"ชานยอล!! ชานยอลอาาาา นายนอนอยู่ในห้องหรือเปล่า เห็นคริสไหม!! คริสหายไปไหนไม่รู้"
เสียงตะโกนของคยองซูและเสียงเคาะประตูดังอยู่ทางหน้าห้องตอนรุ่งเช้า....ชานยอลสะดุ้งตัวตื่นด้วยความตกใจ คริสหรืออู๋ฟานที่ทั้งคยองซูและจงอินตามหานอนหลับอยู่ข้างๆกายเขานั่นเอง ใบหน้าคมคายของคริสยังคงซุกอยู่ข้างหมอนของชานยอล ร่างเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อถูกคลุมทับไว้ด้วยผ้าห่ม...ชานยอลตัดสินใจเอื้อมมือบางไปเขย่าร่างของคริสเบาๆเพื่อให้คริสตื่นจากภวังค์
"อู๋ฟานนน..เอ่อ...คือ...ตื่นได้แล้ว...สายแล้วนะ" ใบหน้าของชานยอลยังคงขึ้นสีระเรื่อเมื่อเขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน...ภายใต้ผ้าห่มคือร่างกายที่เปลือยเปล่าของอู๋ฟานยิ่งชานยอลคิดไปไกล ใบหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนสีขึ้นเรื่อยๆ
"อือออ...ชานยอล..บอกคยองซูว่าเราจะนอนอีกหน่อย นายก็ลงมานอนได้แล้ว เมื่อคืนเรานอนดึกนะ" มือหนาคว้าเอวของร่างบางรั้งลงมาที่เตียงอีกครั้งพร้อมกับซุกหน้าลงที่แผ่นหลังของชานยอลและตั้งท่าจะนอนหลับต่อ...
"ไม่นอนแล้วอู๋ฟาน...เพื่อนมาเรียกแล้ว ฉันจะไปอาบน้ำ" ชานยอลค่อยๆผลักมือของคริสออกไปก่อนที่จะลุกขึ้นและขานรับคยองซูว่าเขากำลังจะอาบน้ำ
ที่หน้าประตูห้องนอนทั้งจงอินและคยองซูกำลังเอาหูแนบเพื่อแอบฟัง ทั้งสองหัวเราะชอบใจเมื่อได้ยินเสียงคริสที่เพิ่งตื่นและเถียงกับชานยอลเบาๆ ทุกข้อความสนทนาเมื่อครู่ทั้งสองได้ยินมันหมด คยองซูใช้มือเล็กๆของเขาทุบไปที่แขนของจงอินเมื่อจงอินหัวเราะเสียงดังเพราะเกรงว่าชานยอลจะได้ยิน
"ไอ้คริสมันร้าย...ปากบอกไม่อยากมา แล้วดูมัน ฮ่าๆ" จงอินหัวเราะอยู่หน้าประตูก่อนที่ร่างเล็กจะกึ่งดึงกึ่งลากจงอินออกมาจากบริเวณนั้น
"พอแล้วๆจงอิน...เดี๋ยวเพื่อนฉันอาย!" คยองซูปิดปากหัวเราะ เขาแสร้งดุคนรักก่อนที่จะคิดในใจว่าแผนการณ์ของจงอินนี่ก็ร้ายกาจไม่เบาเพราะจงอินเองเป็นคนแนะนำให้คยองซูลองเคาะห้องเรียกชานยอลเพราะไม่เห็นร่างของคริสนอนหลับอยู่ที่โซฟา
เสียงคยองซูและจงอินเดินห่างออกไปจากหน้าห้องนอนของคริสและชานยอล...ร่างสูงโปร่งยังคงนอนเล่นอยู่บนที่นอนนุ่มสีขาว...ปล่อยให้ชานยอลอาบน้ำชำระล้างร่างกายก่อนที่เขาจะแกล้งตะโกนเรียกชานยอลเมื่อเห็นว่าชานยอลเข้าห้องน้ำนานมากแล้ว
"ชานยอล .....อาบน้ำนานขนาดนี้ตัวซีดหรือยัง....ให้ฉันช่วยอาบไหม จะได้เร็วๆ" คริสนอนยิ้มอยู่บนเตียงก่อนที่จะหยิบผ้าขนหนูมาพันร่างกายท่อนล่างของเขาไว้พร้อมกับเดินไปเคาะที่หน้าประตูห้องน้ำ
"ชานยอลลล"
"ฉันเสร็จแล้วน่ะ เรียกอยู่ได้" ร่างบางเปิดประตูห้องน้ำออกมาช้าๆ...ก่อนที่ดวงตากลมจะหลุบลงต่ำเมื่อเผลอมองไปตามร่างกายกำยำของคริส...ท่อนบนที่เปลือยเปล่ามีเพียงผ้าขนหนูพันร่างเขาไว้เท่านั้น
ชานยอลพยายามเบี่ยงตัวหลบคริสก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะแกล้งเขาโดยมายืนกันเขาไว้ที่หน้าประตู...มือหนายื่นไปเพื่อท้าวขอบประตูห้องน้ำทำให้ชานยอลเดินผ่านคริสไปไม่ได้....
