ลงโทษ ลงโทษ ลงโทษ!!! ได้เวลาลงโทษไอ้ผู้ชายใจร้ายแล้ว!!! ม๊าบอกว่าคนทำผิดต้องได้รับการลงโทษ เราต้องลงโทษพี่หมอ พี่หมอทำผิด แล้วพี่หมอจะได้ไม่ไปทำอย่างนี้กับใครอีก!!!
เราลากพี่หมอ ความจริงก็ไม่ได้ลากหรอ พี่หมอเดินตามมาง่ายๆเลย ทำไมคนจะโดนลงโทษไม่กลัวเลยล่ะ ไม่เห็นเหมือนในการ์ตูนเลย ไม่หนุกเลย แต่ไม่เป็นไรๆ นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น!!!
จากนี้ต่างหากคือของจริงงง!!! ประโยคนี้นี่เราจำมาจากในเบ็นเท็นเลยนะ เหมือนเป๊ะๆ รับรองๆ
พอถึงห้อง เราก็ผลักพี่หมอเข้าไปในห้องทันที พี่หมอแค่เซๆนิดหน่อย แต่ก็กลับมายืนตรงเหมือนเดิม ส่วนเรา......ยืนหอบแฮ่กๆ ก็ว่าผลักแรงแล้วนะ ไหงไม่เหมือนในการ์ตูนที่ตัวร้ายล้มไปกองกับพื้น แล้วตัวดีก็ยื่นหัวเราะอย่างคนชนะ ไม่แฟร์เลย ไม่แฟร์ ทำไมไม่ล้มอะ
“ทำไมพี่หมอไม่ล้มอะ” เราขมวดคิ้วถาม ไม่เข้าใจจริงๆนะ ทำไมไม่ล้ม
“ก็แรงมีแค่นี้ จะให้ล้มได้ไงเล่าครับ ชานยอล”
“พี่หมอต้องล้ม ต้องล้ม!!! แบบในการ์ตูนไง ตัวร้ายล้มกับพื้น แอ่ก อะ”
“ห๊ะ การ์ตูน อ่าๆ ครับๆ ก็ได้ ล้มกับพื้นๆ โอเค ล้มละนะครับ”พี่หมอทำท่าจะล้ม แต่เอ๊ะ โลเคชั่นมันไม่ใช่อะ มันไม่ใช่ ไอ้ที่เขาลงโทษกัน มันต้องล้มที่อื่นนี่นา ไม่ใช่พื้น ขอคิดก่อนตรง
ไหนนะ ตรง ตรง .......อ้อ ตรงเตียง!!
“ไม่ ม่ายยยยยยย ล้มที่เตียงสิ ที่เตียง ผมจะลงโทษพี่หมออยู่นะ! ไม่รู้เรื่องเลย!!!!”เราชี้นิ้วไปที่เตียง พี่หมอหัวเราะแต่ก็เดินไปนอนบนเตียง เสร็จแล้วไงต่อ เราไม่รู้ เบ็นเท็นจะรู้มั้ยนะ คงไม่
เพราะในเบ็นเท็นไม่มีฉากนี้เลย แล้วทีนี้เราทำไงต่อล่ะ นึกก่อน
“จะลงโทษพี่หมอยังครับชาน”
“เดี๋ยวสิ!!! นึกอยู่!!! จะตายแล้วยังเร่งอีก อยากตายไวหรอ!!!!”
“ถ้าตายด้วยวิธีนั้น ตายทั้งชาติยังไหว” คนผู้ชายพูดเสียงเบา แต่เราได้ยินนะ!!! หึ !! ว่าไงนะ จะตายทั้งชาติหรอ ได้เลยๆ เดี๋ยวเราจะลงโทษแบบนี้ทั้งชาติเลย คอยดู!!! ไม่รอดแน่!!!
