อากาศภายนอกบนเขาที่มีชื่อว่า"ผาขอพรดาว" เริ่มหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆส่งผลมาจากเมื่อย่างกรายเข้าสู่ช่วงมืดอุณหภูมิภายนอกก็ลดต่ำลง......รถสปอร์ตคันหรูเปิดประทุนมีร่างที่เปลือยเปล่าของคนสองคนที่นอนทาบทับกันตรงเบาะคนขับ
ชานยอลซุกหน้าลงตรงแผงอกหนาของคริสเหมือนเด็กน้อยที่กำลังร้องหาไออุ่น ฝ่ามือหนาของคริสยังคงลูบไล้ไปตามเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนของชานยอลอย่างอ่อนโยน....ชานยอลคนบนร่างเขาตอนนี้คงต้องการพักผ่อนคริสเขย่าแขนของชานยอลเบาๆเป็นเชิงปลุกเพราะเกรงว่าชานยอลอาจจะเหนื่อยจนหลับไป...
"ชานยอล ปาร์คชานยอล....จะนอนบนตัวฉันที่นี่ทั้งคืนมั้ย"
คริสพูดพลางอมยิ้มออกมาเล็กน้อยและดึงเสื้อคลุมที่อยู่ข้างตัวขึ้นมาห่มร่างที่เปลือยเปล่าของชานยอลไว้
"อื้อออ....กลับบ้านกัน อยากนอนแล้ว"
ชานยอลขานตอบคริสช้าๆพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าคมสันที่นอนมองเขาอยู่ในตอนนี้เขาลุกขึ้นมานั่งบนตัวคริสพร้อมกับใส่เสื้อคลุมตัวนั้นคลุมทับร่างไว้.....คริสยังคงนั่งยิ้มและหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับจับจ้องไปที่ใบหน้าของชานยอล......เด็กน้อยของเขาแม้จะดูร้อนแรงเมื่อครู่ แต่เมื่อผ่านไปไม่นานก็ดูเป็นชานยอลคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก
"ยิ้มอะไรนักหนา" ชานยอลถามคริสออกมาในขณะที่เขากำลังใส่เสื้อผ้าของตนเอง
และปีนไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ โชคดีที่แสงสว่างไม่มากพอนัก จึงช่วยระงับความเขินอายให้กับชานยอลได้บ้างในขณะที่เขากำลังจัดการกับร่างเปลือยเปล่าของตนเอง
"เปล่า....แค่มีความสุข ก็เลยยิ้ม" คริสยังคงพูดจาหยอกล้อชานยอล....พร้อมกับแกล้งก้มไปมองที่ใบหน้าของชานยอล
ที่กำลังหลบตาลงเพื่อติดกระดุมเสื้อคลุมตัวนั้น
"ไปเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหน...." สิ้นคำถามของคริสเขาก็เอื้อมมือไปแตะที่แก้มชานยอลเบาๆพร้อมกับหัวเราะขำๆ
ออกมา ชานยอลคนที่ใสซื่อบริสุทธิ์กับชานยอลคนเมื่อครู่นี้เหมือนเป็นคนละคนกัน....หรือจะเป็นเพราะฤทธิ์ของโซจู
ที่เขาทั้งสองดื่มกันออกมาเมื่อครู่
"ถ้าฉันรู้ว่านายจะอำฉัน ฉันคงจะไม่ทำอีกแล้ว" .....ชานยอลทำหน้ากระเง้ากระงอดเมื่อถูกคริสแกล้งมากขึ้น เขาแกล้งมองออกไปข้างนอกและมีท่าทีงอนคริสเล็กน้อย...
"ไม่เป็นไร.......ถ้านายไม่ทำ วันหลังฉันทำเองก็ได้...." ครั้งนี้คริสหัวเราะเสียงดังพร้อมกับเลื่อนมือไปกดปุ่มปิดหลังคารถและเริ่มสตาร์ทรถเพื่อออกตัวไปจากบริเวณนี้.....
ใบหน้าของชานยอลที่ขาวใสมีสีแดงระเรื่อมาแต่งแต้มอีกครั้ง แม้ในความมืดนี้คริสจะมองไม่เห็นแต่ชานยอลเองก็รู้สึกว่าเขาเริ่มมีอาการร้อนผ่าวๆขึ้นมาจากบริเวณใบหน้า......อารมณ์เรื่องอย่างว่าตอนที่กำลังบรรเลงบทเพลงรักกันกลับกลายทำให้เขาทั้งสองลืมความเขินอายไปหมดทุกอย่างแต่เมื่อกลับเข้าสู่บรรยากาศปกติ ชานยอลกลับมีท่าทีเขินอายเหมือนเดิม....ปาร์คชานยอล นายนี่มันตลกจริงๆ
รถสปอร์ตคันหรูของคริสวิ่งมาตามทางที่เลี้ยวลดคดเคี้ยวบนเขา......ชานยอลค่อยๆเอียงศรีษะไปซบตรงไหล่กว้างของคริสและหลับตาลงช้าๆมันจริงอย่างที่คริสเคยพูดไว้ว่า เมื่อเขาทั้งสองอยู่ด้วยกันชานยอลจะเกิดความรู้สึกว่าไม่อยากให้คริสกลับไปทำงาน......ในตอนนี้เขารู้สึกอย่างนั้น.....ชานยอลอยากจะหยุดเข็มนาฬิกาที่เดินไปข้างหน้าให้เดินช้าลง....หยุดไว้ให้มีแค่เขาสองคนเท่านั้น.....หยุดไว้ในสถานที่ที่มีความสุขและไม่วุ่นวายแบบนี้.....การที่เขาแอบชอบคนดังอย่างคริสจนกลายมาเป็นความรัก....ทั้งเขาและคริสห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้....ตอนนี้คงทำได้แต่เพียงคอยตามแก้ปัญหาต่างๆที่มันกำลังจะเกิดขึ้นมา....
