ร่างสูงเดินออกไปนั่งสงบสติอารมณ์ภายในห้องนอนของตนเอง โดยปล่อยชานยะไว้บนเตียงสีขาวสะอาดตา ฝ่ามือหนาหยิบมวนบุหรี่ขึ้นจุดสูบเพื่อคลายความตึงเครียด กว่า 2 ปีที่ภาพการตายของพี่ชายตามหลอกหลอน ดวงตาคมมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างบริเวณสวนหน้าบ้านที่มีดอกไม้นานาพรรณ ไม้สวยงามพันธุ์หายากที่มิยากะเป็นคนสั่งซื้อเข้ามาปลูกในคฤหาสน์แห้งแล้งเหี่ยวเฉา ตลอดเวลาที่เธออยู่ที่นี่ หล่อนทำตัวประหนึ่งเจ้าของบ้าน และมักถือวิสาสะทำอะไรโดยไม่ปรึกษาพี่ชายของคริสเสมอ ภาพความทรงจำฉายย้อนอีกครั้ง เหมือนความเจ็บปวดที่ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆเมื่อนึกถึงอดีต..
"พี่กำลังทำบ้าอะไร ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อผู้หญิงอย่างนั้นมาจากบริษัทโสมม" ร่างสูงแผดเสียงใส่พี่ชาย เพราะตระกูลของเขาต้องสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลไปกับเรื่องไร้สาระที่เขากำลังจะทำ
"นายไม่รู้จักความรัก" ชายหนุ่มที่อายุมากกว่านั่งจิบกาแฟพร้อมเปิดเอกสารของบริษัท Private อ่านอย่างละเอียด
"มิยากะต้องทำงานประเภทนี้เพราะสัญญาผูกมัด พวกมีอิทธิพลในญี่ปุ่นใช้เศษกระดาษแผ่นเดียวฉุดรั้งชีวิตของเธอไว้" เขาเหลือบมองใบหน้าน้องชายที่กำลังเกรี้ยวกราดอย่างหนัก
"เรื่องทั้งหมดที่พี่บอกกับผม คือสิ่งที่เธอบอกพี่มาอีกทีใช่ไหม" เสียงเข้มเอ่ยถาม
"ดูรูปพวกนี้ซะ! มิยากะเป็นผู้หญิงของยากูซ่าในบริษัท พี่กำลังเอาเงินไปจ่ายให้พรรคพวกของมัน" ซองสีน้ำตาลถูกโยนลงบนโต๊ะ รูปภาพชายหนุ่มกำลังกอดรัดหญิงสาวกระจัดกระจายไปทั่ว คริสแอบจ้างวานนักสืบตามเรื่องราวความลับของมิยากะในประเทศญี่ปุ่นอย่างเงียบๆ
การแต่งงานของพี่ชายเขากำลังจะเกิดขึ้นภายในเดือนหน้า ร่างสูงพยายามขัดขวางทุกวิถีทาง เมื่อมั่นใจว่าพี่ชายของตนเองกำลังถูกหลอกจากผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรัก
"มีอะไรกันเหรอคะ" ร่างเล็กเดินเข้ามากอดแขนแกร่งของชายหนุ่มหน้าเข้มไว้
"เมื่อไรคุณจะเลิกวุ่นวายกับเรื่องของเราคะ" หล่อนตีหน้าใสซื่อใส่ร่างสูงที่กำลังจับจ้องด้วยความเคียดแค้น
"แม่หาผู้หญิงดีๆให้ เป็นถึงอาจารย์จบด็อกเตอร์จากอังกฤษ แต่พี่กลับมาหลงระเริงกับผู้หญิงประเภทนี้ ผมเองก็หมดคำพูดกับพี่เหมือนกัน" แผ่นหลังกว้างเดินพลิกตัวกลับออกไป
"คุณดูถูกฉันมากไปแล้วนะคะคุณคริส!" เสียงตวาดดังลั่น มิยากะกล้าหาญเกินไปที่ต่อว่าร่างสูงในขณะที่เขากำลังโกรธ
น้องชายคนเล็กของตระกูลอู๋หยุดยืนนิ่ง ใบหน้าคมเหลือบมอง รอยยิ้มเหยียดปรากฎขึ้นที่มุมปาก
