0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

ตอนที่2 พรบริสุทธิ์

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

0ctogus

0ctogus
Admin

“คุณตา!!!!!!” เสียงโยฟานร้องดังอย่างดีใจ เด็กน้อยวิ่งเข้าไปกอดโพไซดอนอย่างไม่เกรงกลัว เทพเจ้าหัวเราะพร้อมกับอุ้มหลานชายขึ้นมาอย่างเอ็นดู


“ฉลาดสมคำล่ำลือจริงๆ” เทพเจ้าเอ่ยชมพร้อมกับยิ้มอย่างพึงพอใจ


“ท่านพ่อรู้ได้ยังไงครับ แล้วใครเอาข่าวไปบอกท่านพ่อเนี่ย ผมอุตส่าห์จะเซอร์ไพส์ท่านพ่อคนแรกเลยนะ” ร่างโปร่งประท้วง โพไซดอนแย้มยิ้มก่อนจะเอ่ยตอบ



“เจ้าคิดว่าการที่มีเด็กอายุเพียงห้าขวบขี่ฮิปโปแคมปัสของข้าได้จะไม่เป็นที่เลื่องลื่อไปถึงท้องทะเลอย่างนั้นรึ” เทพเจ้าเหล่มองเจ้าตัวแสบในอ้อมกอด


“ไม่ใช่ฮิปแอมปัสนะ มันคืออัปโป้ต่างหาก” เด็กน้อยอธิบายด้วยใบหน้าจริงจังราวกับว่านี่เป็นข้อมูลที่พลาดไม่ได้ โพไซดอนหัวเราะก่อนจะตอบ


“ใช่อัปโป้ของเจ้าน่ะ”


“คุณพ่อคะ…” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังของคริส โยดากำลังเกาะขาเขาแน่น ดวงตาสุกใสกำลังจ้องมองเทพเจ้าอย่างกล้าๆกลัวๆ


“นี่หลานตัวน้อยอีกคนของข้าใช่ไหม” เทพเจ้าเอ่ยถามอย่างใจดีพร้อมกับย่อตัวเสมอเด็กหญิงตัวน้อยที่แอบมองเขาจากหลังของคริส


“มาแนะนำตัวก่อนสิโยดา นี่คุณปู่ของลูกนะ” คริสเอ่ยบอกลูกสาว เด็กหญิงตัวน้อยก้าวออกมาอย่างไม่มั่นใจนัก เธอมองเทพเจ้าสลับกับฮิปโปแคมปัสที่อยู่ในทะเลด้านหลัง


“สวัสดีค่ะ หนูชื่อโยดา เป็นลูกคุณแม่ชานยอลกับคุณพ่อคริส……..คุณตาเป็นเจ้าของอัปโป้หรอคะ” เด็กน้อยถามเสียงค่อยจนแทบจะเป็นกระซิบ เทพเจ้าหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะยื่นมือไปลูบผม


“ลูกฮิปโปแคมปัสตัวนั้นน่ะรึ ใช่ ข้าเป็นเจ้าของพวกมัน”


“ไม่ใช่ฮิปแอมปัส อัปโป้ อัปโป้ต่างหากคุณปู่” โยฟานรีบแก้ ผู้ใหญ่ทั้งสามถึงกับหลุดยิ้ม โดยเฉพาะโพไซดอนที่ถึงกับหัวเราะออกมา คริสกับชานยอลลอบมองตามแล้วแย้มยิ้มให้กัน  ใครก็รู้ว่าโพไซดอนเป็นเทพเจ้าจอมขี้โมโหเพียงใด ถ้ามีเรื่องให้ไม่พอใจแม้แต่นิดเดียว เทพเจ้าอาจพิโรธดลบันดาลให้ท้องทะเลปั่นป่วนจนก่อให้เกิดความพินาศขึ้นมาได้ นับว่าการที่เขาอ่อนโยนต่อใครนั้นนับเป็นภาพที่หาดูได้ยากทีเดียว


“ข้าล่ะชอบเด็กคนนี้จริงๆ ใช่ เจ้ากลัวเจ้าตัวอัปโป้นั่นหรือ” เทพเจ้าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงใจดี


     เด็กน้อยคนถูกถามเงยหน้ามองพ่อ ก่อนจะพยักหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ ดวงตาใสแจ๋วของเธอมองอีกคนตาแป๋ว เทพเจ้ายิ้มยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน


“เจ้าไม่ต้องกลัว พวกมันเป็นมิตร อีกอย่างคู่แฝดเจ้าก็อยู่ด้วย เขาไม่มีวันให้เจ้าเป็นอันตรายในเขตท้องน้ำได้หรอก”


“ใช่เลย ใช่เลย!!! รับรองด้วยเกียรติของผู้พันโยฟาน!!!” เด็กชายตัวน้อยตอบรับอย่างขยันขันแข็งพร้อมกับตะเบ๊ะให้ เทพเจ้าหัวเราะอย่างชอบใจ โดยไม่ทันสังเกตเลยว่าเด็กหญิงที่เขาสนทนาด้วยกำลังตื่นกลัว เธอมองเลยไปข้างหลัง ฝูงฮิปโปแคมปัสกำลังจับจ้องเธออยู่ พวกมันส่งเสียงร้องอย่างตื่นๆ บ้างกระทืบกีบเท้าจนน้ำสาดกระเซ็น บ้างใช้หางฟาดน้ำจนเกิดเกลียวคลื่น เหมือนพวกมันอยู่ไม่สุขที่ต้องเห็นเธอ


“โยดา…”คริสเรียกลูกสาว แต่เด็กน้อยยังคงจับจ้องเจ้าสัตว์วิเศษพวกนั้น พวกมันน่ากลัว  เธอไม่ชอบใจเลยที่มันกำลังมองเธออย่างนี้  พื้นใต้เท้าเธอค่อยๆสั่นสะเทือน กลไกลอะไรบางอย่างในร่างเริ่มทำงาน เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย เธอจำเป็นต้องหาที่พึ่ง


“โยดา!!!” เสียงคริสดังขึ้นอีกครั้ง แต่โยดาไม่รู้ตัวอะไรแล้ว เธอเห็นแต่ฝูงฮิปโปแคมปัสที่จ้องเธอกลับ แวบหนึ่งที่เธอเหมือนจะได้ยินเสียงของพวกมันด้วย


ความตาย…


เด็กคนนี้คือความตาย


ฉันไม่ชอบเธอ


แต่แล้วจู่ๆพวกมันก็เหมือนฉุกคิดอะไรได้บางอย่าง


สายน้ำ..


น้อยนิด….


แต่  แต่ แต่มหาศาล


“ไม่นะ หยุดพูดกันนะ ไม่เอา หนูไม่ฟัง!” โยดาหวีดร้อง ชานยอลพยายามเข้าไปกอดลูกแต่โพไซดอนกลับหยุดการเคลื่อนไหวของเขาด้วยเวทมนตร์ คริสจ้องเขม็งอย่างโกรธเกรี้ยวก่อนจะปาดตัวเข้าไปหาลูก แต่กลับถูกเทพเจ้าทำแบบเดียวกับชานยอล พวกเขาเคลื่อนไหวไม่ได้โดยสมบูรณ์แบบ..


“ท่านพ่อปล่อยผม!! ท่านพ่อ ผมขอร้อง ปล่อยผม ผมจะเข้าไปช่วยลูก!!!” ชานยอลหวีดร้องทั้งน้ำตา ยิ่งเห็นอาการของลูกแย่ลงเท่าไรเขาก็ยิ่งคลั่งมากขึ้นเท่านั้น


“ไม่ รอดูก่อน”เทพเจ้ายกมือเป็นเชิงห้ามก่อนจะจับตาดูเด็กหญิงตัวน้อย ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของชานยอล ลูกของเขาเป็นอะไร ทำไมถึงเหมือนคนเสียสติ ใครทำอะไรลูกเขา ใครรังแกลูกเขา!!!


  ร่างโปร่งพยายามดิ้นให้หลุดการควบคุม แต่ทุกอย่างกลับไร้ประโยชน์ ดวงตาคมมองคริสอย่างขอความช่วยเหลือแต่ร่างสูงเองก็อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างกันนัก


แตกต่าง ไม่เหมือน แบ่งแยก!!!


