0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

ทะเลดำ ตอนที่14

4 posters

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

1ทะเลดำ ตอนที่14 Empty ทะเลดำ ตอนที่14 Sat Jul 13, 2013 11:08 am

0ctogus

0ctogus
Admin

ชานยอลไม่เคยคิดฝัน หรือปรารถนาจะใช้ร่างกายตัวเองเข้าแลกกับความสุขของใคร เพราะมันไม่ใช่วิถีและนิสัยของบุตรแห่งเทพเจ้าอย่างเขา  เชื้อสายขององค์เทพผู้สูงส่งย่อมยึดถือเกียรติยศและศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่เหนือชีวิตอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ทำอยู่นี้จึงไม่ต่างอะไรไปจากการฆ่าเขาทั้งเป็น …
 


ร่างโปร่งเอนตัวไปหา ก่อนจะแตะหน้าผากลงกับอีกฝ่ายช้าๆ  ไออุ่นจากหน้าผากที่แตะชนกันไม่อาจให้ความอบอุ่นใจแก่เขา แต่มันกลับทำให้เขาว้าวุ่นใจเพิ่มขึ้นไปอีก เหมือนมันเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนเขาว่าสิ่งที่กำลังจะทำอยู่นี่มันเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่ในความฝันที่ห่างไกลจากกาลเวลา  เมื่อคิดได้ดังนั้นพลันน้ำตาก็ไหลเอ่อออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ชานยอลกระพริบตาถี่ๆไล่น้ำตา ก่อนจะเหลือบตามองอีกฝ่าย แล้วหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า


เหนื่อยแสนเหนื่อยกับการต้องฝืนความรู้สึกตัวเอง


ล้าแสนล้ากับการต้องทำเพื่อคนอื่น


ทรมานเหลือแสนกับการต้องจำยอม


“เป็นอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถาม ความสนุกที่เคยมีถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกอื่นเมื่อเห็นท่าทีที่แปลกไปของคนตรงหน้า ร่างโปร่งเหลือบตามองเพียงเล็กน้อยก่อนจะหลับตานิ่งแล้วตอบคำถาม


“แค่เหนื่อย”  


“ใครทำ” คริสถามด้วยน้ำเสียงที่ยากจะคาดเดาความรู้สึก ก่อนจะประทับริมฝีปากที่หน้าผากสวย ไล่มาที่ปลายจมูกรั้นช้าๆ แล้วหันมาหยอกล้อกับริมฝีปากอิ่ม มือแกร่งประครองใบหน้าอีกฝ่ายเอาไว้ ก่อนจะดูดเม้ม และแลบเลียฉาบน้ำใสไปตามกลีบปาก  แล้วห่อปากดูดดึงริมฝีปากอีกฝ่ายเป็นจังหวะก่อนจะค่อยๆเลื่อนหน้าพรมจูบปลายคางแล้วไล่ไปตามสันกราม ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ใบหูนิ่ม



“หายเหนื่อยมั้ย” ชานยอลลืมตามองสบกับอีกฝ่ายที่ไม่น่าจะหลุดถามแบบนี้ด้วยแววตาแปลกใจ ก่อนจะต้องหลับตาลงเมื่อลิ้นชื้นแฉะที่ร้อนรุ่มตวัดเลียไปตามกกหูก่อนจะกระซิบเสียงพร่า


“คนเดียวที่จะทำให้นายเหนื่อย และหายเหนื่อยได้ คือฉันคนเดียวเท่านั้น ชานยอล”มือแกร่งลูบไล้ไปตามเรียวขาที่เกี่ยวเอวของตน ก่อนจะดึงตัวอีกฝ่ายให้มาแนบชิดกว่าเดิม ในขณะที่มืออีกข้างก็ไล้ไปตามกรอบหน้าของอีกคน ก่อนจะลูบวนไปวนมาที่กลีบปากอิ่มที่แดงเจ่อเพราะรสจูบ


“ไหนบอกว่าจะพิสูจน์ตัวเองไง”เขาพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งตำหนิกึ่งถาม


