ตลอดเส้นทางที่คริสขับรถมาตามทางไม่มีแม้เสียงเพลงจากเครื่องเล่น ไม่มีเสียงพูดคุยของคนทั้งสองคนที่ร่วมทางมาด้วยกัน
.....ชานยอลนั่งมองเหม่อออกไปข้างนอกกระจก....ในหัวสมองของชานยอลว่างเปล่า...มีแต่ชื่อของ"ลียุนฮี"...ผู้หญิงที่คริสเคยรักมาก....เขาคนนี้จะกลับมาเจอกันอีกครั้งในอีก 3 วันข้างหน้าโดยที่เขาเป็นคนมีส่วนร่วมในการจัดคิวให้คริสและยุนฮีเจอกัน.....
ในมือของชานยอลยังกำสมุดบันทึกนั้นไว้แน่น....และมืออีกข้างของเขาก็ถูกคริสกุมไว้อย่างนั้น....ชานยอลค่อยๆดึงมือของเขาออกจากเกาะกุมของคริสช้าๆ...พร้อมกับรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าเขา....
"ฉันเอามือออกดีกว่า เดี๋ยวนายขับรถไม่ถนัด...เหนื่อยแย่เลยนะ ต้องถ่ายซีรีย์แล้ว"
คริสพยักหน้ารับช้าๆโดยไม่ได้หันไปมองหน้าของชานยอล....เขารู้สึกละอายใจ แม้เขาจะเป็นนักแสดงที่เก่งในการรับบทบาทต่างๆแต่กับชานยอลในบางครั้งเขาก็ไม่สามารถเก็บงำอาการความรู้สึกของตัวเองไว้ได้....
ปาร์คชานยอลเป็นคนเดียวที่คริสอยู่ด้วยแล้วหัวเราะได้อย่างสบายใจ.....เป็นคนเดียวที่กล้าเถียงและขัดใจเขา เป็นคนเดียวที่ทำให้คริสใจเย็นขึ้นในทุกๆเรื่อง.....
"อาทิตย์หน้าฉันขอกลับบ้านอีกนะ ฉันจะกลับไป....จัดงานวันเกิดกับแม่แล้วก็น้องสาวของฉัน" ปาร์คชานยอลเอ่ยพูดกับคริสพร้อมกับมองเหม่อไปด้านหน้า.....
"วันที่แม่เจ็บปวดที่สุดในวันที่ฉันเกิด...ฉันอยากกลับไปอยู่กับแม่เหมือนทุกๆปี"....ชานยอลหันไปมองหน้าคริส คนที่เขาก็อยากให้ไปร่วมงานวันเกิดเล็กๆของเขาเช่นกัน....แต่มันก็เป็นแค่ความหวังลมๆแล้งๆของเขาเท่านั้น...
คริสมีท่าทีตกใจเล็กน้อยที่เขาไม่รู้สักนิดว่าอาทิตย์หน้าเป็นวันคล้ายวันเกิดของชานยอล...แต่เขาก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้างที่อย่างน้อยเขาก็ได้เตรียมของขวัญสุดพิเศษให้กับชานยอลไว้แล้ว.....นาฬิกาฝังเพชรรูปหิมะตกเรือนนั้น เขาคิดที่จะมอบมันให้กับชานยอลในวันเกิด.......
"อืมม ได้สิ ฉันจะไปด้วย "
"วันนั้นนายไม่ว่าง นาย....ติดถ่ายซีรีย์กับลียุนฮี"
......... ชานยอลตอบโดยไม่ต้องเปิดดูสมุดบันทึกเพราะเขาเป็นคนจัดคิวของคริสเอง วันนั้นที่เป็นวันเกิดของชานยอลคริสไม่ว่างและมีคิวถ่ายซีรีย์ตามที่ทีมงานขอมา ชานยอลพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดโดยไม่ต้องการจะให้คริสล่วงรู้ว่าจริงๆแล้วเขาแอบเสียใจที่คริสไม่สามารถมาร่วมงานวันเกิดของเขาได้...
....แต่ก็ไม่เป็นไร ในวันเกิดของเขามีแค่แม่และน้องสาวมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วหากปีนี้จะมีคริสเพิ่มมาด้วยอีกคนนั่นสิคือเรื่องแปลกที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา....ซุปเปอร์สตาร์ที่โด่งดังไม่ควรอยู่ในงานวันเกิดเล็กๆในบ้านหลังเล็กๆ.....เขาเหมาะกับงานเฉลิมฉลองงานวันเกิดตามโรงแรมชื่อดังที่ใหญ่โตมากกว่า....
"ฉันจะเลื่อนคิว...ช่วยบอกกับทางทีมงานด้วยว่าฉันไม่ว่างถ่ายซีรีย์วันนั้น" คริสหันไปพูดกับชานยอลด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง
"ไม่มีประโยชน์อะไรที่นายจะเลื่อนคิว งานสำคัญที่สุด ยังมีอะไรสำคัญกว่างานของนายอีกเหรอคริส!"
ชานยอลต่อว่าคริส....ความโมโหที่เกิดจากความน้อยใจของชานยอล....ไม่มีเหตุผลอะไรที่วันเกิดของเขามันจะมีความสำคัญอะไรต่อคริส......เขาเป็นแค่ผจก.ส่วนตัวและเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น....แม้ในใจลึกๆชานยอลจะอยากให้คริสไปแต่เขาก็ไม่เห็นแก่ตัวถึงขนาดจะต้องให้คริสเสียงานเพื่อเขา...
"ในวันเกิดของนาย ฉันอยากอยู่กับนายในวันนั้นนะ..ชานยอล" น้ำเสียงของคริสเบาลง.....น้ำเสียงที่ดูเหมือน
เจือปนไปด้วยความเสียใจ....เสียใจที่ไม่รู้ว่าอาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดของชานยอลแล้วเขาก็ยังไม่มีโอกาสที่จะไปร่วมงานนั้นอีก
ชานยอลไม่ตอบแต่ยังคงนั่งนิ่งมองเหม่อออกไปเหมือนเคย เขารู้สึกเจ็บปวดลึกๆในใจ.....ชานยอลตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมต้องเจ็บ.....ทั้งๆที่คริสก็ไปทำงานเหมือนตามปกติทุกวัน.....แต่มันอาจจะหมายถึงในงานนั้นคริสต้องพบเจอกับคนรักเก่าจึงทำให้ชานยอลมีความหวาดหวั่นเกิดขึ้นในจิตใจ...
ในคืนนี้การเดินทางจากบ้านของชานยอลมาที่บ้านของคริสมันดูยาวนานกว่าปกติ ........สาเหตุเกิดจากบรรยากาศอึมครึมในรถที่ทั้งสองร่วมทางกันมา...........เมื่อถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ของคริส คริสเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถพร้อมกับลงมาช่วยขนของให้ชานยอล.....ถุงเสื้อผ้าแบรนด์เนมและของใช้ทั้งหลายที่คริสบรรจงเลือกซื้อมาเต็มคันรถ ตอนนี้เขายังไม่มีโอกาสที่จะมอบมันให้แก่ชานยอล
ชานยอลเดินถือของขึ้นไปบนห้องนอนของเขา....พร้อมกับจัดของที่เขาเตรียมมาเพิ่ม เสื้อผ้าสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆที่สำคัญต่อตัวเขา....ต่อไปนี้คริสอาจจะต้องทำงานหนักขึ้นและเขาเองก็มีหน้าที่ช่วยเหลือคริส ชานยอลพยายามสลัดเรื่องบางเรื่องที่มันกำลังรบกวนจิตใจของเขาออกและเข้มแข็งให้มากๆ....เขามาที่นี่ในตำแหน่งผจก.ส่วนตัวไม่ใช่ตำแหน่งอื่น....
