0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

อาการแอบรัก EP12

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

1อาการแอบรัก EP12 Empty อาการแอบรัก EP12 Thu Nov 13, 2014 10:58 am

0ctogus

0ctogus
Admin

“ปาร์คชานยอล !! นายอยู่ไหน!!” เสียงตะโกนเรียกของร่างสูงดังประสานกับจื่อเทา



ในป่าเขามีแต่เพียงเสียงสะท้อนกลับมาของเขาทั้งสอง ดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงอ่อนๆในยามเย็นเริ่มลับขอบฟ้าทีละน้อย สีหน้าของคริสบ่งบอกถึงความกังวลใจ ร่างบางที่เขาเป็นห่วงนักหนาอาจจะตกอยู่ในอันตราย ในป่าลึกมีแต่สัตว์ใหญ่รวมถึงแมลงตัวเล็กๆที่ชานยอลกลัว



“ฉันว่านายควรจะกลับออกไปข้างนอกก่อนนะ ตะวันตกดินแล้ว เราต้องรีบไปบอกอาจารย์ให้เค้าช่วยจัดทีมช่วยเหลือ” เสียงเข้มเอ่ยบอกกับคริสเพื่อแสดงความคิดเห็น



“ไม่...นายกลับไปก่อนเถอะ ฉันไม่มีวันปล่อยชานยอลไว้คนเดียวแน่”



มือหนาเอื้อมหยิบโทรศัพท์มือถือที่ไม่มีสัญญาณออกมาจากกระเป๋ากางเกง แอปพลิเคชั่นเข็มทิศและไฟฉายถูกเปิดขึ้นมาเพื่อเป็นตัวช่วยในการเดินป่าเพื่อตามหาคนรัก



จื่อเทาส่ายศรีษะเบาๆ เขาตัดสินใจเดินกลับออกไปเพื่อจัดทีมช่วยเหลือที่มีจำนวนคนมากกว่าและอาจจะต้องอาศัยคนที่มีความชำนาญในการตามหาคนหาย มีแต่เพียงร่างสูงเท่านั้นที่ยังคงดื้อรั้นที่จะตามหาชานยอลในเวลานี้



เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องระงมในป่าทึบ อุณหภูมิรอบข้างเริ่มต่ำลงเรื่อยๆ ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าจนมองไม่เห็นเส้นทางที่ร่างสูงก้าวเดินเข้ามาในตอนแรก แม้คริสจะมีความหวั่นเกรงต่อความมืดและสัตว์ร้ายในยามนค่ำคืน แต่หัวใจของเขามันร่ำร้องว่าคนที่รอเขาอยู่สำคัญกว่ามากนัก



“ปาร์คชานยอล!! นายอยู่แถวนี้ไหม ได้ยินเสียงฉันหรือเปล่า!!” น้ำเสียงที่ตะโกนเรียกคนรักตั้งแต่ช่วงเย็นเริ่มแหบแห้ง ความอ่อนล้าเริ่มเข้ามาจับตามกล้ามเนื้อของร่างสูง ขายาวเริ่มก้าวเท้าช้าลงเรื่อยๆ







ร่างบางนั่งตัวสั่นอยู่คนเดียวบนกิ่งไม้ใหญ่ ดวงตากลมโตร้องไห้จนแดงก่ำ ชานยอลตกใจกลัวกับเสียงของสัตว์บางชนิด แมลงตัวเล็กตัวน้อยบินว่อนรอบตัวเขา ช่วงเย็นเขาคิดสั้นที่เดินเข้ามาในป่าด้วยความน้อยใจ สีของดอกไม้และกล้วยไม้ป่าทำให้ชานยอลสดชื่นขึ้น ร่างบางเดินดูดอกไม้รอบๆตัวจนชนเข้ากับป้ายบอกทาง แคมป์ของนักศึกษาที่มีป้ายติดไว้หล่นลงกับพื้น เขาไม่สามารถหาทางกลับไปได้เนื่องจากบรรยากาศรอบตัวที่มืดครึ้มและเส้นทางที่ไม่ชำนาญ ในตอนนี้เขาภาวนาแค่เพียงว่าคงจะมีคนออกมาตามหาเขา อย่างน้อยก็ควรจะเป็นอู๋ฟาน...คนที่ยืนยันจะตามหาเขาด้วยชีวิต...



“อู๋ฟานนนน!!” ริมฝีปากบางเปล่งเสียงตะโกนออกไปด้วยความคิดถึงจับใจ ความกลัวและความอัดอั้นฉายในดวงตากลมโต หลังมือปาดที่ใบหน้าเพื่อเช็ดน้ำตาให้กับตัวเอง เขาผิดเองที่น้อยใจอู๋ฟานและเดินเล่นจนหลงเข้ามาในป่า



“นายจะตามหาฉันไหม...หรือนายกำลังอยู่กับแบคฮยอน” เสียงรำพึงเบาๆปะปนกับเสียงสะอื้น หัวใจดวงน้อยหวาดหวั่นกับความคิดของตน





จากนาทีผ่านไปเป็นชั่วโมงกับการรอคอย นาฬิกาที่ข้อมือบ่งบอกเวลา 4 ทุ่มครึ่ง ร่างบางยังคงนั่งหลบสัตว์ร้ายบนกิ่งไม้ใหญ่ ความอ่อนเพลียทำให้เขาสัปะหงกจนเกือบตกต้นไม้ เมื่อรู้สึกตัว ความกลัวก็แล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจอีกครั้ง เสียงใบไม้ยวบยาบดังไม่ห่างจากจุดที่เขาอยู่นัก ต้นไม้ต้นเล็กค่อยๆถูกแหวกออกจากทางที่รกร้าง ดวงตากลมสั่นระริกกับภาพตรงหน้า ความมืดทำให้มองบนพื้นดินไม่ถนัดนัก ขาเรียวที่กำลังนั่งห้อยขาอย่างสบายรีบยกขึ้นมาและกอดเข่าไว้เพื่อปลอบใจตัวเอง...



