0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

My Alyssa Part1

2 posters

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

1My Alyssa Part1 Empty My Alyssa Part1 Tue Jan 28, 2014 12:25 am

0ctogus

0ctogus
Admin

เรื่องราวของเขามันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหนเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่กว่าจะรู้ตัวอีกที ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนเข้ามาทักทายหัวใจดวงน้อยๆเสียแล้ว เมื่อยามที่ดวงตากลมโตคู่นั้นเผลอไปเห็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา ตัวสูงคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในโรงเรียนด้วยท่าทางรีบร้อนเพราะใกล้จะเข้าเรียนแล้ว ณ วินาทีนั้นหัวใจของเขาก็สั่นไหว คำว่ารักแรกพบ เข้ามาในชีวิตของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว
     


   สิ่งแรกที่นึกถึงตอนนั้นคือ อยากรู้จักผู้ชายคนนี้ อยากรู้ชื่อ อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร และอยู่ชั้นอะไร เขาถามเพื่อนที่อยู่โรงเรียนนี้มาก่อน ก่อนจะได้ความว่าผู้ชายที่เห็นคือ รุ่นพี่คริส หรืออู๋อี้ฟาน คนดังประจำโรงเรียน ที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและฐานะ สาวๆทั้งหลายคลั่งไคล้แทบทั้งโรงเรียน แถมเจ้าตัวก็มนุษย์สัมพันธ์ดีเลิศจนเข้าข่ายว่าเจ้าชู้มาก ทั้งเที่ยวผับ เคล้าสุรา นารีไม่ซ้ำหน้ากันแทบทุกวัน ดังนั้นหากจะเรียกว่าเพล์บอยด์ก็คงจะไม่ผิดอะไรนัก
 


  ตอนที่รู้ข้อมูลที่กระเดียดไปทางเสียของอีกฝ่ายเขาเองก็อึ้งไปเหมือนกัน และยังหวังอยู่ลึกๆว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่คนแบบนั้น เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงจะต้องใจสลายแน่ เมื่อรักแรกกลายเป็นอย่างนั้น แต่ไปๆมาๆกลับกลายเป็นว่าความรู้สึกของเขาไม่เคยลดลง ซ้ำร้ายมันยังเพิ่มขึ้นมากขึ้นทุกๆวันอีกต่างหาก



   จากที่แค่แอบชอบ แอบมองอยู่ห่างๆ ใจเต้นอยู่ไกลๆที่เจอ กลับค่อยๆเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ ถูกบ่มเพาะกลายเป็นเมล็ดของความรักงอกงามผลิใบอยู่ในหัวใจดวงน้อยๆโดยมีเจ้าตัวเป็นคนดูแลมันอย่างดี จนมั่นใจแล้วว่ารักแรกคนนี้คือรักสุดท้ายของเขา เขาจะไม่ยอมมีใครอีกเด็ดขาด หัวใจดวงน้อยๆขอสัญญา



   ความรู้สึกที่หล้นปรี่ของเขาถูกระบายออกโดยการสนใจข้อมูลทุกอย่างของอีกฝ่าย ทั้งเรื่องกีฬาที่ชอบ ตารางเรียน โต๊ะที่นั่งในห้อง กลุ่มเพื่อนสนิท ของที่ชอบกิน ตลอดจนเรื่องครอบครัวของคริส อีกฝ่ายมีพี่สาวอยู่อีกหนึ่งคน ชื่ออลิซ กำลังเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ แล้วยังเรื่องที่ไม่อยากจะรับรู้แต่ก็ต้องรู้จนได้อย่างเรื่องชอบไปเที่ยวที่ไหน ผับที่ไปประจำชื่ออะไร คนควงล่าสุดอยู่ตอนนี้ชื่ออะไร ทำให้บางครั้งการใส่ใจในตัวอีกฝ่ายมากๆก็ทำให้ทั้งมีความสุขและเศร้าไปพร้อมๆกันได้



      ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาพยายามทำให้อีกฝ่ายสนใจเขาด้วยทุกวิธีที่คนเรียบร้อยอย่างเขาจะคิดออกได้ ทั้งตั้งใจเรียนให้เก่ง  ดูแลตัวเองให้ดูดีขึ้น ทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เขาคนนั้นหันมามองตัวเองบ้าง แต่เปล่ารุ่นพี่คนนั้นก็ไม่เคยหันมามองเขาเลย ไม่เคยเลยสักครั้ง ต่อให้เขาแทบจะเดินชนอยู่แล้วก็ตาม แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็ยังพยายาม พยายามในแบบวิธีของเขา เพราะเขาไม่มีความกล้าที่จะเดินเข้าไปเสนอตัว ทำอย่างคนอื่นที่พร้อมพลีกายให้อีกฝ่าย เขาไม่ใช่คนอย่างนั้น



      แต่แล้ววันหนึ่งสวรรค์ก็ดูจะเล่นตลกกับเขาเสียอย่างนั้น เมื่อพ่อกับแม่จะส่งเข้าไปเรียนต่อต่างประเทศ ถ้าไปนานแค่เดือนเขายังพอทำใจได้ แต่นี่เขาจะต้องไปนานถึงสิบปี สิบปีที่จะไม่เจอรุ่นพี่คริส สิบปีที่จะต้องจากกัน ถึงคริสจะไม่ได้มารับรู้ มาเสียใจกับการจากลาครั้งนี้ แต่เขาก็ไม่อยากจากคริสไป รักแรกของเขา รักแรกที่เขารักมากจนไม่คิดจะมีรักใหม่ ทำให้รักแรก กลายเป็นรักสุดท้ายของชีวิต เขาจะทำยังไง เขาจะทำยังไงดี จะต้องจากกันทั้งอย่างนี้หรอ ทั้งๆที่ไม่ได้รับความรักอย่างนี้หรอ ถ้าเป็นอย่างนั้น…ถ้าเป็นแบบนั้น เขาจะขอทำตัวไร้ค่าได้มั้ย จะขอให้อีกฝ่ายรักเขาแค่ชั่วคราวจะได้มั้ย…