ช่วงมืดของคืนนั้นก่อนที่ชานยอลจะเข้านอน เขาหยิบโทรศัพท์มือถือและกดเข้าไปในเวปๆนึง เวปแฟนคลับของคริสที่เคยโพสต์เรื่องราวของคริสและยุนฮีไว้ ชานยอลเคยพบเจอเกี่ยวกับข้อความนั้นและเขาก็เคยกดอ่านมัน....
....ในตอนนี้เขาอยากจะอ่านมันอีกครั้ง.....อ่านมันเพื่อตอกย้ำกับตัวเองว่า....."เขาเป็นเพียงผู้จัดการส่วนตัวไม่ใช่ตำแหน่งคนรักเก่าอย่างยุนฮี"
ชานยอลอ่านข้อความต่างๆรวมถึงดูรูปภาพสมัยแรกๆที่คริสและยุนฮีเคยร่วมงานกัน.......ความเจ็บปวดในใจลึกๆเกิดขึ้นกับตัวเขาอีกแล้ว....ดวงตากลมโตของชานยอลเริ่มมีหยาดน้ำใสๆมาคลอหน่วงที่ดวงตา หลังจากสังเกตเห็นสายตาของคริสที่มองยุนฮีในแต่ละภาพ.....มันคือสายตาที่ดูอ่อนโยนและละมุนละไมที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นจากดวงตาคมของคริส.....
เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องทำให้ชานยอลหลุดจากภวังค์ เขาตกใจและรีบวางโทรศัพท์ไว้บนเตียงโดยลืมกดปุ่มปิดหน้าเวปนั้นทำให้แสงไฟที่หน้าจอค่อยๆดับลงโดยที่หน้าเวปนั้นยังคงค้างอยู่........
"ชานยอล...นายหลับหรือยัง" คริสเรียกชานยอลเบาๆที่หน้าห้องโดยไม่ลืมที่จะถือถุงเสื้อผ้าของใช้ที่เขาซื้อเมื่อกลางวันติดมือมาด้วย
"ยัง....นายมีอะไรเหรอ" ชานยอลเอ่ยตอบไปโดยที่ยังไม่ได้เปิดประตูหน้าห้องให้คริส
"ขอฉันเข้าไปหน่อยสิ ฉันมีธุระจะคุยด้วย...."
ชานยอลลังเลสักพักก่อนที่จะตัดสินใจเปิดประตูรับคริสที่หน้าห้อง.....คริสถือถุงเสื้อผ้าแบรนด์เนมหลายยี่ห้อและเดินเข้ามาในห้องของชานยอล ท่าทีของคริสดูสงบนิ่งกว่าทุกครั้งที่เขาเคยเป็น....
"ฉันซื้อมาให้...รับเอาไว้สิ มีเสื้อผ้าแล้วก็ของใช้บางอย่างที่ฉันอยากจะให้นาย"
คริสยื่นถุงกระดาษหลายใบให้กับชานยอลโดยหวังให้ชานยอลรับของที่เขาตั้งใจซื้อมา...
"ทำไมต้องซื้อมา ของฉันก็มีอยู่เยอะแยะ" ชานยอลตอบกลับไปด้วยความสงสัยและไม่ต้องการจะรับของที่คริสกำลังยื่นและยัดมันใส่มือให้เขา
"ในถุงเล็กๆนั่นมีน้ำหอมที่ฉันชอบหลายแบบ.......ฉันอยากให้นายใช้มัน ฉันอยากได้กลิ่นพวกนั้นจากตัวของนาย"
คริสยิ้มออกมาน้อยๆ...รอยยิ้มของคริสดูเศร้ากว่าปกติ เขาดูแปลกไปเหมือนคนที่มีเรื่องไม่สบายใจบางอย่าง คริสพยายามอย่างมากที่จะสะกดอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองไว้ไม่ให้รู้สึกเศร้าใจตามชานยอลในตอนนี้เขาก็ทำอะไรไม่ได้มากในเมื่อสิ่งที่ทำให้ชานยอลหนักใจมันเกิดมาจากงานของเขา งานที่เขาตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดในตลอดหลายปีนี้...
"อือ ..งั้นก็ขอบใจนะ" ชานยอลยิ้มออกมาบางๆก่อนที่จะเดินถือถุงกระดาษพวกนั้นไปเก็บที่ตู้เสื้อผ้าอีกมุมนึงในห้องนอน
"ฉัน...ขอนอนด้วยได้มั้ยชานยอล.....ฉันอยากนอนกอดนายเหมือน...คืนนั้น"
.....คริสพูดออกมาพร้อมกับนั่งลงไปบนเตียงโดยที่ฝ่ามือเขาไปบังเอิญโดนกับปุ่มโทรศัพท์ของชานยอลทำให้หน้าจอมีไฟแสดงขึ้นมาว่ามีหน้าเวปเปิดค้างอยู่....รวมถึงหน้าจอของชานยอลในตอนนี้ก็ยังโชว์ภาพของคริสและยุนฮีในอดีต......
ชานยอลกำลังจะหันมาต่อว่าคริสที่เขามาขอนอนด้วย..แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคริสคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดดูรูปภาพพวกนั้น ...และคริสก็กำลังอ่านข้อความในเวปที่ชานยอลเปิดค้างไว้ที่ตัวเครื่อง....
"ชานยอล....นาย..รู้เรื่องยุนฮี...นายเข้าไปอ่านข้อความพวกนี้ทำไม!"
คริสมีสีหน้ากังวลเขาเองก็ตกใจเช่นกันที่ชานยอลเคยรับรู้เรื่องพวกนี้ เรื่องบางเรื่องที่ไม่สมควรรู้และมันจะทำให้เขาทั้งสองช้ำใจมากยิ่งขึ้น
ชานยอลนิ่งไปพักนึงก่อนที่สีหน้าและแววตาของเขาจะแปรเปลี่ยนไปและตัดสินใจพูดมันออกมา..
"ฉัน...อยากรู้ทุกเรื่องของนาย...ยังมีอะไรปิดบังฉันอีกมั้ย"
"คริส...มีอะไรจะบอกฉันอีกหรือเปล่า ..."
ดวงตากลมโตของชานยอลฉายแววหวาดหวั่นและความเสียใจลึกๆเขาไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวควรแยกออกจากกันหรือไม่ แต่ตอนนี้ชานยอลทำมันไม่ได้ เขายังไม่เข้มแข็งพอ
หยาดน้ำใสๆมาคลอหน่วงที่ขอบตาของชานยอล.....น้ำตาที่ชานยอลพยายามสะกดกลั้นไว้เขาไม่ต้องการให้คริสเห็นว่าเขาอ่อนแอ...แต่มันก็เหมือนพาลจะไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยของเขา
คริสวางโทรศัพท์ของชานยอลไว้ที่เตียงนอนพร้อมๆกับรีบลุกขึ้นเดินตรงไปหาเขา ร่างสูงโปร่งของคริสดึงชานยอลเข้ามาโอบกอดไว้แน่น ฝ่ามือหนาของคริสยกขึ้นค่อยๆลูบไปที่เส้นผมอ่อนนุ่มของชานยอลอย่างเบามือ...เขาไม่รู้จะพูดปลอบชานยอลยังไง แต่เขาอยากให้ชานยอลใช้หัวใจสัมผัสกับความรู้สึกของเขามากกว่า การกระทำกับคำพูดสิ่งไหนสำคัญกว่าในความรู้สึกของชานยอลคริสไม่อาจล่วงรู้ได้...แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม คริสพร้อมจะเอ่ยคำที่ชานยอลต้องการจะฟัง...
"ปาร์คชานยอล...นายต้องเชื่อใจฉัน"
"ฉันขอแค่นายเชื่อใจฉัน...เท่านั้น...."
ชานยอลยืนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของคริส....ความอบอุ่นที่คริสมอบให้มันทำให้เขารู้สึกดีขึ้นไม่มากก็น้อย เขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะเข้มแข็งไปได้อีกนานแค่ไหน ชานยอลไม่รู้ว่าหัวใจของตนเองจะทนมันได้อย่างไร.....คงจะมีแต่เพียงเวลาเท่านั้นที่เป็นเครื่องพิสูจน์ใจของทั้งคริสและชานยอล....
