0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

Secretofsuperstar EP13

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

1    Secretofsuperstar EP13 Empty Secretofsuperstar EP13 Fri Nov 14, 2014 10:02 am

0ctogus

0ctogus
Admin

อากาศภายนอกบนเขาที่มีชื่อว่า"ผาขอพรดาว" เริ่มหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆส่งผลมาจากเมื่อย่างกรายเข้าสู่ช่วงมืดอุณหภูมิภายนอกก็ลดต่ำลง......รถสปอร์ตคันหรูเปิดประทุนมีร่างที่เปลือยเปล่าของคนสองคนที่นอนทาบทับกันตรงเบาะคนขับ

ชานยอลซุกหน้าลงตรงแผงอกหนาของคริสเหมือนเด็กน้อยที่กำลังร้องหาไออุ่น ฝ่ามือหนาของคริสยังคงลูบไล้ไปตามเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนของชานยอลอย่างอ่อนโยน....ชานยอลคนบนร่างเขาตอนนี้คงต้องการพักผ่อนคริสเขย่าแขนของชานยอลเบาๆเป็นเชิงปลุกเพราะเกรงว่าชานยอลอาจจะเหนื่อยจนหลับไป...

"ชานยอล ปาร์คชานยอล....จะนอนบนตัวฉันที่นี่ทั้งคืนมั้ย"

คริสพูดพลางอมยิ้มออกมาเล็กน้อยและดึงเสื้อคลุมที่อยู่ข้างตัวขึ้นมาห่มร่างที่เปลือยเปล่าของชานยอลไว้

"อื้อออ....กลับบ้านกัน อยากนอนแล้ว"

ชานยอลขานตอบคริสช้าๆพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าคมสันที่นอนมองเขาอยู่ในตอนนี้เขาลุกขึ้นมานั่งบนตัวคริสพร้อมกับใส่เสื้อคลุมตัวนั้นคลุมทับร่างไว้.....คริสยังคงนั่งยิ้มและหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับจับจ้องไปที่ใบหน้าของชานยอล......เด็กน้อยของเขาแม้จะดูร้อนแรงเมื่อครู่ แต่เมื่อผ่านไปไม่นานก็ดูเป็นชานยอลคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก

"ยิ้มอะไรนักหนา" ชานยอลถามคริสออกมาในขณะที่เขากำลังใส่เสื้อผ้าของตนเอง


และปีนไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ โชคดีที่แสงสว่างไม่มากพอนัก จึงช่วยระงับความเขินอายให้กับชานยอลได้บ้างในขณะที่เขากำลังจัดการกับร่างเปลือยเปล่าของตนเอง

"เปล่า....แค่มีความสุข ก็เลยยิ้ม" คริสยังคงพูดจาหยอกล้อชานยอล....พร้อมกับแกล้งก้มไปมองที่ใบหน้าของชานยอล
ที่กำลังหลบตาลงเพื่อติดกระดุมเสื้อคลุมตัวนั้น

"ไปเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหน...." สิ้นคำถามของคริสเขาก็เอื้อมมือไปแตะที่แก้มชานยอลเบาๆพร้อมกับหัวเราะขำๆ
ออกมา ชานยอลคนที่ใสซื่อบริสุทธิ์กับชานยอลคนเมื่อครู่นี้เหมือนเป็นคนละคนกัน....หรือจะเป็นเพราะฤทธิ์ของโซจู
ที่เขาทั้งสองดื่มกันออกมาเมื่อครู่

"ถ้าฉันรู้ว่านายจะอำฉัน ฉันคงจะไม่ทำอีกแล้ว" .....ชานยอลทำหน้ากระเง้ากระงอดเมื่อถูกคริสแกล้งมากขึ้น เขาแกล้งมองออกไปข้างนอกและมีท่าทีงอนคริสเล็กน้อย...

"ไม่เป็นไร.......ถ้านายไม่ทำ วันหลังฉันทำเองก็ได้...." ครั้งนี้คริสหัวเราะเสียงดังพร้อมกับเลื่อนมือไปกดปุ่มปิดหลังคารถและเริ่มสตาร์ทรถเพื่อออกตัวไปจากบริเวณนี้.....

ใบหน้าของชานยอลที่ขาวใสมีสีแดงระเรื่อมาแต่งแต้มอีกครั้ง แม้ในความมืดนี้คริสจะมองไม่เห็นแต่ชานยอลเองก็รู้สึกว่าเขาเริ่มมีอาการร้อนผ่าวๆขึ้นมาจากบริเวณใบหน้า......อารมณ์เรื่องอย่างว่าตอนที่กำลังบรรเลงบทเพลงรักกันกลับกลายทำให้เขาทั้งสองลืมความเขินอายไปหมดทุกอย่างแต่เมื่อกลับเข้าสู่บรรยากาศปกติ ชานยอลกลับมีท่าทีเขินอายเหมือนเดิม....ปาร์คชานยอล นายนี่มันตลกจริงๆ


รถสปอร์ตคันหรูของคริสวิ่งมาตามทางที่เลี้ยวลดคดเคี้ยวบนเขา......ชานยอลค่อยๆเอียงศรีษะไปซบตรงไหล่กว้างของคริสและหลับตาลงช้าๆมันจริงอย่างที่คริสเคยพูดไว้ว่า เมื่อเขาทั้งสองอยู่ด้วยกันชานยอลจะเกิดความรู้สึกว่าไม่อยากให้คริสกลับไปทำงาน......ในตอนนี้เขารู้สึกอย่างนั้น.....ชานยอลอยากจะหยุดเข็มนาฬิกาที่เดินไปข้างหน้าให้เดินช้าลง....หยุดไว้ให้มีแค่เขาสองคนเท่านั้น.....หยุดไว้ในสถานที่ที่มีความสุขและไม่วุ่นวายแบบนี้.....การที่เขาแอบชอบคนดังอย่างคริสจนกลายมาเป็นความรัก....ทั้งเขาและคริสห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้....ตอนนี้คงทำได้แต่เพียงคอยตามแก้ปัญหาต่างๆที่มันกำลังจะเกิดขึ้นมา....

เมื่อรถแล่นมาถึงหน้าบ้านพักที่เงียบสงบ....ทั้งคริสและชานยอลก็เดินจูงมือกันเข้าบ้าน.....อยู่ที่นี่ทั้งคริสและชานยอล
ไม่ต้องแคร์สายตาใครหรือกลัวว่าจะมีใครมาเห็นหรือพบเจอภาพบางภาพ.......เขาสามารถทำอะไรได้อย่างใจที่เขาต้องการจะทำ...

