0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

สถานีบำบัดคนบ้า ตอนที่19

+7
watershadow
akanishibluecat
:D
YRAUNAJ_YEOL
NikyNook
Sky_fff
0ctogus
11 posters

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

0ctogus

0ctogus
Admin


สถานีบำบัดคนบ้า ตอนที่19 Cute-kitten-kittens-16122946-1280-800




“พี่หมอ...” ผมหรี่ตามองหน้าของคุณหมอ ภาพของเขาในอิริยาบถต่างๆซ้อนทับไปมากับภาพในปัจจุบัน


“ชาน ชาน! ไหวมั้ย” เขาตบหน้าผมสองสามที ผมค่อยๆทรุดตัวนั่งเก้าอี้ กุมขมับเมื่อหัวสมองปวดจี๊ดไปหมด


“เป็นยังไงบ้าง ปวดหัวหรอครับ”


“อื้อ”


“นั่งพักก่อน เอาน้ำมั้ย” คุณหมอไม่รอให้ผมตอบ แต่กลับวิ่งไปกดน้ำมาให้ผม




เมื่อกี้ เมื่อกี้มันอะไร เหมือน เหมือนเดจาวูเลย เหมือนที่เขาเป่าหน้าผากผมเคยเกิดขึ้นมาก่อน เหตุการณ์หลายๆอย่างที่ผมจำไม่ได้ว่าเคยทำ กลับย้อนเข้ามาในหัวเหมือนกับว่ากล่องดำในชีวิตผมได้ถูกกู้คืนกลับมาอีกครั้ง ผมยกมือขึ้นกุมขมับ ก่อนจะแหงนหน้ามองเพดานสีขาวสะอาดตา




“กินนี้ก่อน มันจะช่วยให้ดีขึ้น” ผมรับน้ำผลไม้มาดื่ม ความสดชื่นของมันทำให้สมองของผมปลอดโปร่ง ผมนั่งดื่มต่อไปจนหมดกระป๋อง ก่อนจะเอนศีรษะพิงกับกำแพง



“ดีขึ้นมั้ย” ผมพยักหน้าตอบช้าๆ



“เมื่อกี้...............ชานเริ่มจำได้แล้วหรอครับ”ดวงตาคมคู่นั้นจ้องผมอย่างมีความหวัง แต่พอผมส่ายหน้า สีหน้าของเขาก็หม่นหมองลง ก่อนจะรีบปรับสีหน้ากลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม


“แต่ว่า...............ผมรู้สึกลางๆ เหมือนพี่หมอ..........เคย เคยเป่าแผลให้ผม แล้วก็อะไรอีกไม่รู้เยอะแยะที่ผมเห็น แต่ผมจำไม่ได้ว่าเคยทำ”


“ความทรงจำคงกำลังกลับมา” พี่หมอสรุป


“แต่ผมก็ยังจำไม่ได้อยู่ดี ผมอยากจำได้ ถ้าผมหัวโขกอีกรอบ มันจะจำได้มั้ย”


“แล้วถ้าโขกแล้วลืมหมดเลยล่ะ”


“ก็โขกจนกว่าจะจำได้” พี่หมอยิ้มขำ ก่อนจะยื่นผ้าเย็นให้ผม ผมมองมันอย่างงงๆ จนสุดท้ายพี่หมอแปะไอ้ผ้าเย็นใส่หน้าผากผมเสียเลย


“นั่งพักสักแปบนึง อย่าเพิ่งคิดอะไร จำไม่ได้ก็ยังไม่ต้องคิด เดี๋ยวปวดหัว” ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะนั่งนิ่งๆ ตามคำบอก พี่หมอคอยมองผมเป็นระยะๆ ไม่รู้ทำไมผมถึงได้อยากเรียกเขาว่าพี่หมอ แต่ความรู้สึกมันเหมือน..................ปลอดภัย ไว้ใจได้ แบบนั้น เรียกแล้วมันรู้สึกดี ผมก็ไม่เข้าใจหรอกว่ามันเพราะอะไรกันแน่ แล้วก็ยังไม่อยากจะคิดหาคำตอบด้วย ตอนนี้ผมมึนหัวไปหมด เหมือนมีคนมาจับหัวผมหมุนเล่น ผมนั่งพักอยู่อย่างนั้นสักพักหนึ่ง พี่หมอก็ก้มลงดูนาฬิกาก่อนจะลุกขึ้นยืน


“ดีขึ้นมั้ย เดี๋ยวพี่หมอต้องไปทำงานต่อแล้ว ชานไปพักที่ห้องพี่หมอก่อนมั้ยครับ”


“ได้หรอ”


“มีอะไรไม่ได้สำหรับปาร์คชานยอล”


“มี ความทรงจำไง”


“อย่าไปคิดถึงมันเลย ปวดหัวเปล่าๆ ลุกไหวมั้ย”พี่หมอถามพร้อมกับยื่นมือมาให้จับ ผมยื่นมือไปจับมือเขาก่อนจะยันตัวลุกขึ้น พี่หมอจูงมือผมไปยังห้องพักของเขา พอมาถึงก็หายาแก้ปวดหัวให้ผมกิน พร้อมกับสั่งให้นอนพัก ถ้าไม่ทำก็จะโดนดุ หมออะไร ดุชะมัดเลย ไม่เห็นเหมือนที่เห็นในกล่องดำเลย


“ที่ดุเพราะเราดื้อขึ้น ไม่ต้องทำปากยื่นปากยาวเลย”อ่านใจได้ด้วยหรอเนี่ย


“ไม่ได้ดื้อสักหน่อย จะไปทำงานไม่ใช่หรอ”


“ครับ นอนพักไป ถ้าดีขึ้นแล้วจะกลับก่อนก็ได้นะ” ผมพยักหน้าตอบ พี่หมอยิ้มรับ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่ประตู


“ขอโทษ....”


“หื้ม”


“ขอโทษที่จำไม่ได้” พี่หมอยิ้มก่อนจะตอบ


“ถ้าความทรงจำกลับมาแล้วต้องปวดหัว สู้จำอะไรไม่ได้เลยดีกว่าครับ พี่หมอไม่อยากให้ชานทรมาน ไปทำงานละครับ พักผ่อนเยอะๆ”



พี่หมอเดินออกไปแล้ว แต่ผมยังคงอึ้งกับคำพูดของเขาอยู่ ถ้าความทรงจำกลับมาแล้วต้องปวดหัว สู้จำอะไรไม่ได้เลยดีกว่าครับ พี่หมอไม่อยากให้ชานทรมาน นี่เขาห่วงเราขนาดนี้เลยหรอเนี่ย จะมีผู้ชายที่ไหนดีเท่าเขาเนี่ย...