เช้าวันรุ่งขึ้นอากาศไม่สดใสอย่างทุกวัน... ท้องฟ้ายังคงอึมครึมมืดครึ้มเปรียบสเหมือนเมฆฝนที่กำลังก่อตัวในอารมณ์ภายใต้จิตใจของทั้งคริสและชานยอล......วันนี้มีทีมงานแวะมาที่บ้านของคริสเพื่อนำบทมาให้เขาศึกษาก่อนวันถ่ายทำจริง...
คริสพลิกอ่านบทของพระเอกที่เขาได้รับในซีรีย์ที่เขาตอบตกลงเล่น .....ฉากแต่ละฉากที่เขากำลังจินตนาการว่ามันจะสร้างความหวาดหวั่นให้กับหัวใจของชานยอลมากขนาดไหน....เขาลอบถอนลมหายใจออกมาช้าๆเมื่อพลิกอ่านบทแต่ละหน้า....ดวงตาคมของคริสเองก็ฉายความกังวลออกมาเช่นกัน...หากเขารับรู้ซักนิดว่าคนที่จะมาเป็นนางเอกของคุณอาที่เขาเคารพมากจะเป็น "ลียุนฮี"เขาคงจะปฎิเสธคุณอาไปก่อนหน้านี้แล้ว...
เข็มนาฬิกาหมุนข้ามผ่านเวลา.... จากนาทีเลื่อนผ่านเป็นชั่วโมง....จากชั่วโมงข้ามผ่านไปเป็นวัน....และแล้วก็มาถึงวันที่ชานยอลจะต้องเกิดความรู้สึกหวาดหวั่นในใจ....วันที่ทั้งคริสและชานยอลต้องข้ามผ่านมันไปให้ได้ ..วันเวลาที่ผ่านล่วงเลยมา ....คริสเคยเจ็บปวดกับยุนฮีเจียนตาย และเขาก็ใช้เวลาในการรักษาแผลใจนั้นจนหัวใจเขากลับมาเข้มแข็งดังเดิม...และวันนี้ นอกจากเป็นการพิสูจน์ใจของชานยอลแล้วยังเป็นการพิสูจน์ใจของคริสอีกครั้งด้วย.....
ที่กองถ่ายซีรีย์นอกตัวเมืองออกไปไม่ไกลนัก ทีมงานทั้งหลายต่างขมักเขม้นในการเซทฉาก ทั้งแสงไฟ ...ตัวแสดง รวมถึงสถานที่พร้อมหมดแล้วสำหรับการถ่ายทำ....
ชานยอลนั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นนึงค่อนข้างห่างไกลจากบริเวณนั้น...วันนี้เขาตัดสินใจเอ่ยบอกกับคริสแล้วว่าเขาไม่ต้องการมาด้วยแต่คริสก็ยังคงจูงมือเขาขึ้นรถพร้อมบอกกับเขา.....
"ฉันอยากให้นายมากับฉัน" ....คำพูดที่คริสเอ่ยกับชานยอลก่อนที่เขาทั้งสองจะขึ้นรถมาด้วยกัน
หลังจากคริสเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งตัวเตรียมเข้าฉากเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินตรงมาหาชานยอลด้วยรอยยิ้มที่คริสพยายามสร้างความสบายใจให้กับคนตรงหน้าเขาให้มากที่สุด...
"ถ้าไม่อยากเข้าไป ก็เดินเล่นแถวๆนี้ก่อนก็ได้นะ"
ชานยอลพยักหน้ารับคำช้าๆ......เขาไม่คิดจะเข้าไปรบกวนบริเวณถ่ายทำ...เขาเองก็ไม่พร้อมที่จะเจอกับยุนฮีคนรักเก่าของคริสเช่นกัน...
เมื่อฉากพร้อม นักแสดงพร้อม แสงไฟพร้อม ทีมงานรวมถึงผกก.ก็ตะโกนบอกจังหวะให้ทั้งคริสและยุนฮีเตรียมตัวสำหรับการเข้าฉาก.....
คริสยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยเมื่อเขาอยู่ต่อหน้ายุนฮี ในตอนนี้เขาคิดถึงแค่เรื่องงานเท่านั้น...และหวังว่าในวันนี้เขาจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด...
ยุนฮีลอบมองใบหน้าของคริส....ผู้ชายตรงหน้าคนที่เธอเคยทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ทุกวันนี้เขากลับโด่งดังดูดีทั้งทางด้านฐานะรวมถึงบุคลิกหน้าตา...คริสก้าวมาเป็นซุปเปอร์สตาร์แถวหน้าซึ่งเธอเองก็ได้ยินผลงานของเขาบ่อยๆเมื่อตอนที่เธออยู่เมืองนอก รวมถึงเพื่อนฝูงของเธอก็มักพูดถึงคริสให้เธอฟังหลังจากที่เลิกรากันไปแล้ว
"คุณดูเปลี่ยนไปมากนะคริส" ยุนฮีเอ่ยทักคริสขึ้นมาเบาๆเสียงพูดของเธอไม่ดังมากพอเพราะจงใจจะให้คริสได้ยินแค่เพียงคนเดียว...
"เมื่อเวลาเปลี่ยน ผมก็ต้องเปลี่ยนตามกาลเวลา" .... ใบหน้าของคริสบ่งบอกถึงความทนงตัวเขาพูดพร้อมกับไม่มองไปที่ใบหน้าของยุนฮีและต้องการจะให้ช่วงเวลาในการถ่ายทำผ่านไปอย่างรวดเร็วที่สุด
"ภายนอกดูเปลี่ยนไป แต่ภายในใจของคุณ...." ยุนฮีเว้นจังหวะคำพูดเพราะเธอเองก็ไม่ต้องการจะเอ่ยถามเขาตรงๆ
"ทุกวันนี้....ผมเข้มแข็งมากพอแล้ว" น้ำเสียงของคริสเรียบเฉยไม่บ่งบอกความรู้สึกอะไรที่เขามีต่อยุนฮีอีกต่อไป
เสียงผกก.สั่งแอคชั่นหลังจากที่ทุกอย่างพร้อมแล้วสำหรับการถ่ายทำ คริสและยุนฮียืนหันหน้าเข้าหากันที่หน้าบ้านหลังนึงที่เซตฉากออกมาได้ดูอบอุ่น....เป็นฉากแรกที่ทั้งพระเอกและนางเอกได้กลับมาเจอกัน...
"3..4....แอคชั่น" สิ้นเสียงผกก.ทั้งสองก็สวมบทตัวแสดงที่ได้รับ...
ทั้งคริสและยุนฮีต่างมองใบหน้าของกันและกันและสื่ออารมณ์ความคิดถึงของตัวแสดงออกมาทางสายตา...ยุนฮีค่อยๆยื่นมือเรียวเล็กของเธอออกไปจับที่มือของคริสช้าๆพร้อมถ้อยคำตามบทที่เธอซักซ้อมมาอย่างดี...
"ฉันขอโทษที่ไม่ได้ติดต่อกลับมา......คุณคิดถึงฉันมากใช่มั้ย" น้ำตาของเธอคลอหน่วงที่ดวงตาคู่สวยพร้อมแววตาที่เจือปนไปด้วยความรู้สึกผิด
"ตลอดเวลาที่คุณไม่อยู่ที่นี่.....บ้านหลังนี้ก็เงียบเหงาลงมาก...ผมรอคอยคุณกลับมาทุกลมหายใจนะ"
คริสคว้าตัวของยุนฮีเข้ามากอดโดยที่ร่างเล็กของเธอซุกลงตรงหน้าอกแผ่นหนาของเขาพร้อมกับร้องไห้ออกมา..ยุนฮีได้ยินเสียงหัวใจของคริสเต้นแรงขึ้นขณะที่เธอแนบใบหน้าลงไปที่หน้าอกของเขา...
