เสียงอาบน้ำในห้องน้ำดังเล็ดลอดออกมาในห้องนอนขณะที่คริสกำลังนอนเล่นอยู่บนเตียงนุ่มของชานยอลขนาดเตียงของชานยอลแม้จะไม่ใหญ่โตกว้างขวางเหมือนที่นอนของคริส แต่มันก็น่านอนและดูอบอุ่นไม่น้อย
คริสนอนมองกวาดตาไปรอบๆห้อง....ชานยอลคงจะอยู่ที่นี่มานานแล้วเหมือนกัน..เขาเองไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของชานยอลเท่าไรนัก....ในห้องนอนของชานยอลมีกลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวของชานยอลอยู่ในนั้น มันเป็นกลิ่นน้ำหอมจางๆที่เขาชอบใช้...บนโต๊ะเครื่องแป้งของชานยอลบนนั้นไม่มีสินค้าราคาแพงอย่างที่คริสเคยใช้...เป็นถึงผจก.ส่วนตัวฉันทำไมใช้แต่ของบ้านๆแบบนี้...เขานอนคิดไปพลางๆในใจ...ในขณะที่คริสกำลังมองอะไรเพลินๆในห้อง หูก็พลันได้ยินเสียงชานยอลหมุนลูกบิดประตูออกมาจากห้องน้ำ เขาจึงแกล้งหลับตาลงเหมือนคนที่กำลังพักผ่อนและนอนหลับสนิท...
ชานยอลลอบมองไปที่ใบหน้าของคริสด้วยความระแวง และเขาก็รู้สึกโล่งใจที่คริสนอนหลับไปแล้ว...แม้คืนนี้เขาต้องนอนในห้องนอนเดียวกับคริสแต่เขาก็ไม่ขึ้นไปนอนบนเตียงนั้นกับคริสด้วยแน่ๆ....หลังจากชานยอลเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาก็ค่อยๆเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบฟูกบางๆมาปูที่พื้นด้านล่าง เขายอมนอนหนาวโดยไม่มีผ้าห่มซักผืนคงจะดีกว่าต้องขึ้นไปนอนบนเตียงกับคริส
...ไออุ่นจากพื้นห้องนอนที่บ้านของเขาที่ติดเครื่องทำความร้อนไว้ น่าจะช่วยให้ร่างกายของเขาอบอุ่นขึ้นมาได้บ้างในคืนที่มีหิมะตกเบาบางอย่างนี้....
ชานยอลเดินไปปิดไฟที่ผนังห้องพร้อมกับเปิดไฟโคมเล็กๆตรงหัวเตียงทิ้งไว้...เขาล้มตัวลงนอนที่พื้นด้วยความรู้สึกอ่อนเพลีย...อุตส่าห์ได้กลับมานอนบ้านทั้งทีแต่ต้องมานอนที่พื้นเพราะซุปเปอร์สตาร์ตัวแสบที่นอนอยู่บนเตียงเขา...
ชานยอลนอนตะแคงหันหน้ามาทางคริสที่กำลังหลับตาอยู่.....เขาเผลอมองใบหน้าของคริสโดยไม่รู้ตัว...ดวงตาคมของคริสปิดสนิทโดยมีขนตายาวเป็นแพรทาบทับลงมา...คิ้วได้รูปของคริสมันดูสวยดีเวลาที่เจ้าของของมันกำลังหลับพักผ่อนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้...จมูกโด่งเรียวเป็นสันรับกับปากที่ได้รูปของคริสมันทำให้เขาดูหล่อสมบูรณ์ตามแบบฉบับคาริสม่า...ไม่แปลกที่ใบหน้าอย่างคริสจะมีแต่คนใฝ่ฝันถึง...ทั้งคนในและนอกวงการก็หวังที่จะได้เป็นคู่ควงของเขาจนบางทีชานยอลมักจะปวดหัวบ่อยๆกับสายโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาเพื่อขอคุยกับคริสในเรื่องธุระส่วนตัว....
สมองของชานยอลคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนมาถึงเหตุการณ์ที่คริสจูบเขาในห้องน้ำเมื่อเช้า.......บ้าจริง...ผมจะคิดเรื่องนี้ทำไมเนี่ย...ชานยอลพยายามข่มตาให้นอนหลับลงเพื่อลืมภาพนั้น..แต่พอเขาหลับตาลงก็ยังคงปรากฎภาพที่คริสกำลังจูบกับเขาในห้องน้ำในโรงแรมอย่างดูดดื่ม...
ชานยอลพลิกตัวช้าๆโดยหันหลังให้คริส คงจะดีถ้าเขาไม่ต้องนอนมองหน้าคริสแบบนี้...วันนี้เขาอาจจะเหนื่อยมากไป
จนทั้งสมองและความคิดของเขามันปั่นป่วน...
"นอนไม่หลับเหรอ...แล้วทำไมไม่ขึ้นมานอนบนเตียงกับฉัน"
คริสลืมตาตื่นขึ้นมาและเอ่ยพูดกับชานยอลที่นอนอยู่ตรงพื้นด้านหน้าของเตียงซึ่งไม่ห่างจากเขามากนัก
"เปล่า....นอนที่พื้นมันไม่ถนัด...นายหลับไปแล้วไม่ใช่เหรอ"
ชานยอลยังคงนอนหันหลังให้คริสและขยับท่านอนให้ร่างกายของเขาดูสบายขึ้น..
"ถ้าฉันมานอนบ้านนายแล้วทำให้นายลำบากละก็........ขอโทษด้วย"
คำขอโทษของคริสแผ่วเบาและเขาก็พูดคำนั้นไม่เต็มเสียงนัก คำขอโทษที่น้อยคนนักจะได้ยินจากปากของคริสคนที่แสนจะทนงตัวคนนี้......
"ขอโทษฉันเหรอ?....ตายละ นี่ฉันหูฟาดไปหรือเปล่า...นายเป็นคนดีกับเขาก็เป็นเหรอคริส"
ชานยอลพลิกตัวหันมามองหน้าคริสด้วยความประหลาดใจ...คริสพูดขอโทษกับเขาเป็นด้วยหรือนี่คริสสำนึกผิดจริงๆหรือเขาแกล้งทำกันแน่...
"อือ...ฉันขอโทษ ให้ฉันนอนที่พื้นเองดีกว่าชานยอล อย่าทำให้ฉันรู้สึกผิดที่รบกวนนายเลย"...
คริสลุกขึ้นจากเตียงของชานยอลและตั้งท่าจะลงมานอนที่พื้น...ชานยอลเอ่ยห้ามเขาไว้ด้วยความตกใจ..เขารู้ดีว่าคริสเคยใช้แต่ชีวิตที่สุขสบาย พื้นห้องนอนของเขาก็แข็งๆและที่ฟูกนี่มันก็แทบไม่ได้ให้ความอบอุ่นอะไรแก่ร่างกายของเขาเลย.....
"นายไม่ต้องหรอกคริส นอนบนเตียงเถอะ ฉันนอนที่พื้นได้" ... ชานยอลลุกขึ้นมานั่งเช่นกันหลังจากที่คริสลงมาที่พื้นและนั่งตรงด้านล่างข้างๆกับเขา..
"งั้นนายก็ต้องขึ้นไปนอนบนเตียงกับฉัน" คริสพูดพลางรวบข้อมือบางของชานยอลดึงเขาขึ้นมาบนเตียงเพื่อมานอนด้วยกัน...