“ปาร์คชานยอลนายโชคดีมากที่ได้เขาเป็นแฟน!!!” ผมล่ะอิจฉาตัวเองในตอนนั้นจริงๆ จะโดนเขาเทคแคร์เป็นห่วงแบบไหนมั่งนะ แต่จากที่จำได้ลางๆ เขาก็ดูแลผมดีๆมากเลย โหย ถ้าเราจำได้ทั้งหมดก็ดีสิ ทำไมต้องจำได้ลางๆอย่างนี้ด้วยนะ น่าหงุดหงิดชะมัด มันเหมือนกับ เรากำลังจะต่อจิ๊กซอร์สำเร็จ แต่ขาดจิ๊กซอร์ไปแค่ตัวเดียว ไม่ได้ๆ เราต้องตามหาจิ๊กซอร์นั่นให้เจอ เพราะลึกๆแล้วพี่หมอก็ต้องอยากให้เราจำได้แน่นอน เราจะทำให้เขาผิดหวังไม่ได้!!!




ผมยันตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะหันซ้ายหันขวา ที่นี่คงจะมีความทรงจำอะไรมั่งล่ะน่า ผมกระโดดลงมาจากเตียง ก่อนจะเดินไปสำรวจโต๊ะทำงานของพี่หมอ ลองดูลิ้นชักหน่อยล่ะกัน เผื่อจะมีอะไรน่าสนใจมั่ง ว่าแล้วผมก็เปิดลิ้นชักออก ไดอารี่หน้าปกสีน้ำเข้ม มีข้อความเขียนว่า ตารางงาน เขียนอยู่กลางปก กำลังนอนแอ่งแม้งทักทายผมอยู่ ผมค่อยๆเปิดมันอ่าน ไดอารี่เหมือนกับเป็นสมุดจดงานของพี่หมอมากกว่า ว่าวันนี้ต้องตรวจคนไข้คนไหน ทำอะไรบ้างแบบนั้น ผมเปิดอ่านไปเรื่อยๆ จนสะดุดเข้ากับหน้าหนึ่ง.............วันเดือนปีเดียวกับ จดหมายฉบับแรกของเราเลย ผมรีบอ่านหน้ากระดาษนั้น ใจความของมันพูดถึงว่าวันนี้เขาต้องตรวจคนไข้ท่าทางเพี้ยนๆคนหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า..................ปาร์คชานยอล นี่เมื่อก่อนเราเพี้ยนขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย โหย เสียภาพพจน์หมด ผมเริ่มอ่านต่อ วันแรกมาถึงผมก็ทำอะไรเปิ่นๆซะแล้ว ทั้งจับแมลง คุยกับตุ๊กตา ล่องหนเอย นู่นนี่นั่นเอย ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นส่วนประกอบสำคัญของการทำลายภาพพจน์ของตัวเอง(ที่มีน้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) เสร็จผมก็เริ่มอ่านต่อไปเรื่อยๆ เรื่องราวในไดอารี่เหมือนกับในจดหมายที่ผมเคยอ่าน แต่รู้เรื่องมากกว่า ขณะที่ผมกำลังอ่านไปได้ครึ่งเล่ม ฤทธิ์ยาก็เริ่มออกฤทธิ์จนตาผมแทบจะปิด ผมฝืนอ่านต่อไปได้สองสามหน้า สุดท้ายก็ผล็อยหลับคาไดอารี่ โดยบรรทัดสุดท้ายที่ลอยอยู่ในหัวคือ ดัมโบ้เข้าถ้ำชานยอล...





------------------------------------------






“ที่คุณหมอต้องการนี่ มีแค่ใบประวัติของคนไข้คิมจียอง ปาร์คพยอลฮวา ลีจูซอง แล้วก็ควอนฮานึล ใช่มั้ยคะ” เสียงพยาบาลคิมถามย้ำถึงงานที่ผมสั่ง


“ครับ เอามาให้ผมพรุ่งนี้ก็ได้ อ้อ แล้วก็ ยาของคุณมินยอง ห้อง 3021 ผมลดโดส Chlorpromzine ลงไปนะครับ รายละเอียดอะไรอยู่ในใบREFERหมดแล้ว ส่วนคนอื่นก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ”


“ค่ะ เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณหมอนี่ดึกแล้วก็ยังมาทำงาน ไม่คิดจะพักมั่งเลยหรอคะเนี่ย” พยาบาลคิมเอ่ยล้อๆ


“แค่นี้ทำเป็นบ่นนะครับ เดี๋ยวก็หักเงินเดือนซะเลย”


“แหม ทำเป็นเอาเงินเดือนมาขู่ แค่นี้ก็ไม่เหลือให้หักแล้วค่ะ คุณลูกเจ้าของโรงพยาบาล” เธอพูดพร้อมกับรับแฟ้มเอกสารที่ผมยื่นให้ไป ผมยันตัวลุกขึ้นยื่น ก่อนจะเสียบปากกาไว้ที่กระเป๋าเสื้อกราวน์


“คุณหัวหน้าพยาบาลมีเงินให้ผมหักเยอะไปครับ”


“คุณหมอนี่! ฉันไม่คุยด้วยล่ะ ต้องรีบกลับไปดูซีรีย์ วันนี้ฉากเด็ดเลยนะคะ ฉันไปแล้วดีกว่า โชคดีนะคะคุณหมอ”


“ครับบบ ขอให้กลับบ้านไม่ทันดูซีรีย์นะ” พยาบาลคิมหันมาแยกเขี้ยวใส่ ก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องทำงานไป ผมส่ายหน้าขำๆ ก่อนจะก้มลงดูนาฬิกา สามทุ่ม...........ชานยอลคงกลับบ้านไปแล้วล่ะ
มั้ง





ผมปิดไฟห้องทำงาน ก่อนจะเดินกลับห้องพักของตัวเอง พลางคิดถึงเหตุการณ์เมื่อเย็น ชานยอลทรมานเพราะความทรงจำกลับมา ถ้าต้องเจ็บปวดอย่างนี้ทุกครั้งที่ได้มันมา ผมขอเลือกให้เขาจำอะไรไม่ได้เลยยังจะดีซะกว่า





ผมเอื้อมมือไปเปิดประตูห้อง ก่อนจะชะงักกับภาพที่เห็น ชานยอลกำลังนอนหลับ โดยมีไดอารี่ของผมวางแหมะอยู่บนอก คงจะรื้อมาอ่านน่ะสิ หึ ซนจริงๆ ผมทรุดตัวนั่งยองๆบนพื้น มองใบหน้าของเขายามหลับอย่างเพ่งพินิจ เขาไม่ได้สวยงามจนต้องตะลึง ไม่ได้น่ารักจนต้องชะงัก แต่เขาเป็นแค่............เด็กใสซื่อบริสุทธิ์คนหนึ่งที่ทำให้ผมหลงใหลได้ทุกเวลา...





“นอนสบายเลยนะ ตัวแสบ” ผมเกลี่ยผมที่ปรกหน้าเขา ก่อนจะนั่งยิ้มคนเดียวสักพัก แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จแล้วค่อยมาปลุกก็แล้วกัน....