“สิบปี สิบปีเชียวนะ ชานยอล”เด็กหนุ่มพูดกับตัวเองในกระจก จากกันสิบปี มันยาวนานมากเหมือนทั้งชีวิต เผลอๆกลับมาอาจจะไม่ได้เจอกันแล้วก็ได้ เพราะฉะนั้นเวลาที่เหลือนี้อาจเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่เขาจะได้เจอคนที่รักก็ได้


“นายทำถูกแล้วชานยอล ”ร่างโปร่งพูดให้กำลังใจตัวเองก่อนจะสูดหายใจลึก แล้วตัดสินใจเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาใครบางคน


“ฮัลโหล ว่าไงชานยอล ฝนตกแหงๆนายโทรหาฉัน”เสียงปลายเสียงตอบรับขณะที่มีเสียงเพลงเบาๆแทรกเข้ามาด้วย


“เทา คือ……คือว่า….ช่วยอะไรเราอย่างหนึ่งสิ”หัวใจดวงน้อยเต้นระรัว ใบหน้าเห่อแดงแม้ยังไม่ได้พูดสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ความตื่นเต้น กลัว ไม่มั่นใจก็ถาโถมเข้ามาให้หัวใจสั่นหวั่นเสียแล้ว


“ว่ามาเลยๆ ถ้าช่วยได้ฉันจะช่วยหมดเลย”ชานยอลนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะสูดลมหายใจลึก มือที่เย็นเชียบกำเข้าหากันจนซีด


“คือ….เทา….เทาเก็บเป็นความลับนะ ห้ามบอกใครเด็ดขาดเลยนะ”


“ห๊ะ…อะ เอ้อๆ ได้สิ ฉันจะไม่บอกใครเลย ว่าแต่นายจะขอให้ฉันช่วยอะไรหรอ”เทาเอออออย่างงงงวย ก่อนจะเร่งเสียงโทรศัพท์ให้ดังขึ้นอีก


“………………จำได้มั้ยที่เทาเคยเล่าให้เราฟังว่าทุกวันศุกร์เทาต้องหาคนให้พี่คริส ไป…ไปอย่างนั้นน่ะ คือว่าวันนี้เรา….เรา”ชานยอลเว้นช่วงไป มือเรียวกำโทรศัพท์แน่น


“อะไรหรอชาน…”


“ขอให้เป็นเราแทนได้มั้ย!!!”ชานยอลรวบรวมความกล้าพูดออกไป


“ห๊ะ ……………..”ปลายสายเงียบไปนานจนชานยอลเริ่มใจเสีย


“เทา………เราต้องขึ้นเครื่องพรุ่งนี้แล้ว…..เรา…เราจะไม่ได้เจอเขาแล้ว”เทาเคาะนิ้วกับโต๊ะอย่างใช้ความคิด ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืน สีหน้าเคร่งเครียดยิ่ง
กว่าต้องจัดการเรื่องในผับ


“แน่ใจแล้วหรอชานยอล”


“แน่ใจ เราแน่ใจ”ชานยอลตอบโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด ปลายสายพรูลมหายใจออกมา ก่อนจะตอบรับคำขอ เขาเองก็รู้ว่าชานยอลรักรุ่นพี่คริสมากแค่ไหน รักมากจนยอมให้ได้ทุกอย่างเลยด้วยซ้ำ นี่เป็นคำขอสุดท้ายก่อนจะจากกัน เขาเป็นเพื่อนก็คงต้องให้


“ก็ได้ นายมาที่ผับฉันตอนห้าทุ่มนะ ถึงหน้าผับเมื่อไร แล้วโทรมาบอกฉัน เดี๋ยวฉันออกไปรับ เอ้อ ว่าแต่มาถูกนะ”


“ถูกๆ ขอบคุณมากนะเทา”ชานยอลระบายยิ้มออกมาบางที่กลีบปากอิ่ม ก่อนที่จะลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  นี่เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำที่เด็กหนุ่มผู้เรียบร้อยอย่างเขาจะไปผับ และมันก็คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะไปทำอะไรแบบนั้นด้วยแน่นอน


   ร่างโปร่งมองตัวเองในกระจกก่อนจะพูดให้กำลังใจตัวเองอีกครั้ง



“ชีวิตทั้งชีวิตของผมเป็นของพี่ ผมให้มันหมดแล้ว ขอแค่ครั้งเดียว ครั้งเดียวที่พี่จะรักผมกลับบ้าง”ดวงตากลมโตมองกระจกอย่างมุ่งมั่น ถึงแม้ลึกๆจะกลัวกับสิ่งที่กำลังจะทำ แต่เขาก็ไม่อยากถอย นี่คือโอกาสสุดท้ายแล้วที่เขาจะได้รับรักจากรุ่นพี่คริส  จากนี้มันก็คงไม่มีแล้ว แค่เก็บความทรงจำนี้เป็นครั้งสุดท้ายก็ยังดี