"ผู้หญิงอย่างเธอฉันไม่มีทางรับมาเป็นพี่สะใภ้เด็ดขาด! แล้วไอ้พฤติกรรมที่อ่อยฉันเมื่อคืนวันก่อนหยุดซะนะ ฉันไม่ใช่พวกประเภทใจอ่อนอย่างพี่ชาย ต่อให้เธอกำลังจะตายตรงหน้า...ฉันก็ไม่สนใจ" เขาเดินหันหลังจากไป ทิ้งบุคคลทั้ง 2 ไว้เพียงลำพัง
มือหนากุมขมับแน่นเมื่อน้องชายและคนรักมีปัญหากันอย่างรุนแรง เขาไม่เคยฟังคำตักเตือนหรือฉุกคิดสักนิดว่า มิยากะกำลังหลอกลวง หล่อนวางแผนเพื่อเงินจำนวนมหาศาลที่ได้รับจากตระกูลอู๋ สัญญาระหว่างเธอและบริษัท Private Company คือเรื่องโกหกที่เธอวางแผนกับชายชู้ หากได้แต่งงานและเป็นสะใภ้ของตระกูลมหาเศรษฐีจีน เธอก็จะได้หุ้นส่วนของบริษัท รวมถึงเงินทองมากมายที่จะยักย้ายถ่ายเทให้กับยากูซ่า อันธพาลหนุ่มที่เธอจงรักภักดีแต่เพียงผู้เดียว
เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ก่อนงานแต่งงานของพี่ชายเขาแค่เพียงหนึ่งสัปดาห์ คริสได้พบหลักฐานสำคัญที่เปิดโปงความชั่วร้ายของหล่อน เมื่อความจริงถูกเปิดเผย พี่ชายของเขาเศร้าโศกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มิยากะตัดสินใจหนีความผิดไปญี่ปุ่นเพื่อกลับไปหาคนรักของเธอที่แท้จริง ลูกชายคนโตของตระกูลอู๋เริ่มเป็นคนเก็บตัว เขาเหม่อลอยทุกครั้งยามที่คิดถึงใบหน้าสวยหวานของหล่อน เหมือนเป็นคนหลงละเมอที่เชื่อว่าผู้หญิงอย่างมิยากะจะสามารถกลับตัวกลับใจมารักเขา ได้แต่เพียงคิดว่าความดีจะเอาชนะใจเธอ ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม้มิยากะจะผ่านการทำงานที่ต้องขายเรือนร่าง เขาก็ไม่เคยนึกรังเกียจ จำนวนเงินมหาศาลที่สูญเสียไปประกอบกับการฉ้อโกงของหล่อน ทำให้พี่ชายของคริสเกิดความเครียดขึ้นทีละน้อย ไม่เพียงแต่สร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเอง แต่เปรียบเสมือนนำพาให้ครอบครัวต้องประสบกับปัญหาทางการเงินเพิ่มขึ้น
ในที่สุดลูกชายคนโตของตระกูลอู๋ก็ตัดสินใจจบชีวิตลงด้วยการ "ฆ่าตัวตาย" เพื่อรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น และหนีปัญหาหัวใจที่รุมเร้าจนเขาไม่มีแรงจะสู้ต่อ...
หลังมือยกขึ้นปาดหยดน้ำตาที่หลั่งไหลทีละน้อย ร่างสูงคิดถึงอดีตก่อนที่พี่ชายจะพบกับมิยากะ ในวัยเด็กทั้งสองมักไปไหนมาไหนด้วยกันจนเหมือนคู่แฝด ในยามที่คริสเล่นกับเพื่อนและถูกกลั่นแกล้ง ก็มีพี่ชายคนเดียวที่คอยปกป้องคุ้มครองเขา
แอลกอฮอล์สีเข้มถูกรินลงแก้วใส เขากระดกรวดเดียวหมดเพื่อดับอารมณ์ความเคียดแค้นที่มีต่อมิยากะ ขายาวพาร่างเดินกลับมายังห้องนอนของชานยะที่อยู่ติดกัน หญิงสาวยังคงนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียงนุ่ม เมื่อเหลือบเห็นชายหนุ่ม เธอรีบร้องเรียกเพื่อขออิสระจากเข็มขัดที่พันธนาการข้อมือไว้
"คุณคริส ฉันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของคุณ คุณจะผูกฉันไว้แบบนี้ไม่ได้!"