"เดี๋ยวก่อนสิ...อาบน้ำมาใหม่ๆขอดมหน่อยว่าหอมไหม" ใบหน้าคมยกยิ้มก่อนที่จะค่อยๆยื่นปลายจมูกโด่งเข้ามาข้างแก้มใส..ชานยอลหลบหลีกคริสด้วยความเขินอายพร้อมตีไปที่แขนแกร่งเบาๆ...
"เลิกเล่นได้ละอู๋ฟาน!...รีบอาบน้ำ จะได้ลงไปทานข้าว" รอยยิ้มของชานยอลกลับมาอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน...เสียงหัวเราะของคนสองคนในห้องเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเขาทั้งสองกำลังมีความสุขเมื่อได้กลับมาพบกันอีกครั้งและกำลังพัฒนาความสัมพันธ์ในฐานะคนรัก...
ในระหว่างที่คริสอาบน้ำ...ร่างบางก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมานั่งกดหาภาพถ่ายบางภาพที่เขาเก็บไว้นานแล้ว....มันคือภาพของอู๋ฟานในวัยเด็กที่เขาไปแอบถ่ายมาจากหนังสือรุ่น เด็กผู้ชายตัวดำหน้าตาขี้เหร่ที่ชานยอลเคยรู้จัก บัดนี้เขาดูเปลี่ยนแปลงไปมาก...แต่อย่างน้อยเขาก็คืออู๋ฟานคนเดิมที่ชานยอลรอคอยมาตลอด 6 ปี ...เมื่อชานยอลหาภาพนั้นในโทรศัพท์เจอ..เขาก็นั่งหัวเราะเบาๆเมื่อคิดถึงหน้าตาของคริสตอนที่เห็นรูปนี้คงตลกพิลึก...
ไม่นานนักร่างสูงโปร่งของคริสก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมด้วยรอยยิ้ม...ชานยอลก้าวเดินเข้าไปหาคริสช้าๆและยื่นโทรศัพท์มือถือให้ดูภาพตรงหน้าของอู๋ฟานในวัยเด็ก...เสียงหัวเราะของชานยอลดูขบขัน.....คริสเองคงตกใจเมื่อรู้ว่าชานยอลยังเก็บภาพวัยเด็กของเขาเอาไว้
"อู๋ฟาน...นี่เด็กที่ไหนอ่ะ ฮ่าๆ" ชานยอลหัวเราะเสียงดังที่แกล้งคริสได้ก่อนที่มือหนาจะแย่งโทรศัพท์นั้นมาจากมือของชานยอล
"ชานยอล....นายไปเอารูปนี้มาจากไหน!" ร่างสูงคว้าข้อมือบางไว้ด้วยความเขินที่ต้องเห็นภาพตัวเองในวัยเด็กที่ดูดำคล้ำ
"อายเหรอ อู๋ฟาน ฮ่าๆ" ชานยอลแกล้งหันตัวหลบคริสเพราะเกรงว่าคริสจะเอามือถือเขาไปเพื่อกดลบภาพ
"ลบเลยๆชานยอล....ลบๆ!!"
หลังจากที่ทั้งสองยื้อแย่งโทรศัพท์กันสักพัก...คริสก็แย่งโทรศัพท์ของชานยอลมาได้ ร่างสูงกระโดดหนีชานยอลขึ้นไปบนเตียงนุ่ม....ชานยอลรีบแย่งโทรศัพท์นั้นกลับด้วยความตกใจเพราะภาพของอู๋ฟานในวัยเด็กเขาหามันไม่ได้อีกแล้ว เนื่องจากหนังสือรุ่นของเขาหายไปและภาพนี้เขาก็ไปขอถ่ายจากหนังสือรุ่นที่ร.ร.มัธยม..ทั้งสองแย่งโทรศัพท์กันไปมา...โดยที่ชานยอลลืมตัวและคร่อมไปบนร่างของคริสขณะที่คริสกำลังนอนหงายและกำลังจะกดลบภาพ...มือบางรีบคว้าโทรศัพท์กลับมา..เสียงหัวเราะของชานยอลหัวเราะชอบใจเมื่อเขาแย่งโทรศัพท์ของเขาคืนได้....
นิ้วเรียวรีบกดส่งภาพเข้าอีเมล์ของตัวเองเพื่อป้องกันว่าคริสจะลบภาพนั้น.....ดวงตาคมจับจ้องไปที่ใบหน้าหวานก่อนที่เขาจะแกล้งลูบไล้โคนขาทั้งสองข้างของชานยอลที่กำลังคร่อมร่างเขาอยู่....