"อย่าให้ฉันดูเป็นคนเลวร้ายในสายตาใครนักเลย...มาอาศัยนอนบ้านเขาแล้วเจ้าของห้องต้องลงไปนอนที่พื้นแบบนี้"
คริสแสร้งพูดด้วยแววตาสำนึกผิดเป็นนัยๆแววตาเศร้าๆของคริสที่ดูน่าเห็นใจ.....ตอนนี้เขาไม่ต้องการให้ชานยอลลงไปนอนที่พื้นหากเขาใช้คำพูดแรงๆกับชานยอลอีกก็จะกลายเป็นทะเลาะกันและชานยอลคงไม่ยอมขึ้นมานอนบนเตียงดีๆแน่แต่ถ้าน้ำเสียงแข็งกร้าวของเขาแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้ ชานยอลอาจจะยอมใจอ่อน...
ชานยอลขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงพร้อมๆกับที่มีร่างของคริสนั่งอยู่ข้างๆเขาตัดสินใจแล้วว่าจะนอนบนเตียง..กับคริสในคืนนี้ หวังว่าคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น...จริงๆแล้วผมอาจจะนึกกลัวและคิดมากไปเองก็ได้...ชานยอลเหลือบมองหน้าคริสที่ตอนนี้นอนเอนกายลงไปบนเตียงด้วยท่าทีปกติแล้ว..คืนนี้คริสคงเหนื่อยมากในการต้อนรับแขกเหรื่อในงานเป็นพันๆคน...เขาคงไม่มีกระจิตกระใจจะกลั่นแกล้งอะไรผมอีก...
ชานยอลนอนเอนกายลงข้างๆคริสและทั้งสองร่างก็อยู่ในผ้าห่มผืนใหญ่ผืนเดียวกัน...คืนนี้อากาศข้างนอกค่อนข้างหนาวเย็นเนื่องจากหิมะที่กำลังโปรยปราย...เกล็ดหิมะเล็กๆเกาะตรงขอบหน้าต่างและมีไอบางๆที่บานกระจกนั้น...
ชานยอลนอนมองมันสักพักในขณะที่คริสหลับตาลงแล้ว...และชานยอลเองก็ค่อยๆหลับตาลงเช่นกัน..
หมอนข้างใบยาวคั่นอยู่ตรงกลางระหว่างคริสและชานยอล........ในขณะที่ชานยอลใกล้จะหลับและสติกำลังจะดำดิ่งเข้าสู่ภวังค์ เขาก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสบางอย่างที่กำลังเลื่อนขยับหมอนข้างใบนั้นออกไปจากข้างกายเขา....คริสค่อยๆพลิกตัวช้าๆและสวมกอดชานยอลไว้ในอ้อมแขนแกร่ง...ชานยอลลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ...และมองไปที่ใบหน้าของคริสที่กำลังหลับตาพริ้ม..
นี่เขากอดผมโดยไม่รู้ตัวหรืออะไรกันแน่......เสียงหัวใจของชานยอลเริ่มเต้นถี่แรงขึ้นเรื่อยๆเขาพรูลมหายใจออกมาและพยายามข่มตาให้หลับต่อ ....คริสอาจจะหลับไปแล้วและเผลอกอดผมก็เป็นได้นั่นคือความคิดที่ชานยอลกำลังปลอบใจตัวเองให้หายจากความกังวล....
ในระหว่างที่ชานยอลกำลังตื่นเต้นและข่มตาให้หลับลง คริสก็ค่อยๆแกล้งหรี่ตาขึ้นมาข้างนึงเพื่อมองดูอาการของชานยอลตอนนี้....เขาอมยิ้มออกมาบางๆ การนอนกอดชานยอลข้างๆนี่มันอบอุ่นชะมัด...คริสยังคงได้ใจกับการกระทำ
ของตนเองเมื่อชานยอลยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติงแบบนั้น...เขาใช้ปลายจมูกโด่งๆของเขาซุกไซร้หอมไปที่แก้มนวลใสของชานยอลเบาๆจนชานยอลต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง...