"ผมเป็นนายจ้าง เพราะฉะนั้นผมจะทำอะไรกับคุณก็ได้" ฝ่ามือหนาลูบไล้แก้มใสที่เลอะคราบน้ำตา ใบหน้าคมยกยิ้มช้าๆ หล่อนถูกผลักศีรษะเบาๆ
"คุณมาทำอาชีพนี้เพราะเงินใช่ไหม เคยคิดหรือเปล่าว่ามันคือศักดิ์ศรีของคนๆหนึ่ง กว่าคุณจะเจอผมคุณหลอกลวงผู้ชายมากี่คนหืม.." ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามเนินอกอวบอิ่มช้าๆ เขาขยำมันซ้ำๆก่อนที่จะสอดมือเข้าไปบีบคลึง รอยยิ้มเหยียดวาดขึ้นที่มุมปาก
"ศักดิ์ศรีของฉันหมดลงตั้งแต่ทำสัญญากับคุณ.." ดวงตากลมโตจับจ้องใบหน้าคมด้วยความเจ็บปวด คริสทำกับเธอเหมือนเป็นสินค้าและไม่เคยพูดจาให้เกียรติเธอเลยสักครั้ง
"ก่อนหน้านี้ฉันเคยมีเกียรติและศักดิ์ศรี แม้กับคนที่เขารวยมหาศาลมากกว่าตระกูลอู๋ยังปฎิบัติกับฉันไม่หยาบคายเท่าคุณ!"
"ชานยะ!"
"พี่ชายคุณตายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันไปฆ่าพี่ชายคุณหรือไง!"
"คุณไม่มีสิทธิตะโกนด่าใส่หน้าผม ไม่มีใครเคยทำกับผมแบบนี้เหมือนกัน" ฝ่ามือบีบปากเล็กแน่น ใบหน้าสวยหวานถูกผลักอย่างแรง
"คุณคงอ่านสัญญาฉบับนั้นไม่ละเอียดพอ จำไว้ว่าผมมีอำนาจเหนือคุณทุกอย่าง" เขาปลดเนคไทจากลำคอและเริ่มทาบทับมันลงบนริมฝีปากอวบอิ่ม
"เริ่มกิจกรรมที่คุณถนัดได้แล้ว ผู้หญิงอย่างคุณมีไว้แค่บำบัดอารมณ์ใคร่อย่างเดียวถึงจะเหมาะ" ร่างสูงปลดเปลื้องเสื้อผ้าของหญิงสาวทีละชิ้น จนเธอเปลือยกาย
ร่างขาวเนียนดิ้นรนในขณะที่ตนเองถูกพันธนาการไว้ ดวงตากลมรื้นไปด้วยน้ำตาหยดใส เธอไม่เคยเจอใครหยาบคายได้เท่าเขา แม้รูปร่างหน้าตาของเขาจะหล่อเหลาดูดีเสียจนทำให้สาวๆหลงใหล แต่จิตใจภายในของเขากลับมืดบอด ไม่มีแม้ความอ่อนโยน นุ่มนวล ทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน
ใบหน้าคมโน้มลงซุกไซร้เนินอกอวบอิ่ม ปลายลิ้นสะกิดเลียวนช้าๆ ฝ่ามือเคล้นคลึงร่างบางจนหล่อนเขียวช้ำ ผิวขาวเนียนแดงเป็นจ้ำเมื่อถูกริมฝีปากหนาลากผ่าน เขาขบกัดเธอและดูดดุนตามลำตัวด้วยอารมณ์ร้อนแรง แกนกายถูกสอดเข้าไปในร่างขาวเนียน ร่างเล็กเคลื่อนไหวตามแรงกระแทกกระทั้นของชายหนุ่ม และนี่ก็เป็นอีกคืนที่ทั้งสองมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน
หลังจากจบการบรรเลงเพลงรักไปตามอารมณ์มึนเมา ร่างสูงก็ลุกขึ้นสวมใส่เสื้อผ้า
"พรุ่งนี้จะมีหมอจากโรงพยาบาลมาดูแลการคุมกำเนิดของคุณ" เขาเอ่ยบอกพร้อมทั้งปลดเข็มขัดที่รัดข้อมือบางออกช้าๆ
ดวงตาคมเหลือบมองรอยแดงช้ำที่เกิดจากฝีมือของตนเอง
"แผลพวกนี้ก็ใส่ยาซะ ผมไม่ชอบเห็นรอยเขียวจ้ำพวกนั้น" เนื้อนวลขาวขึ้นเป็นริ้วจากการถูกเข็มขัดฟาดหลายครั้ง
ร่างเล็กนิ่งเงียบ เธอหลุบสายตาลงต่ำโดยไม่กล้ามองใบหน้าคมสักนิด หัวสมองเริ่มขบคิดถึงสัญญาบ้าๆที่เธอไม่ควรตกลงทำเพียงเพราะเงินที่จะไปรักษาพ่อ และช่วยเหลือครอบครัว
"ในเมื่ออยู่บ้านมากแล้วฟุ้งซ่าน คุณมีหน้าที่เพิ่มอีกหนึ่งอย่าง"
ริมฝีปากเล็กขบเข้าหากันเมื่อเหลือบมองร่างสูงเพื่อตั้งใจฟัง
"ทำความสะอาดห้องพี่ชายผมเดือนละ 2 ครั้ง หัวหน้าแม่บ้านจะคอยตรวจสอบคุณอีกที"
ร่างสูงเดินจากไปทิ้งหญิงสาวร่างเล็กไว้บนเตียงนอน หล่อนฟุบหน้าลงกับหมอนเพื่อร่ำไห้ ความอดทนเข้มแข็งเริ่มพังทลายลงทีละน้อย ตอนนี้เธอคิดถึงเพื่อนรักสมัยเด็กที่โตมาด้วยกัน คนที่แนะนำให้รับงานจากลูกชายของตระกูลอู๋เพื่อนำเงินไปรักษาพ่อคนเดียวของเธอ ฝ่ามือบางกดโทรศัพท์หาเพื่อนสาว เสียงเจื้อยแจ้วรีบตอบกลับเมื่อเห็นว่าชานยะเป็นผู้โทรเข้ามา
"สบายดีไหมชานยะ เธอเป็นยังไงบ้าง"
"แบคกี้..." น้ำเสียงขาดห้วงเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนไตร่ถามสารทุกข์สุขดิบ
หล่อนระบายความรู้สึกในใจที่พรั่งพรูออกไปทั้งหมด หมดแล้วซึ่งหนทางเพราะไม่รู้จะปรึกษาเรื่องแบบนี้กับใคร หญิงสาวร่างเล็กได้แต่ปลอบประโลม เธอเองไม่เคยคาดคิดว่าชานยะจะทนทุกข์ทรมานกับการกระทำหยาบคายและดูถูกอาชีพของเธอขนาดนี้
"ในฐานะที่ฉันเป็นคนแนะนำเธอ ฉันจะไปบอกกับเขาว่าเลิกทำแบบนี้ได้แล้ว"
"ชานยะ...มีเศรษฐีหนุ่มมากมายที่ยอมจ่ายเงินให้เธอมากกว่าเขานะ" เพื่อนรักเริ่มไม่พอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
"เขารู้เรื่องนั้นไหม" หล่อนกระซิบเสียงเบาลง
"ฉันไม่เคยบอกคนนอก..."