“อืม”ชานยอลครางรับในคอเบาๆ ก่อนจะหลับตาลงราวกับไม่อยากเห็นภาพตรงหน้า  ลิ้นเล็กๆสีแดงแลบเลียปลายนิ้วอีกฝ่าย ก่อนจะค่อยๆตระหวัดเข้าไปดูดดุนในโพรงปาก   ความร้อนและชื้นแฉะภายในทำให้คริสจินตนาการถึงช่องทางด้านหลัง ในเมื่อโพรงปากยังร้อนรุ่มขนาดนี้แล้วช่องทางนั้นล่ะจะขนาดไหน..



  มือแกร่งลูบแผ่นหลังอีกฝ่าย ก่อนจะสอดมือเข้าไปในกางเกง นิ้วกลางกรีดไปตามรอยแยกของบั้นท้าย ก่อนจะกดลึกเข้าไปในช่องทาง ร่างโปร่งสะดุ้งโหยง หยัดตัวขึ้นด้วยความเสียวซ่าน นิ้วแกร่งที่อยู่ในโพรงปากออกมาก่อนจะเลื่อนไปบีบเค้นบั้นท้ายเนียนนุ่ม  ตากลมปิดลงอย่างข่มอารมณ์อดสูและวาบหวามในใจ ก่อนจะบอกตัวเองซ้ำๆว่าต้องทำเพื่อป้า ทำเพื่อป้าของเขาคนเดียวเท่านั้น  



  ชานยอลข่มความเศร้าในใจก่อนจะเลื่อนมือที่สั่นเทาไปปลดกระดุมเสื้อของอีกฝ่ายออก แล้ววางมือนาบลงกับแผงอกอีกฝ่าย แต่ก็ถูกร่างสูงจับมือไว้เสียก่อน


“เป็นอะไร” อีกครั้งที่คริสเอ่ยถาม เมื่อเห็นความผิดปกติของชานยอลมากขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้านวลส่ายไปมาช้าๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับร่างสูง


“เปล่า”


“แล้วทำไม..”


“ทำต่อสิ”ชานยอลเอ่ยตัดบทก่อนจะเอื้อมมือไปชักนำมือของคริสให้จมลึกเข้าไปในช่องทางของตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมจนโดนจุดกระสันในร่างกาย


“อ๊ะ” ปากอิ่มเผยอออกก่อนจะเผลอเขยิบตัวเข้าหาสะโพกอย่างลืมตัว มือเรียวกดย้ำมือของคริสเข้าไปมากขึ้นอีก จนนิ้วแกร่งจมเข้าไปในช่องทางจนมิด แล้วกดย้ำๆเข้าที่จุดนั้น


“อ้า  อ๊า ขะ  ขยับสิ” ชานยอลพูดเสียงพร่าเมื่อคริสยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง ในขณะที่มือเรียวอีกข้างก็เลื่อนไปลูบไล้ตามแผงอกของอีกฝ่าย  ก่อนจะใช้ปากครอบครองช่วยปรนเปรอให้ร่างสูง  นิ้วเรียวลูบวนที่ติ่งไตอีกข้าง แต่ยิ่งสัมผัสอีกฝ่ายนานเท่าไร มือเรียวก็สั่นระริกมากขึ้นเท่านั้น จนคริสที่ลอบมองอยู่นึกแปลกใจ ตาคมกริบเหลือบมองเสี้ยวหน้าที่เต็มไปด้วยความขมขื่นจนพร้อมจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ ก่อนจะชักมือที่ช่องทางด้านหลังออกมา แรงพิศวาสและรัญจวนใจพลันหายไปเสียดื้อๆ


“พอได้แล้ว” ชานยอลช้อนตามองเพียงแวบหนึ่งเท่านั้นที่ร่างโปร่งดีใจ แต่ฉับพลันนั้นก็เปลี่ยนมาตกใจเมื่อคิดถึงว่าสิ่งที่ทำอยู่นี่อาจส่งผลให้คริสทำดีกับป้าเขามากขึ้นก็ได้ แล้วถ้าหยุดมันอาจทำให้ทุกอย่างกลายเป็นเหมือนเดิม...