"ชานยอล.....ฉันไม่ลบภาพนั้นแล้วก็ได้" คริสยกยิ้มก่อนที่จะจับจ้องไปที่ใบหน้าของชานยอลที่กำลังรีบกดโทรศัพท์เพื่อเซฟภาพนั้น
"แต่นายต้องอยู่ท่านี้นานๆนะ" ร่างสูงโปร่งนอนมองชานยอลที่อยู่บนร่างพร้อมกับหัวเราะขำๆนี่คงนึกแต่เรื่องสนุกจนลืมไปว่ากำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนตัวผม
เมื่อชานยอลตั้งสติได้ว่าเขากำลังนั่งคร่อมร่างของคริส....ดวงตากลมโตก็เบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนที่จะรีบลุกขึ้นด้วยความเขินอาย...แต่ทุกอย่างก็ช้าไปเสียแล้ว เมื่อคริสลุกขึ้นมานั่งก่อนที่จะโอบกอดรอบตัวของชานยอลไว้เพื่อกันเขาหนี....ใบหน้าคมคายยกยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนที่จะแกล้งกระซิบข้างหูชานยอล
"ชอบแบบนี้ก็ไม่บอก" ริมฝีปากหนาประทับจูบลงตรงข้างแก้มใสสีแดงระเรื่อที่กำลังเขินอายอย่างบรรจงก่อนที่จะค่อยๆเลื่อนมาสัมผัสที่ริมฝีปากบาง
ชานยอลรีบผละออกจากร่างของคริสพร้อมกับผลักไปที่อกหนาเบาๆ ร่างบางเดินลงส้นเท้าด้วยความเขินอายออกไปที่นอกห้องนอนโดยปล่อยให้คริสนั่งหัวเราะอยู่คนเดียวในห้องที่ว่างเปล่า......
ในห้องครัวของชั้นล่างทั้งคยองซูและจงอินกำลังลงมือทำอาหารด้วยกัน....คยองซูกำลังหั่นผักเพื่อเตรียมทำข้าวต้มตอนเช้า...ส่วนจงอินกำลังยืนคนข้าวต้มที่อยู่ในหม้อด้วยฝีมือการปรุงของคนรัก
"คยองซู มีอะไรให้ฉันช่วยไหม" ชานยอลเอ่ยทักขึ้นก่อนที่จะทิ้งตัวลงนั่งข้างกายเพื่อนตัวเล็กของเขา
ใบหน้าหวานของเพื่อนตัวเล็กอมยิ้มก่อนจะมองไปที่ดวงตากลมโตของชานยอลอย่างมีเลศนัย
"เมื่อคืนคริสไม่ได้นอนที่โซฟาล่ะชานยอล เห้อ ไปนอนที่ไหนนะ หนาวมากด้วยสิเมื่อคืน" มือเล็กของคยองซูบรรจงหั่นผักต่อไปก่อนที่จะแสร้งเหลือบมองใบหน้าของชานยอลที่กำลังเด็ดผักเล่นอยู่ข้างๆเขา ... ดวงตากลมโตของชานยอลไม่กล้ามองใบหน้าเพื่อนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาได้แต่นั่งมองผักสีเขียวที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
ไม่นานหลังจากชานยอลเดินลงมา ร่างสูงโปร่งของคริสก็เดินลงบันไดตามมาเพื่อหาชานยอลก่อนที่จะเดินตรงเข้าไปในห้องครัว.....เนื่องจากได้กลิ่นหอมของข้าวต้มฝีมือจงอินและคยองซู
"เห้ย ไอ้คริสมาแล้ว....เช้านี้กินข้าวต้มนะ...หรือจะเอาไข่ลวกวะ" เสียงหยอกล้อของจงอินสร้างเสียงหัวเราะให้กับคยองซู จงอินหัวเราะลั่นด้วยความขำโดยไม่ได้สังเกตใบหน้าของชานยอลและคริสที่กำลังลอบมองกันอย่างเขินอาย....มือหนายกขึ้นเสยผมสีทองแก้เก้อก่อนที่จะแสร้งต่อว่าจงอิน
"แหมมม ไอ้จงอินแกน่ะแหละเบาๆหน่อย...เมื่อคืนซาวน์ดังจนฉันแทบไม่ได้นอน"
"แกไม่ได้นอนเพราะฉันจริงเหรอวะไอ้คริส" เสียงหัวเราะของจงอินยังคงดังลั่นอีกครั้งก่อนที่คริสจะหยิบผักที่อยู่ในมือของชานยอลขว้างไปที่เพื่อนจอมกวนของเขาให้หยุดพูด....ลำพังตัวเขามันไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร..แต่สำหรับชานยอลคงยากที่ชานยอลจะนั่งฟังเรื่องหยอกล้อแบบนี้
มือบางหยิบผักในถาดเพื่อช่วยคยองซูหั่น ....คริสนั่งลงข้างๆชานยอลไม่ห่างนัก...เขาเองก็เพิ่งรู้ว่าชานยอลเข้าครัวเป็นเพราะนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ชานยอลและคริสมาเที่ยวนอกเมืองด้วยกัน...
"ทำกับข้าวเป็นเหรอ เดี๋ยวก็มีดบาดหรอก" คริสเอ่ยถามกับชานยอลก่อนที่จะมองดูชานยอลหั่นผักด้วยความเป็นห่วง
"เป็นสิ....แค่หั่นผักไม่ยากหรอก" ชานยอลยังคงตั้งหน้าตั้งตาหั่นผักต่อไปซึ่งท่าทางของเขาดูเก้ๆกังๆและดูแตกต่างไม่กระฉับกระเฉงอย่างคยองซู...
