0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

สถานีบำบัดคนบ้า ตอนที่17

+9
NikyNook
PhAnu
Kriskiss
Sky_fff
YRAUNAJ_YEOL
mimiw
akanishibluecat
pachaam_
0ctogus
13 posters

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

0ctogus

0ctogus
Admin



สถานีบำบัดคนบ้า ตอนที่17 1-402



“ผมขอคุยด้วยหน่อยสิ………………….




เรื่องของเรา ความจริงเรารู้จักกันหรอ แล้วคุณเป็นใครอะ สำคัญยังไง ทำไมถึงรู้จักคุโร แล้วทำไมถึงต้องทำเพื่อผมขนาดนั้นด้วย ทำไมผมจำเรื่องของคุณไมได้เลยล่ะ” ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างเขา ก่อนจะแนบหน้าผากกับเขา เผื่อว่าความทรงจำมันจะกลับมาบ้าง มันต้องมีความทรงจำหลงเหลืออยู่มั่งล่ะน่า


“ไม่เห็นจะนึกได้เลยว่าเคยรู้จักคุณอะ" ผมหันไปพูด ก็มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยนี่นา แค่รู้สึกอุ่นๆจากหน้าผากเขาแค่นั้นแหละ นอกนั้นก็ไม่มี!!! แทนที่คุณคำตอบจะอธิบายหรือตอบคำถามผมสักนิด กลับไม่ทำอะไรเลย เขาทำแค่จ้องหน้าผมแล้วทำตาปริบๆ พร้อมกับส่งความอึ้งมาให้ผมรับรู้ นี่ฟังตอนผมถามมั่งป่ะเหอะ หึ่ย อย่างนี้ต้องเจอดี ผมดึงหูเขา ก่อนจะตะโกนใส่หู



“ฮัลโหลลลลลล คุณหูอยู่มั้ย ช่วยเอาเสียงผมไปบอกเขาให้ตอบคำถามผมหน่อยยยยยยย”



“รู้แล้วครับๆ ตะโกนทำไมชานชาน”คุณคำตอบโวยวายใหญ่ หึ!! ใครใช้ให้ไม่สนใจผมละ ผมปัดมือสองสามที ก่อนจะก้มลงไปกระซิบข้างหูเขา เมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังถูกเจ้าคนตัวขาวกับคนตัวเล็กแอบฟังอยู่ นี่มันเรื่องส่วนตัวๆ ของเรานะ อย่ามายุ่ง!!!



“นี่ ผมอยากรู้ว่าคุณเป็นใคร ชื่ออะไร ทำงานอะไร แล้วรู้จักอะไรกับผม ทำไมถึงต้องตามหาคุโรให้ด้วย เราสนิทกันหรอ มันสำคัญหรอ แล้วถ้างั้น ไมผมจำคุณไม่ได้เลยอะ ช่วยตอบหน่อยสิ สงสัยมากๆ”



“ครับ.....เอ่อ นี่ไม่”




“หึ๋ย อย่าเสียงดังสิ”ผมรีบเอามือไปปิดปากเขา เขาจ้องหน้าผมอย่างกับว่าผมเป็นสัตว์ประหลาดอีกแล้ว นี่รู้จักกันจริงๆป่ะเนี่ย ทำหน้าอย่างกับไอ้ที่ทำมันแปลกมากนักละ



“ไม่โกรธฉันแล้วหรอ”



“ห๊ะ .......อะ อ๋ออออออ เรื่องที่ปาแก้วน่ะหรอ ความ ความจริงแล้วอะ ผมไม่ได้ตั้งใจนะ คือแบบ แบบว่า แก้วๆ ใช่ แก้ว!!!ต้องโทษแก้วว!!! แก้วอะมันดื้อ อยากกระโดดลงพื้นฆ่าตัวตายเอง มันน่าจริงๆเลย ใช้ไม่ได้อะ แต่ก็ อืม ผมไม่โกรธหรอก ไม่โกรธๆ”


“เขาต่างหากที่ต้องโกรธตัวเอง”คุณตัวขาวพูดเบาๆ ไม่ละ ไม่เรียกคุณละ เรียกไอ้!! ไอ้ตัวขาวพูดเบาๆ ผมรีบหันขวับไปมองหน้าทันที ผู้ชายคนนี้เห็นครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตาซะละ !!!




“หึ!!! ทำมาเป็นรู้ดี เขาไม่โกรธผมหรอก เนอะ!” ผมเบ้ปากใส่ ก่อนจะหันมาจับหน้าคุณคำตอบไว้ แล้วก้มลงกระซิบเบาๆ



“โกรธผมมั้ยอะ” เขายิ้ม ก่อนจะยื่นมือมายีผมจนยุ่งเหยิงไปหมด ฮึ่ย!!! เล่นหัวได้ไงอะ ผมเบ้ปาก ทำหน้าหงิก จนทุกอย่างบนหน้าแทบจะมารวมกันเป็นก้อนเดียว ก็คนไม่รู้จักมาเล่นหัวกันได้ไง สนิทกันรึไง โด่วๆ ผมแยกเขี้ยวใส่ ก่อนจะปัดมือเขาออก



“โตขึ้นกว่าเดิมแค่กี่ขวบเองน่ะ ฉันไม่โกรธหรอก แล้ว................เรื่องนั้นน่ะ อยากรู้จริงหรอ รับได้แน่หรอถ้าพี่หมอ......ถ้าฉันจะเล่า”



“ได้สิ ผมเก่งนะ ไม่อยากจะโม้” ผมพยักหน้ารัวๆ มีหรอที่ผมจะรับไม่ได้ ปาร์คชานยอลคนนี้เข้มแข็งนะ!! เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วค่อยๆเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังอย่างละเอียด..…




เรื่องทุกอย่างค่อยๆถูกเล่าไปเรื่อยๆ ทีละนิด ทีละนิด ทีละนิด แต่มันดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับผม ผมเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว ทันทีที่เขาเล่าจบ ผมก็นั่งนิ่ง อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก รู้สึกเหมือนมีคนเอาไม้มาตีหัว เราเป็นคนไข้ของเขา โอเค อันนั้นรับได้ แต่เราความจำเสื่อม แล้วจำไม่ได้ว่าเป็นแฟนกันอันนี้มันเหลือเชื่อ!!! มะ ไม่จริงน่า บะ บ้าน่า เป็นแฟนกับคนคนนี้เนี่ยนะ ไม่ ไม่ ไม่ใช่ละ ตลก คนไข้กับหมอเป็นแฟนกัน น้ำเน่าไปแล้ว ไม่ๆ เราไม่เห็นจะจำได้เลยว่ามีแฟนเพอร์เฟ็คอย่างนี้ ไม่ๆ




“รับไม่ได้หรอ”เขาถามพยายามทำเสียงสบายๆ แต่มันก็ดูเศร้าเกินกว่าจะทำได้ ผมหันขวับไปมองหน้าเขา คนคนนี้น่ะหรอ คนคนนี้น่ะนะ!!!