"คริส!นี่นายจะทำอะไร!" ... ชานยอลผลักแขนเขาออกด้วยความตกใจและเริ่มมีอาการหวาดระแวง ดวงตากลม
โตของชานยอลเบิกกว้างขึ้นเมื่อเขาโดนคริสหอมแก้มในเวลานี้และในห้องนอนนี้ก็มีเพียงเขาแค่สองคน..
"ไม่ได้จะทำอะไร....อากาศมันหนาว นอนกอดนายแล้วมันอุ่นดี" คริสลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มละมุนที่เขามอบให้ชานยอลทั้งทางสายตาและจากมุมปากของเขา
"นายกลัวฉันเหรอชานยอล...เรื่องนั้นมันไม่ได้น่ากลัวซะหน่อย" ....คริสยังคงพูดแกล้งชานยอลที่นอนอยู่ข้างๆเขาต่อ...
"นะ นะ นาย..ไม่ต้องมาพูดเลย..ฉันไม่ได้กลัวอะไรทั้งนั้นละ จะนอนก็นอนไปได้แล้ว" ดวงตากลมโตของชานยอล
เลิ่กลั่กและพยายามอย่างมากที่จะเก็บอาการกลัวและตื่นเต้นของเขาจากทางสายตาในตอนนี้
"บ้านนี้มันเป็นบ้านของฉัน...มีอะไรฉันก็แค่วิ่งไปเรียกแม่ แค่นั้น.."
ชานยอลยังคงพูดพร่ำด้วยความกังวลใจคำพูดที่ดูเหมือนเด็กๆที่กำลังหาทางออกให้กับตัวเองและก็เหลียวมองคนที่พอจะเป็นที่พึ่งเขาได้นั่นก็คือแม่ของเขา..
คริสได้ยินชานยอลพูดจบ..ก็ลุกขึ้นมานั่งหัวเราะชานยอลตัวงอ...เสียงหัวเราะของคริสตอนนี้มันเหมือนกับเขากำลังดู
รายการทางโทรทัศน์ที่มันตลกมาก...ชานยอลคิดเรื่องจะวิ่งไปฟ้องแม่ได้อย่างไร เขาโตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆ...อายุขนาดนี้ในเรื่องแบบนี้ยังมีคนที่คิดจะวิ่งไปฟ้องแม่อีกเหรอ...
"ชานยอล ฮ่าๆๆ นี่นายคิดจะวิ่งไปฟ้องแม่จริงๆเหรอถ้าฉันทำอะไรนาย นายนี่มันน่ารักจริงๆ"
คริสนั่งมองไปที่ใบหน้าของชานยอลที่มันสะท้อนแสงไฟโคมสีส้มอ่อนๆตรงหัวเตียง...ใบหน้าของชานยอลที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์ ดวงตากลมโตของเขายังมองมาที่คริสด้วยความไม่เข้าใจว่าการที่เขาจะวิ่งไปฟ้องแม่มันขำมากตรงไหน...
"นายจะบอกแม่เรื่องของเราจริงๆเหรอชานยอล..."
คริสพูดพลางจับจ้องไปที่ใบหน้าของชานยอลที่นอนนิ่งอยู่อย่างนั้นด้วยสายตาเจ้าเล่ห์....
"ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าคืนนี้นายจะร้องหาแม่นาย...หรือจะร้องเรียกแต่ชื่อของฉันกันแน่"
คริสอมยิ้มออกมาหลังจากที่พูดจบ ดวงตาคมของเขาจ้องมองไปที่ใบหน้าของชานยอลซึ่งชานยอลก็ยังคงไม่เข้าใจ
ในสิ่งที่เขาพูด
...หลังสิ้นจากประโยคนั้น...คริสโน้มใบหน้าของเขาลงไปใกล้ๆชานยอลและก้มลงจูบสัมผัสที่ริมฝีปากบางของชานยอลช้าๆ...เขาใช้ปากของเขาขบเม้มเบาๆไปที่ริมฝีปากเอิบอิ่มยั่วยวนของชานยอลตรงหน้า ชานยอลตกใจและยกมือขึ้นมาทุบไปที่แขนของคริส 2-3 ครั้งเพื่อให้เขาหยุด...คริสค่อยๆใช้มือแกร่งของเขาจับข้อมือของชานยอลไว้หลวมๆ
เขาไม่เคยคิดจะฝืนใจใครรวมถึงฝืนใจชานยอลด้วย...คริสฉลาดพอที่จะดูท่าทีออกว่าคนที่นอนอยู่ตรงหน้าเขาตรงนี้
เต็มใจหรือถูกฝืนใจกันแน่...เรียวลิ้นที่อ่อนนุ่มของคริสยังคงพยายามสอดเข้าไปในโพรงปากที่หอมหวานของชานยอล
ซึ่งตอนนี้ชานยอลดูไร้เรี่ยวแรงที่จะทุบตีและดิ้นรนต่อเขาแล้ว...คริสดูดดุนลิ้นของชานยอลเข้ามาไว้ในปากของเขาบ้างแม้ชานยอลจะจูบไม่เก่งเหมือนคริสแต่เรียวลิ้นเล็กของชานยอลก็ไม่ได้ต่อต้านการบุกรุกล่วงล้ำเข้ามาเช่นกัน
ไม่นานหลังจากการจูบประกบริมฝีปากบางของชานยอลนั้น คริสก็ผละจากเรียวปากบางของชานยอลมาซุกไซร้บริเวณต้นคอขาวเนียนที่หอมละมุน กลิ่นครีมอาบน้ำอ่อนๆจากตัวของชานยอลยิ่งกระตุ้นความรู้สึกและความต้องการของคริสให้มันพลุ่งพล่านมากกว่าเดิม...เขาใช้ลิ้นของเขาลากไล้เลียไปตามต้นคอสลับกับการใช้ปากและฟันขบเม้มเบาๆจนเกิดรอยแดงขึ้นเล็กน้อย การกระทำทุกอย่างเกิดจากอารมณ์ความรู้สึกภายในของคริส..
ชานยอลยังคงหลับตาตลอดเวลาที่คริสมอบสัมผัสนั้นให้...หัวใจของเขาเต้นแรงจนทำให้คริสรู้สึกได้เวลาที่ร่างกาย
ของเขาใกล้กัน...คริสเปลี่ยนตำแหน่งจากลำคอนวลเนียนของชานยอลไปที่ติ่งหูของคนใต้ร่างอย่างชำนาญ
ในเรื่องการแสดงของคริสเขาถือว่าเป็นคนเก่งมากระดับนึงในวงการมายา...และแม้กระทั่งเรื่องบนเตียงของเขาที่ใครๆก็ใฝ่ฝันหาและพร้อมที่จะยอมพลีกายให้
คริสเก่งทั้งในการแสดงทางหน้าจอและการแสดงลีลารัก ...บทเพลงรักที่คริสตั้งใจจะบรรเลงย่อมจะไม่เป็นสองรองใครและสุดแสนจะประทับใจยิ่งกว่าการแสดงในหน้าจอทีวีของเขาหลายเท่านัก....
หลังจากคริสใช้ลิ้นเรียวยาวและริมฝีปากของเขาขบเม้มไปที่ติ่งหูของชานยอล...เขาก็กระซิบที่ข้างหูของ
ชานยอลเบาๆ
"ไม่ต้องกลัวนะชานยอล...คืนนี้ฉันจะทะนุถนอมนายที่สุด...ฉันจะทำให้นายลืมความกลัวทั้งหมดเอง"
ชานยอลไม่ตอบอะไร...เขาคงไม่มีหวังที่จะดิ้นรนหนีจากสัมผัสนี้ได้แล้ว....เมื่อชานยอลเองก็เริ่มเผลอไผลหลงระเริงไปกับสัมผัสที่อ่อนละมุนของคริส สัมผัสที่เขาไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนและมันก็เป็นครั้งแรกของเขาอย่างที่
คริสเคยเอ่ยถามเขาไว้...