          ผับของเทาอยู่ในย่านแหล่งบันเทิงของคนรวย ผู้คนที่มาที่นี่จึงค่อนข้างมีมารยาทพอสมควร ถ้าถูกใจใครก็แค่มอง อาจจะเดินไปคุยบ้างประปราย แต่ไม่มีจู่โจมกระทำชำเราแบบนั้น แต่ถึงจะอย่างนั้นเด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี ชานยอลรีบเดินไปหลบอยู่บริเวณลานจอดรถ ก่อนจะโทรหาเทา ไม่นานนักเพื่อนชาวจีนของเขาก็ออกมารับให้เข้าไปข้างใน


“มาแอบอยู่ในลานจอดรถเนี่ยนะ อันตรายยิ่งกว่าข้างหน้าอีก คนก็น้อย ลับตาก็ลับตา”


“ก็ไม่ชอบเป็นเป้าสายตาคนนี่”ชานยอลอธิบาย ก่อนที่เทาจะโบกไม้โบกมือยอมแพ้ ชานยอลเหมือนผ้าขาว อาจจะเรียกได้ว่าเป็นผ้าลูกไม้สีขาวจากฝรั่งเศสที่ทั้งเลอค่า และบอบบางบริสุทธิ์มากเลยก็ว่าได้ นี่ถ้ารุ่นพี่คริสรู้ว่าคนที่ตัวเองจะมีอะไรด้วยวันนี้เป็นดังเจ้าหญิงคนนี้จะรู้สึกดีใจหรือเห็นค่าในตัวเพื่อนเขาบ้างมั้ยนะ


“เทา….พี่คริสมารึยัง”ชานยอลเอ่ยถามขึ้นทำลายภวังค์ของเทา


“ยังหรอก รายนั้นมาตอนประมาณเที่ยงคืนนู่น”


“แล้ว…ให้เรารอตรงไหนหรอ”เทาชี้ไปที่ห้องVIPแต่คิดอีกที อย่างชานยอลให้รอในห้องเขาไปก่อนละกัน กลัวว่าจะไปเจอปากเหยี่ยวปากกาที่ไหนมายุ่งวุ่นวายอีก


“ห้องฉันเลยแล้วกัน”เทาว่าก่อนจะเดินนำหน้าอีกคนไปที่ห้องทำงานของตัวเองที่อยู่ในส่วนที่ไกลและเป็นส่วนตัวจากด้านนอกพอสมควร



               ร่างโปร่งนั่งรอเวลาอยู่ในห้องของเทาอย่างตื่นเต้น มือเรียวเย็นเชียบบีบเข้าหากันแน่น ดวงตากลมโตจ้องไปยังหน้าปัดนาฬิกาที่เข็มสั้นใกล้จะชี้เลขสิบสอง ก่อนจะต้องสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆเสียงโทรศัพท์ของเทาก็ดังขึ้น



“ฮัลโหลครับพี่”ชานยอลหันไปมองตามเสียง หัวใจเต้นรัวเมื่อจับได้ว่าปลายสายคือใคร


“อ่า ผมหาคนมาให้พี่แล้วน่ะ โอเคครับ ได้ เดี๋ยวผมจัดการให้”เทาพูดเสร็จก่อนจะวางสายไป ร่างโปร่งลุกขึ้นจากโซฟาแทบจะทันที


“พี่คริสมาแล้วหรอ”อีกฝ่ายพยักหน้าตอบ ตัวเขาเองก็กังวลไม่ใช่น้อยที่ต้องทำอะไรแบบนี้ แต่พอเห็นรอยยิ้มบางๆที่กลีบปากอิ่มนั่นมันก็อดนึกสงสารไม่ได้


“พี่คริสบอกให้ไปรอที่ห้องได้เลย”



             เทาเดินนำมาที่ห้องVIPของผับหรู ก่อนจะเปิดประตูให้ชานยอล ร่างโปร่งยิ้มให้เขาพร้อมกับโค้งศีรษะเป็นเชิงขอบคุณ แต่แค่จ้องตาเขาก็รู้แล้วว่าลึกๆแล้วร่างโปร่งกำลังประหม่า จะมีใครไม่ตื่นเต้นที่ต้องมาเสียความบริสุทธิ์ให้กับคนที่ตัวเองรักบางล่ะ



“ไปนะ ชานยอล”เทาเลือกจะใช้ประโยคนี้แทนทุกความรู้สึกของเขา ก่อนที่จะปล่อยให้ร่างโปร่งอยู่ในห้องตามลำพัง



         เครื่องดื่มหลากสีมากมายวางอยู่ตรงโต๊ะข้างเตียง ชานยอลไม่รู้จักสักกะอย่าง เรื่องจะให้ชงให้นี่ตัดทิ้งออกไปได้เลย นั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องจะกิน ชานยอลดื่มของพวกนี้ไม่ค่อยจะได้ด้วยซ้ำ  เด็กหนุ่มนั่งรออีกฝ่ายไปสักพักหนึ่ง หัวใจเต้นถี่รัวเมื่อรู้ว่าอีกไม่นานเขาคนนั้นที่รอคอยกำลังจะมา ก่อนจะต้องหยุดเต้นเมื่อประตูห้องถูกเปิดออกโดยคนคนนั้น



“รอนานมั้ย”นั่นคือประโยคแรกที่ออกมาจากปากของคนที่เขารัก คริสแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่จะทอดกายให้เขาวันนี้คือเด็กโรงเรียนเดียวกัน  ร่างสูงทรุดนั่งลงข้างๆก่อนจะจัดการกระดกแก้วน้ำสีอำพันเข้าปากรวดเดียว ตอนนี้ชานยอลแทบอยากจะยืดเตียงให้กว้างก่อนอีกหน่อยจริงๆ