เมื่อรถแล่นมาถึงหน้าบ้านพักที่เงียบสงบ....ทั้งคริสและชานยอลก็เดินจูงมือกันเข้าบ้าน.....อยู่ที่นี่ทั้งคริสและชานยอล
ไม่ต้องแคร์สายตาใครหรือกลัวว่าจะมีใครมาเห็นหรือพบเจอภาพบางภาพ.......เขาสามารถทำอะไรได้อย่างใจที่เขาต้องการจะทำ...
"พรุ่งนี้เราจะกลับโซลกันแล้ว อยากจะกลับช่วงไหน เย็นๆมั้ย" คริสเอ่ยถามชานยอลหลังจากเดินเข้ามาในห้องนอนของเขาทั้งสอง
"กลับเย็นๆก็ดี ช่วงเช้าฉันอยากเล่นน้ำอีก"
ชานยอลยิ้มออกมาบางๆแต่ในแววตาของเขายังเจือปนไปด้วยความกังวลใจกับการแถลงข่าวที่คริสต้องการจะจัดขึ้นเพื่อประกาศให้ทุกคนรู้ว่าทั้งคริสและลียุนฮีไม่มีอะไรต่อกันอีกแล้ว......ชานยอลเกรงว่ามันจะส่งผลให้มีปัญหากับซีรีย์ของคริสและยุนฮี รวมถึงทางผู้จัดอาจจะไม่พอใจที่คริสออกมาให้สัมภาษณ์ดังกล่าว....แต่ชานยอลก็ไม่อยากจะขัดเขาเพราะรู้ดีว่าคริสก็ต้องการจะแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ทั้งเขาและคนทั่วไปได้รับรู้
"เอ่ออ........คริส ....นายจะจัดแถลงข่าวไม่กลัวว่าคุณอาผู้จัดจะ....." ชานยอลเอ่ยถามคริสถึงด้วยความรู้สึกเป็นห่วง
ในใจลึกๆ
"ไม่หรอก .....ฉันออกมาพูดความจริงและเรื่องที่ถูกต้อง อีกอย่างฉันอยากให้คนรอบข้างฉันสบายใจ....โดยเฉพาะนาย"
คริสก้าวเข้าไปประชิดตัวด้านหลังชานยอลพร้อมกับกอดเขาไว้หลวมๆ.....คริสไม่รู้ตัวเองเช่นกันว่าทำไมต้องรักและแคร์ชานยอลมากขนาดนี้คงเป็นเพราะเขาไม่เคยเจอคนแบบชานยอล....ชานยอลเป็นคนดื้อรั้นและสามารถทำลายความเจ้าอารมณ์ของเขาลงได้ชานยอลเป็นเหมือนความอบอุ่นในใจที่ทำลายความเย็นชาและเยือกเย็นของเขาลง......ตั้งแต่ที่เขาเลิกรากับยุนฮีไปคริสก็ไม่เคยมอบความรักให้ใครอีก....คนที่เขามีสัมพันธ์ด้วยเกิดจากความใคร่เท่านั้น.....มันเป็นความสัมพันธ์แค่ทางร่างกายแต่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ซึมลึกลงไปถึงจิตใจอย่างปาร์คชานยอล
"ทำไมฉันถึงรักถึงหลงนายมากขนาดนี้..หืม..ชานยอล"
คริสกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูชานยอลพร้อมๆกับกดปลายจมูกโด่งเป็นสันซุกไซร้ลงมาที่ต้นคอนวลขาวของชานยอลอีกครั้ง คริสหลับตาลงช้าๆเมื่อรู้สึกว่าชานยอลคือคนที่อบอุ่นที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้เรียวแขนแกร่งโอบกอดชานยอลไว้แน่นขึ้นจากเมื่อครู่นี้......
ริมฝีปากได้รูปของคริสจูบที่หัวไหล่ของชานยอลอย่างแผ่วเบา จมูกของเขาพยายามสูดกลิ่มหอมอ่อนๆจากตัวของชานยอลเข้าไปอีกครั้งชานยอลหลับตาลงพร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ......เมื่อคริสมอบสัมผัสที่อ่อนโยนให้เขาแบบนี้....เขาก็มักจะพ่ายแพ้ต่อมันทุกครั้ง....
มือแกร่งของคริสจับไหล่ของชานยอลทั้งสองข้างพลิกเข้ามาหาตัวเขา สายตาคมมองไปที่ใบหน้าเนียนใสของคนตรงหน้า...
พร้อมกับลูบไล้ใบหน้าของชานยอลด้วยฝ่ามือและนิ้วเรียวยาวของคริส.....ดวงตากลมโตของชานยอลก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของคริสเช่นกัน.....ดวงตากลมโตที่ไม่ได้ฉายแววมาดมั่น....แต่กลับมีความรู้สึกกังวลเจือปนออกมาด้วยในบางครั้ง
ผิดกับสายตาที่มุ่งมั่นของคริส.....สายตาที่มั่นคงในความรักและมักจะไม่กลัวกับอะไรทั้งนั้นที่มันกำลังจะเกิดขึ้น...
"สัญญากับฉันได้มั้ยชานยอล.....ว่าเราจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป..."
ชานยอลหวาดหวั่นใจกับคำถามที่คริสถามขึ้นมา......ความรักที่คริสมอบให้เขามันทำให้เขารับรู้ทุกอย่างแล้วแต่หน้าที่การงานของคริสรวมถึงฐานะและทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามี เราทั้งสองแทบจะไม่มีอะไรที่เหมาะสมกันเลยสักนิด...ชานยอลตัวคนเดียวคนที่เค้ารักและรักเค้ามีแค่คนในครอบครัวและเพื่อนฝูงเท่านั้น.......แต่คริสล่ะ....คนรอบตัวเขามีกี่หมื่นกี่แสนคนคนที่อยู่ข้างเขาและรักเขามีมากเกินไป......คริสจะทำยังไงกับคนพวกนั้น....