“คุณน่ะนะแฟนผม”



“ฉันรู้ว่า ฉัน คงไม่มีดีอะไรให้....”ผมยื่นหน้าไปมองหน้าเขาชัดๆ โอ้ พระเจ้า!!!



“มีแฟนเป็นหมอนี่มันความฝันของผมตอนอายุสิบสองขวบเลยนะ!!!”



“ห๊ะ!!!”



“เดี๋ยวๆ!!! ถึงจะดีแค่ไหน แต่ผมต้องทดสอบว่าคุณพูดจริงก่อน!!!” ผมรีบคว้ามือเขาขึ้นมาจับแก้มตัวเอง ก่อนจะหลับตา นั่งเพ่งหาความรู้สึกเขินในตัวเอง ถ้าเป็นแฟนกัน จับตัวกันก็ต้องตัวพุ่งปรี๊ด ต้องหน้าแดงต้องเขินตัวแตก แล้วก็ต้องใจเต้นตึกตักๆ เหมือนหัวใจจะวายตาย ถ้าเขาพูดจริง เราจะต้องรู้สึกแบบนั้นแน่นอน เรามั่นใจ!!! อีกสองวิ เราจะต้องเขิน เขิน เขิน เอ่อ ทำไมมันไม่เขินเลยอ้ะ




“ชะ ชานครับ..”



“เงียบๆ เดี๋ยวเสียสมาธิ เขิน เขิน เขิน เขิน เขินสิ เขิน เขินนน ทำไมไม่รู้สึกอะไรเลยอะ นี่คุณโกหกป้ะเนี่ย”



“พี่หมอไม่ได้โกหกนะครับ พี่หมอพูดจริง”



“ถ้างั้นแล้วทำไมผมไม่ตัวแตก ไม่หน้าแดง ไม่ใจเต้นตึก.......เดี๋ยว ผมได้ยินเสียงหัวใจเต้นตึกตัก!!!” ผมรีบจับหัวใจตัวเอง แล้วตั้งใจฟังเสียงของมัน ตึก ตัก ตึก ตัก ตึก ตัก ก็เต้นปกตินี่ ไม่เห็นจะเร็วไรเลย แต่ว่า แต่ว่าเมื่อกี้ผมได้ยินจริงๆนะ ตอนนี้ก็ยังได้ยินอยู่ ใกล้ๆนี่เอง ถ้ามันไม่ใช่ของผม แล้วมันจะเป็นของใครล่ะ หรือว่า หรือว่าจะเป็นของ ของ.......
ของคุณคำตอบ!!!



ผมพุ่งตัวไปแนบหูฟังเสียงหัวใจของเขาทันที




“โหหหห ทำไมเต้นเร็วอย่างนี้ล่ะ ไม่เห็นเหมือนของผมเลย” ผมวางมือเขาทาบกับหัวใจของตัวเอง โห หัวใจเขาเต้นแรงกว่าเดิมอีกแหนะ ยังเร็วได้ยิ่งกว่าเมื่อกี้อีกหรอ แต่ว่าทำไมของผมมันยังปกติอยู่เลยล่ะ หรือว่าจะ...... ต้องใช่แน่ๆ!!!



“นี่! สรุปคุณเป็นแฟนผม แต่ผมไม่ใช่แฟนคุณใช่ป่ะ ใจผมไม่เต้นแรงตอนแตะตัว แต่ของคุณเต้นจนจะวายตายแล้ว ผมสรุปถูกต้องมะ คุณหมอ”



“เรา เป็นแฟนกัน” ผมมองค้อน เน้นจังนะคำว่าเราอะ ตานี่เชื่อถือไม่ได้แน่นอน ผมมั่นใจว่าเขาเป็นแฟนผม แต่ผมไม่ใช่แฟนเขาชัวร์ๆ เพื่อให้แน่ใจ ผมจะถามจากคนอื่นดูบ้าง เราต้องหาข้อมูลหลายๆที่ แล้วค่อยตัดสินใจเชื่อ ฮิ!!!



“หม่าม๊า......”ผมหันไปถามม๊าที่ยืนอยู่ข้างหลัง



“เรื่องจริงหรอ” จริง ไม่จริง จริง ไม่จริง จริง ไม่จริง แล้วหม่าม๊าก็ค่อยๆ..............พยักหน้า!!!



“ไม่จริงอ้ะ” ไม่ ไม่ ไม่!!!ปาร์คชานยอล นายต้องใจเย็นไว้ เขาอาจโกหกหม่าม๊าของนายด้วย อย่าไปเชื่อคนง่ายจากแค่คำพูดของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นสเป็คของนายตอนสิบสองขวบก็เถอะ อย่าเชื่อ!!! อย่าเพิ่งวางใจๆ ต้องให้แน่ใจกว่านี้ก่อน แล้วค่อยสติแตก



“นี่ ผมจะแน่ใจได้ไงว่าคุณพูดจริง พิสูจน์ได้มะ ถ้าเราเป็นแฟนกัน คุณก็ต้องรู้จุดอ่อนของผม ใช่ป่ะล่ะ” ผมยักคิ้วใส่ หึ นอกจากคุโรแล้วก็ไม่มีใครหรอกที่รู้จุดอ่อนของผมน่ะ อย่าคิดจะมาหลอกคนอย่างปาร์คชานยอลง่ายๆ ไม่มีท๊างงงงงงงง!!!