-----------------------------------------






ผมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น ก่อนจะรีบกระเด้งตัวขึ้นมา เมื่อฟ้าข้างนอกมืดสนิทแล้ว โหย หลับไปนานแค่ไหนเนี่ย กี่โมงแล้วเนี่ย ผมรีบหันไปดูนาฬิกา สามทุ่มกว่าแล้ว!!! ป่านนี้ม๊าเอาตายแน่เลย โอ่ย ต้องรีบกลับแล้ว แต่ก่อนอื่น ขอเข้าห้องน้ำก่อน ปวดฉี่ไม่ไหวแล้ว





ผมรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ ก่อนจะเปิดประตูออกอย่างรวดเร็ว....




“เฮ้ยยยยยยยยยยย // ........................”ผมได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ทำอะไรไม่ถูก ร่างกายแข็งทื่อเอาเสียดื้อๆ ตามันค้างอยู่แค่ .......... โอ้ววว พระเจ้า!!!




“ไอ้หมอบ้า!!!” ผมตะโกนลั่นก่อนจะรีบปิดประตู พระเจ้า พระเจ้า เมื่อกี้ เมื่อกี้มัน มันอะไร!!! ไม่เหมือนของเราเลย โหย พระเจ้าๆ ช้างศึกชัดๆ โอ๊ย ตายแล้วๆ ตาเราจะบอดมั้ยเนี่ย โหย เต็มๆตาเลย ช้างแมมมอธตัวใหญ่นั่น! โอย เดี๋ยวนะ ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ดัมโบ้ ดัมโบ้ก็ช้างนะ แถมหน้าตามันก็คล้ายๆนะ อย่าบอกนะว่า................. เฮ้ย บ้าไม่หรอก ไม่ใช่หรอก เรากับเขาคงไม่ได้ทำอย่างนั้นกันหรอก ไม่หรอกๆ อย่าเพ้อเจ้อๆ



“ชานยอล”



“ห๊ะ!!!” ผมร้องเสียงหลง มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยไอ้ภัยคุกคามบ้า!!!


“พี่หมออาบน้ำเสร็จละ เราจะเข้าห้องน้ำไม่ใช่หรอ”


“ใช่ๆ เข้าห้องน้ำ ห้องน้ำ” ผมรีบลุกขึ้น แต่ก็ถูกพี่หมอดึงไว้เสียก่อน


“เอาผ้าเช็ดตัวไปด้วย อาบน้ำไปเลย คืนนี้ค้างที่นี่แล้วกันนะครับ มันดึกแล้ว เดี๋ยวพี่หมอโทรบอกแม่ให้”


“ค้าง ค้าง ค้างสิ” ผมตอบไปโดยไม่ทันคิด สมองตอนนี้มันบอกอะไรก็ได้ให้พ้นจากสภาพนี้สักที เขินจะตายอยู่แล้ว โอ๊ย ผมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับผ้าเช็ดตัวและชุดนอน นั่งหอบแฮ่กๆ ตัวแตกอยู่บนฝาชักโครก พลันสายตาก็เหลือบไปมองที่ที่เขาเคยยืนอยู่เมื่อกี้..............




ผู้ชายหน้าตาหล่อ ตัวสูง หุ่นดี ตัวเปียกน้ำนิดๆ พอให้ดูเซ็กซี่ แถมที่แขนยังมีรอยสักด้วยยยยยยยยยยย!!!



“หมออะไรโคตรเท่เลยอ้ะ!!!”



“อะไรนะชาน!!”



“ห๊ะ เปล่า!!! หูแว่วแล่ว ไม่ได้พูดไรเลย อาบน้ำอยู่” ผมรีบตะโกนบอก ก่อนจะวิ่งไปเปิดฝักบัวอาบน้ำ แต่ภาพนั้นก็ยังไม่ยอมออกจากสมองผมสักที ต่อให้หลับตาผมก็ยังจำมันได้ ผมไม่ได้ลามกนะ แต่มัน.....มัน เป็นคุณคุณจะไม่ติดตาหรอ ไม่มีทางหรอก!!!




ผมอาบน้ำต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความที่เป็นคนอาบน้ำเร็ว เลยทำให้อาบเสร็จภายในเวลา10นาที แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ต้องการความเร็วนี้นี่นา!!! ผมอยากอาบช้าๆ ถ่วงเวลาไว้ให้ผมออกไปข้างนอกให้ได้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าออกไปตอนนี้เราก็จะอยู่กันแค่สองต่อสอง ซึ่งนั่น....................ไม่ดีสุดๆ แต่ไอ้จะให้นั่งจุ่มปุกนอนอยู่ในห้องนี้ทั้งคืนนี่ก็ไม่ได้อีก จะทำยังไงดีเนี่ย





“ชานครับ เสร็จรึยัง พี่หมอจะเอาของในห้องน้ำ” รู้ละว่าจะทำไงต่อ!




ผมเปิดประตูออก ก่อนจะรีบขึ้นไปนั่งบนเตียง แล้วเช็ดหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ย๊า ย๊า!!! ตัวจะแตกแล้ว โอ่ยยยย ภาพโป๊นั่นก็ติดตาซะเหลือเกิน แล้วไอ้ปริศนาดัมโบ้นั่นก็ตามหลอกหลอนอยู่ทุกขณะจิต แล้วคืนนี้เรายังต้องมานอนค้างกับเขาอีก จะทำยังไงดีเนี่ย โอ๊ยยย คิดไม่ออกกกกกกกกกก!!!




“คืนนี้ชานนอนบนเตียงไปนะ เดี๋ยวพี่หมอนอนพื้นเอง”



“ได้ไงอะ นี่ห้องพี่หมอนะ” ผมเผลอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา โอ่ย เซ็กซี่เกินไปนะ



“เราจะยอมให้นอนด้วยหรอ”


“ก็......................ก็ต้องเป็นงั้นสิ ผมไม่ได้คิดไรสักหน่อย นอนก็นอนสิ”



“ยังไม่ทันว่าอะไรเลยนะครับ” พี่หมอพูดพร้อมกับทรุดตัวนอนข้างๆ ผมรีบเขยิบออกห่างทันที ไม่ได้เขินนะ แค่ แค่......เป็นคนนอนดิ้นเดี๋ยวเอาขาไปก่ายเขา




ผมฉวยมือไปหยิบไดอารี่ของพี่หมอขึ้นมาอ่าน ความจริงจะเอามาบังหน้า และหากิจกรรมทำเพื่อสร้างช่องว่างของเราสองคนมากกว่า เพราะถ้าไม่ทำงี้แล้วผมก็ไม่รู้จะทำอะไร ผมกวาดตาอ่านข้อความลวกๆ สติสตางค์ไม่มีให้มานั่งประมวลผลอะไรนี่ แต่แล้วผมก็สะดุดกับคำศัพท์เดิมๆ และปริศนาในหัวของผม พาดัมโบ้เข้าถ้ำชานยอล................คืออะไร....