“ได้เลยยยย!!! จะเริ่มลงโทษละนะ!! ขั้นแรก!!ในหนังทำ.....เขาผลักลงเตียง แล้วก็ เดี๋ยว เพื่อความไม่ประมาท เราต้องเขียนแล้วทำตามขั้นตอนด้วย!!!” ใช่ๆ เรานี่รอบคอบจริงๆ
เราเดินไปหยิบกระดาษ พร้อมปากกามานั่งเขียนขั้นตอนการลงโทษ
“ทำไรครับชาน ฮ่าๆ ถึงขั้นลิสเลยหรอ” คนผู้ชายยันตัวขึ้นมามองผม ยังจะมาขำๆ จะตายแล้วยังไม่รู้ตัว!!
“นอนไปเลย!!! โอเค ขั้นแรก......ผลักลงเตียงเราก็ทำเรียบร้อยแล้ว”เราพูดพร้อมกับขีดฆ่าขั้นตอนที่หนึ่งในกระดาษ
“ ต่อไปขั้นสองถอดเสื้อผ้า พี่หมอ ถอดเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง อั่ง อั่ง!!!”
“หา!! ถะ ถอดเลยหรอครับ”
“ใช่!!! ถอดเลย ในหนังเขาทำกัน ถอดสิ เร็ว เดี๋ยวให้พี่ฮิวมังกาซอร์โดดทับเลยนะ!!!”
“ชานยอลแน่ใจนะครับว่าจะให้พี่หมอถอด”
“ยิ่งกว่าแน่ใจอีก!!!”
“แล้วจะไม่เปลี่ยนใจทีหลังนะ?” พี่หมอหรี่ตามองผม ไม ตาพิการรึไงถึงมองแบบนั้นน่ะ
“ไม่!!! เร็วสิ ใกล้จะง่วงแล้วนะ เดี๋ยวลงโทษไม่ทัน”
“แล้วชานล่ะครับ”
“อ่า ต้องถอดด้วยหรอ อ๊า เกือบลืม ใช่ๆ ต้องถอด หนึ่ง สอง ซั่ม ถอดได้!!!” แล้วเราก็หันหลัง ถอดเสื้อผ้าด้วยท่าทางจริงจัง ม๊าสอนว่าคนเราต้องทำอะไรจริงจัง ไม่ใช่ทำเล่นๆ เราเป็นเด็กดี เราเชื่อฟัง ทำตามทุกอย่างเลย! พอเราถอดเสร็จเราก็ค่อยๆหันกลับมามองพี่หมอ........
ไม่ถอดเกงลิงสักที!!!
“ทำไมไม่ถอด ชักช้า!!!”
“เอาจริงหรอชาน ดูตูนมั้ย”
“ไม่ดู เอาจริง จริงจังนะ จริงจัง ผมถอดให้ก็ได้!!!” เราวิ่งขึ้นไปกระโดดทับคนผู้ชายใจร้าย เตรียมจะดึงเกงลิงออก แต่พี่หมอโวยวายซะก่อน เสียง.......ไม่เพราะเลย
“เฮ้ยยยย ชาน จะทำอะไร นี่เอาจริงหรอ พี่หมอว่าไม่ดีกว่ามั้ง”
“ดูปากผมนะ!!! โน-เวย์”
“แต่ชานยัง.....ห๊ะ เฮ้ยยยยยย!!!!”
“หู้ยยยยยยยยยยยยยยยย ดัมโบ้!!!!” ดัมโบ้ชูง่วงตรงหน้าผม โหยยยยยย น่ารักจังเลยยย
“ชาน”
“ดัมโบ้ๆๆๆๆ พี่หมอมีดัมโบ้ น่ารักจังเลยยย ขอเล่นหน่อย” ดัมโบ้ ดัมโบ้ๆ เราเอามือจั๊กจี้ดัมโบ้ ฮิ ช้างน้อยดัมโบ้ น่ารักจังเลย ตัวนิ่มๆ ฮิ
“ชาน ชานครับ.....”