"นายกลัวเหรอ ......หรือไม่มั่นใจในตัวฉัน" คริสเอ่ยถามกับชานยอลอีกครั้งเมื่อเห็นเขาเงียบไป
"เรื่องทั้งหมดมันเป็นเรื่องของอนาคต.....ถ้าคู่เราโชคดีอย่างคู่ที่ผาขอพรดาว....ฉันจะดีใจมาก"
"ตอนนี้ฉันขอแค่ให้เราสองคนมีความสุขก็พอแล้วคริส"
ชานยอลเอ่ยประโยคพวกนั้นพร้อมกับยิ้มออกมา เขาโอบกอดรอบต้นคอของคริสไว้พร้อมกับแนบใบหน้าลงที่หน้าอก
หนาของคริส......ขอแค่วันนี้และตอนนี้เรามีความสุข ก็พอแล้วคริส.....พอแล้วจริงๆ
คืนนี้อากาศหนาวเย็นกว่าคืนแรก...........หลังจากทั้งคริสและชานยอลอาบน้ำชำระล้างร่างกายเสร็จ เขาทั้งสองก็นอนกอดกันบนเตียงที่แสนอบอุ่น......คริสหยิบหนังสือที่หัวเตียงมาเปิดอ่านช้าๆเนื่องจากเขาเป็นคนชอบอ่านหนังสือ.....ส่วนชานยอลก็ยังคงคลอเคลียที่ข้างไหล่ของคริสพร้อมกับมองหนังสือที่คริสกำลังอ่าน.....
"หนังสือพัฒนาตนเอง" ......
"นายอ่านอะไรพวกนี้ด้วยเหรอคริส......พัฒนาตนเองนี่เกี่ยวกับการพัฒนาด้านอารมณ์หรือเปล่า"
ชานยอลแกล้งเอ่ยถามคริสพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ......บุคลิกลักษณะของคริสดูดีมากแล้วและไม่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม.....สิ่งที่ต้องพัฒนาคือการพัฒนาการควบคุมอารมณ์และจิตใจของเขามากกว่า ชานยอลนึกขำขึ้นมาเมื่อนึกถึงคริสคนเดิมคนที่เคยอารมณ์ร้ายปากร้ายใส่เขา
"ทำไม ด้านอารมณ์ส่วนไหน จะแกล้งอะไรฉันอีก" คริสเอ่ยตอบชานยอลพร้อมกับวางหนังสือลงข้างลำตัวและหันหน้ามาจับจ้องไปที่ใบหน้าของชานยอลคนที่นอนอยู่ข้างๆเขา....
"ก็อารมณ์ขี้หงุดหงิด ขี้โมโหไง ไม่กินอาหารทะเลก็บอกกันดีๆสิ ทำไมต้องขว้างลงพื้น"
เมื่อนึกถึงวันแรกที่เขาเจอกับคริส ชานยอลก็เกิดอารมณ์โมโหบ้างเช่นกัน คริสที่เขาได้ยินมาเป็นคนเจ้าอารมณ์ในบางครั้งแต่เขาไม่คิดว่าคริสจะทำขนาดนี้กับคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก......
"แล้วเป็นแฟนคลับภาษาอะไรไม่รู้ว่าฉันแพ้อาหารทะเล........นี่เวปที่นายเป็นสมาชิกอยู่เขาไม่เคยลงเรื่องนี้เหรอ"
ชานยอลนิ่งอึ้งไปพร้อมกับเบิกดวงตากลมโตขึ้นมา....คริสรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงว่าเขาเป็นสมาชิกในเวปนั้น.....รวมถึง
เรื่องคริสแพ้อาหารทะเล เขาไม่รู้เรื่องแพ้อาหารทะเลจริงๆ.....อาจจะเป็นเพราะว่าข้อมูลบางอย่างเชิงลึกเกินไปและเขาไม่ได้คิดจะสืบค้นก็เป็นได้....
"โธ่เอ้ยยยย แอบชอบฉันแล้วจะซื้ออาหารทะเลมาฆ่าฉันเนี่ยนะ.....นายนี่มัน"
.....คริสแกล้งกำมือและเขกไปที่หน้าผากของชานยอลเบาๆเพื่อแกล้งหยอกเขา.....พร้อมกับยิ้มออกมาบางๆ......ตัวหนังสือแค่ไม่กี่ประโยคบนกรอบรูปนั้นมันก็ทำให้คริสรู้แล้วว่าชานยอลแอบชอบเขามาก่อนที่เขาจะเริ่มสนใจในตัวชานยอล......
"อือ ชานยอล...แต่มีอารมณ์อีกอย่างนะที่ฉันต้องพัฒนา....อาจจะต้องให้นายช่วยฉันพัฒนาบ้าง" คริสพลิกตัวขึ้นมานอนมองคนข้างๆด้วยสายตาเจ้าเล่ห์.....สายตานี้เหมือนชานยอลจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับวันแรกที่คืนหิมะตกโปรยปรายที่บ้านเขา....
"อะ...อา อารมณ์อะไร" ดวงตากลมโตของชานยอลเริ่มเลิกลั่กอีกครั้งเมื่อเห็นแววตาของคริสที่มองมาที่เขา.....
"อารมณ์....แบบนี้ไง" ยังไม่ทันสิ้นประโยคคำตอบจากคริสดี ปากเรียวบางของชานยอลก็ถูกประกบจูบอีกครั้ง.....
คริสโน้มใบหน้าของตนเองลงมาและใช้ปากของตนเองขบเม้มไปที่ริมฝีปากบางของชานยอลอย่างแผ่วเบา.....ในขณะที่ชานยอลกำลังจะถูกล่วงล้ำภายในโพรงปากของเขานั้น....เขาก็ผลักหน้าอกหนาของคริสออกเบาๆพร้อมกับพูดในเชิงห้ามปรามคริส....
"นี่คริส....นาย...พอได้แล้ว...เมื่อกี้.....ไม่เหนื่อยเหรอ" ..... ฝ่ามือเรียวบางของชานยอลยังคงดันที่หน้าอกหนาของคริสไว้และคริสเองก็พยายามขืนตัวเข้ามาหาชานยอลอีกครั้ง.....
"ไม่เหนื่อย.....เมื่อกี้ที่รถฉันไม่ได้ทำอะไรนะ.....ฉันอยู่เฉยๆ......แต่ตอนนี้....ฉันอยากเหนื่อยแล้ว "
ชานยอลกำลังจะอ้าปากต่อว่าคริสอีกครั้งแต่ก็ไม่สามารถส่งเสียงเล็ดลอดออกมาได้เนื่องจากปากเรียวบางของชานยอล
ถูกริมฝีปากของคริสทาบทับลงมาทำให้เขาเปล่งเสียงพูดไม่ได้....มือหนาของคริสยังคงสอดเข้าไปใต้เสื้อบางของชานยอลพร้อมกับลูบไล้มันอย่างเบามือ.....
