0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

ยอมแล้วทูนหัวเพราะกูเป็นผัวมึง

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

SkulLaeEy



SF คริสยอลแบบฮาๆ #ยอมแล้วทูนหัวเพราะกูเป็นผัวมึง








ในร้านเหล้าแถวบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง คราคร่ำไปด้วยชายหญิงมากหน้าหลายตาที่เข้ามาหาความสำราญใจ แม้กับชายหนุ่มที่เพิ่งแต่งงานกับคนรักได้ไม่นาน ฝ่ามือหนายกแก้วเครื่องดื่มขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมด มองจากภายนอกคล้ายกับคนที่มีความในใจอยากจะระบายกับเพื่อนฝูง



"แดกเหล้าแบบนี้จะกลับบ้านถูกเหรอวะ" คิมจงอินตบบ่าเพื่อนตัวสูงเบาๆเพื่อเรียกสติ



"มึงไม่ต้องห่วง เมียกูมันเปิดจีพีเอสไว้ กูหลงเมื่อไรมันจะตามหากูเอง"



"ทุกวันนี้ไอหกพลัสที่กูใช้ มันโหลดแต่แอปติดตามเครื่องหาย ไม่ได้ห่วงเครื่องเพราะมันแพงหรอก แต่ตามจับพฤติกรรมกู" ร่างสูงถอนหายใจเหมือนคนทุกข์หนัก ริมฝีปากเบ้ลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงหน้าภรรยาตัวแสบที่เพิ่งตกลงปลงใจอยู่กินกันเมื่อเดือนที่แล้ว



"ชานยอลลี่มันขี้หึงขนาดนั้นเลยเหรอวะ" คิมจงแดเพื่อนตัวเล็กที่เพิ่งสึกออกมาหมาดๆเอ่ยถามด้วยความสงสัย



"มึงอย่าใช้คำว่าขี้หึง ล่าสุดเมื่อวานน้องผู้หญิงที่ทำงานโทรมาถามว่าจะประชุมกี่โมง กูตอบเจอกัน 9 โมง มันหาว่ากูนัดน้องเค้าที่โรงแรม 9 โมง มึงว่ามันบ้าไหม" ฝ่ามือหนากุมขมับบีบแน่น เขาไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรให้กับปัญหาระหว่างตัวเขาและภรรยา



"ทะเลาะกันหนักเลยสิ" เพื่อนในกลุ่มเอ่ยถาม ทุกคนดูจะตั้งใจฟังกับปัญหาครอบครัวของคริส ชายหนุ่มที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและฐานะ



"หนักสิ เมื่อคืนกูโมโหมาก มันเอาหนังสือขว้างใส่หน้ากู กูเลยเตะแม่งกลับไป"



"ไอ้คริส มึงเตะเมีย!"



"เตะหนังสือสิไอ้เหี้ย เตะเมียวันนี้พวกมึงได้นั่งแดกเหล้าหน้าศาลาสวดศพกูแล้ว!" ชายหนุ่มวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะเสียงดัง ไม่นานใบหน้าหล่อเหลาก็ตะลึงงัน เมื่อรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของโทรศัพท์ที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง



"ชิบหาย เมียโทรมา" ร่างสูงอุทานด้วยความตกใจ ดวงตาคมเหลือกลาน มือหนาสั่นด้วยความตื่นเต้น



"จงแดมึงรับให้กูหน่อย" คริสยื่นโทรศัพท์ไอโฟน 6 พลัสให้กับเพื่อนด้วยความร้อนรน



เพื่อนในกลุ่มล้วนส่ายศีรษะไปมา เรื่องของผัวเมียไม่อยู่ในสารระบบที่พวกเขาควรจะข้องเกี่ยว หลายครั้งที่ร่างสูงทะเลาะกับภรรยาและยืนยันว่าทนไม่ไหวกับความเอาแต่ใจของเธอ แต่คริสก็ยอมโอนอ่อนให้เธอเพราะความรักหรือความกลัวก็ไม่มีใครอาจทราบได้



