื้อนายตัวนี้ยี่ห้ออะไร ฉันว่ากระดุมมันแกะยากกว่าตัวที่แล้วนะ นายไม่ควรจะซื้อมาใส่อีกนี่คือความเห็นจากผจก.ส่วนตัวของนาย"

ชานยอลพูดออกมาเป็นชุดด้วยความเขินอาย เขาพยายามอย่างที่สุดที่จะเปลี่ยนเรื่องตรงหน้าให้กลายเป็นเรื่องอื่นมือของชานยอลรีบแกะกระดุมด้วยท่าทีที่ร้อนรน จนมันพลาดแกะผิดแกะถูกหลายครั้ง คริสอมยิ้มออกมาด้วยความขำปาร์คชานยอลคงจะตื่นเต้นมาก ......

"ชานยอล....นายกำลังเขินเหรอ หูของนายมันเริ่มเปลี่ยนสี...." คริสหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับชี้ไปที่หูของชานยอล

"ทำไมนายชอบใส่เสื้อที่กระดุมมันแกะยากแบบนี้ล่ะคริส ฉันว่า...."

"ปาร์คชานยอล"...

คริสเรียกชานยอลพร้อมกับจับมือของเขาที่กำลังแกะกระดุมอยู่เพื่อให้หยุดทุกอย่างและมองมาที่เขาเท่านั้น ......

ชานยอลหยุดการกระทำของตนเองและมองไปที่ใบหน้าของคริส...อา บ้าจริง สายตาของคริสเวลาที่จ้องมองมาที่ผมมันจะทำให้ผมละลายกลายเป็นไอติมอยู่แล้ว ชานยอลถอนหายใจเบาๆและกลัวว่าตัวเองจะหลงไปกับสัมผัสของคนตรงหน้า สัมผัสที่เขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นสัมผัสที่หลอกลวงหรือไม่.....

"ชานยอล.......นายไม่ต้องกลัวฉันหรอก......ฉันไม่ชอบฝืนใจใคร..................."

ชานยอลกำลังจะยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจแต่แล้วประโยคที่ตามมาก็เปรียบสเหมือนประโยคที่ยังคงตราตรึงความกังวลให้กับตัวเขาต่อไป

"ไม่อยากฝืนใจใคร...............ยกเว้นแค่นายคนเดียว"

คริสพูดออกมาเบาๆและอมยิ้ม หลังสิ้นประโยคนั้น .... เขาโน้มใบหน้าลงมาจูบสัมผัสที่ริมฝีปากบางของชานยอลอย่างแผ่วเบา.....ฝ่ามือ หนาของคริสยังคงกุมมือของชานยอลที่อยู่ตรงหน้าอกเขาเอาไว้....จังหวะการเต้น ของหัวใจของคนทั้งสองตอนนี้ไม่แตกต่างกันนัก....ชานยอลหลับตาลงช้าๆด้วยความ รู้สึกกลัวและรู้สึกดีอย่างประหลาด มีความรู้สึกมากมายเกิดขึ้นในใจของชานยอลและชานยอลเองก็อธิบายไม่ได้ว่ามัน คือความรู้สึกอะไร....คริสค่อยๆยกมือของเขาขึ้นมาลูบไล้ไปที่แก้มนวลใสของ ชานยอลและละริมฝีปากมาที่บริเวณแก้มนวลเนียนนั้นแทน เขาพรมจูบมันช้าๆ 2-3 ครั้งก่อนจะพูดกับชานยอลอีกครั้ง....


"วันนี้ฉันยังไม่ทำอะไรนายหรอก.........."

"แต่วันหน้า.............ฉันไม่สัญญานะ"


ชานยอลยังคงยืนสงบนิ่งเป็นรูปปั้นอยู่อย่างนั้น........คริสใช้นิ้วเรียวยาวของเขาเกลี่ยไปที่ปอยผมด้านหน้าของชานยอลเพื่อเปิดดวงหน้าใสของชานยอลให้เขาเห็นชัดขึ้น....ใบหน้าของเด็กผู้ชายคนนึง ที่ดูน่ารักกว่าเด็กผู้หญิงบางคนเสียด้วยซ้ำชานยอลไม่มีมารยา หรือจริตจกร้านเหมือนผู้หญิง.......ดูจะมีแต่ความใสซื่อบริสุทธิ์ที่ตัวเขา เองก็แสดงออกมาอย่างไม่รู้ตัว
....ในชีวิตของคริสพบเจอกับผู้คนมามากมายทั้งในและนอกวงการ แต่เขาก็ยังไม่เคยพบเจอใครแบบปาร์คชานยอล.....คริสเองก็สับสนกับความรู้สึกของเขาเช่นกัน....และตอนนี้คงยังไม่มีใคร ตอบได้ นอกจากเขาทั้งสองคนจะค้นหาคำตอบของหัวใจของพวกเขาเอง....