“ทำไม”


“ถ้ามันลำบากมากนัก ก็ไม่ต้องทำ เห็นแล้วฉันรำคาญ” ร่างสูงว่าก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืน เตรียมจะเดินออกไปจากห้อง ชานยอลมองตามอย่างชั่งใจ ณ ชั่ววินาทีหนึ่งที่อยากให้คริสออกไป แต่อีกใจก็ไม่อยาก เพราะยังรู้สึกไม่ไว้ใจว่าคริสจะยอมทำตามอย่างที่ปากว่าไว้รึเปล่า  ตากลมมองแผ่นหลังที่ห่างออกไปเรื่อยๆ ก่อนจะค่อยๆหลับตาลงช้าๆ


“ฉันเต็มใจ” คริสหันมาเตรียมจะพูดต่อ แต่ก็ถูกหยุดด้วยการกระทำของร่างโปร่ง...


ชานยอลถอดเสื้อผ้าตัวเองออก...


เสื้อผ้าค่อยๆตกลงบนพื้นทีละชิ้น ทีละชิ้น จนไม่เหลืออะไรเลย...


“ทำบ้าอะไร”คริสถามขึ้นขณะที่ตาคมมองเรือนร่างเปลือยเปล่าของคนตรงหน้าที่ไม่ได้ดูน่าพิศวาสแต่ดูน่าสงสารเสียมากกว่า...


“พิสูจน์ตัวเอง”


“ฉันบอก....”


“ขอร้องล่ะ ทำให้มันจบๆไปที”น้ำเสียงอ้อนวอนที่เหนื่อยล้าและเจ็บปวดถูกเอ่ยออกมาจากปากของคนที่เข้มแข็งและหยิ่งทะนงมาตลอดในสายตาคริส หากแต่ตอนนี้เบื้องหน้าของเขากลับมีแต่เด็กหนุ่มที่เปราะบางใกล้จะบุบสลายอยู่รอมร่อ



  ร่างสูงหลับตานิ่ง รับรู้ได้ทันทีว่าชานยอลรักป้าคนนั้นมากแค่ไหน แล้วก็คงจะไม่ยอมหยุดการกระทำที่ว่านี่จนกว่าเขาจะสนองตอบแล้วทำให้มันเสร็จสิ้นไป ดังนั้นหนทางเดียวที่จะหยุดสภาพอันน่าอดสูและหดหู่นี่ได้คือให้ร่างโปร่งพิสูจน์ตัวเอง



“งั้นก็ทำให้มันจบๆ” ร่างสูงอุ้มชานยอลวางลงบนเตียง เรือนร่างที่เคยอยากทำลาย วันนี้กลับทำให้รู้สึกอยากทะนุดถนอมแปลกๆ ตากลมสบตากับเขาเล็กน้อย ก่อนจะหลุบตามองต่ำ   ในขณะที่มือเรียวค่อยๆช่วยปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาออกไป ก่อนจะผลักให้เขานอนราบลงกับเตียง แล้วนั่งคร่อมอยู่เหนือสะโพกของเขา มือแกร่งลูบไล้ไปตามสัดส่วนต่างๆ ก่อนจะไล่นิ้วไปตามโครงหน้าของคนด้านบน


“ฉันเกลียดนายชานยอล เกลียดที่นายเป็นแบบนี้” ปากหนากระซิบข้างหูก่อนจะลากไปตามลำคอ พร้อมกับยืดขบกัดและดูดเม้มผิวเนื้อนวลเนียนให้ขึ้นสีระเรื่อ ในขณะที่มือแกร่งก็สาละวนอยู่กับโคนขาอ่อนและสะโพกกลมกลึงของอีกฝ่าย โดยทุกจังหวะที่ลากผ่าน ทุกสัมผัสที่ตีตรา แรงสั่นน้อยๆของร่างข้างใต้ก็จะส่งผ่านมาถึงเขา ร่างสูงรู้ดีว่าตอนนี้ชานยอลกำลังรู้สึกยังไง ทั้งกลัว ทั้งรังเกียจ แต่ก็ไม่อาจสั่งให้เขาหยุดทำ...