"คุณอินเหรอคริส" เธอแกล้งพูดกระซิบโดยร่างของเธอยังถูกแขนแกร่งของคริสโอบกอดไว้อย่างนั้น
เสียงผกก.ตะโกนสั่งคัท...ทั้งสองผละออกจากกันโดยที่คริสใช้มือของเขาดึงร่างของยุนฮีออกจากตัวเขาเบาๆ
"คุณคริสครับ ผมขออีกครั้งนึง ใบหน้าคุณมันไม่สื่ออารมณ์ความคิดถึงออกมาจนจับใจน่ะ ผมต้องการให้มันมากกว่านี้"
คริสพยักหน้ารับคำและพยายามที่จะถ่ายทำโดยให้เทคเดียวผ่านเหมือนทุกครั้งในการแสดงของเขา เขาจะได้ไม่เสียเวลามากนักในวันนี้....
เสียงสั่งคัทหลายครั้งที่ผกก.ส่งเสียงออกไปเนื่องจากคริสยังคงสื่ออารมณ์ตามความต้องการของผกก.ไม่ได้ ผิดกับยุนฮีที่เธอแสดงได้อย่างธรรมชาติและดูแนบเนียนเหมือนกับชีวิตจริงของเธอ...
"ผมขอตัวไปทำสมาธิสักพักนะครับ" คริสพูดพลางขอโค้งศรีษะ เดินปลีกตัวออกไปจากบริเวณนั้นคนเดียวโดยมียุนฮีเดินตามไปไม่ห่างจากเขานัก...
"คุณเล่นไม่ได้เพราะคุณไม่ได้คิดถึงฉันเลย หรือ....คิดถึงฉันจนเล่นไม่ได้หืมคริส"
ยุนฮีแกล้งเอ่ยถามคริสในขณะที่เธอเดินตามคริสมาทันบริเวณข้างพุ่มไม้เล็กๆที่เงียบสงบ...
ไม่มีเสียงตอบใดๆออกมาจากปากของคริส เขายืนนิ่งพร้อมกับทอดสายตาไปข้างหน้า...แม้ในสถานที่นี้จะดูปลอดคนแต่ก็ไม่รอดพ้นจากสายตาของทีมงานบางคนที่พยายามจะตามจับผิดความสัมพันธ์ระหว่างคริสและยุนฮี บ้างก็เชียร์ให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกัน บ้างก็ต่อว่ายุนฮีที่กลับมาตอนที่คริสทำใจได้และเวลาก็ผ่านมาเนิ่นนานแล้ว...
ชานยอลยังคงนั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นเดิมที่ไม่มีคนพลุกพล่านนัก...ในจังหวะนั้นเองก็มี 2 สาวทีมงานในบริเวณนั้นเดินเม้าท์กันออกมาด้วยความเพลิดเพลิน ทั้งสองยังคงแสดงความคิดเห็นกันอย่างเมามันส์ถึงคู่รักเก่าระหว่างคริสและยุนฮีที่โคจรกลับมาพบกันอีกครั้งด้วยซีรีย์เรื่องนี้...
"เป็นยังไงล่ะเธอออ เข้าฉากวันแรกก็ได้เรื่องเลย ฉันล่ะคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้"
หญิงสาวคนที่ 1 เอ่ยพูดกับเพื่อนข้างๆพร้อมสีหน้าสุดจะทนเมื่อกองถ่ายอาจจะต้องเสียเวลาเพราะติดแค่ถ่ายฉากๆเดียว
"คริสไม่เคยเป็นแบบนี้นะ เล่นเก่งจะตายเทคเดียวผ่านตลอด"
หญิงสาวคนที่ 2 ยังคงแสดงความเห็นกับเพื่อนของเธอที่รู้สึกเหมือนๆกัน
"แล้วเธอว่าพล็อตเรื่องมันไม่โดนเหรอ ฉันว่าแทบจะคล้ายชีวิตจริง นี่สินะเรื่องจริงอิงนิยาย"
ทีมงาน 2 คนยังคงแสดงความเห็นกันโดยมีชานยอลแอบนั่งฟังอยู่ในบริเวณนั้นเงียบๆ...เรื่องที่เธอทั้งสองกำลังพูดมันหมายถึงอะไร เขาควรจะเดินเข้าไปดูให้เห็นกับตาไหมหรือจะนั่งรออยู่ที่เดิมตรงนี้....ชานยอลเกิดความลังเลใจว่าที่ทีมงานต้องออกมาเอ่ยปากในความอัดอั้นตันใจนั้นเกิดจากคริสหรืออะไรกันแน่...
....ในที่สุดชานยอลก็พ่ายแพ้ให้กับความอยากรู้อยากเห็น... เขาก้าวเท้าพาร่างของตัวเองมาหยุดยืนอยู่ในระยะที่คริสไม่สามารถมองเห็นเขาได้ แต่เขาเห็นคริสและยุนฮีได้ถนัดจากมุมนี้...ทีมงานสไตลิสต์ต่างๆตรงเข้าไปซับหน้าและตกแต่งทรงผมให้กับนักแสดง....เมื่อฉากพร้อม นักแสดงพร้อมและทุกคนพร้อม ผกก.ก็ให้สัญญาณเพื่อเริ่มการถ่ายทำอีกครั้ง
3...4...แอคชั่น!!
"ตลอดเวลาที่คุณไม่อยู่ที่นี่.....บ้านหลังนี้ก็เงียบเหงาลงมาก...ผมรอคอยคุณกลับมาทุกลมหายใจนะ"
คริสคว้าร่างบางของยุนฮีเข้ามากอดในขณะที่ยุนฮีก็ซุกใบหน้าของตนเองแนบลงบนหน้าอกแกร่งของคริส เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นกับคำพูดของเขา....และกอดตอบเขาด้วยความถวิลหา ร่างสองร่างของทั้งคริสและยุนฮีกอดกันกลมจนแทบจะกลายเป็นคนๆเดียวกัน
"ต่อให้คุณจากผมไปไกลแค่ไหน...ผมก็รอคุณเสมอ....คุณเป็นคนเดียวที่ผมจะรักเท่านั้น.."
คริสยังคงกอดยุนฮีและปากของเขาก็พร่ำพูดคำว่าคิดถึง.....คำว่ารัก ....สายตาของคริสพยายามสื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวเขาที่มีต่อผู้หญิงคนรักตรงหน้า...
ชานยอลเห็นภาพในตอนนี้แล้วเขาพยายามทำความเข้าใจว่ามันคือการแสดง...แต่การแสดงที่เขาเห็นตรงหน้ามันตรงกับชีวิตจริงของทั้งคริสยุนฮีและเขา...คำพูดทุกคำของคริสมันเป็นคำพูดจากความรู้สึกหรือบทบาทที่เขาได้รับ...ชานยอลรู้สึกถึงความร้อนตรงขอบตาของเขาที่ค่อยๆเริ่มขึ้นช้าๆ...ตอนนี้ชานยอลรู้สึกว่าเขาไม่เหมาะสมที่จะมายืนอยู่ตรงนี้ เขาคิดผิดที่ก้าวเดินเข้ามาในบริเวณนี้และคิดผิดที่รับตำแหน่งผจก.ส่วนตัวของคริสแต่แรก...เขาไม่มีความเข้มแข็งพอและไม่สามารถแยกความรู้สึกจริงกับการแสดงของคริสได้...ตอนนี้เขามีแต่ความน้อยใจ เสียใจกับภาพคริสและคนรักเก่าของคริสเท่านั้น....
ในหัวสมองของชานยอลฉายภาพตรงหน้าของชานยอลสลับกับภาพในอดีตของทั้งคริสและยุนฮีที่เขาเคยเห็นในเวปไซต์นั้น...ชานยอลตัดสินใจที่จะเลือกเดินจากไปจากบริเวณนั้นเงียบๆ..เขาเดินออกไปพร้อมน้ำตาที่มันกำลังจะไหลจากความรู้สึกเจ็บลึกๆภายใน ความรู้สึกจริงๆของเขาที่ไม่ได้มาจากฉากหน้าในการแสดงหรือแกล้งทำ...