ด้วยความที่คริสรู้จักชานยอลดีมาตลอด 2 ปีเขารู้ว่าชานยอลเป็นคนซุ่มซ่ามมากแค่ไหน...แค่เพียงไม่นานนักมือบางก็สะบัดออกจากผักและมีดที่แหลมคมเนื่องจากถูกมันบาดเข้าให้...เสียงชานยอลร้องออกมาด้วยความตกใจก่อนที่คริสจะรีบจับมือบางนั้นขึ้นมาดู
"เป็นไง ฉันบอกแล้ว!นายอ่ะซุ่มซ่ามมาแต่เด็กไม่เคยเปลี่ยน" มือหนากุมมือบางไว้พร้อมกับดูที่นิ้วเรียวยาวที่เริ่มมีเลือดซึมออกมาจากบาดแผล
"เจ็บมากหรือเปล่าชานยอล" คยองซูเอ่ยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
"อือไม่มากหรอก" ชานยอลตอบรับเพื่อนไปก่อนที่จะมองไปที่ใบหน้าคมคายของคนข้างๆที่กำลังเป่าแผลให้เขาด้วยความอ่อนโยน
"จงอิน แกมีพลาสเตอร์ยาที่บ้านพักหรือเปล่า" คริสดึงรั้งมือบางขึ้นมาให้ลุกขึ้นและกุมมือนั้นไว้ไม่ปล่อย
จงอินชี้มือเข้าไปในตัวบ้านเพื่อบอกว่าเขามีกล่องปฐมพยาบาลอยู่ในนั้น...ร่างสูงโปร่งเดินจูงมือชานยอลเข้าไปในตัวบ้าน คริสเดินดุชานยอลไปตลอดทางและก่อนที่คริสจะเดินพ้นห้องครัวก็พลันได้ยินเสียงแซวของเพื่อนตัวแสบดังลั่นมาอีกครั้ง
"หวานหมดแล้ว ข้าวต้มกูหวานหมดดดด!" เสียงหัวเราะของจงอินและคยองซูประสานเสียงกันก่อนที่ทั้งคริสและชานยอลจะเดินหายเข้าไปในตัวบ้านเพื่อทำแผล....
กล่องปฐมพยาบาลถูกเปิดออกโดยที่คริสเป็นคนทำแผลให้กับชานยอล...คริสบรรจงใส่ยาและเป่าไปที่นิ้วเรียวยาวนั้น ชานยอลพยายามชักนิ้วกลับเนื่องจากแสบตรงแผล....มือหนาดึงรั้งนิ้วเรียวเข้ามาหาตัวอีกครั้งก่อนจะดุให้ชานยอลอยู่เฉยๆ....
"ไม่ต้องทำแผลไม่ได้เหรอ ฉันเจ็บ" ชานยอลพยายามชักนิ้วออกจากฝ่ามือของคริสที่กำลังกุมมือบางของเขาอยู่
"ไม่ได้!ฉันจะทำแผลให้เอง นายอยู่เฉยๆสิชานยอล" คริสยังคงสาละวนกับการทำแผลให้ชานยอลอย่างตั้งใจก่อนที่จะแปะพลาสเตอร์ยาลงบนแผลพร้อมกับเป่ามันเบาๆ
"เดี๋ยวก็หายละเพราะฉันเป็นคนทำให้" คริสพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม...มันคือประโยคที่ชานยอลเคยพูดกับเขาตอนที่เขายังเป็นเด็ก ...บาดแผลหกล้มตรงหัวเข่าที่ชานยอลเคยปิดพลาสเตอร์ยาให้ต่างกันก็เพียงแค่สีของพลาสเตอร์ยาของจงอินไม่ได้หวานแหววอย่างที่ชานยอลเคยใช้กับอู๋ฟาน
ดวงตากลมโตของชานยอลและคริสสบกันก่อนที่จะยิ้มให้กันด้วยความรู้สึกอบอุ่นในจิตใจ.....ทุกอย่างที่ชานยอลเคยทำร่วมกับอู๋ฟานเขาทั้งสองยังจำมันได้ดี...ความทรงจำในวัยเด็กย้อนมาอีกครั้งเมื่อเขาทั้งสองใกล้ชิดกัน...ชานยอลตัดสินใจเอ่ยถามคริสถึงชื่อว่าเขาควรจะเรียกคริสว่า คริสหรืออู๋ฟาน...
"เรียกอะไรก็ได้ที่นายอยากเรียก" คริสขยี้ผมสีน้ำตาลบนศรีษะของชานยอลเบาๆด้วยความรักใคร่
มือหนาลูบจับไปที่แก้มเนียนใสก่อนที่จะกระเซ้าชานยอลอีกครั้งให้ชานยอลเขินอาย...