แล้วถ้าถามจะยอมให้ดูมั้ยเนี่ย แต่เดี๋ยวววๆ ครั้งก่อนพี่หมอไม่ให้ดูเพราะมันเป็นตอนกลางวัน นี่ตอนกลางคืน ดัมโบ้ไรนั่นก็ตื่นแล้วงั้นสิ งี้ก็ขอดูได้ดิ่ เฮ้ย!!! โชคเข้าข้าง!!! ผมค่อยๆโผล่หน้าออกมาจากสมุด พี่หมอคว้าเอาไดอารี่ไป ก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม




“คือ คือ ดัมโบ้ตื่นยัง”ผมที่หาที่พักสายตาไม่ได้ เพราะถูกแย่งไดอารี่นั่นไป เลยเลือกจะมองเสื้อเขาแทน แต่พี่หมอก็ดันติดกระดุมไม่ครบ แผงอกนั่นก็เลยโผล่พ้นออกมาให้ผมเห็น...



“หื้ม....” พี่หมอชะงักมือที่กำลังเช็ดผมอยู่ ก่อนจะพูดต่อ แต่เขาจะรู้มั้ยว่าตอนนี้เขาเซ็กซี่มากแค่ไหน เส้นผมสีเข้มที่เปียกน้ำดวงตาคมที่หรี่ลงเพื่อกันน้ำเข้าตา ดูดีขนาดเช็ดผมอะ นี่มันคน เทวดา หรือปีศาจเนี่ย ทำไมถึงได้หล่ออย่างนี้นะ!



“อ้อ ดัมโบ้ ตอนนี้มัน กี่โมงนะครับ สี่ทุ่มหรอ คือ มันก็..... คือ ความจริงมันก็นอนอยู่ครับ แต่ถ้าไปปลุกมันก็อาจจะตื่นได้ ซึ่งมันไม่ดีเลย เพราะ.......23@@4564%%%%#####____________6666^^^^^^” กลีบปากสีแดงขยับไปตามคำพูดที่พี่หมอพูด ลิ้นสีชมพูระเรื่อแลบออกมาบางครั้งที่ริมฝีปากแห้งเกินไป กัดปากเป็นบางทีที่คิดอะไรไม่ออก แล้วพอปล่อยให้มันเป็นอิสระ กลีบปากก็จะแดงนิดๆ.......................น่าจูบจังเลย...





ผมค่อยๆโน้มหน้าไปใกล้เขา ก่อนจะประทับริมฝีปากอย่างลืมตัว กลิ่นสบู่อ่อนๆที่ลอยมาแตะจมูก และสัมผัสนุ่มนิ่มที่ริมฝีปากดึงให้ผมถลำลึกมากขึ้น ความอุ่นจากริมฝีปากแทบจะหลอมละลายสติและความยั้งคิดของผมไปทีละนิดๆจนหมดสิ้นในที่สุด.....





ผมดูดเม้มปากของเขาอย่างเงอะๆงะๆ พี่หมอตอบรับสัมผัสของผม ก่อนจะรั้งเอวผมเข้ามาใกล้จนหน้าขาเราสัมผัสกัน ร่างกายของผมเริ่มตอบสนองไปตามความต้องการของมัน เรียวขาของผมค่อยๆแทรกกลางระหว่างขาของเขา กว่าจะรู้ตัวอีกทีตัวผมก็ขึ้นมาอยู่บนตัวของเขาแล้ว พี่หมอเลื่อนมือลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของผม สัมผัสเพียงเล็กน้อยของเขา กระตุ้นความรู้สึกบางอย่างในตัวผมให้ปะทุขึ้นมา




เราสองคนค่อยๆแลกรสจูบกันมากขึ้นเรื่อยๆ จากบางเบาเริ่มเปลี่ยนเป็นล้ำลึก ตลอดเวลาที่จูบกัน เสื้อผ้าก็ค่อยๆหลุดออกทีละชิ้น ทีละชิ้น จนตัวเราเปลือยเปล่าในที่สุด ร่างกายที่สมบูรณ์แบบเผยอยู่ตรงหน้าผม หน้าผมแดงระเรื่อ แก้มร้อนผ่าว ยิ่งถูกดวงตาคมจ้องมาผมก็ยิ่งเขินหนักเข้าไปใหญ่ พี่หมอใช้จมูกคลอเคลียอยู่กับแก้มของผม ก่อนจะเลื่อนใบหน้าไปกระซิบข้างหู




“ได้เวลาตื่นของดัมโบ้แล้ว”



“ไหน....” พี่หมอยิ้ม ก่อนจะลดขาที่ชันขึ้นลง ทำให้ผมหล่นไปนั่งทับอยู่ตรงสะโพกของเขา....





อะไรบางอย่างที่ดุนอยู่ด้านหลังทำให้ผมเขินตัวแทบแตก พี่หมอเลื่อนมือมาลูบไล้สะโพกของผม ก่อนจะโน้มหน้ามาประกบปากจูบ และเริ่มคลอเคลียลำคอของผม เสียงความต้องการ และอยากรู้คำตอบถึงเรื่องดัมโบ้ก็ทำให้สติของผมหายไปอีกครั้ง ผมเลื่อนมือไปโอบรอบคอเขาก่อนจะเอียงคอให้พี่หมอสัมผัสได้มากขึ้น ถึงจะประหม่าบ้างแต่สัมผัสของเขากลับให้ความรู้สึกที่คุ้นชิน เหมือนผมเคยผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อน....




ผมค่อยๆโน้มหน้าลงไปคลอเคลียกับลำคอของเขา ก่อนจะดันให้เขานอนราบกับเตียง แล้วดูดเม้มไปทั่วกระดูกไหปลาร้าของเขา จากนั้นก็ไล่ลงมาเรื่อยๆ รอยจ้ำแดงๆแต่งแต้มไปทั่วแผงอกของเขา ไปจนถึงหน้าท้อง เขาจะรู้สึกดีมั้ยนะ จะชอบที่ผมทำรึเปล่า ผมขยับมือไปบนตัวเขาอย่างสะเปะสะปะ ก่อนจะถูกพี่หมอจับมันลากไล้ไปตามแผงอก หน้าท้อง แล้วมาหยุดที่ท้องน้อยที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ไรขนอ่อนกำลังลุกชันด้วยความเสียวซ่าน ความรู้สึกลิงโลดแล่นเข้ามาในใจผม เขาชอบมัน....ชอบที่ผมทำ...




พี่หมอหยัดตัวขึ้น พรมจูบไปทั่วหลังใบหู ลิ้นร้อนแลบเลียติ่งหูของผมเบาๆ ในขณะที่มือก็ลูบไล้ก้นของผมไปด้วย ก้อนเนื้อทั้งสองถูกนิ้วแกร่งแหวกออก ปลายนิ้วลากต่ำลงไปเรื่อยๆ ก่อนจะกดย้ำๆที่ช่องท่องด้านหลัง ผมสะดุ้งด้วยความเสียวซ่าน จนเผลอทำมือที่วางอยู่ที่ท้องน้อยลื่นตกลงมา จนโดนเข้ากับ....