การแต่งงานไม่ใช่จุดสิ้นสุดของความรัก หากแต่คือการร่วมดำรงชีวิตเพื่อประคองความรักให้ถึงปลายทางอย่างสวยงามต่างหาก เขาคบหาดูใจกับชานยอลลี่ประมาณ 2 ปี ทั้งสองมีความรักที่สุกงอมจึงตัดสินใจแต่งงานกัน ตลอดเวลาที่คริสแต่งงานกับเธอล้วนผ่านการนอกใจและนอกกายมานับครั้งไม่ถ้วน เนื่องจากเขาเป็นหนุ่มหล่อเหลา มีสาวๆเข้าหาเป็นจำนวนมาก ไม่แปลกหากภรรยาของเขาจะขี้หึงระดับร้ายกาจ



"จงอินๆ มึงรับให้กูหน่อยไอ้สัด เดี๋ยวกูเลี้ยงเหล้า" ร่างสูงเขย่าแขนเพื่อนรักและลากออกมาหน้าร้าน บรรยากาศภายนอกสงบเงียบกว่าด้านใน ง่ายต่อการสนทนากับภรรยารัก



"ฮัลโหล ที่นี่ร้านแก๊สครับ" จงอินตัดสินใจกดรับ เขาแสร้งทำเสียงสะลึมสะลือโกหกกับชานยอลลี่เพื่อช่วยเหลือเพื่อน



"คะ ร้านแก๊ส?" หญิงสาวฉงนสงสัย เพราะเบอร์ที่กดไปเป็นเบอร์ของสามีเธอที่เมมไว้ในเครื่อง



"มันจะเป็นร้านแก๊สได้ยังไง นี่มันเบอร์ของคริสสามีฉัน"



"คริสไหนครับ ที่นี่มีแต่คิดถึง คริสผัวคุณน่ะไม่มี" ร่างสูงกลั้นขำอยู่ด้านข้างเพื่อนรัก ฝ่ามือหนาปิดปากเพราะเกรงเสียงหัวเราะจะหลุดรอดไป



"คุณครับ ผมจะนอนแล้ว พรุ่งนี้มีส่งแก๊สแต่เช้าแค่นี้นะครับ" เขากดวางสายก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืน ทั้งสองหัวเราะลั่นเมื่อสบสายตากัน



แขนแกร่งโอบคอเพื่อนที่ส่วนสูงต่างกว่าเดินตรงเข้าไปในร้านอีกครั้ง เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมง คริสตัดสินใจจะโกหกภรรยาว่าลืมโทรศัพท์ไว้ที่ทำงานและรถเสีย จึงทำให้เขากลับบ้านผิดเวลา



เด็กดริ้งค์ในร้านทำหน้าที่บริการชงเหล้า ฝ่ามือเล็กบีบนวดตามแขนแกร่งของร่างสูง ใบหน้าคมยกยิ้ม เสียงหัวเราะร่าดังครึกครื้นจากในวงของหนุ่มหล่อ เนคไทถูกขยับให้คลายความแน่นตึงบริเวณลำคอ ฝ่ามือหนาโอบเอวหญิงสาวร่างเล็กรั้งเข้ามากอด



"เป็นนักศึกษาอยู่ใช่ไหมเราน่ะ" เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูเล็ก รอยยิ้มที่แฝงเสน่ห์เหลือร้ายกระตุกให้หัวใจเด็กเสิร์ฟสาววูบไหว



"ค่าเทอมมีหรือยังหืม.."



"พี่จะช่วยหนูออกเหรอคะ" ร่างบางเอ่ยถามชายหนุ่มที่กำลังโอบกอดเธอ



"เปล่าครับ พี่จะยืมมาจ่ายค่าเหล้า" เสียงหัวเราะในโต๊ะดังลั่น ทั้งสามขบขันกับการเล่นมุกของคริส