           ลิ้นเปียกชื้นของคริสแตะเบาๆที่ยอดอก อะไรบางอย่างทำให้เขาไม่อยากทำอะไรรุนแรง  ร่างสูงห่อปากดูดดึงยอดอกจนแดงก่ำและชูชัน ส่วนด้านล่างก็ใช้มือไล่ลึกเข้าไปตามซอกขา ร่างโปร่งเผลอแอ่นตัว ชันขาขึ้นรับสัมผัสตามสัญชาตญาณก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปในโพรงปากตัวเองเพื่อระงับอารมณ์เสียวซ่าน ฟันคมขบกัดนิ้วตัวเองจนแดง ความกระสันร้อนรุ่มไหลพล่านไปทั่วร่าง



        คริสโน้มหน้าประกบปากจูบ ชานยอลหลับตาข่มอารมณ์ ก่อนจะค่อยๆแลกรสจูบกับร่างสูงผ่านปลายลิ้น ความร้อนจากโพรงปาก และความชื้นจากน้ำใสไหลแลกส่งต่อให้แก่กันและกันเนิ่นนาน โดยปราศจากความรุนแรงและจาบจ้วงอย่างที่เคยได้สัมผัส



         ชานยอลจำใจค่อยๆวางมือลงบนตัวอีกฝ่าย ก่อนจะลูบไล้ไปตามกล้ามเนื้อได้รูป ปากอิ่มก้มลงเลียสะดือ ก่อนจะลากลิ้นไปตามไรขนอ่อนตรงท้องน้อยของร่างสูง ก่อนจะค่อยๆรับเอาส่วนนั้นมาไว้ในโพรงปาก เหมือนดังครั้งแรกที่เขาเคยมีอะไรกับร่างสูง....



      เหมือนแผลที่หายถูกทำให้เจ็บใหม่อีกครั้ง เหมือนความทรงจำอันเลวร้ายกลับมาหลอกหลอนให้เสียขวัญอีกครั้ง แต่ถึงกระนั่นเขาก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อตัวเขาเป็นคนเลือกหนทางนี้เอง...



      ชานยอลหลับตานิ่ง พยายามซ่อนน้ำตาแห่งความอับอายและเหนื่อยล้าของตัวเองเอาไว้หลังการกระทำแสนรัญจวนใจนี่ มือเรียวเอื้อมไปประคองโคนส่วนนั้นของร่างสูงเอาไว้ ก่อนจะกดหน้าต่ำลงเพื่อรับเอาส่วนนั้นเข้าไปมากขึ้น  แล้วเริ่มขยับปากดูดเม้มและโลมเลียมันช้าๆ  มือแกร่งสอดมือเข้าไปขยุ้มผมนุ่มของอีกคนเพื่อระบายอารมณ์ ก่อนจะหลับตาเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัส แต่การปรนเปรอไปได้เพียงครู่ ร่างสูงก็ลืมตาขึ้น เมื่อรู้สึกได้ว่าสัมผัสนี่มัน.......ซังกะตาย


เหมือนคนทำถูกบังคับ


เหมือนคนทำต้องจำใจ


เหมือนคนทำกำลังเศร้าใจที่ต้องทำ...




     คริสตระหวัดตัวชานยอลให้ลงมานอนอยู่ใต้ร่าง ก่อนจะตามขึ้นไปทามทับ ดวงตากลมโตมองมาที่เขาอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่ร่างสูงจะเอ่ยตอบไปด้วยประโยคที่เขาเองยังไม่มั่นใจว่ารู้สึกอย่างนั้นจริงมั้ย...