“ชื่อ?”คิ้วได้รูปเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม ชานยอลอึกอักเพราะเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ใกล้กับคนที่ชอบ และคนที่กำลังจะพรากความบริสุทธิ์ของเขาไปในคืนนี้


“นี่ เป็นใบ้หรอ ถามอยู่ก็ตอบสิ”


“ชะ..ชานยอล…”อีกฝ่ายพยักหน้าก่อนจะปลดกระดุมออกสองสามเม็ด


“เด็กใหม่?”ชานยอลเลิกคิ้ว ก่อนจะส่ายหน้า ยอมโกหกไป เพราะกลัวว่าถ้ารู้ว่าเขาไม่ใช่พวกเชี่ยวชาญเรื่องอย่างว่าแล้วคริสจะไม่สนใจ


“ก็ดี จะได้รู้งานดี”คริสเอ่ยบอกก่อนจะฉุดร่างของอีกคนให้ลุกขึ้นยืน


“ปะ…ไปไหน”ร่างสูงขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยตอบ



“คอนโดฉันไง”ร่างโปร่งพยักหน้ารับช้าๆ ปากอิ่มเม้มแน่น หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามทุกครั้งที่ถูกพาให้เข้าใกล้คอนโดของร่างสูงมากยิ่งขึ้น


   คริสพาอีกฝ่ายขึ้นมายังห้องของตัวเอง ดวงตาคมมองใบหน้าอีกฝ่ายด้วยดวงตาเจ้าเล่ห์ ชานยอลรีบหลุบตาลงต่ำก่อนจะพูดคำขอร้องของตัวเอง

“พี่ครับ….ผมขออะไรอย่างหนึ่งได้มั้ย”ร่างสูงเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม


“ช่วยทำเหมือนว่าเราเป็นแฟนกันหนึ่งวันได้มั้ย”คริสขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยิ้มเยาะ เด็กคนนี้ก็คงจะไม่ต่างอะไรจากพวกที่ผ่านๆมา ที่มาถวายตัวให้เขาเพื่อแค่อยากจะได้เป็นแฟนแค่ชั่วครั้งชั่วคราว


“เอาสิ ตามใจ”ร่างสูงรับคำไปอย่างส่งๆ ยังไงเขาก็ไม่เสียอะไรอยู่แล้ว เผลอๆอาจจะได้มากกว่าซะด้วยซ้ำไป มือหนาเลื่อนไปลูบไล้ต้นขาของอีกฝ่าย ก่อนจะคว้าเอวเข้ามาหาตัวเอง  ปากหนาก้มลงกระซิบข้างหูอีกฝ่ายด้วยเสียงแหบแพร่าที่ใครต่อใครฟังก็ต้องระทวย


“มาทำคืนนี้ให้เป็นคืนของเรากันเถอะ”ชานยอลที่ตัวแข็งทื่อไปแล้วพยักหน้ารับเบาๆทั้งๆที่ใจทั้งกลัวทั้งเขินแทบตาย


“ดี”ปากหนาจูบที่ลำคอสวย ก่อนจะค่อยๆผลักอีกคนลงบนเตียงทั้งๆที่ยังคงคลอเคลียกันอยู่ไม่ห่าง


“ห้าชั่วโมงนี่ฉันจะเป็นแฟนให้นายเอง เจ้าหญิง”เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหู คริสเลือกใช้สรรพนามที่ดูจะสื่อถึงอีกฝ่ายที่ดูบอบบาง นุ่มนิ่มเหมือนเจ้าหญิงได้มากที่สุด ก่อนจะซุกไซร้ลำคอยาวระหงส์ ร่างโปร่งเม้มปากแน่น ดวงตากลมโตหลับตาปี๋ มือเรียวกำผ้าปูที่นอนแน่น เผลอกลั้นหายใจไปชั่วขณะ ใจดวงน้อยเต้นถี่ระรัวจนแทบจะดังออกมาให้อีกฝ่ายได้ยิน


“อื้อ….องครักษ์” คริสยกยิ้มเมื่อถูกเรียกอย่างนั้นก่อนที่มือหนาสอดเข้าสำรวจเรืองร่างใต้เสื้อผ้า บีบคลึง ฟ้อนเฟ้นไปทั่วเนื้อละเอียดพร้อมกับที่ลิ้นร้อนเลียตระหวัดที่กลีบปาก ก่อนจะมอบรสจูบที่ร้อนแรงให้ เจ้าหญิงที่นอนอยู่ใต้ร่างตอบสนองกลับไปอย่างเงอะๆงะๆ นี่คือจูบแรง จูบแรงที่รวดเร็วและร้อนแรงเสียจนเขาตามไม่ทัน



  แก้มใสซับสีระเรื่อ หัวใจเต้นโครมครามจนแทบคลั่ง สัมผัสนุ่มหยุ่นที่กลีบปากสั่นคลอนหัวใจให้ว้าวุ่น เขากำลังจูบอยู่คริส จูบอยู่กับรุ่นพี่ที่เขาหลงรักมาตลอด วันนี้ฝันเขาจะเป็นจริงแล้วใช่มั้ย ฝันว่าจะได้รับรักจากอีกฝ่ายจะเป็นจริงแล้วใช่มั้ย