“หื้อ ดัมโบ้ ดัมโบ้ ดัมโบ้มีง่วงงงงงง นี่พี่หมอเห็นมั้ย” เราชูพร้อมกับโบกไปโบกมาให้พี่หมอดู แต่ทำไมดัมโบ้เริ่มไม่นิ่มแล้วล่ะ
“ชาน อย่าเล่นสิ”
“จะเล่น!!! แต่ว่าทำไมไม่เหมือนกับของผมล่ะ คนใจร้าย ทำไมไม่เหมือน”
“ไม่เหมือนอะไรครับ แล้วนั่น หยุดเล่นสักที มันเอ่อ.....” พี่หมอยกมือห้าม หึ! ไม่สนใจหรอก เรานั่งเล่น ทำปูไต่ให้ดัมโบ้ต่อ น่ารักจังเลยยย ฮิ อยากได้บ้างจัง แต่ดูเหมือนเราจะเล่นกับดัมโบ้นานไปหน่อยจนพี่หมอเริ่มทนไม่ไหว พูดออกมา
“เลิก เลิกสนมันสักที แล้วอะไรไม่เหมือน ก็เหมือน”
“ไม่!!! ดัมโบ้พี่หมออะ ตัวโต๊โต โตตตตตตตต โตกว่าผมอีก แถมน่ารักกว่าด้วย” เราเขยิบขึ้นไปนั่งใกล้ๆ หน้าคนใจร้าย จะได้เห็นช้างน้อยเราชัดๆ ว่ามันอะ ต่างกันจริงๆ เราไม่ได้โกหก แต่คน
ใจร้ายผงะออก สงสัยไม่ชอบ ฮิ!!! งั้นก็เข้าทางเราสิ เราหาทางแกล้งได้แล้ว!!! เราเขยิบเข้าไปใกล้ๆอีก ฮิ! เสร็จแน่!!!
“ชะ ชาน!! หยุด!!!”คนใจร้ายจับสะโพกผมไว้แน่น กลัวล่ะสิ!!!
“กลัวหรอ ฮ่าๆ เสร็จแน่!!! นี่ๆ คนใจร้าย ของผมมันยังไม่โตหรอ ผมต้องให้กินกล้วยเพิ่มหรอ จะได้โต๊โตเท่าของคนใจร้าย”
“ฮ่าๆ กินกล้วยเนี่ยนะครับ กล้วย!!!! คิดได้ไง ใครสอนเนี่ย ฮ่าๆ” คนใจร้ายนอนหัวเราะเป็นบ้าอยู่ใต้ตัวผม ขำอยู่นั้นล่ะ น่าขำตรงไหน ก็เขาบอกว่าช้างกินกล้วยๆ ช้างน้อยเรามันก็ต้องกินกล้วยสิ
จะให้มันกินลำข้าวเป็นหมูรึไง คนใจร้าย ช่างไม่รู้เรื่องอะไรเลย!!!! โง่เง่าเต่าตุ่นมากๆ!!!
“ช้างกินกล้วย ช้างน้อยผมก็ต้องกินกล้วย หรือช้างน้อยพี่หมอกินอย่างอื่น”
“ฮ่าๆ ช้างกินกล้วย โอเคๆ แล้วนี่ชานยอลอยากให้มันโตๆขึ้นหรอ”
“อื้อ!!! ในหนังไง เวลาลงโทษจะได้เจ็บมากๆ” เรากอดอก ตอบหน้าจริงจัง ก่อนจะพลิกตัว แล้วนอนบนตัวพี่หมอ หน้าเราอยู่ตรงดัมโบ้พอดีเลยยยย เย้ เย้ ดัมโบ้น้อยน่ารัก เราเอานิ้วไปสะกิดดัมโบ้น้อย ไม่ๆ ดัมโบ้ยักษ์เล่น หวัดดี ดัมโบ้ ทำยังไงถึงตัวใหญ่ ดัมโบ้ ดัมโบ้ววววววววว นี่พี่หมอให้กินไรหรอ กินกล้วยมั้ย หรืออ้อย หรือว่าอย่างอื่น ทำไมดัมโบ้ถึงได้ตัวโต๊โต แล้วก็น่ารักมากๆด้วย ย๊า อยากเล่นกับดัมโบ้ทั้งวันเลยยยย ดัมโบ้เล่นกับเรานะ เล่นนะๆ ฮิ ดัมโบ้น่ารักกว่าเจ้าของดัมโบ้อีก เจ้าของดัมโบ้อะ น่าเบื่อ!!! น่าเบื่อมาก!!!