“อ๊ะ//อืมมม”ผมอุทานขึ้นในขณะที่พี่หมอครางเสียงต่ำในคอ สิ่งที่อยู่ในมือกำลังขยายจนผมตกใจ ใบหน้าของผมร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองสิ่งที่อยู่ในมืออยู่อย่างนั้น แต่ยิ่งมันขยายขึ้น ยิ่งมองมันนานขึ้น ด้านหลังของผมก็บีบรัดตุบๆ ความต้องการภายในกำลังร่ำร้องให้เขาสัมผัสผมมากกว่านี้ สัมผัสให้มาก จนเข้าไปในตัวของตัวเอง...





ผมจับมือเขาให้ลูบไล้เรือนร่างของตัวเอง นิ้วแกร่งสะกิดติ่งไตที่กำลังชูชันขึ้นมา ก่อนจะเคล้นคลึงจนมันเป็นสีแดง





“อื้อออ อ้า” ผมแอ่นตัวให้เขาสัมผัสได้มากขึ้น พี่หมอยกยิ้ม ก่อนจะครอบครองมันไว้ด้วยปากและเรียวลิ้น ความต้องการปะทุขึ้นในร่างกาย จนผลักดันให้ผมขึ้นไปนั่งทับสะโพกของเขา ก่อนจะเริ่มปรนเปรอส่วนนั้นของพี่หมอ พี่หมอครางต่ำในลำคอ ก่อนจะลูบไล้ บีบเฟ้นสะโพกของผม การแสดงออกของเขาเหมือนเป็นรางวัลสำหรับการกระทำของผม ยิ่งเขาแสดงออกมากเท่าไร ผมก็ยิ่งเป็นนักเรียนนิสัยเสียที่ต้องการรางวัลมากขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น ผมรูดมือขึ้นลงเร็วขึ้น จนมันเริ่มแข็งขืน ช่องทางด้านหลังเต้นตุบๆบีบรัดมากจนเริ่มเจ็บ




แรงปรารถนาในกายร่ำร้องอย่างบ้าคลั่ง ยากเกินกว่าที่ผมจะต้านทาน มือของผมรูดส่วนนั้นสองสามครั้ง ก่อนจะค่อยๆจับมันจ่อที่ช่องทางด้านหลังของตัวเอง กล้ามเนื้อของผมตอดรัดส่วนปลายเร็วๆ ความร้อนจากพี่หมอแผ่ซ่านเข้ามาในตัวจนเสียวซ่านไปหมด



“อ๊ะ อ๊า พี่หมอ”พี่หมอเลียริมฝีปากของผมก่อนจะจูบริมฝีปากหนักๆ ช่องทางด้านหลังค่อยๆกลืนส่วนนั้นเข้ามาเรื่อยๆ ข้างในคับแน่นไปหมด จุกมาถึงท้องน้อย ช่องทางขยายออกจนแทบฉีกขาด ผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด


“ไหวมั้ย” พี่หมอถามพร้อมกับลูบไล้หน้าขาของผม ผมพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะเม้มปากแน่น แล้วค่อยๆขยับขึ้นลง ฉับพลันนั้นความเจ็บแปลบก็แล่นไปทั่วร่าง จนผมเผลอบีบแขนของพี่หมอ ผิวหนังที่มีรอยสัก แดงเป็นริ้วเพราะถูกเล็บขูด


“เจ็บก็จิกลงมา” พี่หมอกระซิบข้างหูด้วยเสียงแหบพร่า เพราะกำลังทรมานกับแรงบีบรัดที่ช่องทางด้านหลัง ผมจะให้เขาผิดหวังไม่ได้...



ผมค่อยๆขยับขึ้นลงเร็วขึ้นที่ละนิด เริ่มจากจังหวะเนิบนาบ ก่อนจะค่อยๆเร็วขึ้น เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังไปทั่วห้องความเจ็บปวดเปลี่ยนมาเป็นความสุขตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ เล็บที่เคยขูดเนื้อเขาจนแดง กลับกำลังลูบไล้ไปตามรอยสักนั้น ถึงรอยสักนี่จะไม่เข้ากับภาพลักษณ์ของหมอ แต่มันกลับทำให้เขาดูเท่ห์ขึ้นอย่างน่าประหลาด เหมือนกับความดิบเถื่อนที่อยู่ในกฎระเบียบ...




“ชาน อื้มมม” ผมขยับเร็วขึ้นเมื่อเขากำลังมีความสุข พี่หมอกระแทกส่วนนั้นสวนเข้ามาจนผมหลุดเสียงครางออกมา


“อ๊า อ๊ะ อ้า พี่ หมอ”


“เรียกคริสสิ” ปากหนาพรมจูบคางของผมไล่ต่ำลงมาถึงคอ



“คริส อ๊า อ้ะ คริส”ผมทำตามอย่างว่าง่าย รู้สึกไม่อยากขัดใจผู้ชายคนนี้ อยากเป็นเด็กดีให้เขารัก...


“อืมมม เด็กดี” ผมยิ้ม มองตาคมที่สบกัน ก่อนจะโอบรอบคอของเขา แล้วโน้มหน้าไปเลียปลายคางของเขาเหมือนกับลูกแมวที่กำลังอยากอ้อนเจ้าของ พี่หมอหัวเราะในลำคอ ก่อนจะใช้ฟันคมขบเม้มซอกคอของผม



สัมผัสของเขาทำให้ผมรู้สึกดี ดีมากจนผมต้องขยับสะโพกขึ้นลงเร็วขึ้นเพื่อเอาใจเขา ช่องทางด้านหลังตอดรัดส่วนนั้นอย่างบ้าคลั่ง ผมค่อยๆวาดขา แล้วหันตัว โดยหันหลังให้เขาเห็นช่องทางที่กำลังบีบรัดส่วนนั้น พี่หมอเอนตัวขึ้นมากระซิบข้างหู




“เอาใจหรอ เด็กดี” ผมจูบปลายคางของเขา พร้อมกับแลบลิ้นเลียเบาๆเป็นคำตอบ พี่หมอยิ้ม ก่อนจะลูบไล้เอวของผมเรื่อยต่ำมาจนถึงท้องน้อย จากนั้นเราสองคนหลอมรวมกันเป็นคนเดียวกัน ด้วยจังหวะที่เริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ หากแต่แฝงไปด้วยความอ่อนหวานอยู่อย่างนั้น น่าแปลกที่สองสิ่งที่ขัดกัน กลับมาลงตัวเมื่อมาอยู่กับเราสองคน....