เกมส์รักที่เพิ่งเกิดไม่นานเมื่อครู่นี้บนรถ ส่อแววว่ากำลังจะดุเดือดขึ้นอีกครั้งภายในห้องนอนของบ้านพักหลังนี้อีกในไม่ช้า.....ชานยอลค่อยๆหลับตาและรอรับสัมผัสที่อ่อนโยนนั้นอีกครั้ง.....
เรียวปากบางของชานยอลถูกเปิดออกด้วยลิ้นเรียวยาวของคริสที่พยายามซุกซนและสอดเข้าไปในโพรงปากของชานยอลเมื่อลิ้นสากของคริสสามารถลุกล้ำเข้าไปได้ เขาก็ตวัดเรียวลิ้นและดูดดุนลิ้นของชานยอลไว้อย่างโหยหา แม้เมื่อครู่เขาทั้งสองจะเพิ่งมีความสุขไป....แต่เรื่องอย่างว่าไม่ใช่อาหารที่จะทานแล้วอิ่มท้องได้ง่ายๆ....ยิ่งเมื่อทั้งคริสและชานยอลอยู่ในบรรยากาศที่เป็นใจและมีเพียงเขาแค่สองคน.....เรื่องบางเรื่องที่เขาไม่สามารถทำมันอย่างเปิดเผยได้ก็มักจะถูกกระทำซ้ำในสถานที่ที่เป็นส่วนตัวแบบนี้......
บทเพลงรักครั้งนี้คริสเป็นคนเริ่มบรรเลงมันขึ้นมาอีกครั้ง ฝ่ามือหนาของคริสค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ของชานยอลออกจากร่างกายช้าๆ....เมื่อครู่บนรถชานยอลเป็นคนบนร่างเขา แต่ตอนนี้คริสพลิกกายขึ้นมาเป็นคนบนร่างของชานยอลแทน...ริมฝีปากและจมูกโด่งเป็นสันของคริสยังคงซุกไซร้บริเวณต้นคอขาวนวลอย่างคนหิวกระหาย......ลิ้นสากลากไล้ไปตามติ่งหูและต้นคอของชานยอลอย่างแผ่วเบา.....จนบางครั้งชานยอลเองก็เผยอปากบางพร้อมกับแสดงใบหน้าที่บ่ง
บอกถึงความสุขออกมา.....หน้าอกของชานยอลกระเพื่อมขึ้นลงช้าๆจากจังหวะการหายใจของเขาที่บางครั้งก็ถี่รัวบางครั้งก็บางเบาจนเหมือนคนอ่อนแรง.....
คริสซุกใบหน้าลงตรงหน้าอกขาวนวลของชานยอลและบีบเคล้นมันอย่างเบามือ.....เรียวลิ้นยาวของคริสบรรจงตวัดลงไปเพื่อสร้างความสุขสมให้กับชานยอล ชานยอลเผลอแอ่นอกตอบรับสัมผัสของคริสที่มอบให้เขา.....สีชมพูของติ่งเนื้อบนยอดอกเวลาที่มันแข็งชูชันก็ท้าทายสายตาให้คริสต้องจับจ้องมันทุกครั้ง.....
เหตุการณ์เดิมเมื่อครู่เกิดขึ้นอีกครั้งเปรียบสเหมือนภาพรีเพลย์กลับไปเพียงแค่เปลี่ยนตัวแสดงจากชานยอลเริ่มบทเพลงแต่ครั้งนี้เป็นคริสเท่านั้น......ร่างสองร่างกำลังขยับเขยื้อนตามจังหวะรักอย่างเร่าร้อนบนเตียงและผ้าปูที่เริ่มยับยู่ยี่สีขาว.....
มือเรียวบางของชานยอลจิกกำผ้าปูแน่นด้วยความเสียวกระสันต์หลังจากที่คริสแทรกกายลงมาทางด้านหลัง ชานยอลคุกเข่าและรองรับการกระทั้นกระแทกนั้นเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า.......เสียงครางของคนทั้งสองยังคงผสมผสานกันอย่างไพเราะและดำเนินต่อไป.....
ทั้งคริสและชานยอลส่งเสียงครางที่บ่งบอกถึงความสุขของคนสองคนที่ต่างรับและยินดีมอบให้กัน......
มือหนาของคริสทั้งสองข้างดึงรั้งสะโพกนวลของชานยอลเข้าหาตัวหลายครั้ง.....เม็ดเหงื่อตามร่างกายของคนทั้งสองเริ่มเกาะพรายไปทั่วร่างรวมถึงที่บริเวณแขนของคริส......รอยสักบนตัวคริสขยับเขยื้อนไปตามจังหวะของเจ้าของร่างที่ถูกเร่งเร้าจากความต้องการของธรรมชาติ
ภายใต้บ้านพักที่ดูอบอุ่นล้วนร้อนระอุไปด้วยแรงสวาทของคนทั้งสองบนห้องนอน......เสียงคลื่นซัดสาดของทะเลถูกกลบทับด้วยเสียงครวญครางและเสียงเนื้อของร่างกายที่บดเบียดและกระทบเข้าหากัน.......บทเพลงรักของคริสและชานยอลดำเนินขึ้นอีกครั้ง....และในไม่ช้าก็จบลงตามความอดทนของร่างกายที่พึงมี....
ในคืนนี้คริสเริ่มต้นที่จะเหนื่อยเองและชานยอลก็ไม่ปฎิเสธคำขอนั้น..............ไม่นานหลังจากทั้งสองถึงฝั่งฝันก็ย่างกรายเข้าสู่ช่วงเวลาพักผ่อน.....ร่างสูงโปร่งของคริสและร่างสูงบางของชานยอลล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มสีขาวด้วยความอ่อนระโหยโรยแรง....วันนี้เขาทั้งสองเสียพลังงานไปมาก......คริสโอบกอดชานยอลไว้พร้อมกับรอยยิ้มละมุนของเขาก่อนที่ทั้งสองจะเข้าสู่ภวังค์และผลอยหลับไปในที่สุด.......................