"เรียกที่รักเป็นไง ฉันรอให้นายเรียกฉันแบบนี้มานานแล้วชานยอล"
มือหนายังคงกุมนิ้วเรียวยาวที่มีบาดแผลไว้ไม่ปล่อยก่อนที่จะใช้ปากจูบสัมผัสไปที่พลาสเตอร์ยานั้น....ดวงตาคมมองชานยอลคนที่เขารักตรงหน้าอย่างต้องการจะสื่อความนัยน์ ความรู้สึกที่อู๋ฟานเก็บงำมาตลอด 8 ปี...เขารู้สึกดีใจและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เมื่อวันนี้ชานยอลคือคนที่เขาพร้อมจะดูแลและยืนเคียงข้างด้วยกันตลอดไป...ใบหน้าของชานยอลขึ้นสีระเรื่อเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่อาจทราบได้....เขารู้แต่เพียงว่าเวลาที่เขาอยู่ใกล้อู๋ฟาน...ความเขินอายและความสุขก็เกิดขึ้นกับชานยอลเช่นกัน
เสียงตะโกนของคยองซูและเสียงเคาะประตูดังอยู่ทางหน้าห้องตอนรุ่งเช้า....ชานยอลสะดุ้งตัวตื่นด้วยความตกใจ คริสหรืออู๋ฟานที่ทั้งคยองซูและจงอินตามหานอนหลับอยู่ข้างๆกายเขานั่นเอง ใบหน้าคมคายของคริสยังคงซุกอยู่ข้างหมอนของชานยอล ร่างเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อถูกคลุมทับไว้ด้วยผ้าห่ม...ชานยอลตัดสินใจเอื้อมมือบางไปเขย่าร่างของคริสเบาๆเพื่อให้คริสตื่นจากภวังค์
"อู๋ฟานนน..เอ่อ...คือ...ตื่นได้แล้ว...สายแล้วนะ" ใบหน้าของชานยอลยังคงขึ้นสีระเรื่อเมื่อเขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน...ภายใต้ผ้าห่มคือร่างกายที่เปลือยเปล่าของอู๋ฟานยิ่งชานยอลคิดไปไกล ใบหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนสีขึ้นเรื่อยๆ
"อือออ...ชานยอล..บอกคยองซูว่าเราจะนอนอีกหน่อย นายก็ลงมานอนได้แล้ว เมื่อคืนเรานอนดึกนะ" มือหนาคว้าเอวของร่างบางรั้งลงมาที่เตียงอีกครั้งพร้อมกับซุกหน้าลงที่แผ่นหลังของชานยอลและตั้งท่าจะนอนหลับต่อ...
"ไม่นอนแล้วอู๋ฟาน...เพื่อนมาเรียกแล้ว ฉันจะไปอาบน้ำ" ชานยอลค่อยๆผลักมือของคริสออกไปก่อนที่จะลุกขึ้นและขานรับคยองซูว่าเขากำลังจะอาบน้ำ
ที่หน้าประตูห้องนอนทั้งจงอินและคยองซูกำลังเอาหูแนบเพื่อแอบฟัง ทั้งสองหัวเราะชอบใจเมื่อได้ยินเสียงคริสที่เพิ่งตื่นและเถียงกับชานยอลเบาๆ ทุกข้อความสนทนาเมื่อครู่ทั้งสองได้ยินมันหมด คยองซูใช้มือเล็กๆของเขาทุบไปที่แขนของจงอินเมื่อจงอินหัวเราะเสียงดังเพราะเกรงว่าชานยอลจะได้ยิน
"ไอ้คริสมันร้าย...ปากบอกไม่อยากมา แล้วดูมัน ฮ่าๆ" จงอินหัวเราะอยู่หน้าประตูก่อนที่ร่างเล็กจะกึ่งดึงกึ่งลากจงอินออกมาจากบริเวณนั้น
"พอแล้วๆจงอิน...เดี๋ยวเพื่อนฉันอาย!" คยองซูปิดปากหัวเราะ เขาแสร้งดุคนรักก่อนที่จะคิดในใจว่าแผนการณ์ของจงอินนี่ก็ร้ายกาจไม่เบาเพราะจงอินเองเป็นคนแนะนำให้คยองซูลองเคาะห้องเรียกชานยอลเพราะไม่เห็นร่างของคริสนอนหลับอยู่ที่โซฟา
เสียงคยองซูและจงอินเดินห่างออกไปจากหน้าห้องนอนของคริสและชานยอล...ร่างสูงโปร่งยังคงนอนเล่นอยู่บนที่นอนนุ่มสีขาว...ปล่อยให้ชานยอลอาบน้ำชำระล้างร่างกายก่อนที่เขาจะแกล้งตะโกนเรียกชานยอลเมื่อเห็นว่าชานยอลเข้าห้องน้ำนานมากแล้ว
"ชานยอล .....อาบน้ำนานขนาดนี้ตัวซีดหรือยัง....ให้ฉันช่วยอาบไหม จะได้เร็วๆ" คริสนอนยิ้มอยู่บนเตียงก่อนที่จะหยิบผ้าขนหนูมาพันร่างกายท่อนล่างของเขาไว้พร้อมกับเดินไปเคาะที่หน้าประตูห้องน้ำ
"ชานยอลลล"
"ฉันเสร็จแล้วน่ะ เรียกอยู่ได้" ร่างบางเปิดประตูห้องน้ำออกมาช้าๆ...ก่อนที่ดวงตากลมจะหลุบลงต่ำเมื่อเผลอมองไปตามร่างกายกำยำของคริส...ท่อนบนที่เปลือยเปล่ามีเพียงผ้าขนหนูพันร่างเขาไว้เท่านั้น
ชานยอลพยายามเบี่ยงตัวหลบคริสก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะแกล้งเขาโดยมายืนกันเขาไว้ที่หน้าประตู...มือหนายื่นไปเพื่อท้าวขอบประตูห้องน้ำทำให้ชานยอลเดินผ่านคริสไปไม่ได้....
"เดี๋ยวก่อนสิ...อาบน้ำมาใหม่ๆขอดมหน่อยว่าหอมไหม" ใบหน้าคมยกยิ้มก่อนที่จะค่อยๆยื่นปลายจมูกโด่งเข้ามาข้างแก้มใส..ชานยอลหลบหลีกคริสด้วยความเขินอายพร้อมตีไปที่แขนแกร่งเบาๆ...