เสียงของฮิปโปแคมปัสตะโกนอยู่ในหัวโยดา เด็กน้อยรีบกุมหัว พื้นใต้ดินสั่นสะเทือนขึ้นเรื่อยๆ จนแผ่นดินเกิดรอยแยก


ฆ่ามัน!! ไม่!!! ปองดอง!!!!


ฆ่ามันสิ!!


ไม่!!


ปองดอง!!


ไม่!! ฆ่ามันซะ ฆ่ามันซะ ฆ่ามัน!!!


“หยุดพูดนะ!!! หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ หยุดพูดเดี๋ยวนี้!!!” เด็กน้อยกรีดร้อง ทรุดฮวบลงกับพื้น น้ำตาเริ่มไหลพราก


ฮาเดส!!! โพไซดอน!!


ไม่!! ใช่ทั้งคู่!!


ไม่!! ไม่ใช่ทั้งคู่!!!


ไม่ มันใช่ มันใช่ทั้งคู่


ไม่!! มันไม่ใช่  มันไม่ใช่!!!


มันเป็นปีศาจ!!!!


“ไม่นะ!! หนูไม่ใช่ปีศาจ หนูไม่ใช่ปีศาจ!!!” โยดาระเบิดเสียง ก่อนที่แผ่นดินบริเวณนั้นจะถล่ม ฝูงซากศพถูกปลุกขึ้นมามีชีวิตอีกครั้ง พวกมันจ้องเขม็งไปที่เหล่าฮิปโปแคมปัส แรงอาฆาตและแรงสังหารรุนแรงเสียจนบรรยากาศบริเวณนั้นหนักอึ้ง เทพเจ้าเหลือบมองด้วยแววตายากจะอ่านออกก่อนที่เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง…


“พลังบริสุทธิ์…”


“ท่านพ่อหมายความว่าไง!! ท่านรีบช่วยลูกผมเร็ว ท่านรีบช่วยลูกผมเร็ว!!” ชานยอลวอนขอทั้งน้ำตา โพไซดอนเหลือบมองก่อนจะตอบ


“นี่ล่ะบททดสอบ” ชานยอลไม่ทันจะได้ตอบจู่ๆแผ่นดินก็สั่นสะเทือนอย่างแรงอีกครั้ง ฝูงซากศพจากใต้พิภพกู่กันขึ้นมาอีกระลอกจนแทบจะเต็มหาด


"ฮึก ไปนะ ไปให้หมดเลย อย่ามาแกล้งพี่โยดา อย่ามาแกล้งพี่โยดา" เด็กน้อยปาทรายใส่ราวกับว่ามันจะถูกตัวฮิปโปแคมปัส เหล่ากองทัพซากศพเริ่มคืบคลานเข้าสู่ริมหาด


“โยดา!! โยดา!!” คริสตะโกนเรียก ก่อนจะฝืนตัวอย่างสุดกำลังออกมาจากเวทมนตร์แล้ววิ่งเข้าไปคว้าตัวลูกเข้ามากอดแน่น ดวงตาคมกริบแปรเปลี่ยนเป็นสีทองเจิดจ้าก่อนจะมองเทพเจ้าอย่างมาดร้าย


“คุณพ่อ คุณพ่อ คุณพ่อ!!!” เด็กน้อยร้องจ้า กอดพ่อไว้แน่น ก่อนจะเริ่มซุกหน้าร้องไห้ เมื่อกี้มันน่ากลัวมาก ทุกอย่างมันคืออะไรก็ไม่รู้ มีเสียงคนพูดในหัว  พวกเขาทะเลาะกัน พวกเขาจะฆ่าเธอ พวกเขาหาว่าเธอเป็นปีศาจ!!!


"ไม่มีอะไรแล้ว ทุกอย่างปลอดภัยแล้ว" คริสปลอบประโลมก่อจะสะบัดมือกลางอากาศ แผ่นดินค่อยๆสั่นไหวก่อนที่ผืนพิภพจะสูบเหล่าซากศพกลับลงไปยังนรถภูมิตามเดิม


“โยดา” ชานยอลเรียกหาลูกก่อนจะฝืนตัวหลุดจากสายพลังที่กักขัง แล้วตั้งท่าจะเข้าไปหาลูกสาว แต่กลับถูกคำพูดของโพไซดอนยั้งไว้เสียก่อน