หญิงสาวทำหน้ากระเง้ากระงอดเมื่อถูกหยอก บรรยากาศรอบข้างครื้นเครงเพราะร่างสูงที่พยายามตักตวงความสุข เขาไม่รู้ตัวเลยว่าขณะนี้ภรรยาได้ขับรถมาตามที่หน้าร้าน ร่างบางสวมชุดนอนเดินตรงมายังโต๊ะ ทั้งคิมจงอินและคิมจงแดมีท่าทีตกใจสุดขีดเมื่อเหลือบเห็น ข้อศอกกระทุ้งร่างเพื่อนตัวสูงให้ได้สติ แต่ชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีป้ายแดงหาได้สนใจ เขายังคงโอบกอดเด็กดริ้งค์รูปร่างอ้อนแอ้นอย่างเพลิดเพลิน ปลายจมูกโด่งซุกลงตรงแก้มใส เขาจูบแก้มเธอฟอดใหญ่ก่อนที่จะยกแก้วแอลกอฮอล์ขึ้นกระดกอีกครั้ง



"สี่ทุ่มยังจองวัดได้ไหมวะ" คิมจงอินพูดเสียงเบา ใบหน้าของเขาซีดเซียวเมื่อกลัวแทนเพื่อนรัก



"พวกมึงเป็นอะไรกัน ทำหน้าอย่างกับเห็นผี" ร่างสูงตะโกนถามเพื่อนฝั่งตรงข้ามเสียงค่อนข้างดัง



"กูว่าคนข้างหลังมึงยังน่ากลัวกว่าผี" ชานยอลลี่จุ๊ปากเบาๆเพื่อให้ทั้งสองเงียบเสียงลง



เด็กดริ้งค์เหลือบมองหญิงสาวสวยที่ยืนขนาบข้างคริสด้วยความฉงน เธอส่งสัญญาณให้หล่อนเดินออกห่างสามี แขนเรียวโอบกอดรอบลำคอคนรักจากทางด้านหลัง ร่างบางแสร้งทำทีเป็นสาวน้อยแรกรุ่นที่จากไปเมื่อครู่



"รู้จักอ้อนนะเรา จะเอาอะไรคะ" ฝ่ามือหนาลูบผิวขาวเนียนที่ลื่นมือเล่น เขาจูบที่แขนเธอเบาๆพร้อมเสียงหัวเราะ



"ใช้ครีมกลิ่นเดียวกับแม่พี่เลย" โกหกคำโตเมื่อรับรู้ดีว่ากลิ่นนี้คล้ายกลิ่นของภรรยาสุดที่รัก



เพื่อนรักที่นั่งฝั่งตรงข้ามไม่สามารถทนดูต่อเหตุการณ์นั้นได้ ทั้งสองพยายามลุกเดินหนีจากโต๊ะ และทิ้งให้คริสเผชิญหน้ากับความโหดร้ายเพียงลำพัง



"พวกมึงจะไปไหนวะ"



"ไปสั่งพวงหรีด มึงชอบดอกไม้อะไร" คิมจงแดสงบจิตใจไม่ให้ตื่นกลัว และท่องบทสวดมนต์ที่เพิ่งบวชเรียนมาไม่นาน



"แน้ เล่นมุกเก่งนะพวกมึงเนี่ย อีกเดี๋ยวกูก็จะกลับละ รีบๆมาล่ะ" ทั้งสองรีบจ้ำอ้าวออกไปจากนอกร้าน เขาหวังว่าช่วงเช้าคริสจะมีชีวิตรอดและมาทำงานได้ตามปกติ
.
.
.
.
.
.
.
รุ่งเช้ามาเยือน คิมจงอินรีบมาทำงานแต่เช้า เขาเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง ว่างเปล่า... ร่างสูงยังไม่มาทำงาน มือหนารีบกดโทรศัพท์หาเพื่อนรัก เมื่อคืนเขาไม่กล้าแม้แต่จะร่ำลา หัวใจชายหนุ่มหวั่นเกรงว่าเมื่อคืนจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เห็นหน้าคริสหรือไม่



ไม่มีใครรับสาย เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังต่อเนื่องแต่ยังคงเงียบสนิท..