"บ้าจริง..ถ้าอย่างนั้นเขาก็ไม่รู้สิว่าเธอใช้สแตนอินกับหนังประเภทนั้น"
ทั้งสองสนทนากันอย่างออกอรรถรส แท้จริงแล้วแม้ชานยะจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ แต่เธอก็มักจะใช้ตัวแสดงแทนเมื่อต้องเจอกับฉากหนังโป๊เปลือยมากเกินไป หล่อนใช้แค่เพียงรูปร่างหน้าตาในการหากิน ความมีชื่อเสียงทำให้ชายหลายคนหมายปอง รวมถึงคริสนักธุรกิจที่หวังหาผลกำไรกับชื่อเสียงของเธอ
คืนนั้นทั้งคืนหญิงสาวใช้สมองไตร่ตรองว่าควรจะทำตามสัญญาที่ระบุไว้ หรือทำเรื่องติดต่อทนายเพื่อขอยกเลิกและฟ้องศาลขอความเป็นธรรม
ความอ่อนล้าทำให้ร่างบางผลอยหลับไปขณะที่ใช้สมองอย่างหนัก เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องดังขึ้นหลายครั้ง ปลุกให้เธอตื่นจากภวังค์เมื่อถึงรุ่งเช้า ฝ่ามือเล็กบิดลูกบิดเพื่อเปิดดูว่าคนมาเยือนคือใคร
"ทำไมตื่นสาย เมื่อคืนหลังจากผมออกไปคุณยังไม่นอน?" ดวงตาคมจับจ้องใบหน้าหวานเพื่อสังเกตพิรุธ
"ฉัน...นอนไม่หลับค่ะ"
"ลงมากับผม" ฝ่ามือหนาจูงข้อมือเล็กเดินมาตามบันไดวน เสื้อสูทวางทับข้อพับแขนซ้าย เขาหย่อนกายลงบนโซฟาเมื่อเดินมาถึงห้องโถงชั้นล่าง
รองเท้าหนังสีดำราคาแพงถูกวางตรงหน้าด้วยฝีมือของคนรับใช้ ชายหนุ่มยื่นเท้าให้กับชานยะ
"สวมรองเท้าให้ผม"
"คะ?" เธอฉงนกับคำสั่งของเขา
"ผมบอกคุณว่าให้ใส่รองเท้าให้ผม" ร่างสูงเน้นเสียงพร้อมกระดิกปลายเท้าเพื่อเรียกให้หญิงสาวเร่งดำเนินการ ก่อนที่จะทำให้เขาเข้าห้องประชุมสายไปมากกว่านี้
ร่างเล็กค่อยๆคุกเข่าลงกับพื้น หล่อนจับปลายเท้าของเขามาสวมรองเท้าคู่ใหญ่ ริมฝีปากหนายกยิ้ม แม้ว่าจะไม่ใช่หน้าที่ของเธอ แต่เขาก็รู้สึกพึงพอใจที่ชานยะปฎิบัติตามคำสั่ง
"เย็นนี้ผมจะพาคุณไปทานอาหารนอกบ้าน รู้เวลาด้วยล่ะ" เขาเอ่ยกำชับ ไม่นานร่างสูงก็เดินจากไป และก้าวขึ้นรถหรูคันใหญ่
ช่วงบ่ายของวันนั้น หลังจากได้รับการฉีดยาคุมกำเนิดจากหมอส่วนตัว หล่อนตัดสินใจโทรหาทนายที่เพื่อนแนะนำมา การฟ้องศาลเพื่อยกเลิกสัญญาต้องใช้เงินมหาศาล และอีกอย่างชานยะได้ใช้เงินทั้งหมดไปกับการรักษาพ่อของเธอ ในบัญชีธนาคารเหลือเงินเก็บแค่เพียงไม่เท่าไร เธออาจจะต้องหมดตัวหากฟ้องร้องนักธุรกิจหนุ่ม...