ตอนนี้ผมกำลังนอนมองก้นเด็กแสบอยู่ แค่เห็นก้น แล้วก็เห็นอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะ ก็ว่าหนักแล้ว นี่เจ้าตัวแสบยังกำลังเล่นกับตรงนั้นผมอยู่อีก บอกให้หยุดก็ไม่ยอมหยุด เกิดมันตื่นขึ้นมาจะว่ายังไง พระเจ้าเถอะ ผมไม่อยากเป็นหมอไร้จรรยาบรรณนะ แต่ถ้ามีมากกว่านี้พี่หมอก็ไม่รับประกันความปลอดภัยนะครับชานยอล ดูเหมือนตัวแสบจะไม่ได้ฟังคำเตือนของผมเลยสักนิด!!! เพราะตอนนี้เจ้าตัวกำลังนั่งด๊วฟๆเล่นกับตรงนั้นผมอยู่!!! ด๊วฟทีก็ส่ายก้นดุ๊กดิ๊กไปมาตรงหน้าที โอ่ย ขันติ ขันติ อดทนไว้ คริส นี่คนไข้ คนไข้ อดทนไว้ อด อด ไม่อดแล้ว!!! เล่นยั่วกันขนาดนี้ ไม่อดแล้วครับ! เป็นหมอมาหลายปีขอไร้จรรยาบรรณกับคนไข้คนนี้แค่คนเดียวแล้วกัน!
“ชานครับ” เราหันไปหาพี่หมอที่กำลังเล่นปูไต่กับก้นเราอยู่ ฮิ จั๊กจี้ แต่ว่าสนุกกก ชอบๆ
“เรียกทำไม เล่นกับดัมโบ้อยู่ ฮิ ด๊วฟฟฟฟฟๆ น่ารักจังเลยย ทำไมของผมไม่ตัวโตเท่านี้มั่ง ถ้าโตๆนะ ผมต้องชนะได้ง่ายๆแน่เลย”
“อยากชนะมั้ยล่ะครับ พี่หมอมีวิธีมาบอก แต่ว่าให้ช้างน้อยกินกล้วยตอนนี้ไม่ทันหรอกนะครับ แต่มันมีวิธีอื่น” คนใจร้ายยิ้มพร้อมกับลูบสะโพกผมไปด้วย ผมเป็นคน ไม่ใช่ต้นไม้ ไม่ต้องมาลูบขอหวย
“คนใจร้ายมีวิธีอะไร บอกมา!!!”
“เอาหูมานี่สิครับ” เราหมุนตัว โน้มหน้าลงไปใกล้ๆ แล้วพี่หมอก็ค่อยๆกระซิบวิธีนั่น เราเอ๋อไปสักพัก ว่าไงนะ.....
พี่หมอช่วยช้างน้อยของชานยอลไม่ได้
แต่พี่หมอลดช้างน้อยของพี่หมอให้ได้
กล้วยหมดหรอ เลยให้ช้างน้อยเราไมได้ แล้วลดพ่อช้างของพี่หมอได้หรอ.....แต่มันดู ไม่เห็นว่าจะช่วยให้เราชนะตรงไหน แต่ว่า.....อ่า งง แต่ช่างเถอะ พี่หมอบอกเราจะชนะ เราก็ต้องชนะ!!! ไม่มีอะไรหยุดเราได้!!!