"นายกลับห้องไปเถอะชานยอล...นายคงเหนื่อยละ" คริสพูดพร้อมกับลูบไปที่ผมด้านหน้าของชานยอลอย่างแผ่วเบา

"นะ นาย..........ไม่ให้ฉันทายาแล้วเหรอ จะเจ็บแขนอีกมั้ยคืนนี้" ชานยอลเอ่ยถามคริสด้วยความเป็นห่วงเพราะในรถ
เมื่อครู่เขาเป็นคนทำให้คริสเจ็บตัว

"ไม่แล้วล่ะ.....อีกไม่กี่วันก็จะถอดเฝือกออกละ" คริสพูดพลางมองไปที่แขนของตนเองและไม่ต้องการให้ชานยอลเป็นกังวลเกี่ยวกับตัวเขา

"ฉันเองก็เบื่อจะแย่ละ ตอนนี้ถ้าแขนฉันไม่เจ็บก็อาจจะทำอะไร..... อะไร...... ได้สะดวกขึ้น"

คริสตั้งใจเว้นประโยคให้ชานยอลคิด.........เขาหมายถึงเรื่องนั้นอีกแล้วใช่ มั้ย บ้าจริง คริสยังคงเจ้าเล่ห์กับเขาไม่เลิก ดวงตาคมของคริสและริมฝีปากได้รูปของเขายังคงยิ้มออกมาอย่างขบขัน....ทุก ครั้งคำพูดเหมือนจะดี แต่ลงท้ายประโยคก็เป็นคำที่มักจะชอบกลั่นแกล้งชานยอลอยู่ร่ำไป.....

ในคืนนั้นชานยอลกลับห้องมาด้วยความรู้สึกแปลกๆในใจ......มันมีความสุขเจือปน กับความกลัวอย่างประหลาด...เขาล้มตัวนอนลงบนเตียงด้วยหัวใจที่เหนื่อยอ่อน เพราะเหมือนว่าวันนี้หัวใจของเขาจะทำงานหนักกว่าปกติ

คริสเองก็เช่นกัน .....เขานั่งยิ้มอยู่คนเดียวในห้องเมื่อนึกถึงใบหน้าของชานยอล....ใบหน้า เลิกลั่กเวลาตกใจทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าเขินอายที่มักจะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีแดงระเรื่อทุกครั้ง เสียงหัวเราะ ความดื้อรั้นที่ชานยอลมักต่อล้อต่อเถียงกับเขาทุกครั้ง...แต่มันก็ดูมี เสน่ห์ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของ ปาร์คชานยอล

ทั้งคริสและชานยอลต่างคนต่างนอนหลับตาโดยกำลังคิดถึงคนที่กำลังนอนอยู่ในห้องข้างๆ.............






และแล้ว....ก็มาถึงวันที่คริสรอคอย.....วันนี้ช่วงเช้าทางโรงพยาบาลและคุณหมอประจำตัวคริสนัดเอาเฝือกอ่อนออกและขอตรวจดูอาการอีกเล็กน้อย อาการปวดร้าวที่แขนขวาของคริสไม่เกิดขึ้นอีกและเขากลับมาเป็นปกติแล้ว คุณหมอตรวจดูอาการและบอกว่าคนไข้ขยับเขยื้อนแขนขวาน้อยมากก็เลยทำให้กล้าม เนื้อไม่มีอาการอับเสบ แต่หลังจากถอดเฝือกออกแล้วก็ให้พยายามขยับเขยื้อนแขนขวาให้มากขึ้นเพื่อให้ กลับมามีแรงเหมือนเดิม......

"เรียบร้อยแล้วครับ ดีนะครับที่คนไข้ดูแลตัวเองดี" ..... คุณหมอพูดพลางมองไปที่แขนขวาของคริสที่เพิ่งถอดเฝือกออก
ได้ไม่นาน....