END EP9 ---------------
.....ชานยอลนั่งมองเหม่อออกไปข้างนอกกระจก....ในหัวสมองของชานยอลว่างเปล่า...มีแต่ชื่อของ"ลียุนฮี"...ผู้หญิงที่คริสเคยรักมาก....เขาคนนี้จะกลับมาเจอกันอีกครั้งในอีก 3 วันข้างหน้าโดยที่เขาเป็นคนมีส่วนร่วมในการจัดคิวให้คริสและยุนฮีเจอกัน.....
ในมือของชานยอลยังกำสมุดบันทึกนั้นไว้แน่น....และมืออีกข้างของเขาก็ถูกคริสกุมไว้อย่างนั้น....ชานยอลค่อยๆดึงมือของเขาออกจากเกาะกุมของคริสช้าๆ...พร้อมกับรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าเขา....
"ฉันเอามือออกดีกว่า เดี๋ยวนายขับรถไม่ถนัด...เหนื่อยแย่เลยนะ ต้องถ่ายซีรีย์แล้ว"
คริสพยักหน้ารับช้าๆโดยไม่ได้หันไปมองหน้าของชานยอล....เขารู้สึกละอายใจ แม้เขาจะเป็นนักแสดงที่เก่งในการรับบทบาทต่างๆแต่กับชานยอลในบางครั้งเขาก็ไม่สามารถเก็บงำอาการความรู้สึกของตัวเองไว้ได้....
ปาร์คชานยอลเป็นคนเดียวที่คริสอยู่ด้วยแล้วหัวเราะได้อย่างสบายใจ.....เป็นคนเดียวที่กล้าเถียงและขัดใจเขา เป็นคนเดียวที่ทำให้คริสใจเย็นขึ้นในทุกๆเรื่อง.....
"อาทิตย์หน้าฉันขอกลับบ้านอีกนะ ฉันจะกลับไป....จัดงานวันเกิดกับแม่แล้วก็น้องสาวของฉัน" ปาร์คชานยอลเอ่ยพูดกับคริสพร้อมกับมองเหม่อไปด้านหน้า.....
"วันที่แม่เจ็บปวดที่สุดในวันที่ฉันเกิด...ฉันอยากกลับไปอยู่กับแม่เหมือนทุกๆปี"....ชานยอลหันไปมองหน้าคริส คนที่เขาก็อยากให้ไปร่วมงานวันเกิดเล็กๆของเขาเช่นกัน....แต่มันก็เป็นแค่ความหวังลมๆแล้งๆของเขาเท่านั้น...
คริสมีท่าทีตกใจเล็กน้อยที่เขาไม่รู้สักนิดว่าอาทิตย์หน้าเป็นวันคล้ายวันเกิดของชานยอล...แต่เขาก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้างที่อย่างน้อยเขาก็ได้เตรียมของขวัญสุดพิเศษให้กับชานยอลไว้แล้ว.....นาฬิกาฝังเพชรรูปหิมะตกเรือนนั้น เขาคิดที่จะมอบมันให้กับชานยอลในวันเกิด.......
"อืมม ได้สิ ฉันจะไปด้วย "
"วันนั้นนายไม่ว่าง นาย....ติดถ่ายซีรีย์กับลียุนฮี"
......... ชานยอลตอบโดยไม่ต้องเปิดดูสมุดบันทึกเพราะเขาเป็นคนจัดคิวของคริสเอง วันนั้นที่เป็นวันเกิดของชานยอลคริสไม่ว่างและมีคิวถ่ายซีรีย์ตามที่ทีมงานขอมา ชานยอลพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดโดยไม่ต้องการจะให้คริสล่วงรู้ว่าจริงๆแล้วเขาแอบเสียใจที่คริสไม่สามารถมาร่วมงานวันเกิดของเขาได้...
....แต่ก็ไม่เป็นไร ในวันเกิดของเขามีแค่แม่และน้องสาวมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วหากปีนี้จะมีคริสเพิ่มมาด้วยอีกคนนั่นสิคือเรื่องแปลกที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา....ซุปเปอร์สตาร์ที่โด่งดังไม่ควรอยู่ในงานวันเกิดเล็กๆในบ้านหลังเล็กๆ.....เขาเหมาะกับงานเฉลิมฉลองงานวันเกิดตามโรงแรมชื่อดังที่ใหญ่โตมากกว่า....
"ฉันจะเลื่อนคิว...ช่วยบอกกับทางทีมงานด้วยว่าฉันไม่ว่างถ่ายซีรีย์วันนั้น" คริสหันไปพูดกับชานยอลด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง
"ไม่มีประโยชน์อะไรที่นายจะเลื่อนคิว งานสำคัญที่สุด ยังมีอะไรสำคัญกว่างานของนายอีกเหรอคริส!"
ชานยอลต่อว่าคริส....ความโมโหที่เกิดจากความน้อยใจของชานยอล....ไม่มีเหตุผลอะไรที่วันเกิดของเขามันจะมีความสำคัญอะไรต่อคริส......เขาเป็นแค่ผจก.ส่วนตัวและเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น....แม้ในใจลึกๆชานยอลจะอยากให้คริสไปแต่เขาก็ไม่เห็นแก่ตัวถึงขนาดจะต้องให้คริสเสียงานเพื่อเขา...
"ในวันเกิดของนาย ฉันอยากอยู่กับนายในวันนั้นนะ..ชานยอล" น้ำเสียงของคริสเบาลง.....น้ำเสียงที่ดูเหมือน
เจือปนไปด้วยความเสียใจ....เสียใจที่ไม่รู้ว่าอาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดของชานยอลแล้วเขาก็ยังไม่มีโอกาสที่จะไปร่วมงานนั้นอีก
ชานยอลไม่ตอบแต่ยังคงนั่งนิ่งมองเหม่อออกไปเหมือนเคย เขารู้สึกเจ็บปวดลึกๆในใจ.....ชานยอลตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมต้องเจ็บ.....ทั้งๆที่คริสก็ไปทำงานเหมือนตามปกติทุกวัน.....แต่มันอาจจะหมายถึงในงานนั้นคริสต้องพบเจอกับคนรักเก่าจึงทำให้ชานยอลมีความหวาดหวั่นเกิดขึ้นในจิตใจ...
ในคืนนี้การเดินทางจากบ้านของชานยอลมาที่บ้านของคริสมันดูยาวนานกว่าปกติ ........สาเหตุเกิดจากบรรยากาศอึมครึมในรถที่ทั้งสองร่วมทางกันมา...........เมื่อถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ของคริส คริสเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถพร้อมกับลงมาช่วยขนของให้ชานยอล.....ถุงเสื้อผ้าแบรนด์เนมและของใช้ทั้งหลายที่คริสบรรจงเลือกซื้อมาเต็มคันรถ ตอนนี้เขายังไม่มีโอกาสที่จะมอบมันให้แก่ชานยอล
ชานยอลเดินถือของขึ้นไปบนห้องนอนของเขา....พร้อมกับจัดของที่เขาเตรียมมาเพิ่ม เสื้อผ้าสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆที่สำคัญต่อตัวเขา....ต่อไปนี้คริสอาจจะต้องทำงานหนักขึ้นและเขาเองก็มีหน้าที่ช่วยเหลือคริส ชานยอลพยายามสลัดเรื่องบางเรื่องที่มันกำลังรบกวนจิตใจของเขาออกและเข้มแข็งให้มากๆ....เขามาที่นี่ในตำแหน่งผจก.ส่วนตัวไม่ใช่ตำแหน่งอื่น....
ช่วงมืดของคืนนั้นก่อนที่ชานยอลจะเข้านอน เขาหยิบโทรศัพท์มือถือและกดเข้าไปในเวปๆนึง เวปแฟนคลับของคริสที่เคยโพสต์เรื่องราวของคริสและยุนฮีไว้ ชานยอลเคยพบเจอเกี่ยวกับข้อความนั้นและเขาก็เคยกดอ่านมัน....