"ไอ้คริส กูจะชวนไอ้จงแดไปทำบุญให้" คิมจงอินเปรยออกมาด้วยแววตาเศร้าสร้อย



"กูยังไม่ตาย!" ร่างสูงเดินมาด้านหลัง เขาวางแบบแปลนบ้านลงบนโต๊ะด้วยท่าทีเบื่อหน่าย อาชีพวิศวกรคงรุ่งโรจน์กว่านี้หากเขาสามารถออกแบบและสร้างอนาคตที่ดีกับภรรยาได้



"มึงเป็นยังไงบ้าง" ร่างโปร่งเอ่ยถาม เขาดูบาดแผลตามตัวของชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง



"หน้ามึงไปโดนอะไรมาไอ้คริส ชานยอลลี่ทำมึงเหรอ" ฝ่ามือหนาจับใบหน้าคมพลิกดูร่องรอยเขียวช้ำ



"เปล่า มันไม่ได้ทำ กูมุดหนีไปใต้เตียงแล้วหน้ากระแทก" คริสแตะบริเวณบาดแผลเบาๆด้วยความเจ็บปวด



"แล้วสรุปมึงกับชานยอลลี่..."



"เลิกว่ะ" ร่างสูงหย่อนกายลงบนเก้าอี้ทำงาน เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่



"เลิกกันเลยเหรอมึง!"



"เลิกเที่ยวสิไอ้เหี้ย เลิกทุกอย่าง เลิกแดกเหล้า เลิกเจ้าชู้ เลิกคบพวกมึงด้วย!" คริสนวดขมับเบาๆ เขาปวดหัวกับปัญหาที่ตนเองสร้างขึ้นและไม่มีทางออก



"เมื่อคืนมันร้องไห้ว่ะ กูสัญญากับพ่อแม่เขาแล้วว่าจะดูแลชานยอลลี่ให้ดีที่สุด"



"มึงเชื่อไหม เวลากูมีปัญหาเรื่องงานอยากจะลาออก กูเปิดดูรูปมันจากในมือถือทุกครั้ง" ดวงตาคมฉายแววเศร้าสลดลง



"มึงคงรักชานยอลลี่มาก..."



"เปล่า กูดูรูปแล้วกูก็คิดว่าขนาดเมียกูยังทนได้ แล้วงานที่ให้เงินกูทำไมจะทนไม่ได้ กูก็เลยสู้ต่อ"



คิมจงอินส่ายศีรษะไปมาเมื่อเห็นถึงความน่าสงสารของเพื่อน ฝ่ามือหนาบีบไหล่ร่างสูงเบาๆเพื่อให้กำลังใจ



"กูว่ามึงหย่าเถอะคริส"



"หย่ากับชานยอลลี่น่ะเหรอ!"



"อย่าหือกับเมียแล้วก็อย่ากวนตีนกูอีกไอ้สัด! กูว่าคนที่โชคร้ายไม่ใช่มึง แต่เป็นชานยอลลี่กับพวกกูต่างหาก ไป มึงไปทำงานที่ไซด์ได้ละ ท้อเมื่อไรก็ดูรูปเมียมึง กูจะทำงานบ้างแล้วไอ้ควาย เพื่อนเหี้ยไรกวนส้นตีนชิบหาย กูจะไปเขียนใบลาออก"



"มึงจะลาออกจากงานเหรอจงอิน"



"ลาออกจากการเป็นเพื่อนมึง!"



ร่างโปร่งเดินจากร่างสูงไป ทิ้งให้เขานั่งเครียดกับปัญหาชีวิต คริสเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ ริจะรักก็ต้องซื่อสัตย์กับเมีย ยิ่งกับเมียที่ดุๆอย่างชอนยอลลี่ของเขาแล้วละก็....... ยอมใจ





รบกวนติดแทค #ยอมแล้วทูนหัวเพราะกูเป็นผัวมึง เพื่อเป็นกำลังใจต่อไรท์เตอร์ กราบขอบพระคุณ






#ยอมแล้วทูนหัวเพราะกูเป็นผัวมึง ภาค 2 SF ฟิคคริสยอลฮาๆ

--------------------------------------------------------------------------------


ปัญหาเรื่องผัวๆเมียๆระหว่างคริสและชานยอลลี่ไม่สามารถหาทางออกได้ ทุกวันร่างสูงเอาแต่นั่งบ่นและไม่เคยคิดจะปรับปรุงตัว หลายครั้งที่ภรรยาของเขาอาสามารับที่ทำงาน ซึ่งชายหนุ่มก็มักจะอ้างว่าตนเองมีประชุมหรือออกไซด์งานด้านนอกเสมอ ทั้งคิมจงอินรวมถึงจงแดต่างรับรู้ดีว่า เหตุวุ่นวายทั้งหมดเกิดจากความเจ้าชู้ กะล่อน ของเพื่อนรักทั้งนั้น