"พรุ่งนี้เราจะกลับโซลกันแล้ว อยากจะกลับช่วงไหน เย็นๆมั้ย" คริสเอ่ยถามชานยอลหลังจากเดินเข้ามาในห้องนอนของเขาทั้งสอง

"กลับเย็นๆก็ดี ช่วงเช้าฉันอยากเล่นน้ำอีก"

ชานยอลยิ้มออกมาบางๆแต่ในแววตาของเขายังเจือปนไปด้วยความกังวลใจกับการแถลงข่าวที่คริสต้องการจะจัดขึ้นเพื่อประกาศให้ทุกคนรู้ว่าทั้งคริสและลียุนฮีไม่มีอะไรต่อกันอีกแล้ว......ชานยอลเกรงว่ามันจะส่งผลให้มีปัญหากับซีรีย์ของคริสและยุนฮี รวมถึงทางผู้จัดอาจจะไม่พอใจที่คริสออกมาให้สัมภาษณ์ดังกล่าว....แต่ชานยอลก็ไม่อยากจะขัดเขาเพราะรู้ดีว่าคริสก็ต้องการจะแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ทั้งเขาและคนทั่วไปได้รับรู้

"เอ่ออ........คริส ....นายจะจัดแถลงข่าวไม่กลัวว่าคุณอาผู้จัดจะ....." ชานยอลเอ่ยถามคริสถึงด้วยความรู้สึกเป็นห่วง
ในใจลึกๆ

"ไม่หรอก .....ฉันออกมาพูดความจริงและเรื่องที่ถูกต้อง อีกอย่างฉันอยากให้คนรอบข้างฉันสบายใจ....โดยเฉพาะนาย"

คริสก้าวเข้าไปประชิดตัวด้านหลังชานยอลพร้อมกับกอดเขาไว้หลวมๆ.....คริสไม่รู้ตัวเองเช่นกันว่าทำไมต้องรักและแคร์ชานยอลมากขนาดนี้คงเป็นเพราะเขาไม่เคยเจอคนแบบชานยอล....ชานยอลเป็นคนดื้อรั้นและสามารถทำลายความเจ้าอารมณ์ของเขาลงได้ชานยอลเป็นเหมือนความอบอุ่นในใจที่ทำลายความเย็นชาและเยือกเย็นของเขาลง......ตั้งแต่ที่เขาเลิกรากับยุนฮีไปคริสก็ไม่เคยมอบความรักให้ใครอีก....คนที่เขามีสัมพันธ์ด้วยเกิดจากความใคร่เท่านั้น.....มันเป็นความสัมพันธ์แค่ทางร่างกายแต่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ซึมลึกลงไปถึงจิตใจอย่างปาร์คชานยอล

"ทำไมฉันถึงรักถึงหลงนายมากขนาดนี้..หืม..ชานยอล"

คริสกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูชานยอลพร้อมๆกับกดปลายจมูกโด่งเป็นสันซุกไซร้ลงมาที่ต้นคอนวลขาวของชานยอลอีกครั้ง คริสหลับตาลงช้าๆเมื่อรู้สึกว่าชานยอลคือคนที่อบอุ่นที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้เรียวแขนแกร่งโอบกอดชานยอลไว้แน่นขึ้นจากเมื่อครู่นี้......

ริมฝีปากได้รูปของคริสจูบที่หัวไหล่ของชานยอลอย่างแผ่วเบา จมูกของเขาพยายามสูดกลิ่มหอมอ่อนๆจากตัวของชานยอลเข้าไปอีกครั้งชานยอลหลับตาลงพร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ......เมื่อคริสมอบสัมผัสที่อ่อนโยนให้เขาแบบนี้....เขาก็มักจะพ่ายแพ้ต่อมันทุกครั้ง....

มือแกร่งของคริสจับไหล่ของชานยอลทั้งสองข้างพลิกเข้ามาหาตัวเขา สายตาคมมองไปที่ใบหน้าเนียนใสของคนตรงหน้า...

พร้อมกับลูบไล้ใบหน้าของชานยอลด้วยฝ่ามือและนิ้วเรียวยาวของคริส.....ดวงตากลมโตของชานยอลก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของคริสเช่นกัน.....ดวงตากลมโตที่ไม่ได้ฉายแววมาดมั่น....แต่กลับมีความรู้สึกกังวลเจือปนออกมาด้วยในบางครั้ง
ผิดกับสายตาที่มุ่งมั่นของคริส.....สายตาที่มั่นคงในความรักและมักจะไม่กลัวกับอะไรทั้งนั้นที่มันกำลังจะเกิดขึ้น...

"สัญญากับฉันได้มั้ยชานยอล.....ว่าเราจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป..."

ชานยอลหวาดหวั่นใจกับคำถามที่คริสถามขึ้นมา......ความรักที่คริสมอบให้เขามันทำให้เขารับรู้ทุกอย่างแล้วแต่หน้าที่การงานของคริสรวมถึงฐานะและทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามี เราทั้งสองแทบจะไม่มีอะไรที่เหมาะสมกันเลยสักนิด...ชานยอลตัวคนเดียวคนที่เค้ารักและรักเค้ามีแค่คนในครอบครัวและเพื่อนฝูงเท่านั้น.......แต่คริสล่ะ....คนรอบตัวเขามีกี่หมื่นกี่แสนคนคนที่อยู่ข้างเขาและรักเขามีมากเกินไป......คริสจะทำยังไงกับคนพวกนั้น....

"นายกลัวเหรอ ......หรือไม่มั่นใจในตัวฉัน" คริสเอ่ยถามกับชานยอลอีกครั้งเมื่อเห็นเขาเงียบไป

"เรื่องทั้งหมดมันเป็นเรื่องของอนาคต.....ถ้าคู่เราโชคดีอย่างคู่ที่ผาขอพรดาว....ฉันจะดีใจมาก"

"ตอนนี้ฉันขอแค่ให้เราสองคนมีความสุขก็พอแล้วคริส"


ชานยอลเอ่ยประโยคพวกนั้นพร้อมกับยิ้มออกมา เขาโอบกอดรอบต้นคอของคริสไว้พร้อมกับแนบใบหน้าลงที่หน้าอก
หนาของคริส......ขอแค่วันนี้และตอนนี้เรามีความสุข ก็พอแล้วคริส.....พอแล้วจริงๆ






คืนนี้อากาศหนาวเย็นกว่าคืนแรก...........หลังจากทั้งคริสและชานยอลอาบน้ำชำระล้างร่างกายเสร็จ เขาทั้งสองก็นอนกอดกันบนเตียงที่แสนอบอุ่น......คริสหยิบหนังสือที่หัวเตียงมาเปิดอ่านช้าๆเนื่องจากเขาเป็นคนชอบอ่านหนังสือ.....ส่วนชานยอลก็ยังคงคลอเคลียที่ข้างไหล่ของคริสพร้อมกับมองหนังสือที่คริสกำลังอ่าน.....


"หนังสือพัฒนาตนเอง" ......


"นายอ่านอะไรพวกนี้ด้วยเหรอคริส......พัฒนาตนเองนี่เกี่ยวกับการพัฒนาด้านอารมณ์หรือเปล่า"

ชานยอลแกล้งเอ่ยถามคริสพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ......บุคลิกลักษณะของคริสดูดีมากแล้วและไม่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม.....สิ่งที่ต้องพัฒนาคือการพัฒนาการควบคุมอารมณ์และจิตใจของเขามากกว่า ชานยอลนึกขำขึ้นมาเมื่อนึกถึงคริสคนเดิมคนที่เคยอารมณ์ร้ายปากร้ายใส่เขา

"ทำไม ด้านอารมณ์ส่วนไหน จะแกล้งอะไรฉันอีก" คริสเอ่ยตอบชานยอลพร้อมกับวางหนังสือลงข้างลำตัวและหันหน้ามาจับจ้องไปที่ใบหน้าของชานยอลคนที่นอนอยู่ข้างๆเขา....