“เอางั้นหรอ”



“ก็ใช่น่ะสิ โด่ว กะแล้วว่าต้องไม่.........อุ๊บ!!!” คำพูดทั้งหมดถูกกลืนหายภายในพริบตา เมื่อเขา เมื่อเขา!!!!! คว้าผมไปจูบ!!!!





มะ ไม่จริง ไม่จริง ไม่จริงน่า เรื่องบังเอิญๆ เขาไม่รู้จุดอ่อนจริงๆหรอก ไม่รู้ ไม่รู้ๆ เรื่องบังเอิญๆ





“แค่นี้คงไม่คิดว่าจะฆ่ากันหรอกมั้ง” ไม่!!! เขารู้จุดอ่อนนั่นจริงๆแล้ว!!!!




ผมอ้าปากพะงาบๆ หันซ้ายหันขวา ก่อนจะเห็นตัวช่วยผมออกจากสถานการณ์นี้




“มะ ม๊า.....ผม ผม โอ่ยยยยยยยยย ไข้ขึ้น โอ่ยยยยยยย ตัวร้อน จะตายแน่ๆเลย โอ่ยยยย หาหมอๆ กลับห้องกันดีกว่า ไม่ไหวแล้วววววว” “ระหว่างที่พูดไปผมก็ลากม๊าวิ่งกลับห้องตัวเองไปด้วย เสียงหัวเราะของเขาที่ดังตามหลังมาเหมือนกับจะเยาะเย้ยผม หึ่ย!!! ฝากไว้ก่อนเถอะ รอหายตัวพุ่งปรี๊ดก่อน แล้วจะกลับไปเอาคืน ดะ เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้ว่าไงนะ ตัวพุ่งปรี๊ดหรอ.....



“ไม่น้า!!!” ผมจับแก้มที่ร้อนจี๋ของตัวเอง ก่อนจะบีบมันเข้ามาจนปากจู๋ ตัวพุ่งปรี๊ดหรอ เขินหรอ ตัวแตกหรอ เป็นแฟนกันหรอ ผมลูบปากตัวเองเบาๆ พลางคิดถึงตอนที่เขาจูบผม สัมผัสนิ่มๆหยุ่นๆยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปาก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีคนที่รู้จุดอ่อนผมด้วย ตั้งแต่เด็กผมจำฝังใจว่าจูบคือการลงโทษ การทำให้อีกคนหายใจไม่ออก หอบแฮ่กๆตาย เวลาเห็นคนจูบกันผมก็จะกลั้นหายใจ ทรมานแทน แล้วก็จะกลัวมากๆด้วยถ้าเขาจูบกันนานมากไป ผมบอกเรื่องนี้กับแค่คุโรคนเดียว ถ้าเขารู้ด้วย ก็แสดงว่า...... เขาเป็นคนสำคัญจริงๆ....



“เรื่องจริงหรอเนี่ย!!!”ผมจับริมฝีปากไปมา ที่มันร้อนอย่างนี้เพราะเพิ่งโดนฆ่ามาใช่มั้ย ผมกำลังจะตายใช่มั้ย ตัวผมร้อนไปหมด โดยเฉพาะที่แก้ม มันวาบๆ แล้วหัวใจของผมก็เต้นเร็วมาก เหมือนมันจะวายตายเลย นี่ผมกำลังจะตายเพราะจูบนั่นใช่มั้ย แต่ทำไม ทำไม อาการมัน......เหมือน...........ตัวพุ่งปรี๊ดเลยล่ะ....



“หม่า หม่าม๊า........ถ้า ถ้าเราถูกคนแปลกหน้าจูบ เราจะรู้สึกยังไงฮะ”




“เราก็จะโกรธสิจ๊ะ ไม่มีใครชอบให้คนไม่รู้จักทำอย่างนั้นหรอกชานยอล”



“ละ แล้ว ถ้าแฟนเราจูบเราล่ะฮะ เราจะรู้สึกยังไง”




“เราก็จะเขิน หน้าแดง ตัวเราจะร้อนๆ หัวใจจะเต้นรัวไงจ๊ะ” ทะ ทำไม ผมถึงรู้สึกแบบนี้ล่ะ ทำไมถึงได้ใจเต้นแรงเวลาถูกคนแปลกหน้าจูบ.....




เราเป็นแฟนกับเขาจริงๆน่ะหรอ ผู้ชายที่ดูสมบูรณ์อย่างเขาน่ะนะ จะชอบเด็กกะโปโลอย่างเราน่ะหรอ เป็นไปได้ด้วยหรอ คุณหมอ กับคนไข้สติเฟื่องน่ะหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลย....




ผมฟุบหน้ากับหมอน กางแขนกางขาแผ่เต็มเตียง เราจำอะไรไม่ได้เลย ไม่ได้สักกะอย่าง หน้าเขา ชื่อเขา ก็เพิ่งมารู้จักเมื่อหลายวันก่อน สำหรับเราเขาก็ต้องเป็นคนแปลกหน้าสิ แต่ทำไมเราถึงเขินอย่างนี้นะ ไม่เข้าใจเลย....




“ความทรงจำ กลับมาหาเราหน่อยสิ”ผมพึมพำเบาๆ ก่อนจะฟุบหน้าลงกับหมอนต่อ พลางคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆที่รับรู้มาจากปากเขา....





เราเป็นมากกว่าหมอกับคนไข้
แต่เราเป็น......แฟนกัน




ถ้าความทรงจำผมหายไป คนที่จะบอกทุกอย่างได้ก็คือคนที่อยู่กับผมตลอดเวลา ซึ่งนั่นก็คือ.....




คุโรบุตะ!!!!






-------------------------------------------------






ผมนั่งยิ้มอยู่คนเดียวบนเตียงคนไข้ ครั้งแรกที่รู้สึกมีความสุขหลังจากที่ผ่านเรื่องราวเลวร้ายมา ไม่คิดเลยว่าเขาจะเข้าหาผมขนาดนั้น ผมมองไปที่ที่เขาเคยนั่งอยู่ ก่อนจะหัวเราะกับตัวเองเบาๆ
จะว่าไปเขาก็โตกว่าเด็กสิบสอง แค่สองสามปีเท่านั้นเองล่ะ...