"ผมไม่ได้ดูแลตัวเองดีหรอกครับ มีคนดูแลผมดีต่างหาก"

...... คริสยิ้มเอ่ยตอบกับคุณหมอ...โดยหวังว่าประโยคนี้ชานยอลจะได้ยินและรู้ตัวว่า คริสหมายถึงใคร....ชานยอลเผลอยิ้มออกมาบางๆหลังจากได้ยินประโยคนั้น.....

เสียงริงโทนโทรศัพท์ของคริสดังขึ้นและคริสก็ขอตัวคุณหมออกมานอกห้องพร้อมกับ ชานยอล....หน้าจอโทรศัพท์บ่งบอกว่าประธานวูแม่ของเขาเป็นคนโทรเข้ามา....ถ้า เสียงดังรัวขนาดนี้แสดงว่ามีเรื่องสำคัญ...

"ครับแม่.........แขนก็เป็นปกติแล้วครับ............ห๊ะ...วันนี้เลยเหรอครับ..........ก็ได้ครับผมจะกลับไปเตรียมตัว"

หลังจากวางสาย คริสหันไปบอกกับชานยอลว่าวันนี้เขาต้องไปออกงานแทนแม่ของเขา เป็นงานการกุศลที่บริษัทแม่เขาร่วมเป็นประธานบริจาคด้วย...ในงานจะมีทั้งดารา นักร้อง นักแสดง นางแบบรวมถึงนักธุรกิจและผู้ใหญ่ในวงการมากมายซึ่งคริสยังคงกำชับกับชานยอลว่าชานยอลต้องไปกับเขาด้วยเพราะชานยอลเป็นผู้จัดการส่วนตัว.....ชานยอลเกิดอาการกังวลใจขึ้นมาอีกแล้ว งานสังคมที่ชานยอลไม่ถนัดนักแต่เขาก็ต้องไปในเมื่อเขาเลือกเส้นทางนี้แล้ว.....


"เดี๋ยวฉันจะพานายไปซื้อชุด" คริสพูดพลางเดินตรงไปยังรถสปอร์ตคันหรูของเขาและเปิดประตูฝั่งคนขับ...วันนี้เขาจะเป็นคนขับเองเพราะไม่ได้ขับรถมาหลายวันแล้วเพื่อเป็นการยืดเส้นยืดสาย...

ชานยอลไม่พูดอะไรและนั่งลงข้างๆคริส....เมื่อรถออกตัวไปสักพักคริสก็เอ่ยถามกับชานยอล....

"ฉันไม่เคยเห็นรูปร่างนาย...นายดูตัวเล็กบอบบางกว่าฉันนะ จริงๆถ้าเราตัวเท่าๆกันก็น่าจะใส่สูทฉันได้" .....

คริสพูดโดยไม่ได้คิดอะไรแต่ชานยอลต่างหากที่คิดในคำพูดของเขาและหลุดต่อว่าคริสด้วยความเขินอาย

"แล้วทำไมนายต้องเคยเห็นรูปร่างฉันด้วยล่ะ!จะไม่กวนฉันซักวันจะได้ไหม"

"ฉันกวนนายตรงไหนชานยอล นี่นายคิดอะไรของนายไปเองหรือเปล่า"

คริสเอ่ยออกมาด้วยสีหน้างงๆ....

"แล้ววันนี้อยู่ข้างๆฉันตลอดล่ะ จะได้ไม่เผลอทำอะไรเปิ่นๆออกมาอีก"

คริสยิ้มออกมาขำๆเมื่อนึกถึงเรื่องน้ำเปล่าที่ชานยอลเคยสั่งในร้านอาหารสุดหรูและชานยอลมักจะเบิ่งดวงตากลมโตและมีท่าทางเลิ่กลั่กเสมอเมื่อเขาทำอะไรไม่ถูก

ใช้เวลาไม่นานนักคริสก็เลี้ยวพวงมาลัย นำรถสปอร์ตเข้ามาจอดบริเวณร้านตัดสูทประจำของเขา ช่างเสื้อผ้าตรงเข้ามาวัดตัวของชานยอล เมื่อรู้ขนาดและไซส์ของเขาแล้วก็นำชุดมาให้ชานยอลและคริสเลือกประมาณ 4-5 ชุด....คริสเดินตรงเข้ามาเลือกชุดให้ชานยอลและทาบกับตัวเขา....