"เลิกเล่นได้ละอู๋ฟาน!...รีบอาบน้ำ จะได้ลงไปทานข้าว" รอยยิ้มของชานยอลกลับมาอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน...เสียงหัวเราะของคนสองคนในห้องเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเขาทั้งสองกำลังมีความสุขเมื่อได้กลับมาพบกันอีกครั้งและกำลังพัฒนาความสัมพันธ์ในฐานะคนรัก...
ในระหว่างที่คริสอาบน้ำ...ร่างบางก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมานั่งกดหาภาพถ่ายบางภาพที่เขาเก็บไว้นานแล้ว....มันคือภาพของอู๋ฟานในวัยเด็กที่เขาไปแอบถ่ายมาจากหนังสือรุ่น เด็กผู้ชายตัวดำหน้าตาขี้เหร่ที่ชานยอลเคยรู้จัก บัดนี้เขาดูเปลี่ยนแปลงไปมาก...แต่อย่างน้อยเขาก็คืออู๋ฟานคนเดิมที่ชานยอลรอคอยมาตลอด 6 ปี ...เมื่อชานยอลหาภาพนั้นในโทรศัพท์เจอ..เขาก็นั่งหัวเราะเบาๆเมื่อคิดถึงหน้าตาของคริสตอนที่เห็นรูปนี้คงตลกพิลึก...
ไม่นานนักร่างสูงโปร่งของคริสก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมด้วยรอยยิ้ม...ชานยอลก้าวเดินเข้าไปหาคริสช้าๆและยื่นโทรศัพท์มือถือให้ดูภาพตรงหน้าของอู๋ฟานในวัยเด็ก...เสียงหัวเราะของชานยอลดูขบขัน.....คริสเองคงตกใจเมื่อรู้ว่าชานยอลยังเก็บภาพวัยเด็กของเขาเอาไว้
"อู๋ฟาน...นี่เด็กที่ไหนอ่ะ ฮ่าๆ" ชานยอลหัวเราะเสียงดังที่แกล้งคริสได้ก่อนที่มือหนาจะแย่งโทรศัพท์นั้นมาจากมือของชานยอล
"ชานยอล....นายไปเอารูปนี้มาจากไหน!" ร่างสูงคว้าข้อมือบางไว้ด้วยความเขินที่ต้องเห็นภาพตัวเองในวัยเด็กที่ดูดำคล้ำ
"อายเหรอ อู๋ฟาน ฮ่าๆ" ชานยอลแกล้งหันตัวหลบคริสเพราะเกรงว่าคริสจะเอามือถือเขาไปเพื่อกดลบภาพ
"ลบเลยๆชานยอล....ลบๆ!!"
หลังจากที่ทั้งสองยื้อแย่งโทรศัพท์กันสักพัก...คริสก็แย่งโทรศัพท์ของชานยอลมาได้ ร่างสูงกระโดดหนีชานยอลขึ้นไปบนเตียงนุ่ม....ชานยอลรีบแย่งโทรศัพท์นั้นกลับด้วยความตกใจเพราะภาพของอู๋ฟานในวัยเด็กเขาหามันไม่ได้อีกแล้ว เนื่องจากหนังสือรุ่นของเขาหายไปและภาพนี้เขาก็ไปขอถ่ายจากหนังสือรุ่นที่ร.ร.มัธยม..ทั้งสองแย่งโทรศัพท์กันไปมา...โดยที่ชานยอลลืมตัวและคร่อมไปบนร่างของคริสขณะที่คริสกำลังนอนหงายและกำลังจะกดลบภาพ...มือบางรีบคว้าโทรศัพท์กลับมา..เสียงหัวเราะของชานยอลหัวเราะชอบใจเมื่อเขาแย่งโทรศัพท์ของเขาคืนได้....
นิ้วเรียวรีบกดส่งภาพเข้าอีเมล์ของตัวเองเพื่อป้องกันว่าคริสจะลบภาพนั้น.....ดวงตาคมจับจ้องไปที่ใบหน้าหวานก่อนที่เขาจะแกล้งลูบไล้โคนขาทั้งสองข้างของชานยอลที่กำลังคร่อมร่างเขาอยู่....
"ชานยอล.....ฉันไม่ลบภาพนั้นแล้วก็ได้" คริสยกยิ้มก่อนที่จะจับจ้องไปที่ใบหน้าของชานยอลที่กำลังรีบกดโทรศัพท์เพื่อเซฟภาพนั้น
"แต่นายต้องอยู่ท่านี้นานๆนะ" ร่างสูงโปร่งนอนมองชานยอลที่อยู่บนร่างพร้อมกับหัวเราะขำๆนี่คงนึกแต่เรื่องสนุกจนลืมไปว่ากำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนตัวผม
เมื่อชานยอลตั้งสติได้ว่าเขากำลังนั่งคร่อมร่างของคริส....ดวงตากลมโตก็เบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนที่จะรีบลุกขึ้นด้วยความเขินอาย...แต่ทุกอย่างก็ช้าไปเสียแล้ว เมื่อคริสลุกขึ้นมานั่งก่อนที่จะโอบกอดรอบตัวของชานยอลไว้เพื่อกันเขาหนี....ใบหน้าคมคายยกยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนที่จะแกล้งกระซิบข้างหูชานยอล
"ชอบแบบนี้ก็ไม่บอก" ริมฝีปากหนาประทับจูบลงตรงข้างแก้มใสสีแดงระเรื่อที่กำลังเขินอายอย่างบรรจงก่อนที่จะค่อยๆเลื่อนมาสัมผัสที่ริมฝีปากบาง
ชานยอลรีบผละออกจากร่างของคริสพร้อมกับผลักไปที่อกหนาเบาๆ ร่างบางเดินลงส้นเท้าด้วยความเขินอายออกไปที่นอกห้องนอนโดยปล่อยให้คริสนั่งหัวเราะอยู่คนเดียวในห้องที่ว่างเปล่า......