“เห็นแล้วรำคาญ” ร่างสูงทาบทับลงมามากกว่าเดิมจนส่วนกลางลำตัวของทั้งสองสัมผัสกัน ร่างโปร่งสะดุ้งเล็กน้อย ปากหนาจูบปลายคางไล่มาถึงซอกคอ ในขณะที่มือแกร่งบีบคลึงสะโพกมน พร้อมกับถูไถส่วนกลางลำตัวเข้ากับส่วนอ่อนไหวของชานยอล


“อ๊า  อื้อออ”ชานยอลพยายามกลั้นเสียงคราง เพราะกลัวว่าป้าของเขาจะได้ยิน เขาไม่อยากให้คนที่รักที่สุดรับรู้เรื่องน่าอัปยศอดสูนี่ของเขา และไม่อยากให้มาเห็นสิ่งที่ลูกแท้ๆของเธอกับเขากำลังทำ...



            มือแกร่งสอดประสานกับมือเรียวแน่น ก่อนจะถูไถส่วนนั้นถี่ขึ้น ในขณะที่มืออีกข้างก็เลื่อนมารูดรั้งส่วนนั้นของชานยอล เร่งให้ความต้องการโหมพัดกระพือมากขึ้น



“อื้ออ”ชานยอลเม้มปากแน่น นึกโทษตัวเองที่เผลอครางออกมาอีกแล้ว ก่อนจะหลับตาลง ไม่อยากเห็นการกระทำของเขากับร่างสูง ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้าสู่จิตใจ ทั้งเสียใจ ทั้งอึดอัดมากจนหยาดน้ำตาแทบจะไหลออกมาอยู่รอมร่อแต่ก็ทำไม่ได้ เขาเป็นคนเลือกหนทางนี้เอง เขาจะเสียใจไม่ได้ จะไม่ร้องไห้ให้กับการกระทำของตัวเองเด็ดขาด...


“นายมันน่ารำคาญ” ชานยอลสบตากับร่างสูงที่จู่ๆก็พูดประโยคนั่นขึ้น ก่อนจะหลับตาลงเมื่อคริสจูบไปตามสันกรามของเขาหัวใจดวงน้อยวูบไหว เมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้จากคนคนนี้...



   ตากลมมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่คริสจะตอบด้วยน้ำเสียงรำคาญเล็กน้อย แล้วก้มลงซุกไซร้ซอกคอของเขา ทำราวกับเมื่อครู่ไม่ได้พูดอะไรออกมา หากแต่ถ้อยคำนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหูของชานยอล...



ฉันไม่ได้ห่วงนาย


“อ๊ะ!”ชานยอลไม่มีเวลาทบทวนนานกว่านั้น  เมื่อจู่ๆคริสก็กดนิ้วที่ส่วนปลายส่วนนั้นแล้วรูดรั้งเร็วขึ้น


“อย่าคิดเรื่องอื่นตอนกำลังมีอะไรกันได้มั้ย โพไซ...” คริสชะงักคำพูดจู่ๆก็รู้สึกไม่อยากพูดทำร้ายจิตใจของชานยอลขึ้นมา หากแต่มันช้าไปเสียแล้ว...


“ใช่ โพไซดอนไม่ได้สอน”ชานยอลต่อท้ายคำพูดที่คริสเคยพูดกับเขาเมื่อครั้งแรกที่ทำเรื่องแบบนี้ด้วยเสียงที่เจือไปด้วยความเศร้าและอิดโรย  ใบหน้านวลเหยเกด้วยความเสียใจระคนเสียวซ่านจากเบื้องล่าง



  คริสมองคนใต้ร่างด้วยแววตาไม่สื่ออารมณ์ ก่อนจะพลิกตัวชานยอลให้หันหลังให้ตัวเอง



“ฉันเบื่อหน้าเศร้าๆของนายเต็มทน” คริสพูดไปทั้งๆที่ก็ไม่มั่นใจว่าเบื่อที่จะเห็น หรือกลัวที่จะเห็นกันแน่...