รุ่งเช้าวันหนึ่ง ทางบริษัทรับนักศึกษาฝึกงานหน้าตาน่ารักเข้ามาร่วมงาน ร่างสูงกุลีกุจอเดินตรงไปต้อนรับพร้อมคำแนะนำตัว



"สวัสดีครับ พี่คริสนะครับ หากเป็นเรื่องงานถามจงอินได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องหัวใจให้ถามพี่" ใบหน้าคมยกยิ้มกวน สร้างรอยยิ้มบางๆให้กับสาวน้อยนักศึกษา



"น้องครับอย่าไปหลงคารมมัน มันมีเมียแล้ว" คิมจงอินแทรกกายมายืนกั้นกลางระหว่างร่างสูงและหญิงสาวเพื่อสกัดดาวรุ่ง เขาเกรงว่าหล่อนจะตกเป็นเหยื่อของเพื่อนจอมกะล่อนอย่างที่คนอื่นๆตกหลุมพรางกัน



"มึงปล่อยให้น้องเขาไปมีอนาคตเหอะว่ะ" ร่างโปร่งสะบัดมือไล่เพื่อนตัวสูงที่อยู่ด้านข้างให้ออกไปไกลๆ



"แล้วอนาคตกูมันเป็นยังไง!"



"อนาคตมึงคงต้องพึ่งไฟฉาย" เพื่อนผิวคล้ำหันไปยิ้มขำกับคิมจงแด



"มืดมน!" เสียงตะโกนดังมาจากรอบข้าง สร้างเสียงหัวเราะให้กับนักศึกษาสาวและเพื่อนฝูงอย่างครื้นเครง



ความสวยน่ารักของเจ้าหล่อนสร้างความกระชุ่มกระชวยให้กับชายหนุ่มหลายคนในออฟฟิศ รวมทั้งคริส สามีป้ายแดงที่เพิ่งผ่านพิธีมงคลสมรสมาหมาดๆ ดวงตาคมเหลือบมองเธอเป็นระยะๆและพยายามหาหนทางเข้าไปทักทาย



ในช่วงเย็นของวันนั้น เมื่อสืบทราบจนรู้ว่าบ้านของหญิงสาวอยู่ที่ไหน ร่างสูงก็เอ่ยปากชักชวนเธอตามประสาชายเจ้าชู้



"น้องกลับบ้านทางเดียวกับพี่เลย ไปด้วยกันนะครับ" เสียงทุ้มบ่งบอกถึงความเป็นมิตร และความเป็นสุภาพบุรุษ




"พี่จะไปส่งหนูเหรอคะ"




"เปล่าครับ พี่หาคนหารค่าน้ำมัน" เสียงหัวเราะกวนประสาททำให้หล่อนหน้าบูดบึ้งลง



"แหม่ ล้อเล่นน่ะครับ เรื่องเงินนี่ไม่ต้องมาคุยกับพี่เลย"



"พี่มีเยอะมาก?"



"ไม่มีสิครับ ทั้งตัวมีอยู่ 200 ว่าแต่น้องมีสักพันไหม พรุ่งนี้พี่คืนให้" สีหน้าจริงจังทำให้เธอขบขัน ความตลกของคริสทำให้เธอสนใจใคร่รู้ในชีวิตประจำวันของเขา



"หน้าตาพี่ก็ดี เป็นถึงวิศวกร ทำไมไม่มีเงิน" เสียงหวานเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม



"วิศวกรมีเงินครับ แต่เมียวิศวกรมีเงินมากกว่า เปลี่ยนเรื่องเถอะครับน้อง พูดไปน้ำตาก็พาลจะไหล" เขาแสร้งยกหลังมือขึ้นมาซับน้ำตาจอมปลอมที่พยายามบีบกลั่นออกมาจากความรู้สึก