“ลูกของเจ้าอีกคนหายไปไหน” ชานยอลใจหายวาบ เขาหันไปที่ที่โยฟานน่าจะอยู่แต่ทุกอย่างกลับว่างเปล่า


“โยฟานหายไปไหน!!!” ไร้เสียงตอบรับ ชานยอลเริ่มลนลาน ในขณะที่คริสกับโยดาก็เริ่มใจไม่ดี ลูกและคู่แฝดของเขาหายไป


“ตกลงไปตอนแผ่นดินยุบรึเปล่า!! คริส!! เมื่อกี้มีลูกตกลงไปรึเปล่า!!!” ชานยอลถามอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่จู่ๆเสียงหนึ่งจะดังขึ้น


“ตรีศูล~”ร่างโปร่งหันขวับไปตามเสียง ก่อนจะเห็นฟานกำลังจะเอื้อมมือแตะตรีศูล


“อย่านะ!!โยฟาน!!!” ชานยอลร้องห้าม เป็นจังหวะเดียวกับที่โยฟานจับอาวุธของเทพเจ้าเข้าแล้ว


“ไม่นะ!!!” ร่างโปร่งร้องเสียงหลง โลกทั้งโลกเหมือนถล่มลงมา เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมากระชากหัวใจเขาออกไป มนุษย์ธรรมดาหรือแม้แต่กึ่งเทพไม่สามารถแตะต้องอาวุธของเทพเจ้าได้ เพราะอานุภาพของมันจะทำให้เราถึงแก่ความตาย…


“คุณหม่ามี๊…” โยฟานเรียกเสียงแผ่ว ชานยอลมองค้าง ร่างกายของเขาค่อยๆสั่นเทิ้ม นี่คือวาระสุดท้ายของลูกเขาหรอ เขาเพิ่งขอเทพีมาได้ไม่กี่ชั่วโมง จู่ๆเบื้องบนก็จะริบพรนั้นกลับไปแล้วหรอ


“หม่ามี๊ร้องไห้ทำไม” เด็กน้อยถามก่อนที่เขาจะวิ่งมาหา ชานยอลมองภาพนั้นด้วยความตื่นตระหนก


“ลูก ลูก ลูกไม่เป็นไรหรอ ลูก ลูก ลูกไม่ได้เจ็บตรงไหนหรอ” โยฟานส่ายหน้าพร้อมกับปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของผู้เป็นแม่


“พี่ฟานขอโทษ พี่ฟานทำให้คุณหม่ามี๊ร้องไห้ พี่ฟานจะไม่ซนแล้ว”


“ไม่ ไม่ ไม่เลยโยฟาน ไม่ ไม่เลย หม่ามี๊ หม่ามี๊ หม่ามี๊ไม่ได้ร้องไห้เพราะหนู หม่ามี๊ดีใจ ดีใจที่หนูไม่เป็นอะไร” ชานยอลคว้าลูกชายมากอดแน่น ใบหน้าหวานยิ้มทั้งน้ำตาที่ลูกของเขาปลอดภัย เทพเจ้าเหลือบตามองเด็กน้อยทั้งสองก่อนจะพูดขึ้นช้าๆ


“พลังบริสุทธิ์…” ชานยอลและคริสหันมามอง


“ท่านหมายความว่ายังไง” ร่างสูงเอ่ยถามด้วยเสียงราบเรียบ บุรุษผู้นี้ไม่เคยเกรงกลัวต่ออำนาจเทพเจ้า แทบไม่มีเทพองค์ไหนที่ทำให้เขาหวั่นเกรงได้ แม้แต่บิดาของเขาเอง…


เพราะถ้าเขาหวั่นเกรงสักนิด เขาคงไม่คิดบิดเบือนความตายดังเช่นที่เคยทำมาหรอก


“พลังบริสุทธิ์ พลังที่สืบสายตรงมาจากเทพเจ้า พวกเจ้าให้หัวใจและเลือดเนื้อบางส่วนกับเฮราใช่ไหม”เทพเจ้าหันมาถาม ก่อนที่เขาจะพูดต่อ