   ร่างสูงขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อคนใต้ร่างที่คิดว่าจะต้องเจนจัดเรื่องอย่างว่าแต่กลับจูบตอบเข้ากลับมาอย่างเงอะงะราวกับเด็กม.ต้นที่ยังไม่รู้ประสีประสาจนเขานึกแปลกใจ ปากหนาผละออกมาจากกลีบปากอิ่ม ก่อนจะซุกไซร้ไปตามราดไหล่ เสื้อเนื้อดีถูกหล่นลงโชว์หัวไหล่กลมมน ผิวขาวใสราวหิมะที่ดูบริสุทธิ์จนเหมือนไม่เคยถูกใครแตะต้องมาก่อนโผล่พ้นสายตา ก่อนที่มันจะถูกทำให้แดงระเรื่อด้วยกลีบปากของเขา  มือหนาเลิกเสื้อขึ้นมา ก่อนจะส่งนิ้วเข้าสะกิดยอดอกของอีกฝ่าย


“อื้อ!”ชานยอลครางเสียงหลง มือเรียวเผลอยั้งสัมผัสจากอีกฝ่าย ใบหน้ายิ่งแดงเถือกมากขึ้นไปอีก ร่างสูงเลิกคิ้วเป็นเชิงถามพร้อมกับเสียงที่ร้องดังอยู่ในใจถึงความแตกต่างของเด็กคนนี้กับคู่ขาคนอื่นๆ ชานยอลไม่ยั่วยวน ไม่เสนอตัว แต่กลับกันกับดูเคอะเขิน และดูกลัวเขามากอยู่ทีเดียว


“ผม…”ร่างโปร่งอ้ำอึ้ง ใจหนึ่งก็อยากให้เขารัก แต่อีกใจก็ประหม่า คริสเลื่อนใบหน้าเข้าไปจูบที่ปลายจมูกรั้นก่อนจะเรื่อยลงมาถึงกลีบปากอิ่ม


“เจ้าหญิงไม่อยากให้ผมรักแล้วหรอ”ดวงตาเว้าวอนส่งไปยังอีกฝ่าย ทุกครั้งสายตานี้ทำให้คนใต้ร่างแทบทุกคนระทวยกันมาหมดแล้ว แล้วเด็กคนนี้จะเป็น ‘เหยื่อ’ของมันด้วยรึเปล่า“


“เปล่า….”ร่างโปร่งตอบเสียงค่อยพร้อมกับส่ายหน้าไปมาช้าๆ ก่อนจะพูดต่อ


“รัก…”ชานยอลหันหน้าหนีไปทางอื่น อายที่จะมองภาพตรงหน้าจนคริสนึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้หยุดการกระทำ ร่างสูงยกยิ้มให้ก่อนจะเลียยอดอกของอีกฝ่าย พร้อมกับถอดเสื้อให้ออกไปให้พ้นๆทาง


“อ๊ะ”เด็กหนุ่มเผลอครางออกมาอีกรอบ ความเสียวซ่านแล่นผ่านจนขนลุกไปทั่วทั้งร่าง และความเขินอายที่แทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว แต่ก็ยังยอมให้อีกฝ่ายทำต่อไป



      คริสเลื่อนมือลงต่ำไปลูบไล้ขอบกางเกงของอีกฝ่ายก่อนจะลูบส่วนอ่อนไหวภายใต้เนื้อผ้า ชานยอลสะดุ้งก่อนจะขยับตัวหนีสัมผัสตามสัญชาตญาณ เสียงครางเล็ดรอดออกมาจากกลีบปากอิ่ม ดวงตากลมโตมีน้ำใสจากความเสียวซ่าน ตื่นกลัว และเขินอายอยู่ในนั้น ก่อนจะรีบเม้มปากแน่น เสียงร้องครางของเขามันน่าเกลียด


“ทำไมเจ้าหญิงของผมเงียบจังล่ะ”ร่างสูงพูดพร้อมกับพรมจูบไปทั่วท้องน้อยของอีกฝ่าย ในขณะที่มือก็สาละวนอยู่กับกางเกงของอีกฝ่าย ทุกครั้งที่เฉียดใกล้ส่วนนั้น ท้องน้อยก็พาลจะวูบไหวไปด้วยเสียทุกครั้ง ราวกับว่าร่างข้างใต้นี้กำลังเสียวและตื่นกลัวสัมผัสของเขาอยู่


“ไม่เอา  น่าเกลียด”ร่างโปร่งตอบเสียงค่อย ตอนนี้เขาเขินมากเหลือเกิน รุ่นพี่ที่ชอบกำลังรักเขาอย่างที่เขาไม่เคยคาดว่าจะได้รับมาก่อน ปากหนาจูบกลีบปากอิ่มหนักๆก่อนจะพูดชิดติดริมฝีปาก


“องครักษ์อยากฟัง” ว่าพร้อมกับมืออีกข้างที่ค่อยๆรูดซิปลงแล้วดึงชั้นในลงมาด้วย ชานยอลเสหน้าไปทางอื่น ใบหน้าแดงระเรื่อยิ่งกว่าผลมะเขือเทศสุก ขาเรียวบีบเข้าหากันเล็กน้อยอย่างเขินอาย



     มือหนาลูบไล้ไปตามส่วนอ่อนไหวที่กำลังสั่นระริกอยู่ตรงหน้า เพียงแค่แตะร่างโปร่งก็บีบเข่าเข้าหากัน มือเรียวกำผ้าปูไว้แน่นจนข้อนิ้วซีด



“อื้ออออ”ชานยอลครางเสียงแผ่ว ตัวแทบระเบิดเมื่อเห็นเงาสะท้อนลางๆในกระจก ก่อนจะต้องหันหน้าหนีเมื่อเห็นว่าคริสกำลังถ่างขาของเขาออกให้กว้างขึ้น มือหนารูดรั้งส่วนอ่อนไหวเอาไว้ พร้อมกับกลีบปากที่จูบซับไปตามโคนขา