เสียงเรียกหน้าห้องดังขึ้นเบาๆ แม่บ้านยื่นชุดราตรีสั้นแบบหวาบหวามให้กับหล่อนอย่างรีบร้อน เนื่องจากเธอยังมีงานอีกมากมายที่จะต้องจัดการ ดวงตากลมโตตกตะลึงในความสวยงามของมัน แซคกำมะหยี่สั้นสีดำคว้านคอลึกจนถึงสะดือ ลายหรูหราประดับประดาด้วยเลื่อมสีทองสลับเงิน ชุดเปิดเผยร่องอกอวบอิ่มที่ล่อตาล่อใจแก่ผู้พบเห็น คือชุดที่ชานยะจะต้องสวมใส่ในวันนี้ มีกระดาษโน๊ตเล็กๆแนบมาด้านบนเสมือนคำสั่งที่หล่อนต้องพบเจอเป็นประจำ
-ไม่ต้องใส่บราและชั้นใน ผมจะกลับมาถึงบ้านก่อนหกโมงเย็น-
ริมฝีปากเล็กเบ้ลงเล็กน้อย ร่างบางเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวสำหรับนัดในค่ำคืนนี้ ผิวขาวเนียนโผล่พ้นฟองสบู่ในอ่างจากุชชี่สีขาวขนาดใหญ่ หัวสมองพาลคิดไปถึงเหตุการณ์ครั้งแรกที่เธอและเขาระเริงรักกันอย่างเมามันส์ในอ่างนี้ ฝ่ามือเล็กหยิบใยขัดตัวถูไถลูบไล้ตัวเองช้าๆ เนินอกถูกฟองสบู่เหนียวลื่นลากผ่าน หล่อนคลึงหน้าอกตัวเองเบาๆ ปากอิ่มขบเข้าหากันเมื่อนึกถึงใบหน้าของชายหนุ่มที่กำลังปรนเปรอด้วยลิ้นร้อน นิ้วเล็กวนเวียนส่วนอ่อนโยนด้านล่างไปมา หล่อนแอ่นสะโพกขึ้นช้าๆเมื่อค่อยๆสอดปลายนิ้วควงวนด้านใน ใบหน้าสวยหวานแดงก่ำ เสียงครางต่ำดังเบาๆในลำคอ
"ทำไมคุณไม่อ่อนโยนกับฉันบ้างคะ..."
"อื้ออ..คุ..ณ...คริส..."
แค่เพียงไม่นานร่างเล็กก็กระตุกเกร็งถี่ๆ หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังด้านข้าง หน้าจอปรากฎชื่อมหาเศรษฐีจีนที่เป็นเจ้าของชีวิตเธอ
"ค่ะ.." ขานรับนายจ้างขณะที่ร่างยังคงเปลือยเปล่าในอ่างขนาดใหญ่
"แต่งตัวเสร็จหรือยัง"
"ใกล้แล้วค่ะ"
"ผม..เอ่อ...ไม่มีอะไร รีบละกัน" นิ้วยาวกดตัดสาย
ดวงตาคมสอดส่ายไปมาเมื่อรู้สึกลังเลที่จะพูดอะไรบางอย่างออกไป ฝ่ามือหนาเลื่อนลิ้นชักเพื่อหยิบถุงยาขึ้นมาพลิกดู คริสเดินหาซื้อยาเพื่อรักษาแผลที่เขาตีหล่อนด้วยเข็มขัดเมื่อคืนนี้ แม้ภายนอกจะดูเย็นชา นิ่งเฉย แต่ในใจกลับมีความสำนึกผิดปะปนอยู่
.
.
.
.
.
.
.
.
.
รถลีมูซีนคันใหญ่ถูกจอดที่หน้าคฤหาสน์หลังโต วันนี้คริสจะพาเธอไปรู้จักชีวิตของมหาเศรษฐี ร่างบางเดินก้าวลงมาจากบันไดช้าๆเมื่อรับรู้ว่าร่างสูงนั่งรอเธออยู่ที่ด้านล่าง ใบหน้าคมเหลือบมองความสวยงามเย้ายวนของชานยะด้วยความตกตะลึง ผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มม้วนลอนตรงปลาย ชุดสีดำเลื่อมที่หล่อนสวมใส่ขับสีผิวขาวเนียนให้ดูโดดเด่น เนินอกอวบอิ่มเป็นก้อนกลมบดเบียดกันจนยากจะละสายตา กระโปรงสั้นเข้ากับบั้นท้ายงอนงาม ใบหน้าหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางเฉดสีแดงสุดเร่าร้อน
ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นยืนช้าๆ ฝ่ามือหนารั้งเอวบางเข้าหาตัว ปลายจมูกโด่งฝังลงบนแก้มที่มีบลัชออนสีอ่อน สายตากรุ้มกริ่มมองร่างเล็กจนหล่อนแทบจะละลายไปตรงหน้า
"คุณสวยมาก สวยจนผมอยากจะกลืนกินคุณตอนนี้"
เขาลูบไล้สะโพกกลมมนที่ด้านหลังและบีบคลึง
"ไม่ได้ใส่ชั้นในตามคำสั่งของผมใช่ไหม"
ใบหน้าสวยหวานพยักขึ้นลงอย่างว่าง่าย
ทั้งคู่เดินตรงไปยังรถคันใหญ่และก้าวขึ้นไปนั่งเคียงข้างกัน ส่วนกลางของรถมีผ้าม่านขนาดเล็กบดบังสายตาจากคนขับ แขนแกร่งรั้งร่างเล็กขึ้นมานั่งคร่อมบนตัก ใบหน้าคมโน้มลงใช้ริมฝีปากหนาบดจูบกลีบปากอิ่มเร่าร้อน ฝ่ามือถกกระโปรงชุดแซคสีดำขึ้นช้าๆ
"คุณคริสคะ.."