“เพราะฉะนั้นแล้วเด็กคนนี้จึงสืบสายตรงจากเทพเจ้าทั้งสอง พวกเขาจะมีพลังทั้งสองขั้ว น้ำและความตายอยู่ในตัวคนคนเดียว หากแต่ในยามปกติพวกเขาอาจเลือกควบคุมแค่พลังใดพลังหนึ่งเท่านั้น……….ถ้าให้อธิบายก็เหมือนที่มนุษย์บางคนถนัดคำนวณเลข แต่พวกเขาก็สามารถเรียนชีววิทยาได้เช่นกัน” โพไซดอนอธิบาย ในขณะที่คริสและชานยอลได้แต่นิ่งเงียบ เทพเจ้าหันไปสบตากับพวกเขาช้าๆ


“สิ่งที่พวกเจ้าต้องระวังคือพลังของพวกเขาจะมหาศาลมาก ยิ่งโดยเฉพาะเวลาไม่รู้ตัว” เทพเจ้าเหลือบมองโยดา ก่อนจะตวัดสายตาไปมองโยฟาน


“หรือแม้แต่ในยามปกติ”


“ถ้าเจ้าปล่อยให้พวกเขาใช้พลังตามใจชอบเช่นนี้ ผลสุดท้ายแล้วลูกเจ้าจะไม่ต่างอะไรไปจากเหยื่อชิ้นโตที่ล่อให้ฝูงนักล่าอย่างพวกอสูรกาย หรือแม้กระทั่งศัตรูของพวกเจ้าเข้ามาโจมตีได้” สิ้นเสียงนั้นคริสกับชานยอลถึงกับไร้คำพูด ถ้าลูกๆของพวกเขามีพลังมากถึงขนาดนั้น ต่อไปนี้การดำรงชีวิตก็จะยุ่งยากมากขึ้นซึ่งนั่นคงไม่ใช่เรื่องดีกับเด็กทั้งสองเท่าไรนัก


“ถ้าอย่างนั้นเราควรทำยังไงครับท่านพ่อ ทำยังไงให้เขาอยู่อย่างปลอดภัยได้”ชานยอลเอ่ยถามด้วยความร้อนรน เทพเจ้าเปรยตามองเด็กทั้งสองก่อนที่จะพูดต่อ


“ข้าช่วยได้เพียงเท่านี้”ฉับพลันนั้นฝ่ามือใหญ่โตของเทพเจ้าก็เรืองแสงสีครามก่อนที่สร้อยขนาดเล็กสองเส้นจะปรากฏขึ้นท่ามกลางสายตาทุกคน โพไซดอนหยิบสร้อยจี้รูปตรีศูลขึ้นใส่ให้โยฟาน


“นี่จะช่วยกดพลังของเจ้าเอาไว้ไม่ให้ปะทุขึ้นมา  จงใส่มันติดตัวไว้ตลอด มันจะช่วยอำพรางเจ้าจากศัตรู”  เด็กน้อยมองสร้อยรูปตรีศูลของตัวเองอย่างสนอกสนใจ แสงวับแววของมันเรืองรองเสียจนเขาหลงใหล


“ส่วนเจ้า…” เทพเจ้าหันมาหาโยดาที่กำลังจับจ้องเขาอย่างสนใจ


“ข้าคงให้เจ้าได้เพียงเท่านี้” โพไซดอนบอกก่อนจะสวมสร้อยรูปนางเงือกให้กับหลานสาว


“เมื่อไรก็ตามที่เจ้าต้องการความช่วยเหลือ ให้อธิษฐานกับสร้อยเส้นนี้ แล้วข้าจะไปหาเจ้า ไม่ว่าเจ้าอยู่ที่ไหนในเวิ้งน้ำนี้ก็ตาม” เทพเจ้าเงยหน้าขึ้นสบตา


“แต่เมื่อใช้แล้ว สร้อยนี่จะสลายไป ขอให้เจ้าคิดดูให้ดีก่อนจะขอความช่วยเหลือจากข้า” โพไซดอนเอ่ยบอกก่อนจะหยัดกายลุกขึ้น เทพเจ้ามองกลับไปยังมหาสมุทร คลื่นลมกำลังสงบ ท้องฟ้ากำลังปลอดโปร่ง ทุกอย่างกำลังเรียบร้อย  แต่เขากลับไม่ชอบเอาเสียเลย…


เพราะเมื่อใดที่คลื่นลมสงบ นั่นหมายความว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะมา…