“แล้วทำยังไง ต้องทำยังไง บอกสิๆ”
“ชานยอลช่วยพี่หมอได้ พี่หมอต้องไปตามหาเอ่อ....สมุนไพรในตัวชานยอล เพื่อลดช้างน้อยพี่หมอ แล้วพอหามาได้ ชานยอลก็จะได้ชนะพี่หมอได้ง่ายๆไง” เรานิ่งไป นั่งคิดตามคำพูดคนใจร้าย
ให้คนใจร้ายไปหาสมุนไพรลดช้างน้อยในตัวเรา พอเสร็จแล้วพี่หมอก็จะสู้เราไม่ได้ แล้วเราก็จะชนะงั้นหรอ...... น่าสนใจนะ น่าสนใจ แบบนี้เราก็ไม่ต้องเหนื่อยสิ แค่อยู่เฉยๆ ปล่อยให้คนใจร้าย
งมหาสมุนไพรในตัวเรา เสร็จเราก็นอนรอชัยชนะสบายใจเฉิบ งานนี้ไม่เสีย มีแต่ได้ดับได้ งั้นตกลง!!!!
“ตกลง!!!! รีบทำเลยนะๆ แล้วผมต้องทำไงต่อล่ะ”
“ลงไปนอนแทนพี่หมอ”
“ได้เลยยยยยย ลุกๆ ผมจะนอนละ” เราเร่งพี่หมอ ก็เห็นนั่งยิ้มอยู่คนเดียวอยู่ได้ ชักช้าจริง พอพี่หมอลุกขึ้นจากเตียง เราก็ลงไปนอนยิ้มแฉ่งรอ ส่วนพี่หมอก็ขึ้นมาคร่อมตัวเราแทน
“แล้วไงต่อๆ นอนให้พี่หมอไปตามหาสมุนไพรในตัวผมหรอ”
“ใช่ แต่เราต้องได้ของสามสิ่งเพื่อพาไปเข้าถ้ำสมุนไพร อันแรกเข็มทิศ ต่อไปเชอร์รี่สองลูก แล้วก็แวะที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิทิศ แต่ตอนนี้ต้องหาเข็มทิศก่อน เดี๋ยวพี่หมอหลงทาง”คนใจร้ายพูดยิ้มๆก่อนจะก้มหน้าลงมาจนปลายจมูกเราแตะกัน
“จะหาก็รีบหาสิ ผมจะได้รีบชนะสักที” เรารีบพูด ถ้าจ้องตานานๆเดี๋ยวเราเป็นไข้ตัวแตกอีก กลัว
“โอเคครับ จะรีบไปตามหาสมุนไพรให้เจอ” เรากำลังจะบ่น แต่พี่หมอก็จูบเราเสียก่อน อะไรอ่ะ อะไร!!! เข็มทิศอยู่ในปากหรอ เรามีเข้มทิศอยู่ในปากหรอเนี่ย!!! อยู่มาตั้ง20ปี มันไม่เคยจะนำทางเราเลย ไปไหนก็หลงตลอด
พี่หมอเริ่มปล่อยพลังอีกครั้ง ไอ้ร้อนๆชื้นๆอันเดิมเลียแผล่บๆ พร้อมกับดูดเม้มปากเราเบาๆ หึ!!! คราวนี้เราไม่พลาดแน่ เราจะไม่ยอมให้เขามาปล่อยพลังใส่เราได้หรอก เราต้องขัดขวางมั่ง เดี๋ยวการเดินทางของพี่หมอครั้งนี้มันจะง่ายไป ไม่สนุก คิดได้อย่างนั้นเราก็เลยอ้าปาก กะจะเป็นเอคโค่ปล่อยพลังคลื่นเสียงอีกรอบ แก้มือครั้งก่อนที่พี่หมอชิงปล่อยพลังใส่ก่อน แต่สุดท้ายแผนเราก็พัง เอคโค่ไม่ทำงาน พี่หมอปล่อยพลังใส่เรา เอคโค่นี่ไม่ได้เรื่องเลย!!! วันหลังไม่ใช้แล้ว!!!