“พี่! เมื่อกี้พี่กล้ามาก!!”ลู่หานเริ่มโวยวาย



“ถามจริง พี่ไม่คิดถึงพวกเราเลยหรอวะ นั่งกันตั้งเยอะ”เซฮุนถามเสียงจริงจัง



“ตอนนั้นใครจะสนล่ะ” ผมยิ้มพลางคิดถึงตอนที่จูบชานยอล จุดอ่อนของเด็กคนนั้นมีเยอะแยะไป แต่ถ้าจะให้ทำโดยที่มีคนอื่นอยู่ด้วยได้ ก็มีแค่จูบอย่างเดียวล่ะ มากกว่านี้คงไม่ไหว.....



“สุดยอดล่ะพี่เรา” ผมยักคิ้ว ก่อนจะฝังตัวเองลงในภวังค์ต่อ




ผมลูบริมฝีปากที่จูบเขาไปเมื่อกี้ไปมาช้าๆ จะเป็นอะไรมั้ย ถ้าผมจะบอกว่าผมกำลังเมาขนม ใช่ครับ คุณได้ยินถูกแล้ว ผมกำลังเมาขนมที่มีชื่อว่า......ชานยอล



จูบนั้นมันหวานมาก รสชาติละมุนละไมยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปาก แม้ว่าผมจะไม่ได้ลุกล้ำอะไรเลยก็ตาม รสของมันทำเอาผู้ชายที่ไม่ชอบกินของหวานอย่างผมรู้สึกอยากเสพติดมันอีก กลีบปากที่นุ่มนิ่มเหมือนมูส ความหอมจากตัวที่เหมือนกลิ่นชินเนม่อน รสชาติของจูบที่เหมือนเค้กผลไม้ที่ฉ่ำไปด้วยความสดชื่น ที่ไม่ว่าจะจูบอีกกี่ครั้ง จะล้ำลึกแค่ไหน ความอร่อยของมันก็ไม่เคยลดลงเลย.....




“คะ คุณหมอคะ”เสียงพยาบาลเรียกผมออกจากภวังค์ เธอยื่นอยู่ข้างผม พร้อมกับยื่นถุงอะไรบางอย่างมาให้


“ครับ??”ผมเลิกคิ้ว ถ้าถุงนี่ไม่สำคัญเท่าจูบนั่น ผมไม่ยกโทษที่เธอเข้ามาขัดผมจริงๆ



“ตุ๊กตาที่คุณหมอตามหาไงคะ”



“คุโรบุตะ!!!” ผมรีบหยิบมันออกจากถุงทันที



“คุณ!! ไปเจอมันที่ไหนครับ แล้วเจอเมื่อไร” ผมรีบรัวคำถาม



“ค่ะๆ กู้ภัยที่ไปช่วยคุณที่รถ เก็บมันไว้น่ะค่ะ พอเห็นใบประกาศ ก็เลยเอามาให้คุณหมอน่ะค่ะ”



“งั้นหรอครับ ขอบคุณมากเลยนะครับ” ผมมองคุโรบุตะในมือพร้อมกับยิ้มออกมา ถ้าชานยอลเห็นก็คงจะดีใจมากๆแน่ๆที่ได้ไอ้เขียวนี่กลับมา คิดได้ดังนั้นผมก็ตั้งท่าจะลงจากเตียง แต่สายตาดุของพยาบาลยั้งไว้เสียก่อน


“เอ่อ......”



“คุณหมอคะ งดใช้เท้าเถอะนะค่ะ แผลจะได้หาย”



“นิดหน่อยเองครับ”ผมว่าก่อนจะหย่อนเท้าลงไปข้างหนึ่ง



“ อย่าเลยนะคะ” ขาลงไปข้าง ตั้งท่าจะลุกขึ้นยืน



“ไม่งั้นฉันจะบอกแม่ของคุณหมอนะคะ” ..............................ชักเท้ากลับ กลับมานั่งบนเตียงเหมือนเดิม เธอถอนหายใจโล่งอกก่อนจะพูดต่อ



“คุณหมอคะ ตุ๊กตาตัวนี้เอ่อ.....ของคุณหมอรึเปล่าคะ คือฉัน”เธอถามตะกุกตะกัก เหมือนคนที่กำลังกังวลอะไรบางอย่างอยู่



“ทำไมหรอครับ”


“คือเมื่อกี้ฉันเห็นเด็กผู้ชายห้องข้างๆ พึมพำว่าคุโรบุตะๆ แล้วก็พูดว่า หาความจริงๆ อะไรนี่ล่ะค่ะ เหมือนเขากำลังหามันอยู่เลย” เด็กผู้ชายห้องข้างๆ หาความจริงๆ ก็มีอยู่คนเดียวล่ะที่จะทำแบบนั้น.....หึ คิดอะไรสนุกๆออกละ



“งั้นหรอครับ ถ้าคุณเจอเขา ฝากบอกทีนะครับ ว่ามันอยู่กับผม”



“อ๋อ ได้ค่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ แล้วคุณหมอก็ อย่าลุกไปไหนนะคะ เดี๋ยวแผลไม่หาย”


“ไม่ต้องเดินแล้วล่ะครับ”..................เพราะยังไงเดี๋ยวเขาก็มาหาผมเองอยู่ดี




ผมนั่งยิ้มกับความคิดของตัวเอง ชานยอลกำลังตามหาคุโรบุตะอยู่ เพราะอยากรู้ว่าเรื่องที่ผมพูดจริงมั้ย ยังไงเขาก็ต้องมาหาผมอยู่ดีล่ะ ผมก้มดูคุโรบุตะบนตัก ก่อนจะยิ้มออกมา....



“ได้เวลาสนุกแล้วสิ คุโรบุตะ”






--------------------------------------------




ผมกำลังวิ่งลงมาชั้นล่าง เดินไปทั่วโรงพยาบาล กวาดตามองหาทุกที่ที่คุโรบุตะน่าจะไปอยู่ กบต้องชอบที่ชื้นๆสิ งั้นก็คงต้องห้องน้ำ!!!