แสงไฟเล็กๆถูกส่องลงที่พื้นดูคล้ายกับหิ่งห้อยสีขาว ชานยอลพยายามเพิ่งมองร่างที่คุ้นเคยนั้นอีกครั้ง ใบหน้าหวานแย้มยิ้มออกมาด้วยความดีใจก่อนที่จะตะโกนออกไปสุดเสียง



“อู๋ฟานนนน!!”



“อู๋ฟานนนน ฮรึกก ช่วยฉันด้วยยย!!” น้ำเสียงสะอื้นระคนดีใจ ฟังคล้ายกับเด็กๆที่กำลังร้องไห้ด้วยความกลัว



“ชานยอล!! ชานยอลล นายจริงๆด้วย” ร่างสูงรีบวิ่งตรงมายังต้นไม้ใหญ่ ทั้งสองดีใจจนร้องเรียกชื่อกันไม่หยุด รอยยิ้มปรากฎขึ้นมาบนใบหน้าของคริสด้วยความโล่งใจ



“ลงมาได้ไหม ค่อยๆปีนลงมา” มือหนายื่นขึ้นไปเพื่อจะรับร่างบางที่ทำท่าจะหย่อนตัวลงมา



“ลงไม่ได้ ลงไม่เป็น...ทำยังไง” ชานยอลมีท่าทางเก้ๆกังๆ เขากำลังกลัวความสูงจากพื้นดินไม่กี่เมตร



“แล้วตอนขึ้น ปีนขึ้นไปยังไง” เสียงเข้มเอ่ยถามเพื่อช่วยหาวิธี



“ฉันจำไม่ได้ พอมีเสียงสัตว์ร้องฉันก็รีบปีนขึ้นไป ขึ้นไปท่าไหนก็ไม่รู้” ใบหน้าหวานครุ่นคิดวิธีที่เขาจะปีนลงไปด้านล่างอย่างปลอดภัย



รอยยิ้มบางปรากฎบนใบหน้าคม เขานึกขำในความเป็นเด็กของคนรัก ในเวลานี้แม้เขาจะหลงป่าก็ไม่มีอะไรน่ากลัว เมื่อเขาพบชานยอลแล้ว ทำให้เขาไม่ต้องเป็นกังวลกับการตามหาคนรักอีกต่อไป



“โดดลงมา เดี๋ยวฉันรับเอง” แขนแกร่งยื่นขึ้นไปรับตัวของร่างบางไว้ทั้งสองข้าง



“ไม่เอา” ใบหน้าหวานส่ายไปมาช้าๆ



“บอกให้โดดไง ฉันรับนายเองไม่ต้องกลัว” น้ำเสียงเร่งเร้าพร้อมกับท่าทางของร่างสูงกำลังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับชานยอล



ผ่านไปหลายนาทีจนเขาตัดสินใจข่มขู่ว่าหากไม่ปีนลงมา ยิ่งดึกสัตว์ร้ายก็จะยิ่งออกหากิน และเขาทั้งสองก็จะยิ่งมีอันตรายมากกว่าเดิม ชานยอลจึงตัดสินใจค่อยๆหย่อนตัวร่วงลงมาสู่พื้นดิน



“ตุ๊บ!”



ร่างบางล้มลงมานอนทับบนตัวเขา คริสนอนลงกับพื้นโดยโอบกอดชานยอลไว้แนบอก ดวงหน้าหวานใสจับจ้องคนรักตรงหน้าด้วยความคิดถึงจับใจ ไม่คิดไม่ฝันว่าอู๋ฟานจะออกมาตามหาเขาจริงๆ น้ำตาหยาดใสค่อยๆคลอหน่วงที่ขอบตาช้าๆ ชานยอลซุกหน้าเข้าหาอกแกร่งและร้องไห้สะอื้นเบาๆ



“คิดว่านายจะไม่ออกตามหาฉัน อู๋ฟาน...ฉันกลัวจะแย่แล้ว” น้ำตาทำนบใหญ่เริ่มหลั่งใหลออกมามากขึ้นเมื่อนึกถึงภาพเมื่อเย็นของคริสและแบคฮยอน



“จะไม่ตามหาได้ยังไง แฟนหายทั้งคน” มือหนาลูบจับศรีษะคนตัวเล็กกว่าอย่างอ่อนโยน



“บอกแล้วไง ไม่ว่านายจะหายไปไหน ฉันก็จะตามหาจนเจอ”



“รักมา 8 ปีไม่ยอมให้หนีไปไหนง่ายๆหรอกหน่า” ริมฝีปากหนาจุมพิตหน้าผากเล็กอย่างแผ่วเบา คำพูดปลอบประโลมต่างๆช่วยให้ร่างบางรู้สึกดีขึ้น



“อู๋ฟาน...” เสียงเรียกที่แหบแห้ง เขาโผกอดคนรักที่นอนอยู่ใต้ร่างให้แน่นขึ้นไปอีกด้วยความคิดถึง



“รีบไปกันดีกว่า เผื่อมีใครตามหาเรา” มือหนาลูบแก้มเนียนเพื่อเช็ดรอยคราบน้ำตาที่บดบังดวงหน้าสดใส



ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นจากพื้นและประคองร่างคนรักให้ยืนขึ้นช้าๆ ทั้งสองเดินจูงมือกันเดินไปตามป่ารกที่มืดครึ้ม ชานยอลเดินเกาะแขนแกร่งไปตลอดทาง สัตว์น้อยใหญ่ส่งเสียงอยู่ไม่ห่างไกลจากตัวพวกเขานัก ดวงตากลมโตเลิ่กลั่กสอดส่ายไปมาด้วยความกลัว ร่างบางเดินเบียดคนตัวสูงให้แนบชิดมากขึ้นไปอีก



ขายาวพาร่างสูงเดินตรงมาไม่นานก็พบกับเพิงพักสำหรับนักล่าสัตว์ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างลวกๆ อย่างน้อยมันก็สามารถคุ้มกันน้ำค้างในยามค่ำคืนได้ ใบไม้ใบใหญ่ถูกมุงทับเป็นหลังคา ที่พื้นถูกล้อมด้วยเศษไม้เป็นคอกสำหรับอำพรางสายตา คริสรีบเดินตรงเข้าไปสำรวจดูโดยรั้งข้อมือเล็กให้เดินตามเขา...



“คืนนี้เราจะนอนค้างกันที่นี่” เสียงเข้มเปรยขึ้นมาเมื่อตรวจสอบรอบๆแล้วว่าน่าจะปลอดภัย



“ไม่เอา...ไม่นอนที่นี่นะ” ใบหน้าหวานรีบส่ายไปมา



“ในนี้ไม่มีโมเต็ลนะชานยอล” ใบหน้าคมยกยิ้มขำๆกับความขี้กลัวของคนรัก



“ฉันอยู่ข้างๆนายแบบนี้ยังกลัวอะไรอีก หืม” แขนแกร่งโอบเอวบางเข้ามาประชิดตัวเขามากขึ้น รอยยิ้มละมุนถูกวาดขึ้นมาอีกครั้ง



หน้าเพิงพักมีกองไฟเล็กๆถูกก่อไว้ด้วยฝีมือของชานยอล เป็นโชคดีที่เขายังพกไฟแช็คมาในกระเป๋ากางเกงเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา อากาศภายนอกเริ่มหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีผนังเพิงพักที่ถูกมุงด้วยใบไม้ ลมหนาวก็สามารถพัดผ่านเข้ามาได้ เสื้อคลุมตัวใหญ่ถูกถอดออกเพื่อคลุมร่างบางของคนรัก คริสสวมเพียงเสื้อยืดสีขาวตัวบางเท่านั้น



“หนาวไหม...เอามือมาอังไฟแบบนี้นะ” มือหนากุมมือบางยื่นเข้ามาที่กองไฟ



“นายไม่หนาวเหรอ ใส่เสื้อแค่ตัวเดียว” ริมฝีปากบางเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง



“หนาวสิ ถ้าฉันยังหนาว แสดงว่านายต้องหนาวกว่าฉันหลายเท่า เพราะนายตัวเล็กกว่าฉัน” มือหนายื่นไปอังไฟตรงหน้าและลูบแขนตัวเองเบาๆให้ร่างกายเกิดความอบอุ่นมากขึ้น



“วันหลังอย่างอนอะไรแบบนี้อีกนะ แบคฮยอนเจ็บตัวเพราะฉันทำเขา”



“....ก็ฉัน....”



“บอกว่าอู๋ฟานรักแค่ชานยอลไงครับ...รักคนเดียว...เด็กตัวดื้อ” เสียงพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่อีกคนจะได้เอ่ย นิ้วเรียวบีบจมูกรั้นบนหน้าขาวใสเล่นส่ายไปมา



รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนทั้งสอง ดวงตาคมสบกับดวงตาหวานอย่างมีความสุข คนรักขี้งอนที่มักจะหึงหวงและหวาดระแวงเขาทุกครั้งที่เข้าใกล้แบคฮยอน



กลางดึกสงัด กองไฟยังทำหน้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างของคนทั้งสอง ใบไม้แผ่นใหญ่ถูกวางกองๆไว้เพื่อให้ร่างบางนอนพัก ชานยอลนอนไม่หลับ...ดวงตากลมสอดส่ายมองหาแมลงตัวน้อยที่กลัวว่าจะไต่เขายามที่เขานอน แม้ร่างสูงจะนอนอยู่ข้างๆ ร่างบางก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับได้



“นอนไม่หลับเหรอ” เสียงเข้มเอ่ยถามเมื่อเหลือบเห็นเขาผุดลุกผุดนั่งอยู่หลายครั้ง



“ใครจะหลับง่ายเหมือนนาย ...ฉันกลัวแมลง...แปลกที่ด้วย” มือบางปัดป่ายตามตัวด้วยความกังวล



“มานอนที่แขนฉันมา...ฉันกอดไว้จะได้ไม่กลัว” แขนแกร่งยืดออกไป ใบหน้าคมพยักเพยิดช้าๆเพื่อเรียกคนรักให้โน้มตัวลงมานอนกับเขา



ร่างบางลังเลสักพัก ไม่นานเขาก็ค่อยๆเอนลงมาซบแขนแกร่งไว้ คริสโอบกอดชานยอลเพื่อให้ไออุ่น เขาจะได้ไม่รู้สึกเคว้งคว้างเหมือนไม่มีใคร ดวงตากลมโตยังคงจับจ้องใบหน้าของคนรักที่นอนใกล้ๆจนลมหายใจอุ่นๆรดริน หัวใจดวงน้อยอบอุ่นขึ้นอย่างประหลาด ความกลัวถูกกลบทับด้วยความรักของคนข้างๆ



“อู๋ฟาน...อย่าไปรักใครนะ” เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูในขณะที่คริสกำลังนอนหลับตา



ดวงตาคมลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ จับจ้องใบหน้าขาวเนียนของคนตรงหน้าพร้อมรอยยิ้ม



“รักแค่นายก็ไม่เหลือหัวใจให้ใครละ” ริมฝีปากหนาจุมพิตที่หน้าผากเล็กอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง



“ฉัน...หนาว” ชานยอลเริ่มเขยิบเข้ามาใกล้ร่างสูงที่นอนอยู่ข้างๆมากขึ้น เมื่อลมเย็นพัดผ่านมาหอบใหญ่ จนร่างกายของเขาเริ่มบดเบียดกัน



“งั้น..ฉันจะช่วยให้อุ่นเอง” สิ้นประโยคสนทนา ริมฝีปากหนาก็จูบสัมผัสอย่างแผ่วเบาที่กลีบปากอิ่ม



เรียวลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปาก ร่างสูงผงกตัวขึ้นมาและโถมลงสู่ร่างบางข้างๆ จมูกโด่งซุกไซร้ไปตามซอกคอขาวเนียนด้วยความถวิลหา มือหนาลูบไล้ไปตามผิวเนื้อขาวเนียนก่อนที่จะสอดฝ่ามือเข้าใต้เสื้อและเริ่มถอดมันออกให้พ้นทาง



“อื้ออ..” เสียงครางเบาๆในลำคอของชานยอลยามที่ถูกปลุกเร้า



กางเกงยีนส์ตัวเก่งของคริสถูกวางกองไว้หลังจากที่เขาปลดกระดุมออก ร่างกายที่เปลือยเปล่านอนทับใบไม้สีเขียวสด แสงจากกองไฟสะท้อนร่างคนทั้งสองเป็นเงาทอดพาดผ่านกับเพิงพัก ฝ่ามือหนาเคล้นคลึงบริเวณเนินอกอย่ามันส์มือและโน้มใบหน้าลงไปชื่นชม ลิ้นยาวสะกิดยอดอกเบาๆเพื่อให้ร่างบางตื่นตัว



เขาเผลอแอ่นอกรับและร้องครางอย่างสุขสม นิ้วมือเรียวค่อยๆสอดเข้าไปที่ช่องทางด้านหลัง นิ้วยาวชักเข้าออกหลายครั้งให้เจ้าของร่างคุ้นชินกับสัมผัสนี้ มือบางปัดป่ายด้วยความเขินอายและหัวใจที่ร่ำร้อง ชานยอลกอบกุมส่วนแข็งขืนของคริสไว้ในมือและรูดมันขึ้นลงช้าๆ ริมฝีปากบางยู่ลงด้วยความเสียวกระสันต์



“อ๊าาาา อู๋ฟาน ฉัน...เสียว อย่าทำอย่างนั้น” เขาร้องห้ามเมื่อร่างสูงเพิ่มจำนวนนิ้วยาวเข้าไปมากขึ้นกว่าเดิม



“อืมม..ชานยอล ของนายมันคับมากเลย..ฉันทนไม่ไหวแล้ว” เขาถอนนิ้วยาวออกเมื่อความต้องการพลุ่งพล่านเกินบรรยาย ส่วนแข็งขืนของคริสถูกสอดใส่เข้าไปทางช่องทางด้านหลังแทนนิ้วเรียว



ร่างสูงขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ จังหวะเนิบนาบถูกเปลี่ยนเป็นเร่งเร้าเมื่อร่างบางกระเด้งตัวตอบรับ มือหนารั้งสะโพกบางเข้าหาตัวหลายครั้งจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกระแทกกัน



“อ่าาา อู๋ฟาน” ใบหน้าหวานใสเหยเกด้วยความสุขสม



เสียงครางต่ำในลำคอของคริสผสมผสานกับชานยอลระงมไปทั่วป่า ไม่นานนักทั้งสองก็ปลดปล่อยออกมาจนเลอะใบไม้สีเขียวอ่อนที่ถูกวางกองไว้ จากอากาศหนาวเมื่อครู่กลับกลายทำให้ทั้งสองมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมา มือหนาปาดมันออกจากใบหน้าของคนรัก เสื้อผ้าที่กองไว้ถูกนำมาสวมที่ร่างอย่างลวกๆ...



คืนนี้จะเป็นอีกคืนที่น่าจดจำระหว่างเขาทั้งสอง แม้แสงจากกองไฟจะไม่สว่างนัก แต่ชานยอลก็เหลือบมองร่างของคริสได้ชัดเจนว่า รอยสักบนตัวเขามีกี่แห่ง..



“ทีนี้หลับได้แล้วนะครับ ถ้ากลัวแมลงอีกฉันจะทำแบบเดิม เอาให้นายเพลียทั้งคืน” เสียงเข้มเปรยออกมาพร้อมล้มตัวลงนอนและกอดร่างบางไว้ ดวงหน้าหวานใสเขินอายจนซุกกับแผ่นอกหนาเพื่อหลบหน้าเขา



ในเวลานี้ที่มีอู๋ฟานอยู่ข้างๆ ชานยอลก็จะไม่กลัวอะไรอีกแล้ว....