....ในตอนนี้เขาอยากจะอ่านมันอีกครั้ง.....อ่านมันเพื่อตอกย้ำกับตัวเองว่า....."เขาเป็นเพียงผู้จัดการส่วนตัวไม่ใช่ตำแหน่งคนรักเก่าอย่างยุนฮี"
ชานยอลอ่านข้อความต่างๆรวมถึงดูรูปภาพสมัยแรกๆที่คริสและยุนฮีเคยร่วมงานกัน.......ความเจ็บปวดในใจลึกๆเกิดขึ้นกับตัวเขาอีกแล้ว....ดวงตากลมโตของชานยอลเริ่มมีหยาดน้ำใสๆมาคลอหน่วงที่ดวงตา หลังจากสังเกตเห็นสายตาของคริสที่มองยุนฮีในแต่ละภาพ.....มันคือสายตาที่ดูอ่อนโยนและละมุนละไมที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นจากดวงตาคมของคริส.....
เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องทำให้ชานยอลหลุดจากภวังค์ เขาตกใจและรีบวางโทรศัพท์ไว้บนเตียงโดยลืมกดปุ่มปิดหน้าเวปนั้นทำให้แสงไฟที่หน้าจอค่อยๆดับลงโดยที่หน้าเวปนั้นยังคงค้างอยู่........
"ชานยอล...นายหลับหรือยัง" คริสเรียกชานยอลเบาๆที่หน้าห้องโดยไม่ลืมที่จะถือถุงเสื้อผ้าของใช้ที่เขาซื้อเมื่อกลางวันติดมือมาด้วย
"ยัง....นายมีอะไรเหรอ" ชานยอลเอ่ยตอบไปโดยที่ยังไม่ได้เปิดประตูหน้าห้องให้คริส
"ขอฉันเข้าไปหน่อยสิ ฉันมีธุระจะคุยด้วย...."
ชานยอลลังเลสักพักก่อนที่จะตัดสินใจเปิดประตูรับคริสที่หน้าห้อง.....คริสถือถุงเสื้อผ้าแบรนด์เนมหลายยี่ห้อและเดินเข้ามาในห้องของชานยอล ท่าทีของคริสดูสงบนิ่งกว่าทุกครั้งที่เขาเคยเป็น....
"ฉันซื้อมาให้...รับเอาไว้สิ มีเสื้อผ้าแล้วก็ของใช้บางอย่างที่ฉันอยากจะให้นาย"
คริสยื่นถุงกระดาษหลายใบให้กับชานยอลโดยหวังให้ชานยอลรับของที่เขาตั้งใจซื้อมา...
"ทำไมต้องซื้อมา ของฉันก็มีอยู่เยอะแยะ" ชานยอลตอบกลับไปด้วยความสงสัยและไม่ต้องการจะรับของที่คริสกำลังยื่นและยัดมันใส่มือให้เขา
"ในถุงเล็กๆนั่นมีน้ำหอมที่ฉันชอบหลายแบบ.......ฉันอยากให้นายใช้มัน ฉันอยากได้กลิ่นพวกนั้นจากตัวของนาย"
คริสยิ้มออกมาน้อยๆ...รอยยิ้มของคริสดูเศร้ากว่าปกติ เขาดูแปลกไปเหมือนคนที่มีเรื่องไม่สบายใจบางอย่าง คริสพยายามอย่างมากที่จะสะกดอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองไว้ไม่ให้รู้สึกเศร้าใจตามชานยอลในตอนนี้เขาก็ทำอะไรไม่ได้มากในเมื่อสิ่งที่ทำให้ชานยอลหนักใจมันเกิดมาจากงานของเขา งานที่เขาตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดในตลอดหลายปีนี้...
"อือ ..งั้นก็ขอบใจนะ" ชานยอลยิ้มออกมาบางๆก่อนที่จะเดินถือถุงกระดาษพวกนั้นไปเก็บที่ตู้เสื้อผ้าอีกมุมนึงในห้องนอน
"ฉัน...ขอนอนด้วยได้มั้ยชานยอล.....ฉันอยากนอนกอดนายเหมือน...คืนนั้น"
.....คริสพูดออกมาพร้อมกับนั่งลงไปบนเตียงโดยที่ฝ่ามือเขาไปบังเอิญโดนกับปุ่มโทรศัพท์ของชานยอลทำให้หน้าจอมีไฟแสดงขึ้นมาว่ามีหน้าเวปเปิดค้างอยู่....รวมถึงหน้าจอของชานยอลในตอนนี้ก็ยังโชว์ภาพของคริสและยุนฮีในอดีต......
ชานยอลกำลังจะหันมาต่อว่าคริสที่เขามาขอนอนด้วย..แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคริสคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดดูรูปภาพพวกนั้น ...และคริสก็กำลังอ่านข้อความในเวปที่ชานยอลเปิดค้างไว้ที่ตัวเครื่อง....
"ชานยอล....นาย..รู้เรื่องยุนฮี...นายเข้าไปอ่านข้อความพวกนี้ทำไม!"
คริสมีสีหน้ากังวลเขาเองก็ตกใจเช่นกันที่ชานยอลเคยรับรู้เรื่องพวกนี้ เรื่องบางเรื่องที่ไม่สมควรรู้และมันจะทำให้เขาทั้งสองช้ำใจมากยิ่งขึ้น
ชานยอลนิ่งไปพักนึงก่อนที่สีหน้าและแววตาของเขาจะแปรเปลี่ยนไปและตัดสินใจพูดมันออกมา..
"ฉัน...อยากรู้ทุกเรื่องของนาย...ยังมีอะไรปิดบังฉันอีกมั้ย"
"คริส...มีอะไรจะบอกฉันอีกหรือเปล่า ..."
ดวงตากลมโตของชานยอลฉายแววหวาดหวั่นและความเสียใจลึกๆเขาไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวควรแยกออกจากกันหรือไม่ แต่ตอนนี้ชานยอลทำมันไม่ได้ เขายังไม่เข้มแข็งพอ
หยาดน้ำใสๆมาคลอหน่วงที่ขอบตาของชานยอล.....น้ำตาที่ชานยอลพยายามสะกดกลั้นไว้เขาไม่ต้องการให้คริสเห็นว่าเขาอ่อนแอ...แต่มันก็เหมือนพาลจะไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยของเขา
คริสวางโทรศัพท์ของชานยอลไว้ที่เตียงนอนพร้อมๆกับรีบลุกขึ้นเดินตรงไปหาเขา ร่างสูงโปร่งของคริสดึงชานยอลเข้ามาโอบกอดไว้แน่น ฝ่ามือหนาของคริสยกขึ้นค่อยๆลูบไปที่เส้นผมอ่อนนุ่มของชานยอลอย่างเบามือ...เขาไม่รู้จะพูดปลอบชานยอลยังไง แต่เขาอยากให้ชานยอลใช้หัวใจสัมผัสกับความรู้สึกของเขามากกว่า การกระทำกับคำพูดสิ่งไหนสำคัญกว่าในความรู้สึกของชานยอลคริสไม่อาจล่วงรู้ได้...แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม คริสพร้อมจะเอ่ยคำที่ชานยอลต้องการจะฟัง...
"ปาร์คชานยอล...นายต้องเชื่อใจฉัน"
"ฉันขอแค่นายเชื่อใจฉัน...เท่านั้น...."
ชานยอลยืนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของคริส....ความอบอุ่นที่คริสมอบให้มันทำให้เขารู้สึกดีขึ้นไม่มากก็น้อย เขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะเข้มแข็งไปได้อีกนานแค่ไหน ชานยอลไม่รู้ว่าหัวใจของตนเองจะทนมันได้อย่างไร.....คงจะมีแต่เพียงเวลาเท่านั้นที่เป็นเครื่องพิสูจน์ใจของทั้งคริสและชานยอล....