ชานยอลยืนอยู่หน้ากระจกโดยมีคริสยกชุดสูทขึ้นมาทาบให้พร้อมกับหยิบตัวนั้น ตัวนี้มาดู.....เขาดูพิถีพิถันจัง...ชานยอลได้แต่คิดในใจและรู้สึกดีที่คริ สเอาใจใส่เขา...

"ฉันว่าตัวนี้เหมาะกับนายนะชานยอล" คริสพูดพร้อมกับหยิบสูทอีกตัวขึ้นมาทาบด้านหน้าชานยอล

"ฉันเลือกไม่ค่อยเป็นอ่ะ ไม่เคยใส่ด้วย นายช่วยเลือกให้หน่อยละกัน" ชานยอลหวังจะพึ่งคริสในยามคับขันแบบนี้
งานสังคมที่เขาไม่เคยไปและเสื้อผ้าในแบบที่เขาไม่เคยใส่....

"อือ เอาชุดนี้ล่ะครับ" คริสพูดพลางยื่นชุดให้พนักงานขายและยื่นบัตรเครดิทของตนเองให้....

"นายหักจากเงินเดือนฉันละกันนะ" ชานยอลพูดด้วยความเกรงใจเพราะรู้ดีว่าสูทตัวนั้นราคาแพงไม่เบาเลยทีเดียว

"ไม่ต้องหรอก ฉันอาจจะให้นายจ่ายเป็นอย่างอื่นแทน" ..... คริสยกยิ้มมุมปากของเขาพร้อมกับยักคิ้วข้างนึงหน้าตาของคริสเจ้าเล่ห์อีก แล้ว .....

เขาเดินตรงออกไปทางหน้าร้านโดยคว้าถุงที่ใส่ชุดสูทมาถือให้ชานยอล

"ฉันถือให้ละกัน ซุ่มซ่ามอย่างนายเดี๋ยวก็ทำชุดเลอะอีก" .....คริสเปิดประตูรถพร้อมกับวางถุงสูทไว้ทางด้านเบาะหลังโดยมีชานยอลเดินตามมาไม่ห่าง....




หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องนอนของคริส......มีชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลาคมคายกำลังบรรจงตกแต่งทรงผมของตัวเองรวมถึงคว้าเอาชุดสูทที่แขวนไว้ข้างๆมาสวมใส่....เขาลองหัดยิ้มกับตัวเองหน้ากระจกบานนั้น...เคล็ดลับความหล่อของคริสคือการฝึกยิ้มหน้ากระจก ...เพราะเขาเป็นซุปเปอร์สตาร์ทุกมุมที่กล้องจะสาดแฟลชมาที่ใบหน้าของเขาจะ ต้องดูดี...นิ้วมือเรียวยาวของคริสขยับเนคไทตรงต้นคอให้เข้าที่ ..... เมื่อเขาพร้อมแล้วก็เดินเปิดประตูออกมาจากห้องพร้อมกับชานยอลที่กำลังเดิน ออกมาจากในห้องนอนของเขาเช่นกัน...

คริสและชานยอลต่างชะงักกันเล็กน้อยเมื่อต่างฝ่ายต่างเห็นคนตรงหน้า....วันนี้ชานยอลดูดีและดูน่ารักกว่าทุกวันเด็กกะโปโลที่เขาเคยเห็นวันแรก...ตอนนี้อยู่ในชุดสูทสีดำที่ดูเคร่งขรึมและ ทำให้เขาดูเรียบหรูกว่าเคย....ดวงตากลมโตของชานยอลยังคงเพ่งมองมาที่คริ สพร้อมกับหลบสายตาเล็กน้อยเมื่อเขารู้ตัวว่ามองคริสมากไป ....วันนี้คริสดูหล่อมาก...มากกว่าทุกครั้งที่เขาเคยเจอ แม้พื้นฐานของคริสจะเป็นคนหน้าตาดีอยู่แล้วแต่เมื่อผู้ชายที่ดูดีอยู่ในชุด สูทสีดำที่เขาบรรจงตกแต่งมันให้เข้ากับทรงผมของเขาความเรียบหรูบวกกับความดู ดีมันก็ทำให้เขาดูสง่างามและเกินเอื้อมมากขึ้นกว่าเดิม....