“ข้าต้องไปแล้ว..” เทพเจ้าเอ่ยขึ้นก่อนจะหันมาหากึ่งเทพทั้งสอง


“จงเก็บรักษาของขวัญจากข้าให้ดี อย่าให้มันหล่นหายเด็ด และทางที่ดี…...”โพไซดอนเหลือบมองโยดา ก่อนจะสบตากับคริส


“เจ้าควรพาเธอไปหาฮาเดส  ยิ่งไวเท่าไรก็ยิ่งดี”


“ทำไมล่ะครับท่านพ่อ” เทพเจ้ากำลังจะเอ่ยตอบ แต่แล้วเสียงฮิปโปแคมปัสก็ร้องดังขึ้นมาอย่างตื่นกลัว


“ข้าต้องไปแล้ว อย่าลืมคำที่ข้าบอก จงไปหาฮาเดสให้เร็วที่สุด” โพไซดอนบอกก่อนจะหันหลังกลับสู่ท้องทะเล


“เดี๋ยวสิครับ!! ท่านพ่อ!! ท่านพ่อ เดี๋ยวก่อนสิ!!” ร่างโปร่งพยายามร้องเรียกพร้อมกับเดินตาม หากแต่โพไซดอนกลับใช้เวทมนตร์ทำให้เขาขยับเขยื้อนไม่ได้


“ท่านพ่อ!!ท่านพ่อ!!” ชานยอลประท้วง แต่เทพเจ้าไม่สนใจ เขาขึ้นควบฮิปโปแคมปัส ก่อนที่รถม้าศึกจะดำดิ่งลงสู่มหาสมุทร ทันทีที่มันลับตาร่างโปร่งก็กลับมาขยับเขยื้อนได้อีกครั้ง


“ท่านพ่อ!!” ร่างโปร่งตะโกนไล่หลังด้วยความโกรธเคือง โพไซดอนพูดเหมือนรู้อะไรบางอย่าง แต่เขากลับไม่ยอมบอก เอาแต่เตือนให้ไปหาฮาเดสโดยเร็วที่สุด


“ในเมื่อท่านพ่อไม่บอก ผมจะไปหาฮาเดสเองก็ได้…………..คริส เราลงไปหาพ่อนายกันเถอะ เรามีเรื่องต้องคุยกับเขา” ชานยอลหันไปหาคนรัก แต่ร่างสูงกลับนิ่งเงียบไม่ตอบกลับ ดวงตาคมมองไปยังเส้นขอบฟ้า เส้นแบ่งกั้นที่ครั้งหนึ่งคนโบราณเคยคิดว่าที่นั่นคือทางเข้าของนรก


“คงจะไม่ได้…” คริสเอ่ยตอบเสียงเรียบ


“หมายความว่ายังไง”  ร่างโปร่งถามเสียงฉงนระคนไม่พอใจ บุตรแห่งฮาเดสหันมาสบตากับเขาก่อนจะเอ่ยตอบ


“ตอนนี้ท่านพ่ออยู่ในทาทาร์รัส ถ้าไป ลูกเราจะเป็นอันตราย นายก็รู้ว่าที่นั่นเป็นยังไง”ชานยอลชะงักงัน ทาทาร์รัส สถานที่ที่เขาไม่มีวันลืม…


นรกภูมิส่วนที่ลึกที่สุด ทรมานที่สุด และอันตรายที่สุด แค่ลำพังกึ่งเทพอย่างเขาลงไปยังเกือบเอาชีวิตไม่รอด แล้วนับประสาอะไรกับลูกๆของเขาทั้งสอง  


“ถ้าอย่างนั้นเราก็คงต้องรอ…” ชานยอลจำใจต้องเก็บความคิดนั้นไป ถึงอย่างไรอยู่บนโลกก็ยังดีกว่าการลงไปเสี่ยงในทาทาร์รัส ร่างโปร่งเรียกลูกๆก่อนจะพาพวกเขากลับเข้าไปด้านใน โดยไม่ทันได้ยินเสียงเล็กๆเสียงหนึ่งที่ดังขึ้น…


“ทาทาร์รัส…..น่าไปจังเลย” เด็กหญิงตัวน้อยรำพึงพร้อมก่อนมองไปยังกลุ่มวิญญาณที่ค่อยๆเดินทางลงไปยังนรกภูมิ…

http://0ctogus.forumth.com

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