ผมตั้งท่าจะเดินเลี้ยวเข้าห้องน้ำ แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง พยาบาลคนที่เดินสวนกันเมื่อกี้ วิ่งมาหาผม




“คุณคะ ตุ๊กตาที่คุณตามหา ...”



“ครับ ทำไมหรอครับ เจอมันหรอ จริงๆอ้ะ!!!”ผมรีบเขย่าตัวเธอ



“ตุ๊กตาอยู่กับคุณหมอคริสค่ะ คนไข้ห้องข้างๆคุณ” คุณหมอคริส คุณหมอคริส คุณหมอคริส!!! ทำไมต้องอยู่กับเขาด้วยล่ะ หึ๋ย!!! แค่คิดถึง ภาพตอนจูบก็ลอยมาแล้ว ย๊า นี่เราคิดอะไรเนี่ย ไม่ๆ อย่าไปนึกถึงสิ ต้องท่องไว้ คุโรๆ คุโรๆ เพื่อความจริงๆ เราทำได้ สู้ๆ ปาร์คชานยอล




ผมรีบวิ่งไปที่ห้องของเขา พุ่งตัวเข้าไปอย่างรีบร้อน เยสสส!!! คุโรบุตะอยู่กับเขาจริงๆด้วย แล้วเขาก็กำลังหลับอยู่!!! ดี จะได้ขโมยกลับมาง่าย!!!




--------------------------------------------






ใครว่าผมหลับหรอครับ..... ผมยังไม่ได้บอกสักคำเลยว่าผมหลับ ผมแค่ “แกล้ง” หลับเฉยๆ ก็มีคนบอกไว้ไม่ใช่หรอ ว่าถ้าอยากแกล้งคน หรือรู้ความลับของเขา ต้อง แกล้งหลับนิ่งๆ แล้วฟังสิ่งที่เขาพูดดีๆ....





“คุโรรรรรร บุตะ อุ๊บ!! ต้องเบาๆ” เสียงชานยอลดังใกล้เข้ามาตัวผม แล้วตามมาด้วยสัมผัสกระตุกเบาๆที่ขาของไอ้เขียวที่ผมกอดเอาไว้อยู่ เดาว่าเขากำลังหยั่งเชิงว่าผมจะตื่นขึ้นมามั้ย



“หึ๋ย กอดแน่นอย่างงี้ จะเอามาได้มั้ยนะ”เสียงเขาทรุดนั่งลงกับพื้น เขาคงจะกำลังหงุดหงิดอยู่ล่ะ สักพักหนึ่งเขาก็กระตุกขาคุโรด้วยแรงที่มากขึ้น ผมรีบกอดคุโรให้แน่นขึ้น



“หึ่ย!!! จะไม่กลับมาใช่มะ คุโร อยากอยู่กับเขาใช่มะ หึ่ย!!! ไอ้กบเลี้ยงเสียแมลง อุตส่าห์จับให้กินแต่ของดีๆ ฮึ่ย ไม่ดึงแล้วก็ได้ แต่ช่วยตอบคำถามหน่อยละกัน” ชานยอลสูดลมหายใจลึก ผมหรี่ตาขึ้นมองเขาเล็กน้อย เห็นชานยอลโน้มหน้ามากระซิบถามข้างหูไอ้เขียวนั่น



“นี่ เรื่องที่เราเป็นแฟนกับพี่หมอคนนี้จริงหรอ นายอยู่กับเราตลอด นายต้องจำทุกอย่างได้สิ” จากนั้นเด็กตัวโย่งที่อายุสมองน่าจะหยุดที่สิบสองขวบแบบถาวร ก็เบิกตากว้าง ก่อนจะตะปบแก้มไอ้เขียวนั่น




“จริงหรอคุโร!!! เราเป็นแฟนเขาจริงๆอะ!!! โหยย.....คนที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้นเนี่ยนะ จะรักเด็กกะโปโล แถมตอนนั้นก็ไม่เต็มบาทอีก สเป็กแปลกหรือเราน่ารักเกินไปอะ” ชานยอลยิ้มเขินๆให้กับความหลงตัวเอง ก่อนจะทรุดตัวนั่งกับพื้นแล้วยกมือขึ้นมาชี้หน้าผมด้วยสีหน้าเพ้อๆ




“ตาก็มีอำนาจ แค่ถูกจ้องหน่อยเดียวก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว จมูกก็โด่ง หันข้างทีคิดว่าพิน็อคคลีโอ ปากก็แดง ถึงป่วยอยู่แต่ก็ดูน่าจูบ ตัวก็สูง แถมหุ่นก็ดี คงปกป้องคนอื่นได้สบายๆ นี่มันคนหรืออะไรนะ ทำไมสมบูรณ์แบบได้ขนาดนี้ คุณหมอ รู้มั้ย ว่าคุณหมออะเป็นฆาตกร เพราะคุณหมออะทำผมเกือบตาย แค่คุณหมอมองผม แค่คุณหมอยิ้ม แค่คุณหมอจูบผม ใจผมก็เต้นแรง ตัวก็ร้อน มันเขินจนตัวจะแตกเลย คุณหมอฆ่าคนด้วยวิธีนี้บ่อยรึเปล่า หล่อๆอย่างนี้ คงฆ่ามาเยอะแล้วใช่มั้ยล่ะ”



“อยากรู้จริงหรอ” ชานยอลตาโตก่อนจะปรับสีหน้ามาเพ้อเหมือนเดิม


“ผมเพ้อจนเห็นคุณหมอตื่นมาตอบใช่มะ ใช่ ผมอะ อยากรู้นะ แต่ไม่กล้าถาม” เอ๋อชะมัด! ผมมองหน้าที่เคลิ้มกับฝันหวานอย่างนั้น ก่อนจะหัวเราะแล้วหันไปตอบคนช่างฝัน



“ตอนนี้และต่อไป พี่หมอจะฆ่าแค่ชานยอลคนเดียวครับ”



“โดนฆ่าก็ต้องรู้สึกไม่ดี แต่ทำไมผมถึงรู้สึกดีล่ะ”



“งั้นก็ชอบถูกฆ่าล่ะสิ” ผมยิ้มก่อนจะ นึกอะไรดีๆออก ในเมื่อชอบโดนฆ่า เราก็จะฆ่าหลายๆที......