"เนคไทนายเบี้ยว" คริสเดินตรงเข้าไปจัดเนคไทของชานยอลให้เข้าที่และวาดรอยยิ้มละมุนให้กับเขา

"วันนี้ไม่ต้องกลัวนะ ยืนข้างๆฉันแล้วจะดีเอง"

มือของคริสยังคงจับอยู่ที่เนคไทของชานยอลและมองไปที่ใบหน้าของเขา ชานยอลพยักหน้ารับช้าๆเขาต้องพยายามไม่ประหม่าในงานคืนนี้ เพื่อรักษาหน้าของคริสและหน้าของตัวเองด้วย

สถานที่กว้างขวางในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมขนาดใหญ่ มีแขกมาร่วมงานมากมาย ดารา ศิลปิน รวมถึงผู้ใหญ่ในแวดวงธุรกิจต่างเดินทักทายกันในงาน....เครื่องดื่มถูกบริกรยกถาดเข้ามาเสิร์ฟไม่ขาดสาย...สื่อมวลชนต่างยกกล้องตัวเขื่องขึ้นมาเก็บภาพบรรยากาศในงานรวมถึงไม่ลืมที่จะเก็บภาพของแขกที่เข้ามาร่วมงาน

คริสและชานยอลเดินก้าวเข้ามาในงานช้าๆ ร่างสูงโปร่งของคริสดูสง่างามและสะดุดตาต่อผู้คนที่พบเห็น หลายคนอดไม่ได้ที่จะเหลียวมองไปยังคริสที่กำลังเดินตรงเข้ามาในงาน....ชานยอ ลเดินมาข้างๆคริสด้วยความประหม่าแต่ก็พยายามตีสีหน้าให้นิ่งเฉยเพื่อเก็บอาการนั้นไว้

สื่อมวลชนหลายแขนงต่างวิ่งกรูเข้ามาถ่ายภาพคริสและชานยอลสื่อต่างๆขอ สัมภาษณ์คริส เพราะนี่เป็นงานแรกที่เขามาแสดงตัวหลังจากที่เขาได้รับอาการบาดเจ็บจากแขน ขวา....ชานยอลกระพริบตาถี่ๆเมื่อเจอแสงแฟลชสาดจากกล้องนับสิบตัวสายตาของเขา ไม่ดีเนื่องจากเคยทำเลสิคมานานหลายปีแล้วแต่เรื่องนี้คริสและอีกหลายๆคนก็คง ไม่รู้ สายตาของเขาแพ้แสงแรงๆแบบนี้....เขาเองก็ลืมไปว่าการเดินเข้ามาในงานกับซุป เปอร์สตาร์อย่างคริสคงหนีแสงแฟลชพวกนี้ไปไม่พ้น...อาการแสบตาและสายตาพร่า มัวของชานยอลเริ่มขึ้นเล็กน้อย เขาเริ่มเดินถอยห่างออกมาจากคริสทีละน้อยในขณะที่คริสก็ถูกสื่อจากหลายสำนัก รุมสัมภาษณ์อยู่จนไม่ทันได้มองมายังชานยอล.....

ชานยอลปลีกตัวเดินออกมาแต่เขายังคงอยู่ในบริเวณงาน น้ำตาของชานยอลไหลลงมาเพราะเป็นปฎิกิริยาที่เกิดจากแสงแฟลชในขณะที่ชานยอ ลเดินหลับตาและยกมือไปเช็ดน้ำตาที่ดวงตากลมโตของตนเองก็เผลอชนเข้ากับร่าง ของคนๆหนึ่งอย่างจังจนเครื่องดื่มที่เขาถือมาด้วยหกเลอะเสื้อของชานยอล....