“อ้า….พี่….อื้อ อ้ะ…คริส”ร่างโปร่งครางไม่เป็นศัพท์ ขาเรียวสั่นระริก บิดไปมาอย่างเสียวซ่าน แค่ถูกพี่คริสของเขาสัมผัสร่างกายก็จะละลายอยู่แล้ว



    คริสเร่งปรนเปรอให้ร่างข้างใต้อยู่ไม่นาน ชานยอลก็ปลดปล่อย ความรู้สึกร้องดังอยู่ในหัวว่าไม่ใช่ นี่ไม่ใช่คนที่เจนจัดเรื่องอย่างว่า นี่มันเหมือนคนมีอะไรกับใครครั้งแรกมากกว่า ไม่อย่างนั้นคงไม่ถึงเร็วอย่างนี้แน่นอน คริสฝังกลบความสงสัยต่างๆลงไปในส่วนลึกของจิตใจ ก่อนจะสนใจแต่กิจกรรมที่ทำอยู่ เขากำลังมีความสุข กำลังตักตวงอยู่กับร่างกายคนอื่น อย่างเดียวที่ควรคิดตอนนี้คือ สนุกไปกับร่างร่างนี้จนกว่าจะพอใจ



   มือหนาจับแยกขาของชานยอลให้กว้างออก ของเหลวสีขาวที่ร่างโปร่งปลดปล่อยออกมาถูกปาดที่นิ้วแกร่ง ก่อนที่จะค่อยๆสอดเข้าไปในช่องทางด้านหลังที่ดูคับแคบมากอย่างกับไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน



“อื้ออออ! จะ…”เจ้าหญิงใต้ร่างของเขาร้องเสียงหลง น้ำตาคลออยู่ที่หางตา แต่ก็ไม่ยอมบอกว่าเจ็บ



  ร่างสูงพรมจูบที่ขมับ มอบความอ่อนโยนให้ ในขณะที่ด้านล่างก็ค่อยๆใช้นิ้วรุกรานช่องทางเร้นลับที่ดูน่าค้นหาทางนั้น


“อ้ะ อ้า”ชานยอลร้องเสียงหลง มือเรียวกำผ้าปูที่นอนแน่น กลีบเนื้อที่ช่องทางเหมือนจะพร้อมใจกันปวดหนึบไปหมดจนเขาเจ็บ ปากอิ่มถูกกัดจนห้อเลือด น้ำตาซึมอยู่ที่หางตา แต่ก็ยังไม่ยอมบอกให้หยุด นี่คือโอกาสเดียวของเขาที่คริสจะรัก เขาไม่อยากหยุดความฝันของตัวเอง



  คริสขยับนิ้วที่ช่องทางอย่างยากลำบาก เจ้าหญิงของเขากำลังเจ็บ เจ็บในสิ่งที่ไม่ควรจะเจ็บ เพราะนี่ไม่น่าใช้ครั้งแรกของคนที่มาบริการเขา แต่แรงตัณหาและความต้องการที่ตีรวนสูงขึ้นเรื่อยๆไม่ได้ทำให้เขาหยุดคิดหรือเอ่ยถามอะไรคนใต้ร่าง ร่างสูงค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปภายในนั้น ปลายนิ้วกดย้ำๆที่ช่องทาง พยายามสอดลึกเข้าไป



“อ้ะ อื้อออ”ชานยอลครวญคราง  ยิ่งรู้สึกถึงอีกฝ่ายเขาก็ยิ่งเจ็บและยิ่งเขิน ร่างสูงแช่นิ้วค้างในช่องทางอยู่อย่างนั้น ก่อนจะค่อยๆขยับเข้าออกช้าๆ มือหนาอีกข้างลูบไล้สะโพกมน ก่อนที่จะโน้มหน้ามาจูบอีกฝ่ายอย่างดูดดื่ม ความอบอุ่นระคนเร่าร้อนถูกมอบให้อีกคน จนละลายความกลัวและความเจ็บทุกอย่างไป ก่อนจะค่อยๆปลุกอารมณ์ดิบภายในร่าง ลิ้นร้อนลากเลียยอดอกเร็วๆ ช่องทางด้านหลังขยับนิ้วเข้าออกซ้ำๆจนอีกคนเริ่มชิน  เสียงครวญครางจากความเจ็บปวดแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางจากตัณหา


“อื้อออ….พี่ คริส”รอยยิ้มร้ายถูกวาดขึ้นที่กลีบปากหนา ก่อนที่ปลายลิ้นจะเลียวนรอบสะดือ ในขณะที่มืออีกข้างก็จัดการหยิบถุงยางขึ้นมาใส่ ก่อนจะจ่อส่วนนั้นของตัวเองเข้าไปในช่องทาง


“อื้อ!”ชานยอลร้องครางด้วยความเสียวซ่านและตกใจ ขาเรียวบีบเข้ากันอย่างเคอะเขิน ใบหน้าแดงเรื่อจนแก้มแทบจะแตก ใจเต้นรัวจนอีกคนแทบได้ยิน เขากำลังเป็นของรุ่นพี่คริส ความบริสุทธิ์ของเขากำลังเป็นของคริส



  มือหนาถ่างขาอีกคนให้กว้างออก แล้วสอดความเป็นชายเข้าไปในช่องทาง ในขณะที่มืออีกข้างก็เชยคางอีกฝ่ายให้หันกลับมามองตน


“อ๊ะ อ้า อื้ออออ”ร่างโปร่งร้องคราง ก่อนจะเม้มปากแน่น ดวงตากลมโตหลุบมองไปทางอื่น หน้าแดงซ่านขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังประหม่า