"ก็อารมณ์ขี้หงุดหงิด ขี้โมโหไง ไม่กินอาหารทะเลก็บอกกันดีๆสิ ทำไมต้องขว้างลงพื้น"


เมื่อนึกถึงวันแรกที่เขาเจอกับคริส ชานยอลก็เกิดอารมณ์โมโหบ้างเช่นกัน คริสที่เขาได้ยินมาเป็นคนเจ้าอารมณ์ในบางครั้งแต่เขาไม่คิดว่าคริสจะทำขนาดนี้กับคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก......

"แล้วเป็นแฟนคลับภาษาอะไรไม่รู้ว่าฉันแพ้อาหารทะเล........นี่เวปที่นายเป็นสมาชิกอยู่เขาไม่เคยลงเรื่องนี้เหรอ"

ชานยอลนิ่งอึ้งไปพร้อมกับเบิกดวงตากลมโตขึ้นมา....คริสรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงว่าเขาเป็นสมาชิกในเวปนั้น.....รวมถึง
เรื่องคริสแพ้อาหารทะเล เขาไม่รู้เรื่องแพ้อาหารทะเลจริงๆ.....อาจจะเป็นเพราะว่าข้อมูลบางอย่างเชิงลึกเกินไปและเขาไม่ได้คิดจะสืบค้นก็เป็นได้....

"โธ่เอ้ยยยย แอบชอบฉันแล้วจะซื้ออาหารทะเลมาฆ่าฉันเนี่ยนะ.....นายนี่มัน"

.....คริสแกล้งกำมือและเขกไปที่หน้าผากของชานยอลเบาๆเพื่อแกล้งหยอกเขา.....พร้อมกับยิ้มออกมาบางๆ......ตัวหนังสือแค่ไม่กี่ประโยคบนกรอบรูปนั้นมันก็ทำให้คริสรู้แล้วว่าชานยอลแอบชอบเขามาก่อนที่เขาจะเริ่มสนใจในตัวชานยอล......


"อือ ชานยอล...แต่มีอารมณ์อีกอย่างนะที่ฉันต้องพัฒนา....อาจจะต้องให้นายช่วยฉันพัฒนาบ้าง" คริสพลิกตัวขึ้นมานอนมองคนข้างๆด้วยสายตาเจ้าเล่ห์.....สายตานี้เหมือนชานยอลจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับวันแรกที่คืนหิมะตกโปรยปรายที่บ้านเขา....

"อะ...อา อารมณ์อะไร" ดวงตากลมโตของชานยอลเริ่มเลิกลั่กอีกครั้งเมื่อเห็นแววตาของคริสที่มองมาที่เขา.....



"อารมณ์....แบบนี้ไง" ยังไม่ทันสิ้นประโยคคำตอบจากคริสดี ปากเรียวบางของชานยอลก็ถูกประกบจูบอีกครั้ง.....
คริสโน้มใบหน้าของตนเองลงมาและใช้ปากของตนเองขบเม้มไปที่ริมฝีปากบางของชานยอลอย่างแผ่วเบา.....ในขณะที่ชานยอลกำลังจะถูกล่วงล้ำภายในโพรงปากของเขานั้น....เขาก็ผลักหน้าอกหนาของคริสออกเบาๆพร้อมกับพูดในเชิงห้ามปรามคริส....

"นี่คริส....นาย...พอได้แล้ว...เมื่อกี้.....ไม่เหนื่อยเหรอ" ..... ฝ่ามือเรียวบางของชานยอลยังคงดันที่หน้าอกหนาของคริสไว้และคริสเองก็พยายามขืนตัวเข้ามาหาชานยอลอีกครั้ง.....

"ไม่เหนื่อย.....เมื่อกี้ที่รถฉันไม่ได้ทำอะไรนะ.....ฉันอยู่เฉยๆ......แต่ตอนนี้....ฉันอยากเหนื่อยแล้ว "

ชานยอลกำลังจะอ้าปากต่อว่าคริสอีกครั้งแต่ก็ไม่สามารถส่งเสียงเล็ดลอดออกมาได้เนื่องจากปากเรียวบางของชานยอล
ถูกริมฝีปากของคริสทาบทับลงมาทำให้เขาเปล่งเสียงพูดไม่ได้....มือหนาของคริสยังคงสอดเข้าไปใต้เสื้อบางของชานยอลพร้อมกับลูบไล้มันอย่างเบามือ.....

เกมส์รักที่เพิ่งเกิดไม่นานเมื่อครู่นี้บนรถ ส่อแววว่ากำลังจะดุเดือดขึ้นอีกครั้งภายในห้องนอนของบ้านพักหลังนี้อีกในไม่ช้า.....ชานยอลค่อยๆหลับตาและรอรับสัมผัสที่อ่อนโยนนั้นอีกครั้ง.....

เรียวปากบางของชานยอลถูกเปิดออกด้วยลิ้นเรียวยาวของคริสที่พยายามซุกซนและสอดเข้าไปในโพรงปากของชานยอลเมื่อลิ้นสากของคริสสามารถลุกล้ำเข้าไปได้ เขาก็ตวัดเรียวลิ้นและดูดดุนลิ้นของชานยอลไว้อย่างโหยหา แม้เมื่อครู่เขาทั้งสองจะเพิ่งมีความสุขไป....แต่เรื่องอย่างว่าไม่ใช่อาหารที่จะทานแล้วอิ่มท้องได้ง่ายๆ....ยิ่งเมื่อทั้งคริสและชานยอลอยู่ในบรรยากาศที่เป็นใจและมีเพียงเขาแค่สองคน.....เรื่องบางเรื่องที่เขาไม่สามารถทำมันอย่างเปิดเผยได้ก็มักจะถูกกระทำซ้ำในสถานที่ที่เป็นส่วนตัวแบบนี้......

บทเพลงรักครั้งนี้คริสเป็นคนเริ่มบรรเลงมันขึ้นมาอีกครั้ง ฝ่ามือหนาของคริสค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ของชานยอลออกจากร่างกายช้าๆ....เมื่อครู่บนรถชานยอลเป็นคนบนร่างเขา แต่ตอนนี้คริสพลิกกายขึ้นมาเป็นคนบนร่างของชานยอลแทน...ริมฝีปากและจมูกโด่งเป็นสันของคริสยังคงซุกไซร้บริเวณต้นคอขาวนวลอย่างคนหิวกระหาย......ลิ้นสากลากไล้ไปตามติ่งหูและต้นคอของชานยอลอย่างแผ่วเบา.....จนบางครั้งชานยอลเองก็เผยอปากบางพร้อมกับแสดงใบหน้าที่บ่ง
บอกถึงความสุขออกมา.....หน้าอกของชานยอลกระเพื่อมขึ้นลงช้าๆจากจังหวะการหายใจของเขาที่บางครั้งก็ถี่รัวบางครั้งก็บางเบาจนเหมือนคนอ่อนแรง.....

คริสซุกใบหน้าลงตรงหน้าอกขาวนวลของชานยอลและบีบเคล้นมันอย่างเบามือ.....เรียวลิ้นยาวของคริสบรรจงตวัดลงไปเพื่อสร้างความสุขสมให้กับชานยอล ชานยอลเผลอแอ่นอกตอบรับสัมผัสของคริสที่มอบให้เขา.....สีชมพูของติ่งเนื้อบนยอดอกเวลาที่มันแข็งชูชันก็ท้าทายสายตาให้คริสต้องจับจ้องมันทุกครั้ง.....