“อื้มมมม เด็กดี อีกนิด”เสียงทุ้มกระซิบอยู่ข้างหู ดวงตาคมที่ทรงพลังกำลังจับจ้องมาที่ผมด้วยแววตาที่น่าหลงใหล คำชมของเขาเหมือนเชื้อเพลิงที่ใช้ขับเคลื่อนแรงปรารถนาของผม ผมขยับขึ้นลง โดยทิ้งตัวหนักๆให้ส่วนนั้นเข้ามาในตัวได้มากขึ้น ช่องทางด้านหลังบีบรัดส่วนนั้นถี่ๆตามแรงอารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่ข้างใน ผมเชิดหน้าขึ้น เผยอปากออก พี่หมอโน้มหน้ามาเลียริมฝีปากของผม เรียวลิ้นสีแดงกำลังทำให้ผมหลงใหล และมัวเมา ผมแลบลิ้นออกมาหยอกล้อกับลิ้นของเขาเล่น ในขณะที่ความต้องการภายในก็กำลังถูกระบายออกมาเป็นน้ำที่กำลังปริ่มอยู่ที่ส่วนปลายตรงส่วนกลางของลำตัว



“อื้อออ คริส อ้ะ อ๊า” ผมขยับสะโพกเร็วขึ้น เมื่อใกล้จะถึงฝั่งฝัน


“อืมมม ชาน ใกล้ แล้ว” ผมลากมือพี่หมอไปตามร่างกายตัวเอง พร้อมกับยกสะโพกขึ้น จนส่วนนั้นเกือบหลุด แล้วทิ้งสะโพกลงมาหนักๆ จังหวะเดียวกับที่พี่หมอสวนสะโพกเข้ามาพอดี ของเหลวบางอย่างอุ่นวาบในช่องทางด้านหลังจนร้อนขึ้นมาถึงท้องน้อย ในขณะที่หน้าท้องของพี่หมอก็เลอะคราบของความสุขครั้งนี้ ผมรีบใช้มือปาดมันออก ก่อนจะยันร่างตัวเองไม่ให้ล้มไปกองกับเตียง




พี่หมอยิ้มพร้อมกับมองส่วนที่เชื่อมต่อเราสองคนเอาไว้ มือหนาลูบไล้ก้นของผม ก่อนจะโน้มหน้าลงมากระซิบข้างหู



“ชานของพี่หมอโตขึ้นจริงๆสินะ”


“ผมโตอยู่...........”



“ชู่ว์ อย่าเพิ่งพูด เดี๋ยวจะเหนื่อยหนักกว่าเดิม” พี่หมอทาบนิ้วบนริมฝีปากของผม ก่อนจะหยิบทิชชู่มาเช็ดคราบที่มือออกให้ แล้วดึงผมให้นอนบนร่างของเขา ผมซบหน้ากับอกพี่หมออย่างเหนื่อยอ่อน ดวงตาปรือปรอยใกล้จะหลับเต็มที ก่อนจะเหลือบตาขึ้นมองเมื่อรับรู้ได้ถึงสัมผัสบนหน้าผาก พี่หมอกำลังจูบผม พร้อมกับเกลี่ยผมที่ปรกหน้าออกให้



“หมดฤทธิ์ซะแล้วลูกแมวตัวยุ่ง” ผมค้อนอย่างไม่จริงจัง ก่อนจะค่อยๆคลานขึ้นไปจูบปลายคางของเขา พี่หมอยิ้มให้ ก่อนจะจูบปากเบาๆ



“นอนซะครับ ตัวแสบ”รอยยิ้มละมุนถูกส่งมาให้ ก่อนที่ผมจะผล็อยหลับไป…..







-------------------------------------------






เช้าวันต่อมาผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตรู่ ถึงวันนี้จะเป็นวันหยุด และต่อให้เมื่อคืนจะนอนดึกแค่ไหน ผมก็ยังตื่นเช้าอยู่ดี คงเพราะกลายเป็นนิสัยไปแล้วล่ะมั้ง สิ่งแรกที่ทักทายผมยามเช้า คือร่างของเจ้าตัวแสบที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนตัวผม ใบหน้ามีความสุขยามหลับของเขาเล่นเอาผมไม่กล้าลุกขึ้น ผมค่อยๆอุ้มเขาให้นอนบนที่ว่างข้างๆอย่างเบามือที่สุด ก่อนจะยันตัวลุกขึ้น แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ตัวผมเต็มไปด้วยรอยแดงจากเจ้าตัวแสบ ถึงจะเยอะจนคนเห็นได้ง่ายๆ แต่ผมกลับรู้สึกดีมากกว่าจะโกรธแฮ่ะ




ผมค่อยๆเปิดฝักบัวอาบน้ำ ไม่นานนักก็เสร็จ เจ้าตัวแสบยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง ผมแต่งตัวด้วยเสียงที่เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมกับมองชานยอลเป็นระยะๆ เจ้าตัวแสบขยับตัวสองสามที พร้อมกับถูไถหน้ากับเตียงนอน ก่อนจะชะงัก ดวงตาวูบไหว ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น กระพริบตามองเตียงปริบๆ ใบหน้ายับยู่ยี่เหมือนกำลังสงสัยอะไรอยู่



“พี่หมออยู่นี่”ชานยอลเงยหน้า ก่อนจะเบนหน้าไปทางอื่น ผมคงจะคิดว่าเขาโกรธแล้ว ถ้าไม่ติดว่าไอ้แก้มสองข้างนั่นกำลังแดงเถือกอยู่น่ะนะ


“ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำเร็ว เดี๋ยวไปส่งบ้าน” ชานยอลพันตัวเองกับผ้าห่ม ก่อนจะตั้งท่าลุก ทันทีที่ขยับก็แทบจะทรุดลง ดีที่ผมพยุงไว้อยู่


“อาบให้มา อย่าเถียง รู้ว่าเจ็บสะโพก”ผมรีบพูดดักเมื่อเจ้าตัวแสบอ้าปากจะเถียง ตลอดเวลาที่อาบให้ ชานยอลก็ไม่ยอมพูดอะไรสักคำ แต่ใบหน้าและหูกางๆนั่นกลับแดงแจ๋ คงเขินเรื่องเมื่อคืนล่ะมั้ง
ตัวเองเริ่มก่อนแท้ๆ....



“เขินทำไม ตัวเองเริ่มก่อนนะ”ผมแกล้งถาม ขณะที่กำลังดูเจ้าตัวแสบใส่เสื้อผ้าอยู่


“ผีเข้า ผมไม่ได้ทำ มั่ว”


“ผีตัวไหนล่ะ จะอัญเชิญมาเข้าบ่อยๆ”


“ลามก!!!”


“ไม่เท่าชานหรอก แล้วนี่รู้รึยังว่าดัมโบ้คืออะไร คงรู้แล้วมั้ง เจอกันทั้งคืนละ” ชานยอลทำหน้าคิดก่อนจะเหลือบมามองหน้าผม จากนั้นใบหน้าของเขาก็ค่อยๆแดงขึ้น ทีละนิด ทีละนิด ทีละนิด ก่อน
จะรีบหันหน้าหนีผม



“ไม่อยากรู้แล้ว!!!”