ทั้งสองยืนคุยกันด้วยรอยยิ้ม ชายหน้าตาดีแถมมีทั้งคารมและอารมณ์ขันมักมีชัยไปกว่าครึ่ง แม้เขาจะไม่ใช่หนุ่มโสดแต่ก็สามารถเรียกร้องความสนใจจากสาวน้อยสาวใหญ่ได้มิใช่น้อย



ในที่สุดหล่อนก็ตกลงใจโดยสารรถไปกับเขา ร่างสูงไม่รับรู้เลยว่าแอปพลิเคชั่นติดตามเครื่องหายที่เขาเข้าใจว่าปิดการติดตามหมดแล้ว ยังคงทำงานอยู่ตามปกติ สัญญาณกระพริบถี่ๆแจ้งให้ชานยอลลี่รับรู้ว่า สามีของเธอกำลังออกนอกเส้นทางกลับบ้าน และคงจะผิดเวลาอีกตามเคย ร่างบางจัดแจงขับรถตามจนไปถึงหน้าโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งระดับสามดาว



ชายหนุ่มอ้อนนักศึกษาสาวในรถบริเวณหน้าประตูห้อง เพราะเจ้าหล่อนไม่คิดว่าเขาจะพาเธอเข้าโรงแรมในวันแรกที่เจอกัน



"ทำไมพี่ทำแบบนี้คะ พาหนูเข้าโรงแรมทำไม!"



"หมายความว่าพี่พาไปป่าละเมาะได้ใช่ไหมครับ"



"มันไม่ใช่แบบนั้น! พี่มีเมียแล้วนะคะ"




"มันเป็นเรื่องของเราสองคนนะครับ อย่าพูดถึงคนอื่นสิ" ฝ่ามือหนารั้งร่างขาวจัดเข้ามาสวมกอดและเริ่มซุกไซร้ลำคอเพื่อเริ่มกิจกรรมลวนลาม




"แต่เมียพี่.." หล่อนดิ้นรนขัดขืนด้วยความกลัว




"พี่บอกว่าอย่าพูดไงครับ หืม.."




"เมียพี่.."



"ไม่เอาครับ อย่าพูดถึงคนอื่น" นิ้วเรียวยาวแตะริมฝีปากเล็กห้ามให้เธอหยุดพูด



"เมียพี่...กำลังเดินมาข้างหลัง.." หญิงสาวชี้มือ ชายหนุ่มมองตามไปพร้อมดวงตาที่เบิกโพลง




"แล้วทำไมมึงเพิ่งบอกกูวว" ขายาวรีบเหยียบคันเร่งออกตัวล้อฟรี เขาลืมกลัวตายจากอุบัติเหตุ ใบหน้าคมซีดเซียว ภายในใจท่องบทสวดมนต์ที่จงแดเผื่อแผ่แปะไว้หน้ารถ ใจเต้นระส่ำเป็นกลองชุดรัวดังกว่าข้าศึกบุกบางระจัน ไฟแดงเจ้ากรรมทำให้เขาต้องเบรคกระทันหัน ผลสุดท้ายภรรยาสุดที่รักก็ตามมาถึงรถพร้อมไม้เบสบอลที่เขาเคยใช้เล่นกีฬา



"มึงลงมา!!" ชานยอลลี่แผดเสียงลั่น ฝากระโปรงรถหรูถูกทุบจนพังยับ



สาวน้อยนักศึกษาใช้ความชุลมุนวิ่งกระจัดกระจายหนีตายไปโบกแท็กซี่ที่ไม่ยอมรับผู้โดยสาร เธอโบกอยู่หลายคันแต่ก็ไม่มีใครรับ โชคร้ายเพราะที่นี่คือประเทศไทย หญิงสาวหน้าใสรีบวิ่งตรงไปยังกลุ่มมอร์เตอร์ไซด์รับจ้างที่กรีดยางอยู่ใต้ไม่ปลอดภัยมาขับวินมอร์เตอร์ไซด์อยู่ในกทม. หล่อนจึงมีชีวิตรอดไปพบหน้าพ่อแม่อีกครั้ง



"ไอ้คริส มึงจะก้าวลงมาดีๆหรือจะคลานลงมาหากู!" ขายาวสั่นเทิ้ม ดวงตาคมแดงก่ำพร้อมน้ำตาแห่งความกลัวตาย เขาเปิดประตูลงมาช้าๆ ร่างสูงคุกเข่าลงกับพื้นเพราะสำนึกผิด



"ครั้งที่เท่าไรแล้วที่มึงทำแบบนี้!!"