เหตุการณ์เดิมเมื่อครู่เกิดขึ้นอีกครั้งเปรียบสเหมือนภาพรีเพลย์กลับไปเพียงแค่เปลี่ยนตัวแสดงจากชานยอลเริ่มบทเพลงแต่ครั้งนี้เป็นคริสเท่านั้น......ร่างสองร่างกำลังขยับเขยื้อนตามจังหวะรักอย่างเร่าร้อนบนเตียงและผ้าปูที่เริ่มยับยู่ยี่สีขาว.....

มือเรียวบางของชานยอลจิกกำผ้าปูแน่นด้วยความเสียวกระสันต์หลังจากที่คริสแทรกกายลงมาทางด้านหลัง ชานยอลคุกเข่าและรองรับการกระทั้นกระแทกนั้นเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า.......เสียงครางของคนทั้งสองยังคงผสมผสานกันอย่างไพเราะและดำเนินต่อไป.....

ทั้งคริสและชานยอลส่งเสียงครางที่บ่งบอกถึงความสุขของคนสองคนที่ต่างรับและยินดีมอบให้กัน......

มือหนาของคริสทั้งสองข้างดึงรั้งสะโพกนวลของชานยอลเข้าหาตัวหลายครั้ง.....เม็ดเหงื่อตามร่างกายของคนทั้งสองเริ่มเกาะพรายไปทั่วร่างรวมถึงที่บริเวณแขนของคริส......รอยสักบนตัวคริสขยับเขยื้อนไปตามจังหวะของเจ้าของร่างที่ถูกเร่งเร้าจากความต้องการของธรรมชาติ

ภายใต้บ้านพักที่ดูอบอุ่นล้วนร้อนระอุไปด้วยแรงสวาทของคนทั้งสองบนห้องนอน......เสียงคลื่นซัดสาดของทะเลถูกกลบทับด้วยเสียงครวญครางและเสียงเนื้อของร่างกายที่บดเบียดและกระทบเข้าหากัน.......บทเพลงรักของคริสและชานยอลดำเนินขึ้นอีกครั้ง....และในไม่ช้าก็จบลงตามความอดทนของร่างกายที่พึงมี....

ในคืนนี้คริสเริ่มต้นที่จะเหนื่อยเองและชานยอลก็ไม่ปฎิเสธคำขอนั้น..............ไม่นานหลังจากทั้งสองถึงฝั่งฝันก็ย่างกรายเข้าสู่ช่วงเวลาพักผ่อน.....ร่างสูงโปร่งของคริสและร่างสูงบางของชานยอลล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มสีขาวด้วยความอ่อนระโหยโรยแรง....วันนี้เขาทั้งสองเสียพลังงานไปมาก......คริสโอบกอดชานยอลไว้พร้อมกับรอยยิ้มละมุนของเขาก่อนที่ทั้งสองจะเข้าสู่ภวังค์และผลอยหลับไปในที่สุด.......................

http://0ctogus.forumth.com

2    Secretofsuperstar EP13 Empty Re: Secretofsuperstar EP13 Fri Nov 14, 2014 10:04 am

0ctogus

0ctogus
Admin

อากาศยามเช้าที่แสนสดใส ดวงอาทิตย์เริ่มทำหน้าที่ส่องแสงสว่างไสวทั่วทั้งหาดตามหน้าที่ของมัน..... ลมทะเลเริ่มพัดหอบเอาความเค็มเข้ามาในห้องนอนที่มีร่างของคริสที่นอนเปลือย ท่อนบน ..โชว์รอยสักที่แขนและกล้ามเนื้อเป็นมัดตามแบบฉบับผู้ชายอย่างเขา....ดวงตา คมของคริสหลับสนิทด้วยความอ่อนเพลีย...คงมีแต่ชานยอลที่ยืนเหม่อมองออกไปยัง ท้องทะเลสีฟ้าครามเบื้องหน้า....ร่างสูงบางของชานยอลในชุดเสื้อเชิ๊ตคลุมสี ขาวกางเกงขายาวยืนมองชายหาดที่เงียบสงบอยู่ตรงระเบียงด้านนอก...บรรยากาศรอบ ข้างที่ดูสงบเงียบผิดกับความรู้สึกในใจของเขาที่ไม่รู้สึกสงบดั่งท้อง ทะเล....ความกังวลในใจของชานยอลบ่งบอกให้เขารู้สึกถึงปัญหาบางอย่างที่กำลัง จะเกิดขึ้น....ชานยอลไม่สบายใจเรื่องการแถลงข่าวรวมถึงลางสังหรณ์บางอย่าง ที่คอยดังเตือนให้เขารู้สึกหนักใจลึกๆ....

คริสรู้สึกตัวตื่นขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีร่างบางเคลื่อนไหวอยู่ตรงระเบียงห้อง นอนของเขา....ดวงตาคมหรี่ตาดูเล็กน้อยเมื่อเห็นแผ่นหลังของชานยอลที่กำลัง ยืนมองเหม่อออกไปยังท้องทะเลกว้าง......คริสปรือตามองชานยอลที่ยืนถอดถอนใจ อยู่เบาๆ....เขาค่อยๆพลิกตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนสีขาวพร้อมกับเสยผมของตัว เองช้าๆ....ร่างสูงโปร่งของคริสก้าวเท้าพาร่างไปหยุดยืนอยู่ทางด้านหลังของ ชานยอลพร้อมกับสอดอ้อมแขนแกร่งเข้าไปกอดเอวชานยอลจากทางด้านหลัง....ปลายจมูกโด่งของคริสซุกลงตรงหัวไหล่ของชานยอลอย่างอ่อนโยนพร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวของชานยอลไว้.......


"ตื่นเช้าจังครับคุณผู้จัดการ....อยากไปเล่นน้ำทะเลแล้วเหรอ" ไม่เพียงแต่การกระทำที่อ่อนโยนของคริส แต่มันรวมถึงน้ำเสียงและทุกสัมผัสที่คริสมอบให้กับชานยอลล้วนอ่อนโยนทุก ครั้ง

"คริส....เราจะมีโอกาสมาเที่ยวกันสองคนอีกไหม" แววตาของชานยอลฉายความเศร้าสลดลงเล็กน้อย ดวงตากลมโตหันมามองใบหน้าคมของคนทางด้านหลัง...เขารู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ ถูกที่ต้องกลับโซลในวันนี้...

"อยากมาเมื่อไรเราก็มาได้ นายอยากไปที่ไหนฉันจะพาไปทุกที่" คริสพูดพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนละมุนอย่างเคย อ้อมแขนแกร่งยังไม่คลายอ้อมกอดจากชานยอลกลับโอบรัดแน่นขึ้นทุกครั้งจนชานยอ ลรู้สึกได้....



เช้าวันนั้นหลังจากทั้งคริสและชานยอลเดินจูงมือและเล่นน้ำบริเวณชายหาดที่ เงียบสงบแล้ว ก็เหลือทิ้งไว้แต่เพียงรอยเท้าของคนทั้งสองที่เดินเคียงข้างกันจากตัวบ้านจน ถึงริมหาด.....รอยเท้าของคนสองคนที่หวังไว้ในใจว่าจะเดินเคียงข้างกันไปให้ ไกลที่สุดเท่าที่เขาทั้งสองคนจะทำได้......