“ไม่ทันแล้วมั้งงง สนิทกันไปแล้วพี่หมอว่า” ผมแกล้ง ชานยอลหันมาถลึงตาใส่ ก่อนจะกระเด้งตัวเดินไปที่หน้าประตู เพิ่งรู้ว่าความเขินทำให้คนลืมเจ็บ


“จะกลับบ้าน”


“รีบจังนะครับ พี่หมอน้อยใจนะเนี่ย ตื่นมาปุ๊บ ก็ร้องกลับบ้าน เมื่อคืนไม่เห็นจะร้องอยากกลับบ้านเลย”ชานยอลตีหน้ายุ่งก่อนจะแกล้งโมโหกลบเกลื่อน


“กลับบ้าน!!”


“ครับบบบๆ รู้แล้วครับ คุณลูกแมวตัวยุ่ง” ผมพยักหน้ายอม ก่อนจะเดินไปลาก เน้นครับว่าลาก เพราะชานยอลรั้นจะเดินเองท่าเดียว แล้วดูสภาพตอนนี้สิ แค่ขยับยังยาก ประสาอะไรกับเดิน สุดท้ายผมก็เลยต้องพยุงเขามาตลอดทางนี่ละ




ผมขับรถมาส่งชานยอลที่บ้าน เจ้าตัวแสบไม่พูดอะไรสักคำ แต่คอยแอบมองผมเป็นระยะๆ พอสบตาผมก็รีบหันไปมองนอกหน้าต่าง แต่สักพักหนึ่งก็กลับมาแอบมองผมใหม่ โตมาแล้วก็เขินน่ารักดีนะ มีจริตจะก้าน (นี่ผู้ชายหรือผู้หญิงวะน่ะ) ผมขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านของชานยอล เจ้าตัวแสบลงมาจากรถดังท่าทางที่................อืม ผมเข้าใจ คนมันเจ็บ




“ขอบคุณ”


“ไม่เป็นไรครับ ทำให้แฟน” ผมแกล้งแหย่ ชานยอลค้อนกลับ ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น


“มั่วละ ใครแฟนใคร”


“จะบอกว่าไม่ใช่แฟน? โห แล้วเมื่อคืนนี่......”


“เงียบไปเลย!”


“จะบอกว่าเป็นมากกว่าแฟน?”


“ไอ้ ไอ้ ไอ้ ฮึ่ย! ไม่คุยด้วยแล่ว!” ชานยอลว่าก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าบ้าน แต่ด้วยความที่ยังเจ็บอยู่เลยทำให้เดินไม่สะดวกเท่าไร


“มานี่มา เดี๋ยวเดินไปส่ง อย่าดื้อ” ผมรีบพูดดัก เมื่อเจ้าตัวแสบตั้งท่าจะดิ้นออกท่าเดียว ตลอดทางที่พยุงมาชานยอลก็เอาแต่เบ้ปาก มองค้อน แต่เจ้าหูแดงๆนั่นดูขัดกับท่าทางโกรธของเขานะ...


“ส่งตรงนี้ล่ะ” ชานยอลบอกเมื่อเราเดินเข้ามาในบ้านแล้ว


“ชานยอล ลูก!” แม่ของชานยอลที่เพิ่งลงมาจากบันไดร้องทัก ก่อนจะหันมาคุยกับผม


“ชานยอลคงไม่ได้ไปซน หรือกวนอะไรคุณหมอนะคะ ฉันล่ะกลัวเจ้าตัวยุ่งนี่ไปกวนคุณจริงๆ”


“ไม่เป็นไรครับ กวนนิดกวนหน่อย ผมไม่ว่าอะไร”ผมว่าพร้อมกับเหลือบตามองเจ้าตัวแสบที่หน้าแดงแจ๋ไปไหนถึงไหนแล้ว


“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ จะอยู่ทานมื้อเช้าด้วยกันมั้ยคะ”


“อ้อ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมต้องแวะไปทำธุระที่บ้านนิดหน่อย ยังไงก็ขอบคุณนะครับ คุณแม่” เจ้าตัวแสบหันมาถลึงตาใส่ ผมลอบหน้าลอยตา ก่อนจะโค้งศีรษะลาแล้วเดินออกมา



หญิงวัยกลางคนมองส่งนายแพทย์หนุ่มที่เดินไปขึ้นรถ แล้วขับออกไป ใบหน้าของเธอปรากฏรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิ



“หน้าตาก็ดี มารยาทก็งาม ฐานะก็รวย อาชีพก็มั่นคง ใครได้เป็นลูกเขยคงดีเนอะ ชานยอล”


“งั้นๆล่ะครับแม่”


“นี่เขาสเป็คลูกตอนสิบสองเลยนะ ว่าแต่ เมื่อคืนทำไมถึงไปค้างกับเขา แล้วไปทำอะไรให้พี่หมอเขาหนักใจรึเปล่า”


“เปล่านะ ผมออกจะเป็นเด็กดี” ชานยอลพูด ใบหน้าแดงระเรื่อเมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน


“แล้วนี่ลูกจำเขาได้บ้างมั้ย” ชานยอลที่กำลังดื่มน้ำอยู่ ชะงัก ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้กับผู้เป็นแม่


“จำได้แล้วหรอลูก!!! เมื่อไร!!!”


“เมื่อ.............โหย ม๊า จำได้แล้วก็พอน่า ผมไปนอนดีกว่า ง่วง เหนื่อยมากกกกกกกกก” ชานยอลพูดรัว ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นห้องตัวเองไป ร่างโปร่งกระโดดขึ้นเตียง ก่อนจะดึงตุ๊กตากบตัวโปรดเข้ามากอด แล้วซบหน้ากับพุงของมัน พลางนึกถึงสิ่งที่ทำให้เขาจำได้.....


“น่าอายชะมัด มาจำได้เพราะว่า................................”ใบหน้าแดงระเรื่อ แก้มร้อนผ่าวจนแทบจะแตก ก่อนจะพูดต่อประโยค









“เพราะไป................เดินป่ากับเขา”









Writer Talk :

ขอบคุณที่ติดตามกันมานานขนาดนี้นะทุกคน ขอบคุณมากจริงๆ

ฟิคเรื่องนี้ จะมีรวมเล่มนะ ติดตามรายละเอียดอีกทีประมาณวันที่ 15/05 นี้





http://0ctogus.forumth.com

Sky_fff

Sky_fff

ชานชานหนูโตแล้วจริงๆ อ๊ากกก เริ่มก่อนด้วย>///<

สรุปแล้วชานจำได้จริงๆทั้งหมดแล้วใช่มั้ย(?)