ได้เวลาโดนฆ่าแล้วชานยอล!!!




ผมคว้าตัวเขาขึ้นมา ก่อนจะโน้มหน้าลงไปจูบ เม้มปากเขาเบาๆหลายๆที พร้อมกับไล่ลิ้นเลียชิมกลับปากของเขาไปด้วย สัมผัสที่เร็วและอ่อนไหว ทำให้ชานยอลเบิกตากว้าง รีบผลักผมออกทันที




“คะ คุณหมอ!!!”



“ตื่นจากการเพ้อสักทีนะ” ผมว่าติดตลก ชานยอลหน้าขึ้นสีทันที ก่อนจะคว้าหมอนขึ้นมาปิดหน้า มือเรียวที่กำไว้อยู่ซีดจนกลายเป็นสีขาว



“นี่ เขินหรอ”ไม่มีคำตอบหลุดออกมาจากชานยอล



“แล้วเมื่อกี้ หมายความว่าไงที่ว่า จะตายเพราะ....”


“ไม่รู้ไม่ฟัง!!!”



“นี่ เมื่อก่อนทำมากกว่านี้ไม่เห็นจะเขินเลยนะ”ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่ดันไปสะกิดโดนต่อมอยากรู้ของชานยอลเข้า


“มากกว่า มากกว่านี้อีกหรอ ย๊า!!!”ชานยอลรีบนั่งกอดเข่า ซ่อนทุกส่วนของร่างกายอยู่หลังหมอน นี่คิดว่า การเห็นเนื้อหนังมังสาจะทำให้ผมเกิดอาการคึกมาเดินป่ากับเขารึไงกัน เด็กน้อยซะจริง


“นี่ เลิกหลบได้แล้ว พี่หมอไม่ทำไรหรอก.............. อ้าว ยังไม่ออกมาอีก ถ้าออกมาช้า แล้วพี่หมอเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา ไม่รู้ด้วยนะ”พูดยังไม่ทันขาดคำ ชานยอลก็ปาหมอนใส่ผมทันที ก่อนจะวิ่งตามมาปิดตาผมเอาไว้ แล้วคว้าคุโรบุตะไปจากมือผม


“ชาน!”



“ไอ้บ้าไอ้บอ หลับตาไปเลยนะ!!! ห้ามลืม!!! จนกว่าจะได้ยินเสียงปิดประตู!!!” ใครจะยอมทำตาม!!! ผมรีบลืมตาขึ้นมา จนทันได้เห็น ใบหน้าที่แดงเถือกไปถึงหูของเขา .....





ปัง!!





เสียงประตูห้องถูกปิดเสียงดัง พร้อมกับเจ้าตัวแสบที่หายลับไป…





ผมนั่งหัวเราะกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นทาบหัวใจตัวเอง ถ้าหูไม่เพี้ยน เมื่อกี้ผมก็ได้ยิน..........เสียงหัวใจของชานยอลเหมือนกัน...







----------------------------------------







“คุโรรรรรร คุโรรรรร คุโรรรรรรร คุโรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร ”ผมนั่งเขย่าคุโรบุตะจนหัวมันคลอนไปหมด โอ่ยยยย เกิดมาไม่เคยอายขนาดนี้มาก่อนเลย ทั้งไปเพ้อต่อหน้าเขา ทั้งโดนเขาจูบ ทั้ง โอ่ยย มันจะเยอะไปแล้วนะ




“วู วู วู ตั้งสติไว้ ตั้งสติไว้” ผมเป่าลมหายใจ พร้อมกับโบกมือพัดหน้าที่ร้อนจี๋ของตัวเอง แต่ยิ่งทำ อุณหภูมิในร่างกายกลับยื่งสูงขึ้นเรื่อยๆ แถมหัวใจของผมก็ยิ่งเต้นรัวขึ้นด้วย



“ไอ้หมอลามก!!!” ผมกัดปากตัวเองอย่างคนที่กำลังโกรธ แต่ความจริงแล้วความโกรธมันไม่มาหาผมเลย แต่ความรู้สึกตัวพุ่งปรี๊ดกลับมาหามากกว่าเก่า!!! ทั้งจูบ ทั้งยังบอกเรื่อง..........โอ่ย ไม่ๆ อย่าคิด เลิก!!!




“โอมจงลืม โอมจงลืม โอมจงลืม ลืมมมมมมมมมมม!!!!”




“เอะอะอะไรดังไปถึงนอกห้อง” ผมสะดุ้งโหยง เมื่อจู่ๆ หมอเจ้าของไข้(ที่โหดแสนโหด)เปิดประตูเข้ามาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ผมได้ยิ้มแหยๆไปให้เธอ ก่อนจะขยับตัวให้เธอดูแผลของผม




หมอสมองน่ะไม่ต้องการหรอก แต่อยากได้จิตแพทย์มาดูอาการบ้าๆของผมมากกว่า โอ่ย เมื่อไรจะเลิกใจสั่นและหลอนประสาทเพราะเขาสักทีนะ ขนาดอยู่กับคนดุๆอย่างนี้ยังไม่เลิกคิดถึงเขาเลย น่าโมโหจริงๆ!!!




“พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วนะ แผลหายไวมาก”ผมพยักหน้ารับช้าๆ ได้กลับสักที



“หมอ หมอครับ คือ ที่นี่มีจิตแพทย์ที่เก่งๆ เชี่ยวชาญ รักษาโรคจิตได้ทุกประเภทมั้ยอะครับ”ผมรีบถาม



“ก็มีอยู่คนหนึ่ง แต่ไม่ได้ประจำอยู่โรงพยาบาลนี้ แต่อยู่อีกโรงพยาบาล ทำไมหรอ”



“ผมคิดว่าผมมีอาการทางจิตฮะ ใจผมสั่น และก็ชอบหลอนถึงคนคนหนึ่ง ต่อให้เขาอยู่ไกลแค่ไหนผมก็จะไปรักษากับเขาให้ได้ ผมจะสลัดภัยคุกคามนั่นให้ได้เลย”



“อะไรกันที่เป็นภัยคุกคามของเธอ”



“ก็คุณหมอห้องข้างๆไงฮะ เขาน่ะอันตรายมากๆเลยล่ะ”



“อ้อ เดี๋ยวจะลองติดต่อจิตแพทย์คนนั้นให้ละกันนะ”ผมโค้งศีรษะขอบคุณ เธอพยักหน้ารับ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่ประตู แต่ยังไม่ทันจะออกไป เธอก็ชะงัก หันหลังกลับมาพูดกับผมเสียก่อน....