พี่หมอปล่อยให้เราโมโหได้ไม่นาน เขาก็ปล่อยพลังไม่ยั้ง ไอ้ร้อนๆชื้นๆนั่นเลื้อยไปทั่วปากเราอีกแล้ว ครั้งนี้มันยิ่งกว่าครั้งก่อนอีก นี่ไปได้ขุมพลังใหม่มารึไง!!! หึ!!! อย่าคิดว่าเราจะยอม ครั้งนี้เราสู้นะ!!! เราใช้ลิ้นเราเลื้อยแข่งกับของพี่หมอ ตลอดเวลาที่สู้กันอยู่ มือไม้พี่หมอก็อยู่ไม่สุก มันลูบไล้ไปทั่วตัวเราเลย จั๊กจี้มากๆ เราอยากจะขำ แต่ก็ทำไม่ได้ มันรู้สึกแปลกๆ แบบ แบบ......เราอยากให้จับอีก นี่พลังที่แท้จริงของพี่หมอหรอเนี่ย น่ากลัวจังเลย...
ไม่ได้ๆ เราจะสนใจมือพี่หมอไม่ได้ เราต้องสนใจปาก ปาก พี่หมอด๊วฟๆเราอยู่อย่างนั้นสักพัก ครั้งนี้พี่หมอไม่ได้จะฆ่าเราเหมือนครั้งก่อน เขาถอยทัพกลับไปเร็วกว่าเดิม พี่หมอยิ้มให้เรา ก่อนจะก้มลงมาเลียปาก
“ห่ะ หา เข็มทิศเจอแล้วหรอ” เราขมวดคิ้วถาม
“ครับ เจอแล้ว เราไปเดินป่ากันต่อเถอะ”พี่หมอตอบยิ้มๆ นี่อย่ายิ้มเยอะได้มั้ย ถึงจะเงิงแต่เราก็เขินเป็นนะ!!!
“ล่ะ แล้วพี่หมอ มีแผนที่แล้วหรอ เดี๋ยวหลงนะ” พี่หมอแตะนิ้วชี้ลงบนปากเราพร้อมกับทำท่าจุ๊ปาก
“ตัวชานยอลไง แผนที่..... เราไปตามหาเชอร์รี่สองลูกกันเถอะ” พี่หมอก้มลงด๊วฟหลายๆทีที่คอเรา ฮ่าๆ มันจั๊กจี้ๆ เราดิ้นขลักๆใต้ร่างสูงใหญ่ของพี่หมอ แต่พี่หมอก็จับสะโพกล็อคเอาไว้ คนอะไรมือก็ใหญ่แถมเหนียวอีกต่างหาก พี่หมอจูบไล่ต่ำลงมาเรื่อยๆถึงอกเรา ทุกทีที่เลยผ่านมา เนื้อตัวเราเป็นรอยสีแดงๆไปหมดเลย มันคืออะไรอะ!!! พี่หมอ แพร่เชื้อโรคหรอ!!! ไม่นะ เรายังไม่อยากตาย!!!