คริสใช้มือหนาแกร่งของเขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ของชานยอลออกจากตัวช้าๆ ผิวกายของชานยอลขาวเนียนและสะท้อนแสงไฟสีส้มอ่อนในห้องนอน...แม้ในห้องจะไม่สว่างนักแต่ความขาวเนียนของชานยอลก็โผล่พ้นความมืดออกมาท้าทายสายตาและอารมณ์ของคริสในตอนนี้...
คริสบรรจงใช้ลิ้นและริมฝีปากของเขาลากไล้จากต้นคอขาวนวลเนียนลงมาจนถึงเนินอก...เสียงหัวใจเต้นแรงถี่ๆของชานยอลที่หน้าอกข้างซ้าย...คริสรับรู้และสัมผัสมันได้...เขาใช้มือของเขาลูบคลึงเนินอกชานยอลไปเบาๆเพื่อคลายความกังวลให้ชานยอล ปลายลิ้นเปียกชุ่มชื้นของคริสตวัดไปที่ยอดอกของชานยอลช้าๆ ชานยอลกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้รับสัมผัสนั้น...ร่างของชานยอลยังคงมีอาการสั่นเทาจากความกลัวปะปนเข้ามาด้วย...เขาไม่รู้จริงๆว่าจะต้องตอบรับสัมผัสนี้ของคริสอย่างไร
คริสใช้มือหนาแกร่งของเขาลูบคลึงจากหน้าอกลงมาจนถึงเอวคอดได้รูปของชานยอลและไล้มือมาตามส่วนเว้าของสะโพก เขาบีบคลึงมันอย่างเบามือและทะนุถนอมอย่างที่รับปากไว้กับชานยอลไว้ตอนแรก...
นิ้วมือเรียวยาวลูบไล้ไปตามร่างกายของชานยอล ผิวละเอียดและนุ่มมือนั้นมันทำให้เขาไม่สามารถละจากสัมผัสนั้นได้
ชานยอลอยู่ในท่านอนหงาย....คริสค่อยๆจับเอวของชานยอลเป็นทีให้เขาพลิกตัวตะแคงมาด้านข้าง เมื่อชานยอลอยู่ในท่าทางที่คริสถนัดมากขึ้นแล้ว เขาก็กอดชานยอลจากทางด้านหลังและเริ่มซุกไซร้ที่ต้นคอขาวเนียนอีกครั้ง
คริสใช้ลิ้นเรียวยาวที่เปียกชื้นของเขาไล้ลากลงมาตามแผ่นหลังบางของชานยอล......มือของเขาก็ยังคงซุกซนบริเวณเนินอกและใช้ปลายนิ้วสะกิดที่ติ่งเนื้อสีชมพูนั้น...ตอนนี้ใบหน้าของคริสอยู่ช่วงเอวของชานยอลแล้ว
เขาผละมือจากเนินอกเปลี่ยนมาลูบคลึงและบีบเคล้นบริเวณสะโพกขาวนวลของชานยอลแทน..คริสใช้ลิ้นวาดไล้ไปตามช่องทางรักด้านหลังของชานยอลเพื่อใช้ทั้งความนุ่มนวลอ่อนโยน รวมถึงน้ำลายอุ่นๆของเขาเป็นเครื่องเบิกทางทำให้ช่องทางรักด้านหลังสามารถตอบรับความต้องการของทั้งสองคนได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ปลายนิ้วเรียวยาวของคริสค่อยๆแทรกเข้าไปที่ช่องทางนั้นเพื่อให้ชานยอลคุ้นชินก่อนที่จะเจอขนาดของบางอย่าง
ที่ใหญ่โตกว่านี้.......จากปลายนิ้วเรียวยาว 1 นิ้วเป็น 2 นิ้ว ค่อยๆขยับเคลื่อนไหวช้าๆทางช่องทางด้านหลังของชานยอล..อย่างนุ่มนวลและอ่อนโยนที่สุด...