รถสปอร์ตคันหรูของคริสเคลื่อนตัวมาเรื่อยๆจนเข้าเขตตัวเมืองและอีกไม่ไกลก็ จะถึงโซล.......เมื่อ 2 วันก่อนชานยอลตัดสินใจโทรเลื่อนคิวทั้งหมดของคริสโดยให้เหตุผลว่าคริสติ ดธุระเรื่องส่วนตัวด่วน....รวมถึงก่อนที่ทั้งคริสและชานยอลจะกลับโซล ชานยอลเองก็จัดแจงโทรนัดกับสื่อหลายสำนักถึงเรื่องงานแถลงข่าวที่คริสต้อง การจะจัดขึ้นเพื่อความบริสุทธิ์ใจระหว่างเขาและยุนฮีงานแถลงข่าวจะจัดขึ้นใน วันพรุ่งนี้ช่วงเช้า สถานที่คือร.ร.หรูแห่งหนึ่งในกรุงโซล......

ช่วงเวลาที่ทั้งคริสและชานยอลอยู่ที่บ้านพักตากอากาศ เขาทั้งสองแทบจะไม่ได้เช็คข่าวตามหน้าอินเตอร์เนทหรือทางสื่อต่างๆเลยเนื่อง จากทั้งคู่ต้องการใช้เวลาด้วยกันให้มากที่สุด.....แต่หลังจากที่ทั้งคริสและ ชานยอลกลับมาถึงที่บ้านของคริสที่โซล....ทั้งสองก็เริ่มเช็คข่าวจนได้รู้ว่า เรื่องที่คริสตัดสินใจจะแถลงข่าวเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว....เพราะสื่อทุกทาง ต่างประโคมข่าวเรื่องที่ยุนฮีให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความรักครั้งที่สอง ระหว่างเธอและคริสจนมีการเขียนข่าวออกไปใหญ่โต....

"ข่าวพวกนี้มันบ้าชัดๆ!!" ..... เสียงสบถของคริสดังขึ้นเมื่อเขาอ่านเจอข้อความใน internet รวมถึงรูปภาพในอดีตของทั้งเขาและยุนฮีก็ถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง

"ฉันไม่เข้าใจว่ายุนฮีจะสร้างข่าวพวกนี้ไปทำไม!" .... สิ้นเสียงพูดคริสก็โยนโทรศัพท์มือถือของตนเองลงไปบนโซฟาพร้อมกับนั่งพัก อย่างอ่อนแรงที่บริเวณห้องโถงด้านล่างของบ้านหลังใหญ่

ชานยอลมองภาพนั้นพร้อมกับลอบถอนหายใจออกมาช้าๆ.....เรื่องระหว่างคริสและยุ นฮีชานยอลสบายใจขึ้นมากแล้วกับคำมั่นสัญญาที่คริสให้ไว้กับเขา รวมถึงอาการของคริสในตอนนี้ดูท่าจะไม่สบอารมณ์อย่างมากที่มีข่าวกับยุนฮี

"พรุ่งนี้ก็แถลงข่าวแล้ว นายใจเย็นๆลงหน่อยนะ" ชานยอลนั่งลงข้างๆคริสพร้อมกับกุมมือหนาของคริสไว้เพื่อให้กำลังใจเขา..หวังว่าเรื่องทุกอย่างจะผ่านพ้นไปโดยดีโดยที่ไม่ติดปัญหาอะไร...

ดวงตากลมโตของชานยอลแม้จะฉายแววความหวาดหวั่นออกมาบ้างและเขาเองก็ตอบมันไม่ ได้เช่นกันว่ามันคือความรู้สึกอะไรชานยอลไม่ชอบสถานที่ที่คนเยอะๆ....แต่ชาน ยอลต้องอยู่เคียงข้างคริสในวันพรุ่งนี้ และต้องทำทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุดในฐานะผู้จัดการส่วนตัวและเป็นกำลังใจให้ คริสในฐานะ"คนรัก"อีกด้วย.....

เมื่อยุนฮีได้รับรู้ว่าคริสจะเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอ และคริสก็มีโทรศัพท์เข้ามาหายุนฮีจำนวนมากเพื่อจะขอสัมภาษณ์และให้ยุนฮีไป งานแถลงครั้งนี้ด้วย....เธอกล่าวปฎิเสธไปโดยที่ไม่ต้องใช้ความคิดไตร่ตรอง ..เนื่องจากยุนฮีเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าข่าวที่เธอให้ไปตอนต้นนั้นเป็นเรื่อง เท็จทั้งหมด...ยุนฮีก็ไม่คิดว่าข่าวของทั้งเธอและคริสจะได้รับความสนใจมาก มายขนาดนี้....ยุนฮีรู้สึกประหลาดใจที่คริสมีความกล้าที่จะจัดงานแถลงข่าว ครั้งนี้และเธอเองก็กังวลในคำตอบของคริสที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า.....

พระอาทิตย์ตกดินและย่างกรายเข้าสู่ช่วงกลางคืนของวัน......อากาศเย็นเริ่มแผ่เข้ามาปกคลุมตัวบ้านไว้อีกครั้งหลังจากขาดความอบอุ่นของแสงแดดที่จางไป....ชานยอลยืนอยู่หน้าห้องนอนของคริสพร้อม กับแก้วนมสดอุ่นๆที่เขาตั้งใจถือมาให้คริสดื่มก่อนนอนอย่างน้อยก็อาจจะทำให้ คริสคลายความตึงเครียดไปได้บ้างสำหรับงานในวันพรุ่งนี้....

เสียงเคาะที่หน้าห้องนอนของคริสดังเบาๆ 2-3 ครั้งก่อนที่คริสจะเปิดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าคมของเขา

"ฉันรู้ว่านายยังไม่นอน...ฉันเลยเอานมอุ่นๆมาให้" ชานยอลพูดพลางยื่นแก้วทรงสูงที่มีนมสดสีขาวให้คริสชายคนรักตรงหน้า

"เข้ามาก่อนสิ..........คืนนี้นายนอนห้องฉันนะ" คริสพูดพร้อมกับคว้าข้อมือบางของชานยอลจูงเข้ามาในห้องนอน คริสหยิบถาดที่มีแก้วนมอุ่นๆวางลงบนโต๊ะเขียนหนังสือใกล้ๆเตียงนอนของเขา พร้อมกับทรุดนั่งลงบนเตียงช้าๆ

"มานั่งตรงนี้สิชานยอล....." คริสใช้ฝ่ามือใหญ่หนาของเขาตบลงบนเตียงข้างๆลำตัวของเขาเมื่อเห็นว่าชานยอ ลยังคงยืนนิ่งอยู่ไม่ไกลจากเขานัก....

ชานยอลก้าวเท้าพาร่างสูงบางของตนเองนั่งลงบนเตียงข้างๆคริส......

"เหนื่อยจังเลยครับคุณผู้จัดการ" ...... น้ำเสียงออดอ้อนของคริสเปรยออกมาในขณะที่เขาโน้มลำตัวมาและนอนลงบนตักของชาน ยอล....มือหนาของคริสโอบบริเวณรอบเอวและซุกใบหน้าหาความอบอุ่นจากตัวของชาน ยอลเหมือนลูกแมวตัวน้อยที่กำลังอ้อนเจ้าของอย่างไรอย่างนั้น....

ชานยอลอมยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อคริสซุกใบหน้าลงที่ช่วงเอวของเขา....

"ชานยอล นายมีพุงด้วยเหรอ" ..... คริสเอ่ยถามชานยอลด้วยน้ำเสียงขำๆพร้อมกับใช้นิ้วเรียวยาวของตนจิ้มลงไปที่ท้องของชานยอล....