ชานยอลซุกหน้าลงตรงแผงอกหนาของคริสเหมือนเด็กน้อยที่กำลังร้องหาไออุ่น ฝ่ามือหนาของคริสยังคงลูบไล้ไปตามเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนของชานยอลอย่างอ่อนโยน....ชานยอลคนบนร่างเขาตอนนี้คงต้องการพักผ่อนคริสเขย่าแขนของชานยอลเบาๆเป็นเชิงปลุกเพราะเกรงว่าชานยอลอาจจะเหนื่อยจนหลับไป...
"ชานยอล ปาร์คชานยอล....จะนอนบนตัวฉันที่นี่ทั้งคืนมั้ย"
คริสพูดพลางอมยิ้มออกมาเล็กน้อยและดึงเสื้อคลุมที่อยู่ข้างตัวขึ้นมาห่มร่างที่เปลือยเปล่าของชานยอลไว้
"อื้อออ....กลับบ้านกัน อยากนอนแล้ว"
ชานยอลขานตอบคริสช้าๆพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าคมสันที่นอนมองเขาอยู่ในตอนนี้เขาลุกขึ้นมานั่งบนตัวคริสพร้อมกับใส่เสื้อคลุมตัวนั้นคลุมทับร่างไว้.....คริสยังคงนั่งยิ้มและหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับจับจ้องไปที่ใบหน้าของชานยอล......เด็กน้อยของเขาแม้จะดูร้อนแรงเมื่อครู่ แต่เมื่อผ่านไปไม่นานก็ดูเป็นชานยอลคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก
"ยิ้มอะไรนักหนา" ชานยอลถามคริสออกมาในขณะที่เขากำลังใส่เสื้อผ้าของตนเอง
และปีนไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ โชคดีที่แสงสว่างไม่มากพอนัก จึงช่วยระงับความเขินอายให้กับชานยอลได้บ้างในขณะที่เขากำลังจัดการกับร่างเปลือยเปล่าของตนเอง
"เปล่า....แค่มีความสุข ก็เลยยิ้ม" คริสยังคงพูดจาหยอกล้อชานยอล....พร้อมกับแกล้งก้มไปมองที่ใบหน้าของชานยอล
ที่กำลังหลบตาลงเพื่อติดกระดุมเสื้อคลุมตัวนั้น
"ไปเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหน...." สิ้นคำถามของคริสเขาก็เอื้อมมือไปแตะที่แก้มชานยอลเบาๆพร้อมกับหัวเราะขำๆ
ออกมา ชานยอลคนที่ใสซื่อบริสุทธิ์กับชานยอลคนเมื่อครู่นี้เหมือนเป็นคนละคนกัน....หรือจะเป็นเพราะฤทธิ์ของโซจู
ที่เขาทั้งสองดื่มกันออกมาเมื่อครู่
"ถ้าฉันรู้ว่านายจะอำฉัน ฉันคงจะไม่ทำอีกแล้ว" .....ชานยอลทำหน้ากระเง้ากระงอดเมื่อถูกคริสแกล้งมากขึ้น เขาแกล้งมองออกไปข้างนอกและมีท่าทีงอนคริสเล็กน้อย...
"ไม่เป็นไร.......ถ้านายไม่ทำ วันหลังฉันทำเองก็ได้...." ครั้งนี้คริสหัวเราะเสียงดังพร้อมกับเลื่อนมือไปกดปุ่มปิดหลังคารถและเริ่มสตาร์ทรถเพื่อออกตัวไปจากบริเวณนี้.....
ใบหน้าของชานยอลที่ขาวใสมีสีแดงระเรื่อมาแต่งแต้มอีกครั้ง แม้ในความมืดนี้คริสจะมองไม่เห็นแต่ชานยอลเองก็รู้สึกว่าเขาเริ่มมีอาการร้อนผ่าวๆขึ้นมาจากบริเวณใบหน้า......อารมณ์เรื่องอย่างว่าตอนที่กำลังบรรเลงบทเพลงรักกันกลับกลายทำให้เขาทั้งสองลืมความเขินอายไปหมดทุกอย่างแต่เมื่อกลับเข้าสู่บรรยากาศปกติ ชานยอลกลับมีท่าทีเขินอายเหมือนเดิม....ปาร์คชานยอล นายนี่มันตลกจริงๆ
รถสปอร์ตคันหรูของคริสวิ่งมาตามทางที่เลี้ยวลดคดเคี้ยวบนเขา......ชานยอลค่อยๆเอียงศรีษะไปซบตรงไหล่กว้างของคริสและหลับตาลงช้าๆมันจริงอย่างที่คริสเคยพูดไว้ว่า เมื่อเขาทั้งสองอยู่ด้วยกันชานยอลจะเกิดความรู้สึกว่าไม่อยากให้คริสกลับไปทำงาน......ในตอนนี้เขารู้สึกอย่างนั้น.....ชานยอลอยากจะหยุดเข็มนาฬิกาที่เดินไปข้างหน้าให้เดินช้าลง....หยุดไว้ให้มีแค่เขาสองคนเท่านั้น.....หยุดไว้ในสถานที่ที่มีความสุขและไม่วุ่นวายแบบนี้.....การที่เขาแอบชอบคนดังอย่างคริสจนกลายมาเป็นความรัก....ทั้งเขาและคริสห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้....ตอนนี้คงทำได้แต่เพียงคอยตามแก้ปัญหาต่างๆที่มันกำลังจะเกิดขึ้นมา....
เมื่อรถแล่นมาถึงหน้าบ้านพักที่เงียบสงบ....ทั้งคริสและชานยอลก็เดินจูงมือกันเข้าบ้าน.....อยู่ที่นี่ทั้งคริสและชานยอล
ไม่ต้องแคร์สายตาใครหรือกลัวว่าจะมีใครมาเห็นหรือพบเจอภาพบางภาพ.......เขาสามารถทำอะไรได้อย่างใจที่เขาต้องการจะทำ...