"อะ อาา คริส.....ฉะ ..ฉันกลัว" ชานยอลครางออกมาเบาๆด้วยความเสียวซ่านและความกลัวที่เจือปนในใจของเขา
"ไม่ต้องกลัวนะ ปล่อยร่างกายสบายๆตามอารมณ์ของเรา" คริสพูดออกมาเบาๆจนแทบจะกลายเป็นเสียงกระซิบ..
เมื่อคริสใช้นิ้วเรียวยาวของเขาเปิดช่องทางรักไปสักพักแล้ว เขารู้ดีว่าชานยอลจะพร้อมเมื่อไร...เมื่อเกิดน้ำหล่อลื่นบางอย่างออกมาช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้น คริสก็ค่อยๆชักนิ้วเรียวยาวของเขาออกและเปลี่ยนเป็นแทรกร่างกายส่วนกลางของเขาเข้าไปแทนช้าๆ...
คิ้วเรียวบางของชานยอลขมวดเข้าหากันเล็กน้อยด้วยความเจ็บและช่องทางก็คับแคบจนมีอาการจุกบริเวณหน้าท้อง...
คริสไม่ปล่อยให้ชานยอลต้องเจ็บปวดนานนัก...เขาใช้ปลายจมูกโด่งของเขาซุกไซร้ไปที่ต้นคอพร้อมกับลากลิ้นไปที่ปลายหูและขบเม้มมันไปด้วยเพื่อคลายความกังวลให้กับชานยอล...มือใหญ่หนาแกร่งลูบคลึงสะโพกขาวสลับกับการบีบเคล้นบริเวณเนินอกอย่างเบามือ...
คริสขยับเขยื้อนร่างกายของเขาช้าๆที่บริเวณด้านหลังของชานยอล ....จนเมื่อเขารู้สึกว่าช่องทางด้านหลังเริ่มตอบรับเขาดีขึ้น เขาก็เพิ่มจังหวะเร่งเร้าขึ้นมาจนอาการเจ็บของชานยอลค่อยๆหายไปแปรเปลี่ยนเป็นความสุขและความเสียวซ่านอย่างประหลาด.........ชานยอลเผลอยกสะโพกตอบรับการกระทั้นกระแทกเข้ามาด้านหลังนั้น...เขาบอกไม่ถูกว่ามันมีความสุขอย่างไรในตอนนี้ รู้แต่ว่าตอนนี้เขาไม่เกิดความกังวลใจอย่างตอนแรกแล้ว
...ถึงแม้จังหวะจะเร่งเร้าขึ้นมากแค่ไหนแต่คริสก็ยังทำมันด้วยความอ่อนโยนเพราะเขาไม่ต้องการให้ชานยอลเกิดความกลัวและอาการเจ็บกับการกระทำของเขาในครั้งนี้
คริสค่อยๆโน้มหน้าก้มลงกระซิบข้างหูของชานยอลอย่างแผ่วเบา
"ไม่เจ็บแล้วนะครับคนดี" ....เสียงนั้นฟังดูเป็นเสียงที่อบอุ่นที่สุดเท่าที่ชานยอลเคยได้ยินมา..
ชานยอลพยักหน้าตอบรับช้าๆเพื่อให้คริสรับรู้ถึงแรงสัมผัสของเขาทั้งสอง.......