“พี่หมอ!!! ทำไมมันเป็นรอยแดง!!! ผมจะตายมั้ย!!!” เราจับหน้าพี่หมอให้เงยขึ้นมามองหน้าเรา เรากลัว เรายังไม่อยากตายนะ
“ฮ่าๆ เด็กพูดมาก ไม่ตายหรอ ดอกเชอร์รี่กำลังบานไง ลูกมันกำลังจะออก เห็นมั้ยครับ” พี่หมอแตะลิ้นเบาๆที่ยอดอกเรา
“อื้ออออ”เราร้องทำไม เราเป็นอะไรอ่ะ!!!! เรารีบเอามือปิดปาก แต่พี่หมอก็ดึงมันออก แถวนั้นยังไม่พอ พี่หมอยังเลียมันอีกหลายๆที
“อ๊ะ อื้อออออ อ๋า” ร้องอีกแล้วอะ ร้องอีกแล้ว!!! เราไม่อยากร้อง แต่ว่า แต่.....แต่มันรู้สึกแปลกๆ เมื่อไรพี่หมอจะเก็บเชอร์รี่เสร็จสักที
เหมือนพี่หมอจะรู้ความคิดเรา พี่หมอเลียมันเร็วๆหลายๆที จนมันแดง นิ้วยาวสะกิดเบาๆจนเราร้องเสียงประหลาดๆนั่น ตอนแรกเราไม่อยากร้อง เราไม่ชอบ เรากลัว แต่พี่หมอบอกว่าร้องอีก ร้องดังๆ จะได้เก็บเชอร์รี่ได้เร็วๆ เราก็เลยร้องออกมาเลย ตอนนี้ตัวเราร้อนไปหมดแล้ว เราเป็นไข้หนักมากเลย ตัวจะแตกยิ่งกว่าครั้งก่อนๆอีก ทำไมแค่การเดินป่าแค่นี้ถึงทำเราป่วยได้แน่ แล้วเมื่อไรมันจะเสร็จสักที ตัวจะแตกอยู่แล้วนะ!!!
พี่หมอยื่นมือไปสะกิดยอดอกอีกข้างเล่น ก่อนจะหันไปเลียมันสลับกับดูดเม้มจนมันกลายเป็นสีแดง เชอร์รี่สุกแล้วใช่มั้ย เราจะตายอยู่แล้วนะ พี่หมอเก็บเชอร์รี่บนตัวเราอย่างนั้นสักพัก พอได้ครบพี่หมอก็ค่อยๆละหน้าออกมา มือหนาลูบเบาๆไปตามท้อง ปากแองกี้เบิร์ดนั่นจูบที่สะดือเราซ้ำๆ
“อื้อออ พี่หมอ ทำไร อ้ะ จั๊ก จี้”
“ตามแผนที่ พี่หมอต้องแวะที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิครับ”
“อ้า เร็วๆ ตัวจะ อื้อ แตก”
“ตามนั้นครับ” แล้วพี่หมอก็เลียวนที่สะดือเราเร็วๆ ตลอดเวลาที่แวะบ่อน้ำนั่น มือพี่หมอก็จะลูบท้องกับสะโพกเราไปด้วย อื้ออออ!!! พี่หมอทำอะไร ปล่อยพลังใส่หรอ ตัวจะแตกแล้ว เราชันเข่าขึ้น พร้อมกับบิดตัวไปมา รู้สึกไม่ดีเลย ตัวเราร้อน เราอึดอัด เราจะทนไม่ไหวแล้ว
พี่หมอละใบหน้าออกมาก่อนจะพรมจูบไปทั่วท้องน้อย มือหนาก็ย้ายที่ไปสำรวจโคนขาเราแทน โอ๊ยยยย จะไม่ไหวแล้วนะ
“อ๊า อื้ออออ พี่หมอ”
“ใกล้ถึงถ้ำแล้วล่ะ ไหวมั้ยครับ” พี่หมอลูบแก้มเราเบาๆ อย่าแกล้งเราเลย ไข้เราขึ้นสูงแล้ว อย่าแกล้งเลย ขอร้องล่ะ
“ถ้ำ ถ้ำ อ๊ะ เร็วๆ”พี่หมอไม่ตอบอะไร แต่กลับก้มลงจูบโคนขาเราซ้ำๆ ฟันคมกัดเบาๆ เรายันตัวก้มไปดูพี่หมอชัดๆ รอยที่พี่หมอกัดมันแดงหมดเลย มันเจ็บ....แต่ แต่เรา เรารู้สึกดี พี่หมอทำอะไรกับร่างกายเรา
“อื้ออออ พี่หมอ”
“พี่หมอมาถึงปากทางเข้าถ้ำแล้ว”พี่หมอยิ้มให้ ก่อนจะก้มลงเลียข้างล่างเรา
“อ๊ะ อ้า พี่หมอ อ๊า” เราไม่รู้ว่าเลียตรงไหน แต่มัน มัน อื้อออ มันดี....