เสียงเรียกบางเบาหลุดจากปาก ปลายจมูกโด่งของชายหนุ่มซุกไซร้ร่องอกกลมกลึง ร่างบางแอ่นกายไปด้านหลังเพื่อให้อีกคนมีท่าทีที่สะดวกขึ้น ฝ่ามือเล็กสอดไปตามเส้นผมสีดำขลับบนศีรษะร่างสูง เมื่อเธอถูกเล้าโลมอย่างหนัก
รถลีมูซีนเคลื่อนตัวไปยังถนนหนทางต่างๆขณะที่ทั้งสองกำลังนัวเนียในห้องโดยสาร ไม่นานหลังจากนั้นคนขับเหยียบเบรคกระทันหันเนื่องจากมีรถอีกคนมาตัดหน้า ร่างเล็กเสียหลักหล่นไปที่พื้น แขนแกร่งรีบช้อนร่างเธอไว้ ทั้งสองสบตากัน ร่างสูงหลุดหัวเราะออกมาเบาๆด้วยความขันเมื่อเห็นท่าทีตกใจของชานยะ ดวงตากลมโตจดจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่ปรากฎรอยยิ้ม นี่คือครั้งแรกที่หล่อนเห็นความสดใสจากสายตาของชายหนุ่ม
"ฉัน...ไม่เคยเห็นคุณยิ้มเลย เวลาที่คุณยิ้ม..." หล่อนเปรยเสียงเบาขณะลูบจับคางสากของคนตรงหน้า
ร่างสูงค่อยๆหุบยิ้มลงทีละน้อย เมื่อเผยด้านที่เขาไม่เคยให้ใครเห็นออกไปอย่างลืมตัว
"ผมจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่ผมมีความสุขคือตอนไหน" เสียงเข้มพูดแทรกก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยจบประโยค
เขาจับร่างเล็กลงมานั่งด้านข้าง ดวงตาคมเหม่อมองออกไปด้านนอกอย่างไร้จุดหมายปลายทาง
"อย่าพยายามเข้ามาในโลกของผม..." แววตาเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่ บรรยากาศอึมครึมจากเดิมจนร่างเล็กรู้สึกอึดอัด
ความแค้นจากภายในหล่อหลอมให้คริสเป็นคนเย็นชาและไร้หัวใจ ด้วยภาระหน้าที่มากมายของนักธุรกิจในวัยยี่สิบต้นๆต้องต่อสู้กับอะไรอีกมาก เขาเจอคนมาหลากหลายประเภทและจะไม่ยอมก้าวพลาดเหมือนพี่ชายเด็ดขาด กำแพงที่ก่อตัวขึ้นจากคริสสูงเสียจนคนภายนอกไม่สามารถก้าวข้ามได้ ผู้ชายหลายมิติอย่างเขาคงจะมีไม่กี่คนที่จะเข้าใจ
เรื่องราวของนักธุรกิจหนุ่มผู้หล่อเหลาและชานยะจะดำเนินไปในทิศทางไหน โปรดติดตาม...
รบกวนติดแทค #ChanYaMyAV เพื่อเป็นพลังผลักดันให้กับไรท์ ขอบคุณมาก 55555