เช้าวันรุ่งขึ้นอากาศไม่สดใสอย่างทุกวัน... ท้องฟ้ายังคงอึมครึมมืดครึ้มเปรียบสเหมือนเมฆฝนที่กำลังก่อตัวในอารมณ์ภายใต้จิตใจของทั้งคริสและชานยอล......วันนี้มีทีมงานแวะมาที่บ้านของคริสเพื่อนำบทมาให้เขาศึกษาก่อนวันถ่ายทำจริง...
คริสพลิกอ่านบทของพระเอกที่เขาได้รับในซีรีย์ที่เขาตอบตกลงเล่น .....ฉากแต่ละฉากที่เขากำลังจินตนาการว่ามันจะสร้างความหวาดหวั่นให้กับหัวใจของชานยอลมากขนาดไหน....เขาลอบถอนลมหายใจออกมาช้าๆเมื่อพลิกอ่านบทแต่ละหน้า....ดวงตาคมของคริสเองก็ฉายความกังวลออกมาเช่นกัน...หากเขารับรู้ซักนิดว่าคนที่จะมาเป็นนางเอกของคุณอาที่เขาเคารพมากจะเป็น "ลียุนฮี"เขาคงจะปฎิเสธคุณอาไปก่อนหน้านี้แล้ว...
เข็มนาฬิกาหมุนข้ามผ่านเวลา.... จากนาทีเลื่อนผ่านเป็นชั่วโมง....จากชั่วโมงข้ามผ่านไปเป็นวัน....และแล้วก็มาถึงวันที่ชานยอลจะต้องเกิดความรู้สึกหวาดหวั่นในใจ....วันที่ทั้งคริสและชานยอลต้องข้ามผ่านมันไปให้ได้ ..วันเวลาที่ผ่านล่วงเลยมา ....คริสเคยเจ็บปวดกับยุนฮีเจียนตาย และเขาก็ใช้เวลาในการรักษาแผลใจนั้นจนหัวใจเขากลับมาเข้มแข็งดังเดิม...และวันนี้ นอกจากเป็นการพิสูจน์ใจของชานยอลแล้วยังเป็นการพิสูจน์ใจของคริสอีกครั้งด้วย.....
ที่กองถ่ายซีรีย์นอกตัวเมืองออกไปไม่ไกลนัก ทีมงานทั้งหลายต่างขมักเขม้นในการเซทฉาก ทั้งแสงไฟ ...ตัวแสดง รวมถึงสถานที่พร้อมหมดแล้วสำหรับการถ่ายทำ....
ชานยอลนั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นนึงค่อนข้างห่างไกลจากบริเวณนั้น...วันนี้เขาตัดสินใจเอ่ยบอกกับคริสแล้วว่าเขาไม่ต้องการมาด้วยแต่คริสก็ยังคงจูงมือเขาขึ้นรถพร้อมบอกกับเขา.....
"ฉันอยากให้นายมากับฉัน" ....คำพูดที่คริสเอ่ยกับชานยอลก่อนที่เขาทั้งสองจะขึ้นรถมาด้วยกัน
หลังจากคริสเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งตัวเตรียมเข้าฉากเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินตรงมาหาชานยอลด้วยรอยยิ้มที่คริสพยายามสร้างความสบายใจให้กับคนตรงหน้าเขาให้มากที่สุด...
"ถ้าไม่อยากเข้าไป ก็เดินเล่นแถวๆนี้ก่อนก็ได้นะ"
ชานยอลพยักหน้ารับคำช้าๆ......เขาไม่คิดจะเข้าไปรบกวนบริเวณถ่ายทำ...เขาเองก็ไม่พร้อมที่จะเจอกับยุนฮีคนรักเก่าของคริสเช่นกัน...
เมื่อฉากพร้อม นักแสดงพร้อม แสงไฟพร้อม ทีมงานรวมถึงผกก.ก็ตะโกนบอกจังหวะให้ทั้งคริสและยุนฮีเตรียมตัวสำหรับการเข้าฉาก.....
คริสยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยเมื่อเขาอยู่ต่อหน้ายุนฮี ในตอนนี้เขาคิดถึงแค่เรื่องงานเท่านั้น...และหวังว่าในวันนี้เขาจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด...
ยุนฮีลอบมองใบหน้าของคริส....ผู้ชายตรงหน้าคนที่เธอเคยทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ทุกวันนี้เขากลับโด่งดังดูดีทั้งทางด้านฐานะรวมถึงบุคลิกหน้าตา...คริสก้าวมาเป็นซุปเปอร์สตาร์แถวหน้าซึ่งเธอเองก็ได้ยินผลงานของเขาบ่อยๆเมื่อตอนที่เธออยู่เมืองนอก รวมถึงเพื่อนฝูงของเธอก็มักพูดถึงคริสให้เธอฟังหลังจากที่เลิกรากันไปแล้ว
"คุณดูเปลี่ยนไปมากนะคริส" ยุนฮีเอ่ยทักคริสขึ้นมาเบาๆเสียงพูดของเธอไม่ดังมากพอเพราะจงใจจะให้คริสได้ยินแค่เพียงคนเดียว...
"เมื่อเวลาเปลี่ยน ผมก็ต้องเปลี่ยนตามกาลเวลา" .... ใบหน้าของคริสบ่งบอกถึงความทนงตัวเขาพูดพร้อมกับไม่มองไปที่ใบหน้าของยุนฮีและต้องการจะให้ช่วงเวลาในการถ่ายทำผ่านไปอย่างรวดเร็วที่สุด
"ภายนอกดูเปลี่ยนไป แต่ภายในใจของคุณ...." ยุนฮีเว้นจังหวะคำพูดเพราะเธอเองก็ไม่ต้องการจะเอ่ยถามเขาตรงๆ
"ทุกวันนี้....ผมเข้มแข็งมากพอแล้ว" น้ำเสียงของคริสเรียบเฉยไม่บ่งบอกความรู้สึกอะไรที่เขามีต่อยุนฮีอีกต่อไป
เสียงผกก.สั่งแอคชั่นหลังจากที่ทุกอย่างพร้อมแล้วสำหรับการถ่ายทำ คริสและยุนฮียืนหันหน้าเข้าหากันที่หน้าบ้านหลังนึงที่เซตฉากออกมาได้ดูอบอุ่น....เป็นฉากแรกที่ทั้งพระเอกและนางเอกได้กลับมาเจอกัน...
"3..4....แอคชั่น" สิ้นเสียงผกก.ทั้งสองก็สวมบทตัวแสดงที่ได้รับ...
ทั้งคริสและยุนฮีต่างมองใบหน้าของกันและกันและสื่ออารมณ์ความคิดถึงของตัวแสดงออกมาทางสายตา...ยุนฮีค่อยๆยื่นมือเรียวเล็กของเธอออกไปจับที่มือของคริสช้าๆพร้อมถ้อยคำตามบทที่เธอซักซ้อมมาอย่างดี...
"ฉันขอโทษที่ไม่ได้ติดต่อกลับมา......คุณคิดถึงฉันมากใช่มั้ย" น้ำตาของเธอคลอหน่วงที่ดวงตาคู่สวยพร้อมแววตาที่เจือปนไปด้วยความรู้สึกผิด
"ตลอดเวลาที่คุณไม่อยู่ที่นี่.....บ้านหลังนี้ก็เงียบเหงาลงมาก...ผมรอคอยคุณกลับมาทุกลมหายใจนะ"
คริสคว้าตัวของยุนฮีเข้ามากอดโดยที่ร่างเล็กของเธอซุกลงตรงหน้าอกแผ่นหนาของเขาพร้อมกับร้องไห้ออกมา..ยุนฮีได้ยินเสียงหัวใจของคริสเต้นแรงขึ้นขณะที่เธอแนบใบหน้าลงไปที่หน้าอกของเขา...