ในห้องครัวของชั้นล่างทั้งคยองซูและจงอินกำลังลงมือทำอาหารด้วยกัน....คยองซูกำลังหั่นผักเพื่อเตรียมทำข้าวต้มตอนเช้า...ส่วนจงอินกำลังยืนคนข้าวต้มที่อยู่ในหม้อด้วยฝีมือการปรุงของคนรัก
"คยองซู มีอะไรให้ฉันช่วยไหม" ชานยอลเอ่ยทักขึ้นก่อนที่จะทิ้งตัวลงนั่งข้างกายเพื่อนตัวเล็กของเขา
ใบหน้าหวานของเพื่อนตัวเล็กอมยิ้มก่อนจะมองไปที่ดวงตากลมโตของชานยอลอย่างมีเลศนัย
"เมื่อคืนคริสไม่ได้นอนที่โซฟาล่ะชานยอล เห้อ ไปนอนที่ไหนนะ หนาวมากด้วยสิเมื่อคืน" มือเล็กของคยองซูบรรจงหั่นผักต่อไปก่อนที่จะแสร้งเหลือบมองใบหน้าของชานยอลที่กำลังเด็ดผักเล่นอยู่ข้างๆเขา ... ดวงตากลมโตของชานยอลไม่กล้ามองใบหน้าเพื่อนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาได้แต่นั่งมองผักสีเขียวที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
ไม่นานหลังจากชานยอลเดินลงมา ร่างสูงโปร่งของคริสก็เดินลงบันไดตามมาเพื่อหาชานยอลก่อนที่จะเดินตรงเข้าไปในห้องครัว.....เนื่องจากได้กลิ่นหอมของข้าวต้มฝีมือจงอินและคยองซู
"เห้ย ไอ้คริสมาแล้ว....เช้านี้กินข้าวต้มนะ...หรือจะเอาไข่ลวกวะ" เสียงหยอกล้อของจงอินสร้างเสียงหัวเราะให้กับคยองซู จงอินหัวเราะลั่นด้วยความขำโดยไม่ได้สังเกตใบหน้าของชานยอลและคริสที่กำลังลอบมองกันอย่างเขินอาย....มือหนายกขึ้นเสยผมสีทองแก้เก้อก่อนที่จะแสร้งต่อว่าจงอิน
"แหมมม ไอ้จงอินแกน่ะแหละเบาๆหน่อย...เมื่อคืนซาวน์ดังจนฉันแทบไม่ได้นอน"
"แกไม่ได้นอนเพราะฉันจริงเหรอวะไอ้คริส" เสียงหัวเราะของจงอินยังคงดังลั่นอีกครั้งก่อนที่คริสจะหยิบผักที่อยู่ในมือของชานยอลขว้างไปที่เพื่อนจอมกวนของเขาให้หยุดพูด....ลำพังตัวเขามันไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร..แต่สำหรับชานยอลคงยากที่ชานยอลจะนั่งฟังเรื่องหยอกล้อแบบนี้
มือบางหยิบผักในถาดเพื่อช่วยคยองซูหั่น ....คริสนั่งลงข้างๆชานยอลไม่ห่างนัก...เขาเองก็เพิ่งรู้ว่าชานยอลเข้าครัวเป็นเพราะนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ชานยอลและคริสมาเที่ยวนอกเมืองด้วยกัน...
"ทำกับข้าวเป็นเหรอ เดี๋ยวก็มีดบาดหรอก" คริสเอ่ยถามกับชานยอลก่อนที่จะมองดูชานยอลหั่นผักด้วยความเป็นห่วง
"เป็นสิ....แค่หั่นผักไม่ยากหรอก" ชานยอลยังคงตั้งหน้าตั้งตาหั่นผักต่อไปซึ่งท่าทางของเขาดูเก้ๆกังๆและดูแตกต่างไม่กระฉับกระเฉงอย่างคยองซู...