“อ้อ ลืมบอกไป แย่หน่อยที่ จิตแพทย์คนนั้นดันล้มป่วยอยู่ อาจจะต้องรอหน่อยนะ ถ้าจะให้เขารักษา”


“อ้อออ ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้”


“แล้วก็อีกข้อ จิตแพทย์คนนี้เป็นลูกชายของฉันเอง แล้วก็เป็นภัยคุกคามข้างๆห้องเธอด้วย ถ้าจะรักษาก็ระวังๆหน่อยละกันนะ เดี๋ยวอาการจะกำเริบได้” พูดเสร็จเธอก็เดินออกไป ทิ้งให้ผมรู้สึกเหมือนมีค้อนมาทุบหัวอยู่คนเดียวในห้อง นี่เรานินทาลูกชายเขาต่อหน้าแม่เขาเนี่ยนะ เหออออออออออออออ โง่เง่าเต่าตุ่นจริงๆเลย หึ๋ย!!!





ผมทิ้งตัวลงกับเตียง ก่อนจะดิ้นไปดิ้นมา วันนี้มันวันบ้าไรวะเนี่ย ฮึ่ย!!! ไม่ๆ ชานยอล นายต้องนึกถึงวันพรุ่งนี้ๆ อนาคตอันสดใส หนีจากภัยคุกคามนั่น ใช่ๆ นายต้องคิดถึงมันไว้ นายต้องรีบนอน เพื่อสันติภาพในเช้าวันใหม่ นอนซะๆ





ผมข่มตาหลับ สั่งตัวเองให้นอนตั้งแต่ทุ่มหนึ่ง ไม่เป็นไรๆ คนเราต้องพักสมองเยอะๆ เผื่อสมองมันจะนึกเรื่องที่ลืมได้ เอ่อ คิดไรออกไป โน่วๆ ช่างมัน นอนๆ นอนซะ ........................................................ฟี้! โอเคทุกคน ผมจะนอนแล้ว เลิกขำ เลิกตบมือเป็นคนบ้า สักทีเถอะ ผมนอนละนะ นอนละ ฝันดีนะทุกคน พรุ่งนี้ผมจะไปหาสันติภาพ บายบาย....




เช้าวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไร้เมฆ แสงอาทิตย์ส่องผ่านม่านฟ้าลงมาตกกระทบยังพื้นโลก เพิ่มอุณหภูมิให้กลับมาอบอุ่นมากขึ้น ร่างร่างหนึ่งกำลังนั่งกอดกระเป๋า พร้อมกับหนีบตุ๊กตาเอาไว้ที่แขนอยู่บนเตียง ตากลมคอยจับจ้องไปที่ประตูห้องพัก เพื่อรอสัญญาณให้กลับบ้านได้ หลังจากที่แม่ของเขาไปเดินเรื่องออกจากโรงพยาบาล เขานั่งรออย่างใจจดใจจ่อ ทันทีที่แม่เขาเดินเข้ามา เขาก็กระเด้งตัวลงจากเตียง




“หม่าม๊า กลับบ้านกัน” ผมรีบพูดก่อนจะลากหม่าม๊ากลับบ้าน โดยไม่ลืมหันมาแลบลิ้นปริ้นตาใส่ประตูห้องข้างๆ กู๊ดบาย ภัยคุกคาม!!! จากนั้นผมก็รีบตรงดิ่งกลับบ้านทันที




ใช้เวลาไม่นานผมก็มาถึงบ้าน อ๊า คิดถึงจังเลย ไม่ได้กลับมาตั้งนาน ยังเหมือนเดิมอยู่เลย ผมเดินสำรวจรอบบ้านไปทั่ว ตั้งแต่ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องพี่แม่บ้าน คนงาน สวน สระว่ายน้ำ ก่อนจะวิ่งตึงตังขึ้นไปบนห้อง ทุกอย่างยังเหมือนเดิมอยู่เลยยยย ดีจัง!! ผมกระโดดไปนอนกลิ้งอยู่บนเตียงพร้อมกับคุโรรรรร บุตะ ฮ๊า มีความสุขจังเลยยยยย ไม่ได้กลับมานอนเตียงนุ่มๆนี่ตั้งนานแหนะ คิดถึงจัง ผมกอดกลิ้งไปทั่วๆเตียงก่อนจะเด้งตัวขึ้นมาสำรวจห้องของตัวเอง ผ้าม่านเหมือนเดิม รูปเหมือนเดิม ตู้เสื้อผ้าเหมือนเดิม โต๊ะทำงาน..........เอ๊ะ ทำไมมีกองจดหมายอยู่บนโต๊ะผมเยอะจังล่ะ ผมหยิบฉบับหนึ่งขึ้นมา ก่อนจะอ่านหน้าซอง....