"คุณอินเหรอคริส" เธอแกล้งพูดกระซิบโดยร่างของเธอยังถูกแขนแกร่งของคริสโอบกอดไว้อย่างนั้น
เสียงผกก.ตะโกนสั่งคัท...ทั้งสองผละออกจากกันโดยที่คริสใช้มือของเขาดึงร่างของยุนฮีออกจากตัวเขาเบาๆ
"คุณคริสครับ ผมขออีกครั้งนึง ใบหน้าคุณมันไม่สื่ออารมณ์ความคิดถึงออกมาจนจับใจน่ะ ผมต้องการให้มันมากกว่านี้"
คริสพยักหน้ารับคำและพยายามที่จะถ่ายทำโดยให้เทคเดียวผ่านเหมือนทุกครั้งในการแสดงของเขา เขาจะได้ไม่เสียเวลามากนักในวันนี้....
เสียงสั่งคัทหลายครั้งที่ผกก.ส่งเสียงออกไปเนื่องจากคริสยังคงสื่ออารมณ์ตามความต้องการของผกก.ไม่ได้ ผิดกับยุนฮีที่เธอแสดงได้อย่างธรรมชาติและดูแนบเนียนเหมือนกับชีวิตจริงของเธอ...
"ผมขอตัวไปทำสมาธิสักพักนะครับ" คริสพูดพลางขอโค้งศรีษะ เดินปลีกตัวออกไปจากบริเวณนั้นคนเดียวโดยมียุนฮีเดินตามไปไม่ห่างจากเขานัก...
"คุณเล่นไม่ได้เพราะคุณไม่ได้คิดถึงฉันเลย หรือ....คิดถึงฉันจนเล่นไม่ได้หืมคริส"
ยุนฮีแกล้งเอ่ยถามคริสในขณะที่เธอเดินตามคริสมาทันบริเวณข้างพุ่มไม้เล็กๆที่เงียบสงบ...
ไม่มีเสียงตอบใดๆออกมาจากปากของคริส เขายืนนิ่งพร้อมกับทอดสายตาไปข้างหน้า...แม้ในสถานที่นี้จะดูปลอดคนแต่ก็ไม่รอดพ้นจากสายตาของทีมงานบางคนที่พยายามจะตามจับผิดความสัมพันธ์ระหว่างคริสและยุนฮี บ้างก็เชียร์ให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกัน บ้างก็ต่อว่ายุนฮีที่กลับมาตอนที่คริสทำใจได้และเวลาก็ผ่านมาเนิ่นนานแล้ว...
ชานยอลยังคงนั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นเดิมที่ไม่มีคนพลุกพล่านนัก...ในจังหวะนั้นเองก็มี 2 สาวทีมงานในบริเวณนั้นเดินเม้าท์กันออกมาด้วยความเพลิดเพลิน ทั้งสองยังคงแสดงความคิดเห็นกันอย่างเมามันส์ถึงคู่รักเก่าระหว่างคริสและยุนฮีที่โคจรกลับมาพบกันอีกครั้งด้วยซีรีย์เรื่องนี้...
"เป็นยังไงล่ะเธอออ เข้าฉากวันแรกก็ได้เรื่องเลย ฉันล่ะคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้"
หญิงสาวคนที่ 1 เอ่ยพูดกับเพื่อนข้างๆพร้อมสีหน้าสุดจะทนเมื่อกองถ่ายอาจจะต้องเสียเวลาเพราะติดแค่ถ่ายฉากๆเดียว
"คริสไม่เคยเป็นแบบนี้นะ เล่นเก่งจะตายเทคเดียวผ่านตลอด"
หญิงสาวคนที่ 2 ยังคงแสดงความเห็นกับเพื่อนของเธอที่รู้สึกเหมือนๆกัน
"แล้วเธอว่าพล็อตเรื่องมันไม่โดนเหรอ ฉันว่าแทบจะคล้ายชีวิตจริง นี่สินะเรื่องจริงอิงนิยาย"
ทีมงาน 2 คนยังคงแสดงความเห็นกันโดยมีชานยอลแอบนั่งฟังอยู่ในบริเวณนั้นเงียบๆ...เรื่องที่เธอทั้งสองกำลังพูดมันหมายถึงอะไร เขาควรจะเดินเข้าไปดูให้เห็นกับตาไหมหรือจะนั่งรออยู่ที่เดิมตรงนี้....ชานยอลเกิดความลังเลใจว่าที่ทีมงานต้องออกมาเอ่ยปากในความอัดอั้นตันใจนั้นเกิดจากคริสหรืออะไรกันแน่...
....ในที่สุดชานยอลก็พ่ายแพ้ให้กับความอยากรู้อยากเห็น... เขาก้าวเท้าพาร่างของตัวเองมาหยุดยืนอยู่ในระยะที่คริสไม่สามารถมองเห็นเขาได้ แต่เขาเห็นคริสและยุนฮีได้ถนัดจากมุมนี้...ทีมงานสไตลิสต์ต่างๆตรงเข้าไปซับหน้าและตกแต่งทรงผมให้กับนักแสดง....เมื่อฉากพร้อม นักแสดงพร้อมและทุกคนพร้อม ผกก.ก็ให้สัญญาณเพื่อเริ่มการถ่ายทำอีกครั้ง
3...4...แอคชั่น!!
"ตลอดเวลาที่คุณไม่อยู่ที่นี่.....บ้านหลังนี้ก็เงียบเหงาลงมาก...ผมรอคอยคุณกลับมาทุกลมหายใจนะ"
คริสคว้าร่างบางของยุนฮีเข้ามากอดในขณะที่ยุนฮีก็ซุกใบหน้าของตนเองแนบลงบนหน้าอกแกร่งของคริส เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นกับคำพูดของเขา....และกอดตอบเขาด้วยความถวิลหา ร่างสองร่างของทั้งคริสและยุนฮีกอดกันกลมจนแทบจะกลายเป็นคนๆเดียวกัน
"ต่อให้คุณจากผมไปไกลแค่ไหน...ผมก็รอคุณเสมอ....คุณเป็นคนเดียวที่ผมจะรักเท่านั้น.."
คริสยังคงกอดยุนฮีและปากของเขาก็พร่ำพูดคำว่าคิดถึง.....คำว่ารัก ....สายตาของคริสพยายามสื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวเขาที่มีต่อผู้หญิงคนรักตรงหน้า...
ชานยอลเห็นภาพในตอนนี้แล้วเขาพยายามทำความเข้าใจว่ามันคือการแสดง...แต่การแสดงที่เขาเห็นตรงหน้ามันตรงกับชีวิตจริงของทั้งคริสยุนฮีและเขา...คำพูดทุกคำของคริสมันเป็นคำพูดจากความรู้สึกหรือบทบาทที่เขาได้รับ...ชานยอลรู้สึกถึงความร้อนตรงขอบตาของเขาที่ค่อยๆเริ่มขึ้นช้าๆ...ตอนนี้ชานยอลรู้สึกว่าเขาไม่เหมาะสมที่จะมายืนอยู่ตรงนี้ เขาคิดผิดที่ก้าวเดินเข้ามาในบริเวณนี้และคิดผิดที่รับตำแหน่งผจก.ส่วนตัวของคริสแต่แรก...เขาไม่มีความเข้มแข็งพอและไม่สามารถแยกความรู้สึกจริงกับการแสดงของคริสได้...ตอนนี้เขามีแต่ความน้อยใจ เสียใจกับภาพคริสและคนรักเก่าของคริสเท่านั้น....
ในหัวสมองของชานยอลฉายภาพตรงหน้าของชานยอลสลับกับภาพในอดีตของทั้งคริสและยุนฮีที่เขาเคยเห็นในเวปไซต์นั้น...ชานยอลตัดสินใจที่จะเลือกเดินจากไปจากบริเวณนั้นเงียบๆ..เขาเดินออกไปพร้อมน้ำตาที่มันกำลังจะไหลจากความรู้สึกเจ็บลึกๆภายใน ความรู้สึกจริงๆของเขาที่ไม่ได้มาจากฉากหน้าในการแสดงหรือแกล้งทำ...
END EP9 ---------------