คริสดึงสะโพกกลมมนของชานยอลเข้าหาตัวและกระแทกส่วนกลางของตนเองเข้าไปช้าๆ...บางจังหวะก็เปลี่ยนเป็นเร่งเร้าตามอารมณ์ความต้องการของตนเองมากขึ้น...มือใหญ่หนาของคริสตอนนี้ยังคงลูบไล้ไปตามร่างกายของชานยอลเพื่อปลุกอารมณ์ความต้องการของชานยอลให้พลุ่งพล่านเช่นกัน ชานยอลยังคงยกสะโพกตอบรับคริสอย่างลืมตัว....ยิ่งชานยอลมีอารมณ์ร่วมและตอบรับเขาเท่าไร ความสุขในการบรรเลงเพลงรักของเขาทั้งสองก็ใกล้ถึงฝั่งฝันมากขึ้นเท่านั้น....
"ครางชื่อฉันสิชานยอล...ปลดปล่อยมันออกมา"
....คริสยังคำรวมเสียงเบาๆในลำคอด้วยความเสียวซ่านยากจะบรรยาย....การแสดงอารมณ์ออกมาในเวลาที่เราไม่มีความสุขมันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรือน่าอายอะไรในความคิดของคริส
"อืออ...คริสส..ฉัน..ชอบ"
ชานยอลครวญครางออกมาตามอารมณ์ความต้องการของเขาในตอนนี้ชานยอลลืมทั้งความเจ็บและความกลัวทุกอย่างที่เขาเคยเป็น...ตอนนี้อารมณ์มันอยู่เหนือเหตุผลทั้งหมดที่พึงมี ชานยอลเคยหักห้ามใจไปกับสัมผัสของคริสแล้วแต่เขาก็ทำไม่ได้และยอมแพ้มันแต่โดยดี...
สิ้นเสียงครางของชานยอลก็เกิดการตอดรัดทางด้านหลังถี่ๆทำให้คริสทนไม่ไหวและร้องครางเรียกชื่อของชานยอล
ออกมาบ้าง ไม่นานนักเขาก็ปลดปล่อยของเหลวบางอย่างเข้าไปในตัวของชานยอล กระแสน้ำอุ่นๆทำให้ชานยอลรู้สึกแปลกๆบริเวณช่องทางด้านหลังในตอนนี้เขาทั้งสองถึงฝั่งฝันเรียบร้อยแล้ว
......คริสถอนกายออกจากชานยอลช้าๆพร้อมกับนอนกอดชานยอลเพื่อให้ไออุ่นแก่เขาอีกครั้ง....ชานยอลพลิกร่างเข้าหาคริสและซุกหน้าลงไปที่แผ่นอกหนาของคริสด้วยความเขินอาย ดวงตากลมโตของเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองใบหน้าของคริสด้วยซ้ำ...คริสใช้ริมฝีปากบางของเขาจูบสัมผัสไปที่หน้าผากของชานยอลอย่างแผ่วเบาและกอดเขาไว้กับผืนอกหนา...
"พักผ่อนนะครับ คุณผู้จัดการ"
สิ้นเสียงพูดของคริส.......ไม่กี่นาทีต่อมาทั้งสองก็ผลอยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย......
หิมะข้างนอกยังคงตกโปรยปรายและยังคงมีไอความร้อนจากภายในเกาะอยู่ตรงขอบหน้าต่างบานใสเหมือนเดิม...
อากาศในห้องเมื่อซักครู่ค่อนข้างร้อนระอุ...แต่มันไม่ได้เกิดจากเครื่องทำความร้อนในห้องนอนของชานยอล...แต่เกิดจากบทเพลงรักที่ทั้งคริสและชานยอลร่วมกันบรรเลงอย่างเร่าร้อนมากกว่า...
ในค่ำคืนนี้ที่หิมะตกโปรยปรายลงมาไม่ขาดสายมีเสียงรำพึงในใจเบาๆของเขาทั้งสองออกมาว่า...
....ฝันดีนะฮะคุณซุปเปอร์สตาร์จอมเจ้าเล่ห์...ฝันดีครับคุณผู้จัดการของผม...
End EP7 ----------------------