"เอานิ้วออกไปฉันจั๊กจี้" .... ชานยอลหัวเราะเบาๆพร้อมกับผลักมือของคริสออกไปจากบริเวณลำตัวของเขา

"อือ ฉันก็ไม่เคยสังเกตเลยนะว่านายมีพุง.....หรือทุกครั้งที่เรามีอะไรกันมันมืดตลอด" ใบหน้าอมยิ้มเจ้าเล่ห์ของคริสยังมีรอยยิ้มและเงยหน้ามองใบหน้าของชานยอลที่กำลังก้มลงมองหน้าเขา...

"เมื่อไรนายจะเลิกแกล้งฉันคริส" ใบหน้าของชานยอลแกล้งหลบสายตาไปเพื่อมองทางอื่น....คริสชอบพูดเล่นและแหย่เขาเสมอ

"ไม่แกล้งแล้วก็ได้.....พรุ่งนี้มีงานแต่เช้า...."

"เข้านอนกันได้แล้วล่ะ......ก่อนนอนก็.....จูบฉันก่อนนอนด้วยนะ" ..... คริสยกนิ้วชี้ของตนเองมาจิ้มบริเวณปากเพื่อเป็นสัญญาณให้ชานยอลรู้ว่าเขา ต้องการให้ชานยอล Goodnight Kiss เขาก่อนที่เราจะเข้านอนด้วยกัน....

ชานยอลยิ้มออกมาด้วยความเขินอาย ...แต่ไม่นานนักชานยอลก็ค่อยๆโน้มใบหน้าของตนเองลงไปทาบทับริมฝีปากของตนเอง บนปากของคริสอย่างแผ่วเบาพร้อมกับหลับตาลงช้าๆ หลังจากที่ชานยอลเงยหน้าขึ้นมาเขาก็ใช้มือของเขาลูบไปที่เส้นผมของคริสอย่าง ทะนุถนอมแม้ผมของคริสจะไม่ได้ผ่านการเซทหรือลงเมคอัพใดๆบนใบหน้า....คริสก็ ยังคงเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่ชานยอลเคยพบเจอมา....ผู้ชายคนที่เขา แอบชอบตั้งแต่แรกเห็นจนกระทั่งวันนี้และความชอบนั้นถูกพัฒนากลายมาเป็นความ รักจวบจนปัจจุบัน.....

คืนนั้นก็เหมือนเช่นทุกคืนที่มีร่างสองร่างของทั้งคริสและชานยอลยังคงนอนกอด ก่ายกันบนเตียงแสนนุ่ม....ผ้าห่มนวมผืนใหญ่ทำหน้าที่มอบความอบอุ่นให้กับ ร่างกายเพื่อปกป้องความหนาวเย็น....แต่ความอบอุ่นภายนอกคงไม่เท่ากับความ อบอุ่นภายในใจของทั้งคริสและชานยอลในตอนนี้.....




รุ่งเช้ามาเยือนพร้อมกับความวุ่นวายบนท้องถนน หนทางที่เต็มไปด้วยรถราและผู้คนหลากหลายสาขาอาชีพที่ต้องทำมาหากินเลี้ยง ชีวิตตนเอง .......จุดหมายปลายทางของทั้งคริสและชานยอลคือโรงแรมหรูที่เขาจองสถานที่ไว้ เพื่อตระเตรียมการแถลงข่าวครั้งนี้โต๊ะแถลงข่าวขนาดยาวมีไมโครโฟนที่พร้อม ใช้งานตั้งอยู่บนนั้น.....ช่อดอกไม้เล็กๆที่ประดับประดาให้บรรยากาศภายใน ห้องดูสดชื่นและไม่ตึงเครียดมากนัก.....

มุมน้ำชา กาแฟ และของว่างสำหรับแขกที่เข้ามาร่วมฟังการแถลงข่าวรวมถึงของทางสื่อได้รับการ ต้อนรับจากพนง.ของร.ร.ที่จัดเตรียมไว้อีกมุมหนึ่งของห้อง.....สื่อหลายสำนัก เริ่มมาเตรียมตัวแต่เช้าพร้อมติดตั้งกล้องรอบริเวณห้องแถลงข่าวและเริ่มคับ คั่งขึ้นเรื่อยๆ

คริสมาในชุดสูทที่สุภาพและเรียบหรูสีดำ เขาก้าวเข้ามาในงานช้าๆพร้อมกับชานยอลคนข้างกายที่เดินตามมาไม่ห่าง นัก....คริสโค้งศรีษะอย่างนอบน้อมให้กับสื่อและแขกต่างๆในงานพร้อมกับพยายาม แสดงใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส...ในงานนี้มีนักข่าวคิมเข้ามาร่วมงานด้วย นักข่าวคิมเป็นสื่อแขนงใหญ่ที่มักจะเป็นคนที่หาข่าวและเก่งทางด้านการล้วง ข้อมูลลับเพื่อเอามาเขียนข่าวเพื่อสร้างชื่อเสียงให้สำนักข่าวของตนเอง จรรยาบรรณของนักข่าวเป็นสิ่งสำคัญแต่นักข่าวคิมเองก็มักจะมองข้ามจุดๆนี้ไป หากเขาได้พบเจอกับข่าวที่เป็นประเด็นใหญ่พอที่เขาจะเขียนมันได้จนลืมนึกถึง บุคคลที่ตกเป็นข่าวว่าจะได้รับความกระทบกระเทือนมากน้อยแค่ไหน



.........เวลาล่วงเลยมาจนถึงช่วงสำคัญของการแถลงข่าว.............

คริสหย่อนกายลงช้าๆบริเวณหน้าไมค์โครโฟน พร้อมกับพูดถามกับนักข่าวว่ามีคำถามไหนที่ต้องการจะรู้หรือทราบเกี่ยวกับ ทั้งเขาและยุนฮีก็สามารถยกมือเพื่อถามคำถามนั้นได้เลย......เขามีเวลาตอบคำ ถามไม่มากนักและที่จัดงานวันนี้ขึ้นเพื่อต้องการหาความยุติธรรมให้กับตนเอง เนื่องจากข่าวบางข่าวไม่มีมูลความจริงและสร้างความเสียหายให้ทั้งเขาและมีผล กระทบต่องานรวมถึงคนรอบข้างเขาด้วย...

"หากมีคำถามอะไรสงสัยก็ถามผมมาได้เลยครับ ผมบริสุทธิ์ใจพอที่จะตอบ" .... คริสพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยโดยมีชานยอลนั่งอยู่ใกล้ๆกับเขา....

"ผมขอถามคำถามแรกครับ" ....นักข่าวท่านนึงยกมือขึ้นพร้อมกับเตรียมเทปในมือเพื่ออัดเสียง

"คุณยุนฮีให้สัมภาษณ์ว่าทั้งคุณคริสและเธอจะกลับมาคบกันอีกครั้ง เป็นความจริงมั้ยครับ"


คริสนิ่งเงียบไปสักพักพร้อมกับยิ้มออกมาบางๆ....

"ผมกับยุนฮีเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้นครับ ตอนนี้เราจบเรื่องทุกอย่างแล้ว"

นักข่าวอีกท่านยกมือขึ้นมาเพื่อขอถามคำถามต่อไป....