"ขอโทษด้วยนะฮะ" ชานยอลโค้งศรีษะให้เขาพร้อมกับก้มหน้างุดๆเดินปาดน้ำตาของตนเองและรีบเดินตรงไปทางห้องน้ำ

ชายหนุ่มผิวเข้มเหลือบตามองตามชานยอลที่เดินไปทางด้านห้องน้ำ เขารู้สึกคุ้นหน้าชานยอลอย่างบอกไม่ถูก...เขาตัดสินใจเดินตามชานยอลไปทางห้องน้ำด้านหลัง ทำไมเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนนั้นต้องเดินร้องไห้และรีบเดินไปทางห้องน้ำ เขาพาร่างของเขาเดินตามชานยอลมาด้วยความขี้สงสัยส่วนตัวของเขา ไม่นานนักร่างของหนุ่มผิวเข้มก็เปิดประตูห้องน้ำเข้ามาช้าๆและเห็นชานยอ ลกำลังยืนอยู่หน้ากระจกพร้อมกับวักน้ำจากก๊อกขึ้นมาล้างหน้าและกำลัง ส่องกระจกดูที่ดวงตา


"เป็นอะไรมากมั้ยครับ" ..... ชายหนุ่มคนนั้นเอ่ยถามกับชานยอลตามมารยาท...

"เสื้อคุณเลอะเครื่องดื่มผมด้วย" เขาเดินตรงมาที่ชานยอลพร้อมหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าของตนจะตรงเข้ามาเช็ดเสื้อให้ชานยอล

"อ๊ะ ไม่ต้องครับ พอดีผมแสบตาก็เลยรีบเดินมาห้องน้ำ ขอโทษด้วยนะฮะคุณ...." ชานยอลปฎิเสธเขาตามมารยาท
และเว้นประโยคนั้นไว้ให้เป็นช่องว่างเพราะเขาไม่รู้ชื่อของหนุ่มผิวเข้มหน้าตาดีตรงหน้าเขา

"อ่อ ผมชื่อคิมจงอินครับ ยินดีที่ได้รู้จัก" จงอินยื่นมือของเขาออกไปเพื่อสัมผัสกับมือของชานยอล
ชานยอลจับมือเขากลับตามมารยาทที่พึงมีกับคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก

"ผมคุ้นหน้าคุณจัง.....คุณชื่อ ... ปาร์คชานยอลหรือเปล่าครับ ผจก.ส่วนตัวคนใหม่ของพี่คริส"

"ใช่ครับ...คุณรู้จักผมเหรอ" .... ชานยอลเอ่ยถามจงอินด้วยความสงสัย...

คิมจงอินเป็นศิลปินหน้าใหม่ในสังกัดโมเดลลิ่งของบริษัทประธานวู วันที่ชานยอลเจอกับคริสวันแรกที่ห้องประชุม คิมจงอินยืนมองชานยอลอยู่ในบริเวณนั้น...เขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่ชานยอ ลถูกต่อว่าและโดนคริสตะคอกจากในห้องประชุม...รวมถึงภาพที่ชานยอลโดนคริสลาก ข้อมือไปจากทางหน้าห้องประชุม...

จงอินนึกเป็นห่วงชานยอลขึ้นมา....ผจก.ส่วนตัวคนใหม่ที่ต้องเจอกับคนเจ้า อารมณ์อย่างคริส เขาลอบมองชานยอลอยู่ห่างๆจากในบริเวณนั้น...และวันนี้จงอินก็ได้มาร่วมงาน ด้วยเพราะเขาได้รับการ์ดเชิญ...อนาคตของจงอินค่อนข้างไปได้สวยในวงการเพราะ เขาเพิ่งเข้าวงการมาได้ไม่นานก็มีเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดีแล้ว....

"ผมจำคุณได้ คุณปาร์คชานยอล" .....จงอินยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเขาได้มีโอกาสคุยกับชานยอล

หลังจากคริสให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทั้งหลายเสร็จ เขาก็มองหาชานยอลด้วยความเป็นห่วงเพราะชานยอลหายไปได้สักพักนึงแล้ว...... เมื่อถามจากคนในบริเวณนั้นจึงได้รู้ว่าชานยอลเดินปลีกตัวไปทางห้องน้ำ

"คุณชานยอล น้ำตาคุณยังไม่หยุดไหลเลย แล้วตาคุณก็แดงมาก" .... จงอินเดินเข้าไปดูที่ดวงตากลมโตของชานยอลดวงตากลมโตใสซื่อของชานยอลตอนนี้มีน้ำตามาคลอที่ดวงตาและพร้อมทุกเมื่อที่จะไหลออกมาด้วยอาการแสบและแพ้แสง

จงอินดึงกระดาษทิชชู่และค่อยๆก้าวเดินเข้าไปดูที่ดวงตาของชานยอลและซับไปที่ดวงตาของชานยอลเบาๆ

"ผมช่วยดูให้นะครับ คุณอยู่นิ่งๆนะ" จงอินมองไปที่ดวงหน้าใสของชานยอลและที่ดวงตาของเขา

ชานยอลพยักหน้ารับช้าๆอย่างเด็กว่าง่ายเพราะเขาเองก็แสบตามากและอาการพร่ามัวที่ดวงตาของเขาก็มองผ่านกระจกไม่เห็นด้วยว่าตาของเขาแดงมากน้อยแค่ไหน...