      มือหนายังคงปรนเปรอให้ร่างโปร่งในขณะที่อีกข้างก็เคล้นคลึงบั้นท้ายเต่งตึง ก่อนจะลงลิ้นที่ช่องทางสีสดที่เผยล่อสายตาคม ชานยอลกัดปากแน่นเมื่อลิ้นของคริสสอดเข้ามาด้านในตัวเอง ปลุกเร้าให้ร่างกายเรียกร้องราคะมากยิ่งขึ้น จนช่องทางด้านหลังเต้นตุ้บๆ พร้อมกับมือแกร่งที่รูดส่วนอ่อนไหวเร็วขึ้นอีกในขณะที่ด้านหลังก็ตะหวัดลิ้นพรมจูบและดูดเม้มช่องทางของเขาจนสะโพกมนส่ายร่อนไปมา ใบหน้านวลซบลงกับหมอน พร้อมกับขยุ้มผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ มันสุขสมเกินไป เสียวซ่านและร้อนรุ่มเกินไป เกินกว่าจะต้านทานความต้องการได้…


“อื้อออออ”ชานยอลครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างสูงเร่งการปลุกเร้าทั้งสองทางให้รุนแรงและเร่าร้อนมากขึ้นอีก  ลิ้นร้อนกวาดไปตามผนังเนื้อชื้นแฉะ ส่วนมือก็หมุนวนที่ส่วนปลาย พร้อมกับรูดเร็วขึ้นไปอีกจนน้ำใสไหลเยิ้มออกมาจากปลาย  



“แฮ่ก อ๊ะ อ๋า มะ ไม่ไหว คะ.. คริส”ชานยอลครางไม่เป็นศัพท์ ก่อนจะหลับตาแน่นเมื่อร่างกายปลดปล่อยความสุขออกมา ขาเรียวทรุดฮวบลง มือแกร่งรีบคว้าเอวเข้ามากอดเอาไว้ แผ่นอกที่แนบกับแผ่นหลังอีกฝ่ายทำให้รู้ว่าคนในอ้อมกอดกำลังหายใจแรงอย่างหนักหน่วง ดวงตากลมโตที่มักจะโกรธเคืองและจ้องหาเรื่องเขาทุกครั้งกลับดูอ่อนแรง และอิดโรยราวกับกิจกรรมที่ทำอยู่นี่สูบพลังชีวิตของเขาไปจนหมด
         



        ชานยอลเอี้ยวตัวมาหาเขา ภาพที่เห็นทำเอาหัวใจที่แสนเย็นชาของคริสวูบไหว เด็กผู้ชายที่บอบบางใกล้แตกหักคนหนึ่งกำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาเหมือนนักโทษที่ถูกจับตัวผิดกำลังรอเวลาประหาร ดวงตานั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ท้อแท้ และเศร้าโศกอย่างที่คริสไม่เคยพบเจอแม้กระทั่งวิญญาณที่ถูกขังอยู่ในทาร์ทารัส



“ทำต่อสิ”ชานยอลเอ่ยเร่งทั้งๆที่สภาพตอนนี้แม้แต่แรงจะขยับยังแทบไม่มี  คริสไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นราวกับกลัวว่าถ้าตัวเองปล่อยไป ร่างร่างนี้จะระเหยไปกลับอากาศธาตุ


“อยู่เฉยๆ”คริสสั่งชานยอลที่กำลังจะเลี้ยวมามองเขาหยุดการกระทำ ตากลมหลุบมองเนื้อตัวตัวเองก่อนจะเหลือบไปมองคราบสีขาวขุ่นที่อยู่บนผ้าปูที่นอน พลันน้ำตาก็ลื่นไหลปริ่มขอบตา ครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งนั้น แต่มันร้ายแรงกว่า เจ็บปวดและน่าอดสูมากกว่า...


เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้น...