แต่มาจำได้เพราะไปเดินป่าเนี่ยนะ 55555

NikyNook

NikyNook

โห~พี่หมอหนูขอยืมตัวมาเป็นแฟนวันหนึ่งไม่มั๊ยเนี่ย(โดนยอลกระทืบ)
พี่โคตรรักชานเลยอะ...อยากให้เขาจำได้แต่ถ้าต้องแลกกับความทรมานยอมที่จะให้เขาลืม ว้าวววว
ชานยอลนางก็ฮานะ...ดูเซอร์ไพรส์และปลาบปลื้มที่ได้พี่หมอเป็นแฟนฮ่าๆ
แว้กกกกกๆๆๆๆ ></// เข้าถ้ำอีกครั้ง...คราวนี้ไม่ธรรมดาซะด้วยคึคึ ~ ปริศนาของดัมโบ้ได้ถูกเฉลยหุหุ~
อยากมีแฟนแบบพี่หมออออ (ออกแนวเพ้อค่ะ) พี่คริสดูแลชานดีมาก...ขนาดนางยังอิจฉาตัวเองเลยฮ่าๆ
ชานจำทั้งหมดได้ก็ตอนเข้าถ้ำพอดีซินะ =.,= นี่เป็นเรื่องยืนยันว่าการเข้าถ้ำสามารถเรียกความทรงจำคืนมาได้(วงการแพทย์ต้องตะลึง #ไม่ใช่ละ)
รอรวมเล่มค่ะ ><Y

YRAUNAJ_YEOL

YRAUNAJ_YEOL

ยอล! เดี๋ยวนี้กลายเป็นฝ่ายรุกแล้วเหรอ? เฮียคงชอบน่าดู 55555555

พลาดจาก Bloody Night เพราะเข้ามาอ่านช้าไป แต่เรื่องนี้ไม่พลาดแน่นอน
เตรียมตังรอแล้ว แต่ก็อยากได้ Bloody Night อยู่นะ เปิดจองอีกเมื่อไรบอกด้วยนะค่ะ
จะรีบจองเป็นคนแรกเลย ><

:D

:D

โอ้ยยยยยยยย น้องชานชาน... หนูหื่นขนาดนี้แต่เมื่อไหร่คะลูก 5555555555555555555555555555555555555555555555
เริ่มก่อนอีกด้วยนะ... -......- เดี๋ยวนี้เคะออนท็อปล่ะซี้ อิอิ
ใครจะไปรู้ว่าจะจำเรื่องทั้งหมดได้เพราะไปเดินป่า... โอ้ย..ลูกอิชั้น 55555555555 พี่หมอคะ พี่หมอเลี้ยงเด็ก(?)แบบนี้ได้ยังไง
แหมมมมมมมมมมม -.,- น้องชานขาา ซึนมาตั้งนาน...สุดท้ายก็ทนไม่ได้นะคะลูก
ประโยคนี้หนูถูกใจแม่มากที่หนูบอกว่าหมออะไรโคตรเท่เลย 5555555555 นี่แหละสเปคหนู..จำไว้นะลูกนะ

akanishibluecat

akanishibluecat

โอ้แม่เจ้า ชานชานจัดเต็มเลยงานเนี้ย เริ่มก่อนด้วยย เขินแทนอะ เลิสจิงๆ

ดีใจกะพี่หมอด้วยนะ ชานชาน จำได้แล้ว เพราะไปเดินป่า กะพี่หมอ 55555 พร้อมกะ รู้ซะทีว่าดัมโบ้ คืออะไร

น่ารักจิงๆๆ คู่นี้ พี่หมอได้เมียกลับมาแล้ว อิอิ

ปล..... ดัมโบ้ตื่นยัง เปนคำถามที่เยี่ยมมากชานชาน

watershadow



น้องยอล โตแล้วววววววววววววววว !!!! เริ่มพาพี่หมอเดินป่าก่อนด้วย >///////////////<

เวลาน้องยอลเขินน่ารัก น่าฟัดอ่ะ น้องยอลสติที่หายไปเริ่มกลับมาทีนะนิดแล้ว

ดีใจกับพี่หมอจริงๆ ที่สติน้องยอลเริ่มกลับมาแล้ว พี่หมอจะได้มีความสุข

ป.ล.ไรเตอร์เปิดสั่งจองเรื่องนี้เมื่อไหร่อย่าลืมแจ้งล่วงหน้านะค่ะ จะได้เก็บตังค์หยอดกระปุกได้ทัน อิอิ

theparan

theparan

ชา่นยอลโตแล้วมีจริตจะกร้านขึ้นเยอะนะ
ชวนพี่หมอเดินป่าก่อนอีก อิอิ
เด็กดีของพี่หมอ อิอิ tongue
อยากจะระเบิดตัวตาย แต่กลัวไม่ได้ฟินคริสยอล

ChanChan_K



วร๊ายยยยยย!! ชานๆหนูเริ่มก่อนเลยเหรอลูก =[]=
คุมเกมซะด้วย...โอ้ยยยยย!!!
ตอนนี้ลูกชานๆของคุณแม่โตขึ้นเยอะเเล้วสินะ 5555
ว่าแต่ชานๆ เก็บสมุนไพรได้เยอะมั้ยลูกกก =..=\\
แล้วดัมโบ้ล่ะ?? ได้ข่าวว่าสนิทกัน??
เเล้วตอนนี้ดัมโบ้เป็นไงบ้านล่ะ?? -3-//

wanirpc

wanirpc

คิดถึงชานครับมากๆเลย...ก็เลยต้องย่องเข้ามาอ่านในนี้ต่อแม้จะอ่านจากบ้าน11มาแล้วก็ตาม
เพราะชานครับโตแล้วและเป็นเด็กดีสุดๆๆเลย...น้องชานโต้โตตตตตตตแล้วจริงๆๆเพราะน้องชานรุกก่อน55555
ออมม่าพูดอะไรออกไปออมม่ามาตอกย้ำความทรงจำให้กับน้องชานครับอีกครั้งกลัวน้องชานจะจำ
พี่หมอไม่สนิท...แต่ออมม่าว่าน้องชานต้องจำพี่หมอได้แม่นยำแน่นอนหลังจากชวนพี่หมอเดินป่าซ้าาาาาเอง555
เก่งครับชานเก่งมากสมกับเป็นชานเท็นจริงๆๆน๊าาาาาา....ออมม่าล้อออห้ามเขิลลลลตัวแตกรู้ป่าวววววววว
มีการเอาใจพี่หมอซ๊าาาด้วยยไม่ใช่ย่อยน่ะเราเด็กแสบเด็กซนเล่นเอาจนลอยมังกรผยองของพี่หมอเป็น
รอยเล็บเด็กน้อยซะงั้นหล่ะะะะ5555โอ้ยยยยยยไม่ไหวและชานชาน...เมื่อไหร่จะกลับมาเดินป่าอีกหล่ะค่ะ


ปล.คิดถึงชานเท็น คิดถึงพี่หมอมากแน่ๆๆเลยคิดถึงไรท์เตอร์ด้วยน๊าาาาาาาา

https://www.facebook.com/profile.php?id=100001127107507

bezyenjoy



อร๊ายยย อยากตีลังกาล้านๆรอบ
ชานยอลน่ารักอ่ะ ลูกแมวจอมซน สนิทกันแล้วใช่มัีย
งานนี้ดัมโบ้ กลายเป็นแมมมอธ ซะแล้ว ><

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