ไม่นานนักหลังจากคริสเร่งฝีเท้ามาบริเวณห้องน้ำ ....ประตูในห้องน้ำก็ถูกเปิดออกพร้อมกับมีร่างสูงโปร่งของคริสยืนมองมาที่ ชานยอลและจงอิน....ภาพตรงหน้าเขาคือจงอินใช้มือสัมผัสไปที่ดวงตาของชานยอ ลและชานยอลก็ยืนนิ่งอย่างว่าง่ายความโมโหและความหงุดหงิดของคริสก่อตัวขึ้น มาเล็กน้อย.....

"ปาร์คชานยอล ฉันบอกให้นายอยู่ข้างๆฉันแล้วนายหายมาที่นี่ทำไม!" คริสเดินตรงเข้าไปกระชากแขนชานยอลให้ออกห่างจากร่างของจงอิน...

"ฉะ ฉัน..." ชานยอลยังคงยืนหลับตาและมีน้ำตาซึมออกมาเรื่อยๆ

"คุณชานยอลเขาแสบตา ตาเจ็บน่ะครับ เขาแพ้แสงแฟลช" .... คิมจงอินพูดแก้ตัวให้กับชานยอล

"ถึงนายจะแสบตายังไงก็ควรจะบอกฉันก่อนจะเดินมา ไม่ใช่หายมาอย่างนี้!" .....

คริสยังคงต่อว่าชานยอลด้วยอาการโมโห ความรู้สึกโมโหที่ไม่ได้โกรธเมื่อชานยอลหายไป แต่โมโหจากการเห็นภาพตรงหน้ามากกว่า

"ฉันเดินหลบมาเพราะแสบตา จะบอกนายตอนไหนล่ะ!" ชานยอลเอ่ยตอบคริสไปพร้อมกับยกมือขึ้นปาดน้ำตาของเขา

คริสหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวในกระเป๋าเสื้อของตนเองยื่นให้ชานยอลพร้อมกับออกคำสั่งกับชานยอล

"วันหลังก็พกผ้าเช็ดหน้าตัวเองมาด้วย ได้ไม่ต้องเอาของคนอื่นมาใช้ ตอนนี้เอาของฉันไปใช้ก่อน"

คริสพูดพร้อมกับเหลือบไปมองที่หน้าของจงอินที่ตอนนี้ยังคงมองชานยอลอย่างไม่ละสายตาด้วยความเป็นห่วง

"คิมจงอิน เมื่อกี้ฉันเห็นมีคนถามหานายอยู่น่ะ รีบออกไปสิ"

จงอินไม่พูดอะไรแต่เดินออกไปจากห้องน้ำด้วยความหงุดหงิดใจเนื่องจากไม่ว่าจะยังไงเขาก็ดูเป็นรองคริสเสมอไหนจะตำแหน่งลูกชายท่านประธานที่เขาสังกัดอยู่และอีกอย่างชื่อเสียงของคริ สในความใจร้อน เอาแต่ใจและขี้โมโหก็ไม่มีใครอยากจะกล้าต่อกรกับเขานัก....

"ปาร์คชานยอลนายมานี่เลย!" คริสพูดพร้อมกับดึงชานยอลเข้ามาในห้องน้ำ

ชานยอลเซถลาเข้าไปตามแรงดึง ห้องน้ำที่ดูไม่คับแคบก็ดูคับแคบลงถนัดตาเมื่อมีสองร่างยืนเบียดกันอยู่ใน นั้น ความรู้สึกในใจของคริสทั้งโมโหสับสนที่ชานยอลอยู่กับจงอินสองต่อสองในห้อง น้ำและถูกเนื้อต้องตัวซึ่งกันและกัน