"พรุ่งนี้เราจะกลับโซลกันแล้ว อยากจะกลับช่วงไหน เย็นๆมั้ย" คริสเอ่ยถามชานยอลหลังจากเดินเข้ามาในห้องนอนของเขาทั้งสอง
"กลับเย็นๆก็ดี ช่วงเช้าฉันอยากเล่นน้ำอีก"
ชานยอลยิ้มออกมาบางๆแต่ในแววตาของเขายังเจือปนไปด้วยความกังวลใจกับการแถลงข่าวที่คริสต้องการจะจัดขึ้นเพื่อประกาศให้ทุกคนรู้ว่าทั้งคริสและลียุนฮีไม่มีอะไรต่อกันอีกแล้ว......ชานยอลเกรงว่ามันจะส่งผลให้มีปัญหากับซีรีย์ของคริสและยุนฮี รวมถึงทางผู้จัดอาจจะไม่พอใจที่คริสออกมาให้สัมภาษณ์ดังกล่าว....แต่ชานยอลก็ไม่อยากจะขัดเขาเพราะรู้ดีว่าคริสก็ต้องการจะแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ทั้งเขาและคนทั่วไปได้รับรู้
"เอ่ออ........คริส ....นายจะจัดแถลงข่าวไม่กลัวว่าคุณอาผู้จัดจะ....." ชานยอลเอ่ยถามคริสถึงด้วยความรู้สึกเป็นห่วง
ในใจลึกๆ
"ไม่หรอก .....ฉันออกมาพูดความจริงและเรื่องที่ถูกต้อง อีกอย่างฉันอยากให้คนรอบข้างฉันสบายใจ....โดยเฉพาะนาย"
คริสก้าวเข้าไปประชิดตัวด้านหลังชานยอลพร้อมกับกอดเขาไว้หลวมๆ.....คริสไม่รู้ตัวเองเช่นกันว่าทำไมต้องรักและแคร์ชานยอลมากขนาดนี้คงเป็นเพราะเขาไม่เคยเจอคนแบบชานยอล....ชานยอลเป็นคนดื้อรั้นและสามารถทำลายความเจ้าอารมณ์ของเขาลงได้ชานยอลเป็นเหมือนความอบอุ่นในใจที่ทำลายความเย็นชาและเยือกเย็นของเขาลง......ตั้งแต่ที่เขาเลิกรากับยุนฮีไปคริสก็ไม่เคยมอบความรักให้ใครอีก....คนที่เขามีสัมพันธ์ด้วยเกิดจากความใคร่เท่านั้น.....มันเป็นความสัมพันธ์แค่ทางร่างกายแต่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ซึมลึกลงไปถึงจิตใจอย่างปาร์คชานยอล
"ทำไมฉันถึงรักถึงหลงนายมากขนาดนี้..หืม..ชานยอล"
คริสกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูชานยอลพร้อมๆกับกดปลายจมูกโด่งเป็นสันซุกไซร้ลงมาที่ต้นคอนวลขาวของชานยอลอีกครั้ง คริสหลับตาลงช้าๆเมื่อรู้สึกว่าชานยอลคือคนที่อบอุ่นที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้เรียวแขนแกร่งโอบกอดชานยอลไว้แน่นขึ้นจากเมื่อครู่นี้......
ริมฝีปากได้รูปของคริสจูบที่หัวไหล่ของชานยอลอย่างแผ่วเบา จมูกของเขาพยายามสูดกลิ่มหอมอ่อนๆจากตัวของชานยอลเข้าไปอีกครั้งชานยอลหลับตาลงพร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ......เมื่อคริสมอบสัมผัสที่อ่อนโยนให้เขาแบบนี้....เขาก็มักจะพ่ายแพ้ต่อมันทุกครั้ง....
มือแกร่งของคริสจับไหล่ของชานยอลทั้งสองข้างพลิกเข้ามาหาตัวเขา สายตาคมมองไปที่ใบหน้าเนียนใสของคนตรงหน้า...
พร้อมกับลูบไล้ใบหน้าของชานยอลด้วยฝ่ามือและนิ้วเรียวยาวของคริส.....ดวงตากลมโตของชานยอลก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของคริสเช่นกัน.....ดวงตากลมโตที่ไม่ได้ฉายแววมาดมั่น....แต่กลับมีความรู้สึกกังวลเจือปนออกมาด้วยในบางครั้ง
ผิดกับสายตาที่มุ่งมั่นของคริส.....สายตาที่มั่นคงในความรักและมักจะไม่กลัวกับอะไรทั้งนั้นที่มันกำลังจะเกิดขึ้น...
"สัญญากับฉันได้มั้ยชานยอล.....ว่าเราจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป..."
ชานยอลหวาดหวั่นใจกับคำถามที่คริสถามขึ้นมา......ความรักที่คริสมอบให้เขามันทำให้เขารับรู้ทุกอย่างแล้วแต่หน้าที่การงานของคริสรวมถึงฐานะและทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามี เราทั้งสองแทบจะไม่มีอะไรที่เหมาะสมกันเลยสักนิด...ชานยอลตัวคนเดียวคนที่เค้ารักและรักเค้ามีแค่คนในครอบครัวและเพื่อนฝูงเท่านั้น.......แต่คริสล่ะ....คนรอบตัวเขามีกี่หมื่นกี่แสนคนคนที่อยู่ข้างเขาและรักเขามีมากเกินไป......คริสจะทำยังไงกับคนพวกนั้น....