"พี่ไม่รู้ พี่ไม่ได้นับ.."



"กูด่ามึงอยู่ไอ้ผัวเฮงซวย กูไม่ได้ถาม!" ไม้เบสบอลแตะไปที่ไหล่กว้างหนักๆด้วยความหมั่นเขี้ยว



"เมียจ๋า อย่าเข้าใจผิดนะครับ นั่นลูกค้า เขานัดมาให้ออกแบบโรงแรม" ร่างสูงคุกเข่าพนมมือไหว้ลงปลายเท้าเมียรัก ริมฝีปากเผยออ้าระล่ำระลักขอความเห็นใจจากภรรยาสาว



"ลูกค้าเหรอ ลูกค้ามึงใส่ชุดนักศึกษา? กูกินข้าวไม่ได้กินหญ้า!"



"มันไม่ใช่ชุดนักศึกษา นั่นยูนิฟอร์มออฟฟิศเค้าาา"



ไม่มีเสียงโต้เถียงอีกต่อไป กลางสี่แยกไฟแดงเกิดโศกนาฎกรรมระหว่างผัวเมียครั้งยิ่งใหญ่...รถพยาบาลนำพาตัวคนไข้เข้าห้องพักฟื้นเป็นการด่วน ข่าวคราวของคริสแพร่สะพัด เพื่อนพนักงานรับรู้กันทั้งบริษัท คิมจงอินและคิมจงแดรีบรุดมาดูใจเพื่อนรักก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป



"มึงเป็นยังไงบ้าง" คิมจงอินเอ่ยถามด้วยความร้อนรนเมื่อเห็นใบหน้าร่างสูง



"เจ็บหัวว่ะ หัวแตก สมองกูจะกระทบกระเทือนไหมม"



"ชานยอลลี่มันทำร้ายมึงขนาดนี้เลยเหรอวะ"



"เปล่า มันไม่ได้ทำ กูกลัวจนเป็นลมแล้วล้มหัวฟาดพื้น" มือหนาลูบศีรษะตนเองที่มีบาดแผลปูดช้ำ



"แล้วมึงจะเอายังไง จะเลิกไหม"



"กูเลิกไม่ได้ว่ะ"



"มึงคงผูกพันกับเมียมาก"



"เลิกเจ้าชู้ไม่ได้สิไอ้เหี้ย! กูเลิกนอกใจมันไม่ได้"



"ไปบวชกับกูไหมคริส จิตใจมึงอาจจะสงบขึ้น" จงแดเริ่มชักชวนเพื่อนเข้าสู่ร่มกาเสาวพัก



"ศาสนาจะเสื่อมเพราะมัน มึงอยู่เฉยๆเถอะจงแด" คิมจงอินออกความเห็น ใบหน้าเคร่งขรึมเพราะปัญหาครอบครัวของคนอื่น



"เอาอย่างนี้ มึงบอกเลิกกับชานยอลลี่ไปเลย มึงจะได้ไม่ทนทุกข์ทรมานอีก"



"เลิกไม่ได้ กูบอกว่าเลิกเจ้าชู้ไม่ได้ มึงแม่งไม่เข้าจายย" ร่างสูงกุมขมับบนเตียงคนไข้ เขาหมดหนทางแล้วกับการแก้ปัญหานี้



"เลิกของกูหมายถึงบอกเลิก เลิกคบ หย่าร้าง เลิกเป็นผัวเป็นเมีย ไอ้เหี้ยนี่เข้าใจยากจริง!" นิ้วแกร่งจิ้มลงบนแผลหัวแตกอย่างแรงด้วยความหมั่นไส้



"เลิกกับชานยอลลี่กูก็ทำไม่ได้.." ดวงตาคมเศร้าสลดลงเมื่อนึกถึงใบหน้าภรรยารัก ทุกข์สุขที่ทั้งสองร่วมกันมาฉายเป็นหนังกลางแปลงในโสตประสาท



"มึงรักหล่อนจริงๆใช่ไหม..คริส"



"กูติดเงินมันสามล้าน ถ้ากูเลิกมันต้องทวง.."