--------------- อีก 40% ที่เหลือ ----------------



แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาตามร่องกิ่งไม้ เสียงนกน้อยร้องขับกล่อมเบาๆประสานกับเสียงลมที่พัดผ่านรอบๆตัว ร่างบางนอนขดในอ้อมกอดของแขนแกร่งเนิ่นนานเท่าไรแล้วไม่รู้ ดวงตาคมค่อยๆปรือขึ้นมามองรอบๆเมื่อได้ยินเสียงสะท้อนของใครบางคน



“ปาร์คชานยอล!! คริส!! พวกนายอยู่แถวนี้ไหม!!” เสียงเข้มร้องเรียก ตามด้วยผู้คนทางด้านหลังที่ตะโกนเสียงดังไม่แพ้กัน



ทีมค้นหาคนหายถูกจัดเตรียมไว้เกือบ 20 คน นักกีฬาบาสบางคนสมัครใจที่จะช่วยออกตามหา รวมถึงใครคนหนึ่งที่ห่วงคริสไม่แพ้กัน และขอติดสอยห้อยตามมาด้วย...



“นายจะตามมาทำไมก็ไม่รู้ ฉันว่าเป็นภาระมากกว่าจะมาช่วยเหลือ!” จื่อเทาสบถออกมาเมื่อร่างเล็กเดินช้าจนเขาต้องยืนรอ แบคฮยอนค่อยๆย่างกรายเมื่อเขาเจ็บแผลที่ขา มือเล็กเอื้อมจับขาตนเองเมื่อรู้สึกปวด



“ฉันเป็นห่วงพี่คริสนี่! แล้วนายจะมารอฉันทำไม ก็เดินไปสิ!” ดวงตาเล็กค้อนขวับใส่ร่างสูงตรงหน้า ไม่ได้ต้องการให้ใครมาช่วยเหลือเขา ขอเพียงเห็นว่าคนที่เขาแอบรักปลอดภัยเท่านั้นก็พอ



ในเพิงพักซุ้มใบไม้ ...



มือหนาเอื้อมไปเขย่าร่างบางข้างๆให้ลุกขึ้น แต่เมื่อสัมผัสกับร่างคนรักเขาก็ต้องตกใจ ฝ่ามือรีบผละไปอังหน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิร่างกายที่ค่อนข้างร้อนกว่าปกติ



“ชานยอลๆ นายไม่สบายเหรอ ตัวนายร้อนมากเลย ชานยอล ได้ยินฉันหรือเปล่า” ร่างบางถูกเขย่าหนักขึ้นเมื่อไม่มีเสียงตอบกลับมา



คนรักของเขาเป็นคนอ่อนแอตั้งแต่ไหนแต่ไร ในวัยเด็กยามที่มีกิจกรรมเข้าค่ายกับทางโรงเรียน ชานยอลมักจะพกกล่องยาและเครื่องปฐมพยาบาลที่ทางบ้านจัดเตรียมไว้ให้เสมอ หลายครั้งที่เขาถูกเพื่อนๆล้อ แต่ชานยอลก็ไม่เคยโกรธ เขายินดีจะหยิบยื่นยาในกล่องให้เพื่อนๆรวมถึงอู๋ฟานที่เคยได้รับพลาสเตอร์ยาสีสวยเพื่อปิดแผลครั้งนั้นเมื่อนานมาแล้ว



“ชานยอล...ชานยอล..” สีหน้าเข้มเริ่มกังวล เสียงร้องเรียกของทีมค้นหาเริ่มใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ



ร่างสูงตัดสินใจวิ่งออกไปจากเพิงพักและตะโกนเรียกเพื่อขอความช่วยเหลือ ไม่นานทีมช่วยเหลือเกือบ 20 คนก็รีบกรูเข้ามาหาเขาทั้งสอง โดยมีจื่อเทาและแบคฮยอนตามมาใกล้ๆ



“พี่คริส พี่เป็นยังไงบ้าง ผมเป็นห่วงพี่มาก เมื่อคืนผมไม่ได้นอนเพราะเป็นห่วงพี่” เสียงเล็กพร่ำพูดออกมาด้วยความดีใจ เขาโผเข้ากอดร่างสูงตรงหน้าด้วยความคิดถึง



“ดีใจที่เจอนาย แล้วชานยอลล่ะ” จื่อเทารีบเอ่ยถามถึงอดีตคนรัก



“ชานยอลไม่สบาย เรารีบพาเขาออกไปกันเถอะ” ใบหน้าคมคายมีสีหน้ากังวลจนปิดไม่มิด ร่างสูงไม่สนใจร่างเล็กตรงหน้าหรือแม้แต่จะชายตา เขาทั้งสองรีบเดินตรงไปหาร่างบางที่นอนหลับไม่รู้สึกตัวที่พื้น



แบคฮยอนรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างบอกไม่ถูกแต่เขาก็ไม่คิดจะยอมแพ้ ร่างเล็กรีบเดินตามไปติดๆจนถึงบริเวณเพิงพัก มือหนาของจื่อเทาเตรียมจะอุ้มช้อนร่างบางที่พื้นขึ้นมาแต่ก็มีเสียงร้องปรามไว้เสียก่อน



“นายจะทำอะไร ฉันจะอุ้มชานยอลเอง” คริสรีบรั้งร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด



“พี่คริสจะอุ้มทำไม ให้จื่อเทาอุ้มสิ พี่เองก็เหนื่อย หลงป่ามาเป็นวันๆ” แบคฮยอนแสดงความคิดเห็นด้วยสีหน้าไม่พอใจ



“ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันอุ้มเขาได้ นายแค่นำทางไปก็พอ” เขาเอ่ยกับจื่อเทา ลึกๆแล้วคริสหวงคนรักมากกว่าที่จะให้ใครมาเข้าใกล้



“พี่คริสต้องช่วยผม ผมเจ็บขา พี่เป็นคนทำผมเจ็บนะ” มือเล็กเกาะแขนเขย่าเรียกร้องความสนใจจากร่างสูงข้างๆ