"คุณคริสไม่คิดจะกลับไปเริ่มต้นใหม่กับเธอเหรอครับ ทั้งๆที่เธอเป็นคนออกมาให้ข่าวครั้งแรกเอง"

ใบหน้าของคริสยังคงนิ่งเฉยพร้อมกับจับจ้องไปที่ใบหน้าของนักข่าวคนนั้น....

"ผมคงไม่คิดจะกลับไปคบกับยุนฮีอีกหรอกครับ ตอนนี้เราแค่ทำงานร่วมกัน ......และผมก็เป็นประเภทเจ็บแล้วจำ"

สิ้นเสียงพูดของคริสก็มีเสียงอื้ออึงขึ้นมาถึงคำตอบที่ฟังดูเฉือดเฉือนความรู้สึกของลียุนฮีอดีตคนรักของเขา....

"ที่คุณคริสออกมาแถลงข่าวเพราะ....ตอนนี้คุณมีใครอยู่แล้ว คุณไม่ต้องการให้เขาเข้าใจผิดหรือเปล่าครับ" ....

นักข่าวสำนักนึงเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัยและต้องการให้คริสตอบให้ตรงประเด็น.....

ใบหน้าของคริสตกใจเล็กน้อยที่นักข่าวถามขึ้นมาในลักษณะนี้ รวมถึงชานยอลเองก็รู้สึกตกใจกับคำถามนั้น...และกำลังคิดว่าคริสจะตอบว่า อย่างไรกับคำถามครั้งนี้....

"ตอนนี้ผมกำลังดูๆอยู่ครับ ไว้ถ้าผมพร้อม ผมจะออกมาบอก" คริสอมยิ้มขึ้นมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงใบหน้าของชานยอลคนที่นั่งอยู่ข้างๆเขา

ชานยอลส่ายศรีษะในใจเบาๆกับคำตอบของคริส แม้ในใจเขาจะดีใจลึกๆแต่เขาเองไม่ต้องการที่จะให้ใครมาสืบค้นเรื่องราวของคริสให้เป็นหัวข้อข่าวขึ้นมาอีก......คริสเองบางครั้งก็อึดอัดกับความ รักของทั้งเขาและชานยอลที่ต้องคอยหลบๆซ่อนๆและคริสมักจะไม่เป็นตัวของตัวเอง ทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าคนจำนวนมากและมีชานยอลอยู่ข้างๆด้วย

นักข่าวคิมที่รอจังหวะจะตั้งคำถามกับคริสก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาก่อนที่จะชูแขนขึ้นเพื่อขอตั้งคำถามกับคริสบ้าง

"คนที่คุณคริสพูดถึงคือคนใกล้ตัวด้วยใช่มั้ยครับ.....เผลอๆพวกผมอาจจะรู้จักด้วยซ้ำ"

นักข่าวคิมหัวเราะออกมาเบาๆรวมถึงสายตาของเขาก็แกล้งปรายตามองไปทางชานยอ ลที่นั่งอยู่ข้างๆคริสจนชานยอลสังเกตสายตาของนักข่าวคิมได้.....และหลบตาเขา มองไปทางอื่นพร้อมเก็บอาการของตนเองให้มากที่สุด....

สีหน้าที่เรียบเฉยของคริสเมื่อครู่แปรเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำถามของนักข่าว คิมซึ่งตั้งใจทำให้เขาตกใจ....เหตุการณ์ในห้องน้ำของร.ร.วันนั้นย้อนกลับ เข้ามาในหัวสมองของคริส เขาพยายามปรับสีหน้าของตนเองให้เรียบเฉยและเริ่มลงมือแสดงบทบาทของเขาต่อไป

"คำถามนี้ผมขอยังไม่ตอบนะครับ วันนี้ผมต้องการจะมาเคลียร์เรื่องยุนฮีกับผม ส่วนเรื่องของผมกับบุคคลที่สามผมจะรอเมื่อใครคนนั้นของผมพร้อม"

คริสปฎิเสธคำถามไปตามมารยาทรวมถึงใช้ไหวพริบในการตอบคำถามเพื่อหลีกเลี่ยงคำถามที่ดูเป็นการละลาบละล้วงชีวิตส่วนตัวเขาจนเกินไป...

คำถามจากนักข่าวหลายสำนักเริ่มทยอยถามขึ้นมาเรื่อยๆจนเข้าสู่ช่วงท้ายของการ แถลงข่าว....เมื่อจบการแถลงข่าวทั้งสื่อต่างๆรวมถึงแขกในงานต่างพากันเดิน ทางกลับ บางรายออกจากงานแล้วรวมถึงขอถ่ายภาพของคริสไว้เพื่อลงหนังสือและสื่อของตน เองไว้บางส่วน....

ใบหน้าของชานยอลแสดงสีหน้ากังวลใจกับคำถามของนักข่าวคิม....ชานยอลรู้สึกว่า นักข่าวคิมมีข้อมูลบางอย่างที่จะทำให้คริสเดือดร้อน รวมถึงคริสเองก็ไม่ควรที่จะเปิดเผยเรื่องของเขาเพราะเกรงว่าจะกระทบต่องาน ของคริสและครอบครัวคนรอบข้างของทั้งคริสและชานยอลเองด้วย....

หลังจากจบงานแถลงข่าวไปอย่างเรียบร้อยทั้งคริสและชานยอลก็เดินออกมาด้วยกัน ยังลานจอดรถของโรงแรมโดยมีร่างของใครคนนึงเดินตามมาห่างๆโดยไม่ให้คริสและ ชานยอลสังเกตุเห็น...

คริสกดรีโมทเพื่อปลดล็อครถพร้อมกับก้าวเท้าพาร่างสูงเดินตรงไปที่รถโดยมีชานยอลเดินตามมาข้างๆ

"นายไม่น่าพูดเรื่องนั้น" ชานยอลพูดต่อว่าคริสเนื่องจากเขารู้สึกไม่สบายใจ

"ไว้กลับไปคุยกันที่บ้าน" คริสเอื้อมมือหนาของเขาไปเปิดประตูรถ แต่ก่อนที่เขาจะขึ้นรถก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลังจนคริสต้องชะงักและ หยุดเพื่อฟังเสียงนั้น

"แหม.....คุณคริสกับคุณชานยอลดูรีบร้อนกันจังนะครับ" เสียงของนักข่าวคิมพูดทักทายคริสและชานยอล เสียงที่ดูไม่เป็นมิตรและแอบเจือปนเสียงหัวเราะในลำคอของเขา....

"คุณปาร์คชานยอลเป็นผู้จัดการที่น่ารักนะครับ.....ดูเอาใจใส่คุณแล้วคุณก็ดูเอาใจใส่ผู้จัดการคนนี้ดีเหลือเกิน"

"ผิดกับผจก.หลายๆคนที่ผมเห็นคุณคริสอยู่ด้วย ไม่ดูสนิทถึงเพียงนี้"

นักข่าวคิมพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างผู้ที่มีชัยชนะและมีอะไรบางอย่างในใจที่เหนือกว่าคริสในตอนนี้....

ดวงตากลมโตของชานยอลเริ่มเบิกกว้างและตกใจกับคำพูดของนักข่าวคิม....นักข่าวคนนี้ต้องรู้เรื่องอะไรระหว่างเขาและคริสแน่ๆ.....