"นายกลัวเหรอ ......หรือไม่มั่นใจในตัวฉัน" คริสเอ่ยถามกับชานยอลอีกครั้งเมื่อเห็นเขาเงียบไป
"เรื่องทั้งหมดมันเป็นเรื่องของอนาคต.....ถ้าคู่เราโชคดีอย่างคู่ที่ผาขอพรดาว....ฉันจะดีใจมาก"
"ตอนนี้ฉันขอแค่ให้เราสองคนมีความสุขก็พอแล้วคริส"
ชานยอลเอ่ยประโยคพวกนั้นพร้อมกับยิ้มออกมา เขาโอบกอดรอบต้นคอของคริสไว้พร้อมกับแนบใบหน้าลงที่หน้าอก
หนาของคริส......ขอแค่วันนี้และตอนนี้เรามีความสุข ก็พอแล้วคริส.....พอแล้วจริงๆ
คืนนี้อากาศหนาวเย็นกว่าคืนแรก...........หลังจากทั้งคริสและชานยอลอาบน้ำชำระล้างร่างกายเสร็จ เขาทั้งสองก็นอนกอดกันบนเตียงที่แสนอบอุ่น......คริสหยิบหนังสือที่หัวเตียงมาเปิดอ่านช้าๆเนื่องจากเขาเป็นคนชอบอ่านหนังสือ.....ส่วนชานยอลก็ยังคงคลอเคลียที่ข้างไหล่ของคริสพร้อมกับมองหนังสือที่คริสกำลังอ่าน.....
"หนังสือพัฒนาตนเอง" ......
"นายอ่านอะไรพวกนี้ด้วยเหรอคริส......พัฒนาตนเองนี่เกี่ยวกับการพัฒนาด้านอารมณ์หรือเปล่า"
ชานยอลแกล้งเอ่ยถามคริสพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ......บุคลิกลักษณะของคริสดูดีมากแล้วและไม่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม.....สิ่งที่ต้องพัฒนาคือการพัฒนาการควบคุมอารมณ์และจิตใจของเขามากกว่า ชานยอลนึกขำขึ้นมาเมื่อนึกถึงคริสคนเดิมคนที่เคยอารมณ์ร้ายปากร้ายใส่เขา
"ทำไม ด้านอารมณ์ส่วนไหน จะแกล้งอะไรฉันอีก" คริสเอ่ยตอบชานยอลพร้อมกับวางหนังสือลงข้างลำตัวและหันหน้ามาจับจ้องไปที่ใบหน้าของชานยอลคนที่นอนอยู่ข้างๆเขา....
"ก็อารมณ์ขี้หงุดหงิด ขี้โมโหไง ไม่กินอาหารทะเลก็บอกกันดีๆสิ ทำไมต้องขว้างลงพื้น"
เมื่อนึกถึงวันแรกที่เขาเจอกับคริส ชานยอลก็เกิดอารมณ์โมโหบ้างเช่นกัน คริสที่เขาได้ยินมาเป็นคนเจ้าอารมณ์ในบางครั้งแต่เขาไม่คิดว่าคริสจะทำขนาดนี้กับคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก......
"แล้วเป็นแฟนคลับภาษาอะไรไม่รู้ว่าฉันแพ้อาหารทะเล........นี่เวปที่นายเป็นสมาชิกอยู่เขาไม่เคยลงเรื่องนี้เหรอ"
ชานยอลนิ่งอึ้งไปพร้อมกับเบิกดวงตากลมโตขึ้นมา....คริสรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงว่าเขาเป็นสมาชิกในเวปนั้น.....รวมถึง
เรื่องคริสแพ้อาหารทะเล เขาไม่รู้เรื่องแพ้อาหารทะเลจริงๆ.....อาจจะเป็นเพราะว่าข้อมูลบางอย่างเชิงลึกเกินไปและเขาไม่ได้คิดจะสืบค้นก็เป็นได้....
"โธ่เอ้ยยยย แอบชอบฉันแล้วจะซื้ออาหารทะเลมาฆ่าฉันเนี่ยนะ.....นายนี่มัน"
.....คริสแกล้งกำมือและเขกไปที่หน้าผากของชานยอลเบาๆเพื่อแกล้งหยอกเขา.....พร้อมกับยิ้มออกมาบางๆ......ตัวหนังสือแค่ไม่กี่ประโยคบนกรอบรูปนั้นมันก็ทำให้คริสรู้แล้วว่าชานยอลแอบชอบเขามาก่อนที่เขาจะเริ่มสนใจในตัวชานยอล......
"อือ ชานยอล...แต่มีอารมณ์อีกอย่างนะที่ฉันต้องพัฒนา....อาจจะต้องให้นายช่วยฉันพัฒนาบ้าง" คริสพลิกตัวขึ้นมานอนมองคนข้างๆด้วยสายตาเจ้าเล่ห์.....สายตานี้เหมือนชานยอลจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับวันแรกที่คืนหิมะตกโปรยปรายที่บ้านเขา....
"อะ...อา อารมณ์อะไร" ดวงตากลมโตของชานยอลเริ่มเลิกลั่กอีกครั้งเมื่อเห็นแววตาของคริสที่มองมาที่เขา.....
"อารมณ์....แบบนี้ไง" ยังไม่ทันสิ้นประโยคคำตอบจากคริสดี ปากเรียวบางของชานยอลก็ถูกประกบจูบอีกครั้ง.....
คริสโน้มใบหน้าของตนเองลงมาและใช้ปากของตนเองขบเม้มไปที่ริมฝีปากบางของชานยอลอย่างแผ่วเบา.....ในขณะที่ชานยอลกำลังจะถูกล่วงล้ำภายในโพรงปากของเขานั้น....เขาก็ผลักหน้าอกหนาของคริสออกเบาๆพร้อมกับพูดในเชิงห้ามปรามคริส....
"นี่คริส....นาย...พอได้แล้ว...เมื่อกี้.....ไม่เหนื่อยเหรอ" ..... ฝ่ามือเรียวบางของชานยอลยังคงดันที่หน้าอกหนาของคริสไว้และคริสเองก็พยายามขืนตัวเข้ามาหาชานยอลอีกครั้ง.....
"ไม่เหนื่อย.....เมื่อกี้ที่รถฉันไม่ได้ทำอะไรนะ.....ฉันอยู่เฉยๆ......แต่ตอนนี้....ฉันอยากเหนื่อยแล้ว "
ชานยอลกำลังจะอ้าปากต่อว่าคริสอีกครั้งแต่ก็ไม่สามารถส่งเสียงเล็ดลอดออกมาได้เนื่องจากปากเรียวบางของชานยอล
ถูกริมฝีปากของคริสทาบทับลงมาทำให้เขาเปล่งเสียงพูดไม่ได้....มือหนาของคริสยังคงสอดเข้าไปใต้เสื้อบางของชานยอลพร้อมกับลูบไล้มันอย่างเบามือ.....