“แบคฮยอน ถ้านายเดินป่ามาได้ถึงขนาดนี้ กลับออกไปเองก็คงไม่มีปัญหามั้ง” เสียงเข้มของคริสเอ่ยตอบร่างเล็กข้างๆ



“แบคฮยอนเจ็บขาจริงๆ เขาไม่ได้สำออย นายอุ้มชานยอลตามฉันมา ส่วนนาย....” ใบหน้าคมเข้มเหลือบมองคนร่างเล็ก จื่อเทาช้อนร่างของแบคฮยอนที่ยืนอยู่ใกล้ๆขึ้นอุ้มและเดินนำหน้าคริสออกไป



“ปล่อยฉันนะ! จื่อเทา ไม่ต้องมาอุ้มฉัน ...พี่คริส มาอุ้มผมสิ! ปล่อย ไอ้จื่อ!” ร่างเล็กดิ้นรนแกว่งแขนขาไปมา แขนแกร่งโอบรัดมากขึ้นไปอีกเพื่อต้องการจะกลั่นแกล้ง พยศกับเขาดีนัก



ทั้งหมดเดินมาตามทาง โดยที่แบคฮยอนเหลือบมองคริสที่อุ้มร่างชานยอลเดินตามมาไม่ห่าง ใบหน้าหล่อเหลาเป็นกังวลจนดูไม่มีความสุข



“อดทนไว้นะชานยอล จะถึงแคมป์แล้ว” เสียงกระซิบแผ่วเบาที่แบคฮยอนบังเอิญได้ยินเข้า



เสื้อคลุมตัวใหญ่ที่ร่างบางสวมไว้เมื่อคืนบ่งบอกว่าคริสเป็นคนถอดให้ สัมผัสอ่อนหวานละมุนที่ร่างเล็กโหยหาและไม่เคยได้รับมัน มันทำให้เขาเจ็บหน่วงมากมายที่เป็นได้แค่คนมองดูเท่านั้น



ทีมช่วยเหลือใช้ไม้ยาวเกลี่ยไล่ต้นไม้เลื้อยตามพื้นที่ขวางทาง ขายาวพาร่างสูงเดินใกล้เข้ามาบริเวณตั้งแคมป์ ทุกคนในบริเวณแคมป์ต่างมีสีหน้าดีใจที่พบว่าคริสและชานยอลกลับมาอย่างปลอดภัย ร่างสูงรีบอุ้มคนรักเข้าไปที่เต็นท์ปฐมพยาบาลเพื่อดูอาการ



มือหนาลูบไล้ไปตามใบหน้าขาวใสด้วยความเป็นห่วง สีหน้าของเขาในวันนี้แตกต่างกับวันที่แบคฮยอนเจ็บตัวมากนัก ความรู้สึกในใจที่ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ นักกีฬาบาสหลายคนสังเกตเห็นเขา ต่างคนต่างมองหน้ากันและสงสัยใคร่รู้ว่า แท้จริงแล้วคนที่คริสรักคือชานยอลหรือแบคฮยอน



“น่าจะเป็นไข้ป่าค่ะ เขาแพ้อะไรหรือเปล่าคะ” พยาบาลที่ทางมหาลัยเตรียมไว้เอ่ยถามขึ้นหลังจากตรวจดู



“ตอนเด็กๆเขาเป็นภูมิแพ้ครับ ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เขาหายหรือยัง”



“อ่อ..เขากลัวแมลงมาก เขาจะแพ้แมลงไหมครับ เขามีแผลแมลงกัดตรงไหนหรือเปล่า” มือหนาเอื้อมจับตามแขนเรียวพลิกดูด้วยความกังวล ดวงตาคมเหลือบมองตามร่างขาวเนียนที่เป็นของเขาแค่คนเดียวด้วยความเป็นห่วงใย



ชานยอลได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เต็นท์นอนถูกจัดเตรียมไว้ให้ผู้ป่วย ร่างบางนอนพักในนั้นเงียบๆ



“ผมขอนอนเฝ้าเขาได้ไหมครับ” เสียงขอร้องของร่างสูงอ้อนวอนกับพยาบาล



“แต่ว่า...ชานยอลเป็นไข้นะคะ คุณอาจจะติดไข้จากเขาได้ อย่าเลยดีกว่าค่ะ”



“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่กลัว เมื่อคืนผมก็นอนข้างๆเขาทั้งคืน ผมเป็นห่วงเขา ขอร้องนะครับ” คริสเอ่ยตอบไปโดยไม่สนใจสายตาของคนรอบข้างที่กำลังจับจ้องมายังเขาทั้งคู่





ช่วงหัวค่ำของวัน หลังจากมีกิจกรรมที่ทางมหาลัยเตรียมไว้ในการสร้างสัมพันธ์ในทีมนักกีฬา คริสก็รีบมาดูอาการของชานยอลในเต็นท์พยาบาล ร่างสูงเดินสวนกับร่างเล็กโดยไม่คิดที่จะเหลียวมอง มือบางรีบเอื้อมจับแขนของคนตัวโตกว่าเพื่อรั้งเขาไว้...