คริสหันไปตามเสียงและเดินก้าวเท้าเข้าไปประชิดตัวนักข่าวคิมรวมถึงคว้าคอเสื้อนักข่าวคิมขึ้นมาพร้อมกับกระชากเขาเข้าหาตัว

"อย่ายุ่งเรื่องของฉัน!!.....อย่าบังคับให้ฉันเสียมารยาทไปมากกว่านี้!!" แววตาของคริสดุดันขึ้นผิดกับสายตาในงานแถลงข่าวเมื่อซักครู่นี้

ชานยอลรีบเดินตรงเข้าไปห้ามปรามคริสก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้....

"คุณคิม ผมขอโทษแทนคริสด้วยฮะ เขาเป็นคนใจร้อน เอ่อ.....เรื่องที่คุณสงสัยไม่ใช่ความจริงนะฮะ ผมกับเขาเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น"

ชานยอลพูดพร้อมกับโค้งศรีษะหลายครั้งเพื่อขอโทษนักข่าวคิมแทนคริส....

"ฮ่าๆ คุณปาร์คชานยอลน่ารักจริงๆครับ ผมรู้แล้วว่าทำไมคุณคริสถึงดูแลเอาใจใส่คุณมากขนาดนี้"

นักข่าวคิมแสร้งหัวเราะออกมาพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าของชานยอล....ชานยอลเป็น เด็กที่หน้าตาน่ารักสดใสไม่แปลกที่คริสจะแอบชอบผจก.ของตนเอง....หากข่าว เรื่องนี้แพร่สะพัดออกไปจะเป็นยังไงชานยอลดูเป็นคนมารยาทดีทั้งภายนอกและภาย ใน...หากเขากุมความลับนี้ไว้เพื่อเรียกร้องกับอะไรบางอย่างจากชานยอล ชานยอลอาจจะยอมไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทองหรือบางสิ่งบางสิ่งอย่างที่มากกว่า นั้น.......

"คุณคิดว่าผมกลัวคุณเหรอคุณคิม......ในห้องแถลงผมมีมารยาทกับคุณมากแล้วนะ!!"

คริสผลักไปที่หน้าอกของนักข่าวคิมด้วยความโมโห เรื่องระหว่างเขาและชานยอลหากมันจะต้องถูกเปิดเผยออกมา ต้องเป็นจากปากของเขาเองไม่ใช่ปากของนักข่าวที่ไร้จรรยาบรรณอย่างนักข่าวคิม

"คุณคิม ผมขอโทษะนะฮะ แล้วผมจะส่งช่อดอกไม้ไปขอโทษคุณอีกครั้ง ตอนนี้ผมขอตัวก่อน" ชานยอลพูดพลางดึงข้อมือของคริสขึ้นรถและยังคงโค้งให้กับนักข่าวคิมจนนับ ครั้งไม่ถ้วน.....

ชานยอลตัดสินใจขับรถแทนคริสและให้คริสนั่งข้างๆเขาแทน....ในช่วงอารมณ์คุกรุ่นของคริสตอนนี้คงไม่เป็นการณ์ดีแน่ถ้าจะให้คริสขับ......คริสยังคงโมโหและสบถในรถไปตลอดทางที่นักข่าวคิมมายั่วโมโหเขา

"ไอ้นักข่าวไร้จรรยาบรรณ! ฉันนี่แหละที่จะแฉมัน ไม่ใช่มันที่มาแฉฉัน!"

ชานยอลส่ายศรีษะกับความดื้อรั้นของคริสตราบใดที่เขาเป็นนักแสดง ไอดอลอยู่ในวงการสิ่งที่เขาต้องเคารพก็คือสื่อและไม่ควรจะมีเรื่องกับสื่อนี่คือสิ่งที่คริสต้องหลีกเลี่ยงเพราะปลายปากกาของสื่อจะเขียนให้เขาเกิดหรือดับก็ได้

"คริส นายใจเย็นๆหน่อยได้มั้ย" ชานยอลพูดปลอบให้คริสเย็นลงเมื่อรู้ว่าตอนนี้คริสกำลังโกรธมาก

"ปาร์คชานยอล นายกลัวเหรอ นายกลัวว่าเรื่องของเราจะถูกเปิดเผยเหรอ" คริสเอ่ยถามชานยอลพร้อมกับมองหน้าเขาอย่างคนต้องการคำตอบ

"นายจะกลัวทำไม ฉันยังไม่กลัวเลย แต่ไอ้นักข่าวนั่นมัน....โธ่เว้ย!" คริสยังคงมีท่าทีหงุดหงิดเมื่อนึกถึงนักข่าวคิม

"ถ้านายเป็นคนธรรมดา ฉันจะไม่กลัวคริส ฉันจะไม่กลัว แต่นายไม่ใช่ไง นายเป็นคนมีชื่อเสียง ฉันเป็นห่วงนาย เข้าใจไหม!เข้าใจฉันบ้าง!"

ชานยอลโต้ตอบคริสไปบ้างเพื่อต้องการให้เขาหยุดและฟังเหตุผล คริสมักจะใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลของเขาทุกครั้ง...สมองของชานยอลมันตื้อไปหมดในตอนนี้ หากเรื่องของเขาทั้งสองถูกเปิดเผยอนาคตหน้าที่การงานของคริสจะเป็นเช่นไรและ ความใจร้อนของคริสที่มีต่อนักข่าวคิมมักจะส่งผลร้ายต่อตัวเขาเองเสมอ หากพรุ่งนี้มีข่าวที่เสียหายเกิดขึ้นกับคริสอีก คริสจะทำยังไงเมื่อคริสเกิดปัญหาขึ้นชานยอลเองก็จะรู้สึกเสียใจไปด้วยเช่น กัน.....

ตลอดเส้นทางที่ชานยอลขับรถมาทั้งคริสและชานยอลนิ่งเงียบตลอดทาง......ชานยอ ลกำลังใช้ความคิดในการหาทางออกให้กับคริสเพื่อให้คริสได้รับผลกระทบน้อยที่ สุด.....ส่วนคริสเองก็กำลังใช้สมองที่จะหยุดนักข่าวคิมเพราะไม่ต้องการให้ ชานยอลเดือดร้อน...ในเรื่องงานของเขา เขาสามารถเอาตัวรอดได้รวมถึงหากคริสรักใครเขาไม่เคยคิดจะปิดบัง ครั้งนึงเขาเองก็เคยยอมที่จะทิ้งอนาคตไปเพื่อแต่งงานกับยุนฮี.....และครั้ง นี้คริสก็ตัดสินใจแล้วว่าหากไม่มีใครยืนเคียงข้างเขาอย่างน้อยก็มีชานยอลคน ที่เขารักและรักเขายืนเคียงข้างเขาเสมอไป....ทั้งคริสและชานยอลต่างมีความ คิดเห็นของตนเองกันไปคนละทิศคนละทาง...

ซุปเปอร์สตาร์ใจร้อน มุทะลุ ขี้เหวี่ยงจะสามารถหาทางออกของเรื่องนี้ได้หรือไม่......ทางออกที่ดีที่สุด ของเรื่องนี้จะเป็นแบบไหน...คงไม่มีใครล่วงรู้ได้นอกจากพรหมลิขิตของเขาทั้ง สองที่เคยทำให้เขามาพบกัน...และหากพรหมลิขิตของเขาทั้งสองที่ขีดมาจะสิ้นสุด ลง....ใครจะสามารถห้ามมันได้....


END EP13-------------------

http://0ctogus.forumth.com

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