“มองหน้าองครักษ์สิครับ เจ้าหญิง”เสียงแหบพร่าถูกกระซิบข้างหู ใบหน้านวลหันกลับมาอย่างลังเล เหมือนลูกแมวตัวน้อยๆที่กำลังไม่มั่นใจ คริสยกยิ้มกับท่าทางของอีกฝ่าย ก่อนจะประกบปากจูบกลีบปากอิ่ม พร้อมกับค่อยๆขยับความเป็นชายในช่องทาง



    ชานยอลบีบรัดเขาอย่างหนักหน่วงจนเจียนจะคลั่ง  เรียวขาพาลจะบีบเข้าหากันอยู่ตลอดเวลาจนเขาต้องคอยถ่างออก ก่อนจะขยับเข้าออกเร็วขึ้นเรื่อยๆ



“อ้า อ้ะ พี่…คริส”เสียงครางของเจ้าหญิงใต้ร่างเร่งเร้าให้คนด้านบนยิ่งถาโถมแรงเข้าไปข้างในมากขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของทั้งคู่สั่นไหวไปตามจังหวะที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งสัมผัสหนักหน่วงมากขึ้นเท่าไร ชานยอลก็ยิ่งหลุดเสียงครวญครางมากขึ้นเท่านั้นจนภายในห้องดังระงมไปด้วยเสียงเนื้อกระทบเนื้อและเสียงคราง



     ดวงตาคมเหลือบมองดวงหน้าหวานใต้ร่างอีกครั้ง ก่อนจะก้มลงเลียยอดอกอีกฝ่ายเร็วๆพร้อมกับเร่งจังหวะการขยับเข้าออกที่ช่องทางด้านหลัง


“พะ…พี่คริส….อื้ออออ”ชานยอลครางเสียงกระเส่า เมื่อความต้องการใกล้ถึงขีดสุด คริสขยับเข้าออกถี่ๆหลายๆทีก่อนจะปลดปล่อยออกมาพร้อมกับที่ร่างโปร่งอดกลั้นไว้ไม่ไหว  มือหนาดึงถุงยางออกก่อนจะดึงร่างที่หอบหนักเข้ามาหา ดวงตากลมมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่เขามี ทั้งรัก ทั้งเทิดทูน ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของผู้ชายคนนี้หมดแล้ว


“ผม…รักพี่…”ร่างสูงเลิกคิ้ว ก่อนจะตอบรับในบทบาทที่เขาต้องแสดงในคืนนี้


“ครับ เจ้าหญิงของผม”กลีบปากหนาจูบที่กลีบปากอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะกระซิบเฉียดริมฝีปากด้วยประโยคที่ทำให้หัวใจของคนฟังพองโต


“ผมขอซื้อตัวเจ้าหญิงจนถึงเที่ยงวันพรุ่งนี้นะ”รอยยิ้มละมุนระคนเขินอายถูกวาดขึ้นที่กลีบปากอิ่ม ก่อนที่เจ้าตัวจะครางตอบในคอเบาๆ


“หลับฝันดีนะครับ เจ้าหญิงของผม”คริสเอ่ยบอกก่อนจะจูบที่หน้าผากของอีกคน


“กอดผมอย่างนี้ไว้ทั้งคืนได้มั้ย คุณองครักษ์”


“รับบัญชาครับ เจ้าหญิง”รอยยิ้มหวานวาดบางๆที่กลีบปากอิ่ม หัวใจดวงน้อยพองโตอย่างที่ไม่เคยเป็น ต่อให้ต้องจากกันเป็นสิบปี เขาก็ยอม เพราะอย่างน้อยตอนนี้เขาก็อยู่ในสายตาของรุ่นพี่คริส ได้ใช้คำว่ารักกับรุ่นพี่คริสแล้ว แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว เพราะทั้งชีวิตนี้เขายกให้อู๋อี้ฟานเพียงคนเดียว…



-----------------------------------------------------




  เช้าวันใหม่ คริสตื่นขึ้นมาเพื่อพบกับเตียงด้านข้างที่ว่างเปล่าและกองเสื้อผ้าที่ถูกพับไว้อย่างเรียบร้อยที่เก้าอี้ใกล้ๆกับเตียง ดวงตาคมเหลือบมองนาฬิกา ตอนนี้แค่สิบโมงเช้า ยังไม่พ้นกำหนดสักหน่อย แล้วคนข้างตัวของเขาหายไปไหน ร่างสูงยัดกายลุกขึ้นยืนใส่เสื้อผ้าอย่างลวกๆ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง สัมผัสแรกที่รับรู้ได้คือกลิ่นหอมของอาหารที่โชยออกมาจากห้องครัว ชานยอลกำลังทำกับข้าวอยู่ในนั้น ร่างโปร่งที่กำลังตักข้าวต้มใส่ชามแทบไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้กำลังถูกคนจ้องมองอยู่ด้านหลัง



   คริสอธิบายความรู้สึกตอนนี้ไม่ถูก ทุกอย่างดูผิดปกติ ดูต่างไปจากทุกครั้งที่ร่วมรักกับคนพวกนั้นไม่เคยมีใครใส่ใจจะสนใจโภชนาการของเขาหลังจากผ่านศึกร่วมรักกันไปหรอก ตอนเช้าพวกเธอก็แค่นอน ขอยืดเวลาการมีสัมพันธ์ หรือรอเงินจากเขา แต่คนตรงหน้านี้มันไม่ใช่…. เด็กคนนี้กลับลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้เขา



“เจ้าหญิง....”