“พี่คริส พี่อย่าห่วงแต่ชานยอลได้ไหม! ห่วงผมบ้างได้ไหม..” คนตัวเล็กยืนต่อว่าเขาด้วยความเสียใจ ร่างสั่นไหวด้วยความโกรธและอารมณ์น้อยใจลึกๆ



“ขาผมเจ็บเพราะพี่นะ พี่ไม่เห็นสนใจใส่ยาให้ผมเหมือนที่พี่ทำกับชานยอลเลย” ใบหน้าหวานเริ่มสลดลง น้ำตาหยาดใสเริ่มเอ่อมาคลอหน่วงที่ดวงตา



“ผมขอร้องแค่นี้ แค่พี่ดีกับผมสักนิดได้ไหม รับผิดชอบในสิ่งที่พี่ทำกับผมบ้าง” มือเล็กเอื้อมไปจับมือหนาไว้พร้อมบีบมันเบาๆเพื่ออ้อนวอนเขา



“ตอนนี้นายกลับไปที่เต็นท์ก่อน...คืนนี้ฉันจะเอายาทาแผลไปให้” เสียงเข้มเอ่ยตอบเรียบๆก่อนที่จะเดินจากไป แม้คริสจะไม่เต็มใจนักแต่เขาก็ต้องรับผิดชอบที่ทำให้แบคฮยอนเจ็บตัว





ร่างสูงผ่านเข้าไปที่ประตูเต็นท์ ดวงหน้าหวานใสยังคงหลับสนิทด้วยพิษไข้ มือหนาลูบจับไปตามตัวและใบหน้าของคนรัก ตัวของเขาเริ่มเย็นขึ้นบ้างแล้ว หลังจากนี้คงต้องรอดูอาการจนกว่าชานยอลจะรู้สึกตัว



“ตื่นได้แล้วนะคะ นอนหลับมาวันนึงแล้ว...ฉันเป็นห่วงนายมากนะ” ริมฝีปากหนาโน้มลงไปจุมพิตที่กลีบปากบางตรงหน้า สีของมันดูซีดเซียวกว่าปกติ



ร่างสูงนั่งมองดูคนรักสักพักจนเวลาล่วงเลยเป็นชั่วโมง เขาจึงตัดสินใจเอ่ยบอกชานยอลเพื่อขออนุญาตในการตัดสินใจทำบางสิ่ง



“คืนนี้จะมานอนเป็นเพื่อนนะ....ฉันเอายาไปให้แบคฮยอนก่อน เดี๋ยวฉันกลับมา” นิ้วเรียวยกขึ้นมาเกี่ยวก้อยกับคนที่นอนหลับอยู่ในเต็นท์ เขามุดตัวออกมาและเดินถือหลอดยาใส่แผลเพื่อมุ่งตรงไปยังเต็นท์ของแบคฮยอน



บรรยากาศภายนอกเริ่มเงียบสงบ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืนและนักศึกษาหลายคนเข้านอนหมดแล้ว เต็นท์ของแบคฮยอนค่อนข้างมืดและไม่มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามาถึง เงาตะคุ่มของต้นไม้ใหญ่พาดผ่านมาที่เต็นท์ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ถนัดนัก



ร่างสูงค่อยๆรูดซิบประตูเต็นท์เปิดออก เขามุดตัวเข้าไปช้าๆและไปนั่งข้างร่างเล็ก...มือหนาใช้หลอดยาสะกิดเรียกแบคฮยอนที่นอนอยู่บนฟูกนุ่มให้หันมารับ



“พี่คริส...พี่มาจริงๆด้วย” คนตัวเล็กผุดลุกขึ้นมานั่งมองเงาที่อยู่ข้างๆด้วยความตื่นเต้น



“ผมดีใจที่พี่มาหาผม” เขาโผเข้ากอดร่างสูงตรงหน้าด้วยความคิดถึง อบอุ่นยิ่งนักเมื่อได้โอบกอดร่างของคนที่เขารักโดยที่ไม่ได้ฝันไป



“แบคฮ...” เสียงเข้มกำลังจะเอ่ยแต่ก็ถูกร่างเล็กแอบหอมแก้มฟอดใหญ่



“ความจริงแล้วพี่ก็อ่อนโยนกับผมใช่ไหม พี่รู้ไหมว่าผมรักพี่ รักพี่มากอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อน” แขนเรียวโอบกอดร่างหนาตรงหน้าแน่นขึ้นไปอีก รสสัมผัสบางอย่างคือสิ่งที่แบคฮยอนต้องการในขณะนี้ ไออุ่นของร่างสูงแผ่ซ่านมาที่ร่างของเขา



“พี่คริส...แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ผมจะไม่อ้อนวอนพี่อีก” เสียงเล็กเริ่มสั่นเครือด้วยความน้อยใจ



“พี่ช่วย...จูบผมด้วยความเต็มใจอย่างที่พี่ทำกับชานยอลได้ไหมฮะ” ใบหน้าหวานซุกตรงหน้าอกแกร่ง กลิ่นกายของความเป็นชายคละคลุ้งปะทะจมูกรั้นของแบคฮยอน



“.......”



“ผม...รักพี่นะฮะ” ริมฝีปากบางรีบโน้มสัมผัสเข้ามาที่กลีบปากหนาอย่างเรียกร้องต้องการ





ลิ้นเรียวของแบคฮยอนสอดเข้าไปในโพรงปากของอีกคน ปากบางเผยออ้าเพื่อรอลิ้นร้อนชื้นส่งกลับเข้ามา ทั้งสองแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม มือหนาเอื้อมลูบคลำร่างเล็กด้วยความต้องการเกินห้ามใจ จมูกโด่งซุกไซร้ซอกคอหอมละมุน ริมฝีปากหนาขบกัดตามความขาวเนียนจนเกิดรอยแดง กระดุมเสื้อตัวบางค่อยๆถูกปลดออกจากร่างเล็กจนเผยให้เห็นความตื่นตาตื่นใจ



ลิ้นสากลากไล้ไปตามเนินอกของคนตัวเล็ก แบคฮยอนแอ่นอกรับสัมผัสนั้นด้วยความโอนอ่อน สำเร็จแล้วกับสิ่งที่เขาร่ำร้องต้องการตลอดมา ความดีใจมันมากมายเสียจนไม่สามารถบรรยายออกมาได้ ในที่สุดวันนี้ก็คือวันที่คริสไม่รังเกียจเขา



กางเกงนอนตัวบางถูกถอดออกไปจากร่างด้วยความชำนาญ มือหนาลูบไล้เล่นไปตามร่างขาวเนียน ใบหน้าคมเลื่อนลงไปด้านล่างเพื่อใช้ลิ้นร้อนปรนเปรอให้กับแบคฮยอน ...