ด้วยความที่คริสรู้จักชานยอลดีมาตลอด 2 ปีเขารู้ว่าชานยอลเป็นคนซุ่มซ่ามมากแค่ไหน...แค่เพียงไม่นานนักมือบางก็สะบัดออกจากผักและมีดที่แหลมคมเนื่องจากถูกมันบาดเข้าให้...เสียงชานยอลร้องออกมาด้วยความตกใจก่อนที่คริสจะรีบจับมือบางนั้นขึ้นมาดู
"เป็นไง ฉันบอกแล้ว!นายอ่ะซุ่มซ่ามมาแต่เด็กไม่เคยเปลี่ยน" มือหนากุมมือบางไว้พร้อมกับดูที่นิ้วเรียวยาวที่เริ่มมีเลือดซึมออกมาจากบาดแผล
"เจ็บมากหรือเปล่าชานยอล" คยองซูเอ่ยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
"อือไม่มากหรอก" ชานยอลตอบรับเพื่อนไปก่อนที่จะมองไปที่ใบหน้าคมคายของคนข้างๆที่กำลังเป่าแผลให้เขาด้วยความอ่อนโยน
"จงอิน แกมีพลาสเตอร์ยาที่บ้านพักหรือเปล่า" คริสดึงรั้งมือบางขึ้นมาให้ลุกขึ้นและกุมมือนั้นไว้ไม่ปล่อย
จงอินชี้มือเข้าไปในตัวบ้านเพื่อบอกว่าเขามีกล่องปฐมพยาบาลอยู่ในนั้น...ร่างสูงโปร่งเดินจูงมือชานยอลเข้าไปในตัวบ้าน คริสเดินดุชานยอลไปตลอดทางและก่อนที่คริสจะเดินพ้นห้องครัวก็พลันได้ยินเสียงแซวของเพื่อนตัวแสบดังลั่นมาอีกครั้ง
"หวานหมดแล้ว ข้าวต้มกูหวานหมดดดด!" เสียงหัวเราะของจงอินและคยองซูประสานเสียงกันก่อนที่ทั้งคริสและชานยอลจะเดินหายเข้าไปในตัวบ้านเพื่อทำแผล....
กล่องปฐมพยาบาลถูกเปิดออกโดยที่คริสเป็นคนทำแผลให้กับชานยอล...คริสบรรจงใส่ยาและเป่าไปที่นิ้วเรียวยาวนั้น ชานยอลพยายามชักนิ้วกลับเนื่องจากแสบตรงแผล....มือหนาดึงรั้งนิ้วเรียวเข้ามาหาตัวอีกครั้งก่อนจะดุให้ชานยอลอยู่เฉยๆ....
"ไม่ต้องทำแผลไม่ได้เหรอ ฉันเจ็บ" ชานยอลพยายามชักนิ้วออกจากฝ่ามือของคริสที่กำลังกุมมือบางของเขาอยู่
"ไม่ได้!ฉันจะทำแผลให้เอง นายอยู่เฉยๆสิชานยอล" คริสยังคงสาละวนกับการทำแผลให้ชานยอลอย่างตั้งใจก่อนที่จะแปะพลาสเตอร์ยาลงบนแผลพร้อมกับเป่ามันเบาๆ
"เดี๋ยวก็หายละเพราะฉันเป็นคนทำให้" คริสพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม...มันคือประโยคที่ชานยอลเคยพูดกับเขาตอนที่เขายังเป็นเด็ก ...บาดแผลหกล้มตรงหัวเข่าที่ชานยอลเคยปิดพลาสเตอร์ยาให้ต่างกันก็เพียงแค่สีของพลาสเตอร์ยาของจงอินไม่ได้หวานแหววอย่างที่ชานยอลเคยใช้กับอู๋ฟาน
ดวงตากลมโตของชานยอลและคริสสบกันก่อนที่จะยิ้มให้กันด้วยความรู้สึกอบอุ่นในจิตใจ.....ทุกอย่างที่ชานยอลเคยทำร่วมกับอู๋ฟานเขาทั้งสองยังจำมันได้ดี...ความทรงจำในวัยเด็กย้อนมาอีกครั้งเมื่อเขาทั้งสองใกล้ชิดกัน...ชานยอลตัดสินใจเอ่ยถามคริสถึงชื่อว่าเขาควรจะเรียกคริสว่า คริสหรืออู๋ฟาน...
"เรียกอะไรก็ได้ที่นายอยากเรียก" คริสขยี้ผมสีน้ำตาลบนศรีษะของชานยอลเบาๆด้วยความรักใคร่
มือหนาลูบจับไปที่แก้มเนียนใสก่อนที่จะกระเซ้าชานยอลอีกครั้งให้ชานยอลเขินอาย...
"เรียกที่รักเป็นไง ฉันรอให้นายเรียกฉันแบบนี้มานานแล้วชานยอล"
มือหนายังคงกุมนิ้วเรียวยาวที่มีบาดแผลไว้ไม่ปล่อยก่อนที่จะใช้ปากจูบสัมผัสไปที่พลาสเตอร์ยานั้น....ดวงตาคมมองชานยอลคนที่เขารักตรงหน้าอย่างต้องการจะสื่อความนัยน์ ความรู้สึกที่อู๋ฟานเก็บงำมาตลอด 8 ปี...เขารู้สึกดีใจและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เมื่อวันนี้ชานยอลคือคนที่เขาพร้อมจะดูแลและยืนเคียงข้างด้วยกันตลอดไป...ใบหน้าของชานยอลขึ้นสีระเรื่อเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่อาจทราบได้....เขารู้แต่เพียงว่าเวลาที่เขาอยู่ใกล้อู๋ฟาน...ความเขินอายและความสุขก็เกิดขึ้นกับชานยอลเช่นกัน