แผ่นหลังของชานยอลแนบไปกับผนังในห้องน้ำ ชานยอลคงเพ่งมองไปที่ใบหน้าของคริสด้วยสายตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตา....คริสยกมือของเขาขึ้นมาสัมผัสไปที่ดวงตาของชานยอลเพื่อเช็ดน้ำตาออก เบาๆเขาเอื้อมมือหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่เพิ่งยื่นให้กับชานยอลมาถือไว้และ สัมผัสไปที่ดวงตาของชานยอล

"อย่าให้ใครมาโดนตัวนาย .....ดวงตาของนายถ้ามันจะมีน้ำตาไหลออกมาอีก ....คนที่จะเช็ดน้ำตาให้นายมีฉันแค่คนเดียว"

คริสพูดพลางเช็ดไปที่ดวงตากลมโตของชานยอลอย่างเบามือ เขาพยายามสงบสติอารณ์ความโมโหของตัวเขา....และใช้ฝ่ามือหนาของเขาลูบสัมผัส ไปที่แก้มของชานยอลอย่างแผ่วเบา....แววตาของคริสจากความโมโหเมื่อครู่กลับ แปรเปลี่ยนไปด้วยความอ่อนโยนอย่างรวดเร็ว...

"ฉันไม่ชอบให้คนอื่นมาอยู่ใกล้นาย.....และนี่ก็คือคำสั่งของฉัน"


สิ้นคำสั่งของคริส ..... เขาก็ค่อยๆโน้มใบหน้าของเขาลงมาหาชานยอลและใช้ริมฝีปากประทับจูบไปที่ดวงตา คู่สวยของชานยอล ชานยอลหลับตาลงเพื่อรับกับสัมผัสนั้น.....คริสละริมฝีปากจากดวงตากลมโตของ ชานยอลและเลื่อนริมฝีปากของเขาลงมาเพื่อจะจูบที่ริมฝีปากบางของชานยอล....

......เสียงประตูห้องน้ำด้านนอกเปิดออกพร้อมกับมีเสียงฝีเท้าของใครบางคนก้าวเดินเข้ามา.....และเดินเข้าห้องน้ำห้องถัดไป......

คริสหาได้สนใจเสียงบุคคลที่สามที่เดินเข้ามาในห้องน้ำ เขายังคงกดริมฝีปากลงไปทาบทับที่ปากบางของชานยอลสีของมันเป็นสีชมพูระเรื่อยั่วยวนคริสอยู่ตรงหน้า.... มันเกินกว่าที่ใจของเขาจะอดทนได้....

เสียงหัวใจของชานยอลเต้นแรงขึ้นจนไม่เป็นจังหวะ คริสไม่มีอาการเกรงกลัวว่าคนในห้องน้ำจะล่วงรู้สักนิดว่ามีคนสองคนอยู่ในห้องน้ำเดียวกันห้องถัดมาจากเขา......

หลังจากคริสละออกมาจากริมฝีปากบางของชานยอล เขาก็ยกนิ้วขึ้นมาทาบทับที่ริมฝีปากของตนเองเป็นท่าทีให้ชานยอลเงียบๆเพราะ หากเขาทั้งสองคนเสียงดัง คนในห้องน้ำอาจจะได้ยินเสียงของเขาทั้งสองเล็ดลอดออกมา....คริสยิ้มมุม ปากออกมาด้วยท่าทีและแววตานึกสนุกแต่ขณะนี้ชานยอลไม่สนุกไปกับเขาด้วย เลย....สีหน้าและท่าทางของชานยอลทั้งกังวลและตื่นเต้นมาก...


การมีความลับกับซุปเปอร์สตาร์มันตื่นเต้นแบบนี้เหรอเนี่ย....ผมจะทนมันได้ อีกนานแค่ไหน....ตอนนี้หัวใจของผมมันจะเต้นทะลุออกมานอกอกแล้ว......เมื่อไร เวลาในช่วงนี้จะผ่านพ้นไปซักที.....คริสจะเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมใจเต้นแรง ได้ทุกวันใช่ไหม ...ซุปเปอร์สตาร์ตัวแสบ.............

END EP5 ---------------------------

หากอยากสครีมแทคนี้ในทวิตได้เลยนะคะ #secretofsuperstar ขอบคุณมากค่ะทุกคนนน จุ๊บๆ ><

http://0ctogus.forumth.com

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