“อ้าว คุณองครักษ์ตื่นแล้วหรอ”ชานยอลหันมาหา แต่ทันทีที่สบตากันร่างโปร่งก็หลบตา ใบหน้านวลซับสีเลือดอย่างเห็นได้ชัด


“กลิ่นหอมจัง”คริสว่าก่อนจะกอดอีกฝ่ายจากด้านหลัง จมูกโด่งสูดกลิ่นข้าวต้ม ก่อนจะแกล้งวกมาสูดกลิ่นคนในอ้อมกอด


“นี่ก็หอม”ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ดวงตาหลุบต่ำมองพื้นอย่างเขินอาย ก่อนจะยื่นชามข้าวต้มให้อีกฝ่ายแทนการอยู่ใกล้กันเกินเหตุ


“ผมทำข้าวต้มให้”ร่างโปร่งว่าก่อนจะเดินเลี่ยงไปหยิบช้อนมาให้ แล้วเดินตรงไปยังโต๊ะทานข้าวที่แทบไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไรนัก


“เจ้าหญิงเขินผมหรอ”คริสแกล้งถามคำถามพาซื่อ ก่อนจะเดินตามไปทรุดนั่งฝั่งตรงข้าม ดวงตาคมแกล้งมองตาอีกฝ่ายอย่างทะเล้น ใบหน้านวลรีบก้มลงสนใจข้าวต้มทันที


“กินข้าวสิ เดี๋ยวปวดท้องนะ”ร่างสูงยกยิ้มออกมา บอกไม่ถูกว่าทำไมต้องยิ้ม แต่มันกลับเอ็นดูคนคนนี้


“เจ้าหญิงนี่น่ารักดีนะ”คริสเอ่ยชมไปตามที่คิด ไม่ได้มีความหมายแฝงอะไร แต่เล่นเอาหัวใจคนฟังเต้นระรัว


“กินข้าวสิ เดี๋ยวเย็นหมดนะ”ชานยอลเฉไฉไปเรื่องอื่น ใบหน้านวลแทบจะแทรกลงไปในชามข้าวต้มอยู่รอมร่อ ท่าทางที่ดูเคอะเขิน นุ่มนิ่มไปซะทุกการกระทำอยู่ในสายตาของอีกฝ่ายทุกอย่างจนคริสได้แต่ตั้งคำถามในใจว่าเด็กคนนี้ความจริงคือเจ้าหญิงมาจากประเทศไหนรึเปล่า ทำไมถึงได้บอบบางอย่างนี้นะ…บอบบางเสียจนเขาเองยังไม่กล้าจะทำลาย



-----------------------------------------------------




“เจ้าหญิง กลับเองได้ใช่มั้ย”คริสถามคำถามที่ไม่เคยถามคู่ขาคนไหนเมื่อใกล้หมดเวลาของพวกเขา ชานยอลหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยเมื่อฝันหวานที่ฝันมาทั้งวันกำลังจะจบ แล้วเขาต้องตื่นมาพบความจริงว่าต้องจากกับคนที่แอบรักเสียแล้ว


“ผมกลับเองได้ องครักษ์ไม่ต้องห่วง”คนฟังพยักหน้ารับเป็นเชิงรับรู้ ก่อนจะพูดต่อ


“ก็ดี งั้นก็ไปกันเถอะ”เขาว่าพร้อมกับเดินนำออกไปจากห้อง โดยมีอีกคนเดินตามต้อยๆ ดวงตากลมโตมองแผ่นหลังที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาหงอยเหงา อีกไม่ช้าเขาจะต้องจากเจ้าของแผ่นหลังนี้ไปแล้ว จะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว แค่คิดหัวใจดวงน้อยก็แทบจะสลายแล้ว เขาอยากจะหยุดเวลานี้ไว้เสียจริง



        พวกเขาทั้งสองลงลิฟท์มาจนเกือบถึงชั้นลานจอดรถของคอนโด จากนั้นร่างสูงหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าตังค์ก่อนจะยื่นให้อีกฝ่าย


“ทิป”ชานยอลทำหน้างง ก่อนจะรับเงินมาอย่างไม่ถามอะไรต่อ ตอนนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะสงสัยอะไรแล้ว เพราะคริสกำลังจะจากเขาไปแล้ว


“ผมไปล่ะ กลับดีๆครับ เจ้าหญิง”คริสว่าก่อนจะเดินออกจากลิฟท์โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าได้กระชากหัวใจของใครคนหนึ่งติดไปด้วย ร่างโปร่งยิ้มพร้อมกับโบกมือให้


“ลาก่อน คุณองครักษ์”น้ำตาร่วงเผาะลงมาทันทีที่ประตูลิฟท์ปิด ความฝันจบลงแล้ว เขาจะไม่ได้เจอคริสอีกแล้ว มือเรียวปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ บอกกับตัวเองว่าสิ่งที่ได้มามันมากพอแล้ว ได้เป็นคนที่คริสรักเพียงชั่วคราวมันก็พอแล้ว จากนี้เขาจะไม่ขออะไรอีกแล้ว


       ร่างโปร่งเดินออกมาจากลิฟท์เมื่อถึงชั้นล่างของคอนโดก่อนจะกลับไปที่บ้านของตัวเองแล้วตรงไปที่สนามบินทันที เพื่อเผชิญกับความจริงทุกอย่างว่าเขากำลังจะไปต่างประเทศ และจะจากคนที่รักไปกว่าสิบปี….

http://0ctogus.forumth.com

2My Alyssa Part1 Empty Re: My Alyssa Part1 Wed Oct 08, 2014 3:52 pm

boonboo_bb



สงสารยอล T.T

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