เป็นเพราะเขาเอง…



ชานยอลเงยหน้าขึ้นไล่น้ำตาออกไป ก่อนจะควบคุมอารมณ์ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม แล้วจึงเอ่ยถามร่างสูงอย่างสงสัย



“ทะ ทำไม ไม่ทำต่อล่ะ เรายัง....”คำพูดทั้งหมดถูกกลืนหายไปด้วยกลีบปากหนา รสจูบที่เบาบางหากแต่อ่อนหวานและไร้การจาบจ้วงประทับอยู่ที่กลีบปากอิ่มอยู่สักพักหนึ่งก่อนจะจางหายไปพร้อมกับไออุ่นที่โอบกอดเขาไว้


“ออกไปได้แล้ว”ชานยอลช้อนตามองคนที่ยืนหันหลังและกำลังใส่เสื้อผ้าอย่างไม่เข้าใจ   คนอย่างคริสน่ะหรือจะปฏิเสธการย่ำยีเขา....เป็นไปไม่ได้หรอก


“แต่...”


“นายจะออกไปดีๆ หรือต้องให้ฉันไปตามป้าของนายมาพานายออกไป”


“ก็ได้ แต่นาย....จะทำตามที่บอกไว้ใช่มั้ย” คริสพยักหน้ารับ ก่อนที่รอยยิ้มจริงใจจะถูกวาดขึ้นที่กลีบปากอิ่ม จากนั้นร่างโปร่งบางก็ลุกขึ้นแต่งตัวแล้วออกจากห้องไป โดยทิ้งท้ายคำพูดสั้นๆเอาไว้...คำพูดที่คริสไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต


“ขอบคุณนะ”คริสมองตามร่างที่หายลับไปสู่ความมืดก่อนที่บานประตูจะตัดขาดพวกเขาทั้งสองออกจากกัน


“ทำไมท่านถึงปล่อยไป”เสียงโอฟิอุสถามขึ้นเมื่อทั้งห้องเหลือเพียงเจ้านายของเขา คริสเหลือบมองมือตัวเองด้วยแววตาราบเรียบ พลางคิดไปถึงตอนที่เขาคว้าร่างนั้นมากอดเอาไว้  นั่นคือสัญชาตญาณใช่มั้ยที่สั่งให้เขาเผลอช่วยชานยอลเอาไว้ แต่หากนั่นคือสัญชาตญาณแล้ว จริงๆแล้วลึกๆในใจของเขาก็กำลังเป็นห่วงชานยอลอยู่อย่างนั้นหรือ...


“ฉันไม่รู้”  ใช่ เขาไม่รู้ ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ปล่อยไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาได้รู้เพิ่มจากชานยอลคือ....


เขาเกลียดที่ชานยอลเสียใจ

และยิ่งเกลียด เมื่อรู้ว่าตัวเอง...




กำลังเป็นห่วงอีกฝ่ายอยู่

http://0ctogus.forumth.com

wanirpc

wanirpc

ฮือๆๆๆๆๆสงสารชานยอลที่เอาตัวเข้าแลก
กับการไม่ให้คริสทำร้ายป้าหรือแม่ของเขาเอง
แต่อย่างน้อยครั้งนี้ชานยอลก็ยังได้รับการ
ปฎิบัติที่โอนโยนกว่าครั้งแรกที่เคยได้รับ
ครั้งนี้คริสอ่อนโยนลงไปมากๆจริงๆด้วย

https://www.facebook.com/profile.php?id=100001127107507

Oomim



ถ้าอีพี่คริสรู้ความจริงคงจะรักชานยอลมากๆ

RainbowKY



แง้ ชอบ ชอบมาก ชอบที่สุด เหมือนชานยอลเป็นของๆ พี่คริสคนเดียวเท่านั้น คำพูดพี่คริสแบบ ฮืออออ อยากได้ คนอื่นไม่มีสิทธิ์ทำให้ชานยอลเสียใจ ไม่มีสิทธิ์มาทำให้ชานยอลร้องไห้ นอกจากพี่คริสคนเดียวเท่านั้น แง แงงงงงงง
แล้วนี่คือแบบอ่อนโยนกะเค้ามากให้ตายเหอะ ยอมไม่ทำอะไรเลยด้วย. แค่ให้ขานยอลเสร็จ แง้ โอ๊ย. เขินนนนนนนน ฟหด่ววว่เพำไำำะ่่กกห

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