“อ๊าาา พี่คริส” มือบางกุมเส้นผมของชายตรงหน้าไว้เมื่อเขารู้สึกเสียวกระสันต์



ช่วงล่างของเขาถูกปลุกเร้าจนไม่อาจทนทาน ร่างเล็กพลิกกลับหันหลังให้กับร่างสูงตรงหน้า สะโพกบางแอ่นรับอย่างรู้งานเพื่อรอแกนกาย ร่างสูงไม่รอช้า เขารีบโน้มใบหน้าลงมาเพื่อใช้ลิ้นสากลากไล้ไปตามร่องรัก ร่างเล็กค่อยๆครวญครางออกมาอย่างสุขสม เอวบางส่ายร่อนไปมาอย่างมีความสุข



“พี่คริส...เข้ามาที่ตัวผมได้เลยฮะ...ผมจะทำให้พี่ไม่มีวันลืม”



แกนกายถูกแทรกเข้ามา น้ำลายที่เหนียวลื่นช่วยให้ช่องทางของแบคฮยอนไม่คับแคบเกินไปนัก สะโพกหนากระแทกกระทั้นเข้าออกหลายครั้ง ใบหน้าคมขบกรามแน่นด้วยความเสียวซ่าน จมูกโด่งซุกลงตรงแผ่นหลังและใช้ลิ้นไล้เลียเพื่อปลุกอารมณ์คนตัวเล็ก



“อืมม แฮ่กๆ” เสียงครางของร่างสูงในลำคอ เขาขบกัดติ่งหูของแบคฮยอนไว้เบาๆ



“พี่เก่งจังเลยฮะ อา อ๊าาา” ร่างเล็กตอบรับอย่างดีและขยับเข้าออกตามแรงโยกของคนทางด้านหลัง



แบคฮยอนพลิกร่างกลับมานั่งคร่อมบนตัวของร่างสูงและเริ่มขย่มช้าๆบนตัวเขา มือบางวางลงตรงหน้าอกแกร่ง สะโพกบางส่ายร่อนเบาๆจนแกนกายบดเบียดจนร้อนรุ่ม ช่องทางเริ่มตอดรัดตุบๆจนคับแน่น



มือหนาจับร่างเล็กขยับขึ้นลงตามจังหวะ ความอดทนของเขามีขีดจำกัด เมื่อแบคฮยอนเร้าอารมณ์และปลุกเร้าเขาขนาดนี้เขาก็ไม่อาจห้ามใจ น้ำรักที่ขุ่นข้นถูกปล่อยเข้าไปที่ช่องทางรักจนเปรอะเปื้อน ไม่นานแบคฮยอนก็หลั่งความสุขออกมาและนอนทาบทับไปบนอกแกร่ง



“พี่คริส...พี่เร่าร้อนจัง” เสียงหอบหายใจเหนื่อยของร่างเล็กที่นอนบนตัวเขา



“นายก็ยังเก่งเหมือนเดิมนะ...พยอนแบคฮยอน” น้ำเสียงที่คุ้นเคยแว่วเข้ามาในหูของร่างเล็ก



ใบหน้าหวานผงะออกเพื่อจับจ้องคนใต้ร่างชัดๆ เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจระคนโกรธเคืองดังลั่นเต็นท์เมื่อคนที่เขาร่วมรักด้วยเมื่อครู่ไม่ใช่คริสแต่กลับเป็น.....”จื่อเทา”





1 ชั่วโมงที่แล้ว....





“นายจะไปไหนคริส” เสียงเข้มเอ่ยถามเมื่อเดินสวนกับร่างสูงโปร่งที่เดินตรงไปทางเต็นท์ของแบคฮยอน



“ฉันจะเอายาไปให้แบคฮยอน” ใบหน้าคมตอบคำถามด้วยน้ำเสียงเรียบ



“ไม่ต้อง...นายกลับไปเฝ้าชานยอลเถอะ เดี๋ยวฉันเอายาไปให้เขาเอง”





“ฉันเคยเตือนนายแล้วไง ว่าให้เลิกยุ่งกับคริสและชานยอล...ครั้งที่แล้วในห้องเรียนคือการสั่งสอน แต่ครั้งนี้ ...ฉันเอาจริง” เสียงเข้มเปรยออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ มือหนาควานหาเสื้อผ้าที่กองอยู่ข้างๆหยิบมาใส่และเดินออกไปจากเต็นท์ด้วยรอยยิ้มร้าย



ร่างเล็กที่เปลือยเปล่านั่งโกรธตัวเองและขว้างปาสิ่งของจนเกิดเสียงดัง เขาโมโหจื่อเทาจนตัวสั่นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ใบหน้าหวานใสบูดบึ้งและทุบตีหมอนหนุนลงกับพื้นด้วยความคับแค้นใจสุดจะบรรยาย



-พยอนแบคฮยอน นายยังเร่าร้อนเหมือนเดิมนะ-







END EP12------------------------------------------------------------------------------------





หากอยากสกรีมเชิญแทค #อาการแอบรัก นะ ไม่เคยแต่ง NC ของคู่อื่นเลย อยากรู้ฟีดแบค 555555555555555

http://0ctogus.forumth.com

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