"จงแด กูกลับก่อนนะ" คิมจงอินโบกมืออำลาเพราะไม่อยากจะเสวนากับร่างสูง ปล่อยให้มันเผชิญชีวิตตามลำพังในแบบของมัน เขาหวังว่าเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น..รวมถึงความรักของคริสและชานยอลลี่เช่นกัน



2 เดือนผ่านไป



"น้องทานข้าวกลางวันหรือยังครับ" ร่างสูงเอ่ยทักทายพนักงานหญิงสาวคนใหม่ ที่เพิ่งเข้ามาร่วมงาน




"ยังเลยค่ะ พี่จะชวนไปทานใช่ไหมคะ"




"เปล่าครับ พี่จะบอกว่าเลี้ยงพี่ด้วย ถูกเมียยึดบัตรเอทีเอ็มไปยังไม่ได้คืน" กลุ่มเพื่อนต่างส่งเสียงโห่ร้อง หัวเราะขบขัน



กงกรรมกงเกวียนที่คริสและชานยอลลี่ต้องมาพบเจอกัน ทั้งคิมจงอิน คิมจงแด ที่ต้องเป็นส่วนหนึ่งในการรับรู้ถึงโศกนาฎกรรมของความรักครั้งนี้



"เฮียครับ ผมมีเรื่องจะปรึกษา" โอเซฮุนพนักงานต่างแผนกเอ่ยถามด้วยความเคารพ เขาเห็นว่าคริสมีประสบการณ์การแต่งงานมาก่อน จึงตัดสินใจระบายความเครียดกับคนที่ตกอยู่ในฐานะเดียวกัน



"อืม มึงว่ามา"



"คือ..เมียผมเป็นคนจีนครับ จู้จี้ขี้บ่น พูดมาก ลำพังอายุมันก็แก่กว่าผมแล้ว ตอนไปสู่ขอมันผมก็ขอมาเป็นเมีย หลังๆมันกลายเป็นแม่ผมเฉ้ย"



"เมื่อคืนมันทะเลาะกับผม ผมพยายามอดทนนับ 1-10 แล้ว แต่ผมนับได้ถึง 5 เท่านั้น"



"หืม แล้วมึงทำยังไง"



"ชกแม่งเลยครับ"



"มึงชกเมีย!"



"มันชกผมครับเฮียย แม่งหมักหนักชิบหาย"



"ทำไมครับเฮีย ทำไมเมียแม่งต้องมีอิทธิพลขนาดนั้น ทำไมพวกเราต้องกลัวเมียครับ" หนุ่มหน้าใสเคร่งเครียดกับปัญหาชีวิตที่ไม่มีทางออก



"เพราะเราเป็นสุภาพบุรุษ ผู้ชายที่ดีจะต้องยอมผู้หญิง มึงจำคำกูไว้โอเซฮุน ช้างเท้าหน้าช้างเท้าหลังสมัยนี้มันไม่มีจริง"



"หมายถึงผัวเมียจะเดินไปพร้อมๆกันใช่ไหมครับ"



"ไม่ใช่ เมียคือช้างเท้าหน้า ส่วนพวกเราคือเล็บช้าง คือมึงไม่มีบทบาทอะไรเลยในตีนช้าง..."



ชายหนุ่มสองคนกอดคอกันร่ำไห้เบาๆ ดวงตาคมเหม่อมองไปด้านนอก ทั้งสองทอดถอนใจเมื่อเจอคนที่มีชะตาชีวิตคล้ายๆกัน นี่สินะความรัก ความรักคือการอภัยซึ่งกันและกัน ความรักคือการยอมซึ่งกันและกัน และคนที่ต้องยอมนั้น ไม่ใช่'เมีย'



-จบ-




รบกวนติดแทค #ยอมแล้วทูนหัวเพราะกูเป็นผัวมึง เพื่อเป็นกำลังใจแก่ไรท์เตอร์ กราบขอบพระคุณ

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