เกมส์รักที่เพิ่งเกิดไม่นานเมื่อครู่นี้บนรถ ส่อแววว่ากำลังจะดุเดือดขึ้นอีกครั้งภายในห้องนอนของบ้านพักหลังนี้อีกในไม่ช้า.....ชานยอลค่อยๆหลับตาและรอรับสัมผัสที่อ่อนโยนนั้นอีกครั้ง.....
เรียวปากบางของชานยอลถูกเปิดออกด้วยลิ้นเรียวยาวของคริสที่พยายามซุกซนและสอดเข้าไปในโพรงปากของชานยอลเมื่อลิ้นสากของคริสสามารถลุกล้ำเข้าไปได้ เขาก็ตวัดเรียวลิ้นและดูดดุนลิ้นของชานยอลไว้อย่างโหยหา แม้เมื่อครู่เขาทั้งสองจะเพิ่งมีความสุขไป....แต่เรื่องอย่างว่าไม่ใช่อาหารที่จะทานแล้วอิ่มท้องได้ง่ายๆ....ยิ่งเมื่อทั้งคริสและชานยอลอยู่ในบรรยากาศที่เป็นใจและมีเพียงเขาแค่สองคน.....เรื่องบางเรื่องที่เขาไม่สามารถทำมันอย่างเปิดเผยได้ก็มักจะถูกกระทำซ้ำในสถานที่ที่เป็นส่วนตัวแบบนี้......
บทเพลงรักครั้งนี้คริสเป็นคนเริ่มบรรเลงมันขึ้นมาอีกครั้ง ฝ่ามือหนาของคริสค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ของชานยอลออกจากร่างกายช้าๆ....เมื่อครู่บนรถชานยอลเป็นคนบนร่างเขา แต่ตอนนี้คริสพลิกกายขึ้นมาเป็นคนบนร่างของชานยอลแทน...ริมฝีปากและจมูกโด่งเป็นสันของคริสยังคงซุกไซร้บริเวณต้นคอขาวนวลอย่างคนหิวกระหาย......ลิ้นสากลากไล้ไปตามติ่งหูและต้นคอของชานยอลอย่างแผ่วเบา.....จนบางครั้งชานยอลเองก็เผยอปากบางพร้อมกับแสดงใบหน้าที่บ่ง
บอกถึงความสุขออกมา.....หน้าอกของชานยอลกระเพื่อมขึ้นลงช้าๆจากจังหวะการหายใจของเขาที่บางครั้งก็ถี่รัวบางครั้งก็บางเบาจนเหมือนคนอ่อนแรง.....
คริสซุกใบหน้าลงตรงหน้าอกขาวนวลของชานยอลและบีบเคล้นมันอย่างเบามือ.....เรียวลิ้นยาวของคริสบรรจงตวัดลงไปเพื่อสร้างความสุขสมให้กับชานยอล ชานยอลเผลอแอ่นอกตอบรับสัมผัสของคริสที่มอบให้เขา.....สีชมพูของติ่งเนื้อบนยอดอกเวลาที่มันแข็งชูชันก็ท้าทายสายตาให้คริสต้องจับจ้องมันทุกครั้ง.....
เหตุการณ์เดิมเมื่อครู่เกิดขึ้นอีกครั้งเปรียบสเหมือนภาพรีเพลย์กลับไปเพียงแค่เปลี่ยนตัวแสดงจากชานยอลเริ่มบทเพลงแต่ครั้งนี้เป็นคริสเท่านั้น......ร่างสองร่างกำลังขยับเขยื้อนตามจังหวะรักอย่างเร่าร้อนบนเตียงและผ้าปูที่เริ่มยับยู่ยี่สีขาว.....
มือเรียวบางของชานยอลจิกกำผ้าปูแน่นด้วยความเสียวกระสันต์หลังจากที่คริสแทรกกายลงมาทางด้านหลัง ชานยอลคุกเข่าและรองรับการกระทั้นกระแทกนั้นเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า.......เสียงครางของคนทั้งสองยังคงผสมผสานกันอย่างไพเราะและดำเนินต่อไป.....
ทั้งคริสและชานยอลส่งเสียงครางที่บ่งบอกถึงความสุขของคนสองคนที่ต่างรับและยินดีมอบให้กัน......
มือหนาของคริสทั้งสองข้างดึงรั้งสะโพกนวลของชานยอลเข้าหาตัวหลายครั้ง.....เม็ดเหงื่อตามร่างกายของคนทั้งสองเริ่มเกาะพรายไปทั่วร่างรวมถึงที่บริเวณแขนของคริส......รอยสักบนตัวคริสขยับเขยื้อนไปตามจังหวะของเจ้าของร่างที่ถูกเร่งเร้าจากความต้องการของธรรมชาติ
ภายใต้บ้านพักที่ดูอบอุ่นล้วนร้อนระอุไปด้วยแรงสวาทของคนทั้งสองบนห้องนอน......เสียงคลื่นซัดสาดของทะเลถูกกลบทับด้วยเสียงครวญครางและเสียงเนื้อของร่างกายที่บดเบียดและกระทบเข้าหากัน.......บทเพลงรักของคริสและชานยอลดำเนินขึ้นอีกครั้ง....และในไม่ช้าก็จบลงตามความอดทนของร่างกายที่พึงมี....
ในคืนนี้คริสเริ่มต้นที่จะเหนื่อยเองและชานยอลก็ไม่ปฎิเสธคำขอนั้น..............ไม่นานหลังจากทั้งสองถึงฝั่งฝันก็ย่างกรายเข้าสู่ช่วงเวลาพักผ่อน.....ร่างสูงโปร่งของคริสและร่างสูงบางของชานยอลล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มสีขาวด้วยความอ่อนระโหยโรยแรง....วันนี้เขาทั้งสองเสียพลังงานไปมาก......คริสโอบกอดชานยอลไว้พร้อมกับรอยยิ้มละมุนของเขาก่อนที่ทั้งสองจะเข้าสู่ภวังค์และผลอยหลับไปในที่สุด.......................