สถานีบำบัดคนบ้า ตอนที่17 Cute-rubber_stamped_letter_envelope2





“นี่มันอะไรกันน่ะ”จะไม่ให้สงสัยได้ยังไง ในเมื่อจดหมายมันเป็นจดหมายที่ส่งถึงตัวเอง!!!!!!




http://0ctogus.forumth.com

pachaam_

pachaam_

โอ่ยลดาจ๋าฮาไปนะ 555555555555555555555555555555555
แหมคุโรมันตอบลดาได้ไงวะอยากรู้มากเลย ถามปุ๊ปตอบปั๊ป
5555555555555555555555
โอยคริสยอล ฟหกดเ้่าสวง้เกหฟฟดด แงร้ๆๆๆ
เมื่อวานคือฟินกับคริสยอลมาก วันนี้ไรต์อัพฟิคอ่ะ แบบโอ๊ยฟินโลกแตก
T / / / / / / / / // / / / // / / / / / / T
แล้วลดานางนินทาลูกชายให้แม่เค้าฟัง โอ่ย ขุมหลุมฝังตัวเองเป่า
เป็นเราเราจะ ฟหกดเดเดวงามงิทง่แบไ้ืดอนกทเดส้ายวด้งวำ
ฮือ ขอฮาอีกรอบ ความฝันลดาคืออยากมีแฟนเป็นหมอ 5555555555555555555555555555555
โอ๊ยแกจะฮาไปไหน 5555555555555555555555555555
แต่ว่า ..
ลดาเขียนจดหมายให้ตัวเองทำไมอ่ะ Question


รออยู่นะไรต์เตอร์ สนุก 5555555555555555555555555555555

https://twitter.com/_5Qwc

akanishibluecat

akanishibluecat

ชานชานมาแล้ววว คิดถึงจะแย่ อิอิ

ใกล้ความจิงแล้ว อีกไม่นานชานเท็น ต้องจำ พี่หมอได้แน่นอน เพระตอนนี้เริ่มหวั่นไหว ไปกับ จูบของพี่หมอแล้ว

พี่หมอ รอหน่อยนะ เดวพอชานเท็น เปิด จม อ่าน คงจะรู้ ความจิงเอง

นี่ขนาดยังจำกันไม่ได้ ยังฟินไปไกลเลยไรทเตอร์ .......

ยิ่งอ่าน ยิ่งชอบ โดยเฉพาะ ชานเท็น5555555

แล้วมาต่ออีกนะค่ะ ไรท์ รออยู่

mimiw

mimiw

เงอออ อ่านตั้งแต่เมื่อคืน เพิ่งจะได้มาเม้นนี่แหละ

เงออออ ทำไมยังดูเหมือนน้องยอลยังเป็นบ้าเหมือนเดิมอ่ะ - - น่าจับไปให้รถชนอีกรอบ

ก็นะ บุคลิคแกมันน่าให้เป้นคนบ้านี่หว่านังยอลลดา

คิกๆๆๆ ใกล้จบแล้วสินะ หวังว่าคงไม่มี กขค. ชิ้นใหญ่มาขว้างนะ

https://twitter.com/MiMiw_Krisexo

YRAUNAJ_YEOL

YRAUNAJ_YEOL

อ๊ายยยยย >//<

หยอยจะจำเฮียได้แล้ว ดีใจเหลือเกิน

แต่ว่าหมอจิตแพทย์คนนั้นต้องเป็นเฮียแน่เลย - -

หนีเฮียไม่พ้นหรอกหยอย ฟินอีกแล้ว >,,<

Sky_fff

Sky_fff

อ่านจากตอนที่16 เราก็นึกว่าจะดราม่าหรือซีเรียสไรงี้

ที่ไหนได้ชานชานยังเหมือนเดิมเลย 5555

น้องน่ารักอ่ะ จำไม่ได้แต่ไม่เย็นชาใส่พี่หมอก็พอแล้ววว

แต่อยากให้ชานชานกลับมาจำได้ไวๆนะ -3-

ลุ้นตอนต่อไป Very Happy

Kriskiss



พี่หมอน่ารักกกก
ชานชานน่ารักที่สุดดดด ^___^

PhAnu

PhAnu

ชานคะ ตอบทีว่าเสียงคุโรเป็นยังไง -0-!!!!
คุโรตอบตอนไหนอ่ะอยากรู้ ฮืออออออออออ น่ารักมาก
ตัวพุ่งปรี้ดดดกะพี่หมอแล้วนะ คิดว่าจะมาอึมครึมซะอีก
พี่หมอนี่ได้ทีเอาใหญ่เลย รีบแกล้งชานคืนทันทีอ่ะ -..-
โตขึ้นกี่ขวบกัน พี่หมอจมูกพินอคคิโอ้้~~ 555555
บรรยายแต่ละอย่าง พี่หมอคงปลื้มสุดๆ

NikyNook

NikyNook

ชานนนนนนนนนน ><///
ในที่สุดก็รู้ความจริงสักทีแถมโดนพี่คริสจูบด้วย เย้!!
ได้คุโรรรรรรรรร คือแล้ว...คุยกันได้ยังไงนะ O_o???
พี่คริสได้ทีเอาใหญ่เลยนะ -3-
ไรเตอร์อัพต่อๆ >< อยากรู้ในจดหมายคืออะไรอะ ???

theparan

theparan

ชานเป็นแฟนพี่หมอจริงๆ คุโรรรรรรร บุตะ เป็นพยานได้ อิอิ
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว อย่าทำเย็นชากับพี่หมออีกนะ เราเจ็บปวดใจแทนพี่หมอจริงๆ

ChanChan_K



แหม่ๆๆๆๆ ชานๆๆ ยอมรับเหอะว่าเป็นแฟนพี่เหมออ้ะ ><//
คุโรรรรรรรร ก็ยืนยันแล้วนี่น้าาาา
ว่าแต่ทำไมชานๆน่ารักแบบนี้อ่ะไรเตอร์ตอนนี้
เป็นโรคจิตต้องการคุณหมอเก่งมารักษาก็ต้องไปเดินป่าแล้วก็หาสมุนไพร
มารักษาจะได้หายยยย #ไกลละๆๆ 5555

:D

:D

ชานลูก... ตอนนี้แม่ว่าหนูหนักกว่าเดิมอีก 55555555
ไอ่อารมณ์ดาร์คๆนี่หายไปไหนหมด ตอนนี้มาแบบสะดิ้งจัดเต็ม(?)
หมอเป็นสเปคมันตอนอายุสิบสอง.... น่ารักเกินหรือสเปคแปลก..
อะโหย..แต่ละอย่าง = = หนักล่ะลูกชั้น 555555555
ใจเย็นๆนะลูกนะ ตอนนี้คอนเฟิร์มได้แล้วว่าพี่หมอเป็นแฟนหนูน่ะ
ไปนินทาลูกชายต่อหน้าแม่เค้า ดีนะที่แม่เค้าไม่ว่าอะไร 55555

bezyenjoy



ชานๆโหมดน่ารักกลับมาแว้ว ><

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