พี่หมอก้มลงเลียมันไม่หยุด เราร้องเสียงลั่น มือไม้เรากำผ้าปูที่นอนแน่น มันทั้งทรมาน ทั้งรู้สึกดี นี่พี่หมอทำอะไร ตัวเราเป็นไข้สูงแล้วนะ จะตายมั้ย พี่หมอไม่สนใจความกลัวของเรา แต่กลับยกขาเราให้ชันขึ้นมากกว่าเดิม ก่อนจะแยกเข่าทั้งสองข้างให้กว้างออก จากนั้นก็แทรกตัวเข้ามา พี่หมอโน้มหน้าลงมาจูบหน้าผากเราเบาๆ
“มันเจ็บหน่อยนะ ทนไหวนะ”
“จะเจ็บ หรอ”เรารีบคว้าแขนพี่หมอเอาไว้
“นิดนึง ในถ้ำมันแคบ แต่พี่หมอจะเบาๆ นะครับ นะ” อย่าอ้อนเราอย่างนั้นสิ
สุดท้ายเราก็ใจอ่อน พยักหน้าให้พี่หมอ แล้วพี่หมอก็ค่อยๆกดนิ้วที่ปากทางซ้ำๆ ก่อนจะสอดนิ้วเข้ามา
“อื้อออ!!! เจ็บ อ้า” มันเจ็บ มันอึดอัด ไม่เอา!!!
“ไหวมั้ยชาน”
“เจ็บ ฮึก เจ็บ”
“โอ๋ๆ งั้น งั้นพักก่อนก็ได้”พี่หมอด๊วฟปากเราซ้ำๆ
“มะ ไม่ เดี๋ยว ไม่ชนะ” เราจับมือพี่หมอไว้ เราจะปล่อยให้ตัวเองแพ้ไม่ได้ ไม่ยอม!!!
“ตะ ต่อ” พี่หมอยิ้มเป็นห่วงให้ก่อนจะค่อยๆขยับนิ้วข้างใน
“อื้ออ”พี่หมอโน้มหน้าลงมาจูบปากเรา ไอ้ร้อนๆชื้นๆนั่นสอดเข้ามาในโพรงปากอีกครั้ง ก่อนจะเลื้อยไปทั่ว ในขณะที่นิ้วทางด้านล่างก็ขยับวนข้างในช้าๆ ประสาทของเราเหมือนถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งสนใจไอ้ร้อนชื้นในปาก อีกส่วนสนใจความเจ็บจากด้านล่าง แต่แล้วในปากก็เป็นฝ่ายชนะ เราสนใจแต่จะสู้กับไอ้ร้อนชื้นนี่ยังไง เราเลื้อยลิ้นตัวเองตอบเจ้านั่น เราจะแพ้ไม่ได้ เราต้องชนะ คุโรบุตะ พี่โฟร์อาร์ม พี่ฮิวมังกาซอร์ และทุกๆคนรอเราอยู่
ขณะที่เรากำลังต่อสู้อยู่ จู่ๆความรู้สึกเสียวแปลกๆก็แล่นมาจากด้านล่าง เรากระตุกพร้อมกับบิดสะโพกไปมา เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น!!! พี่หมอกดนิ้วที่จุดนั้นอีกครั้ง
“อ๊า อื้อออ มะ หมอ”
“ตรงนี้หรอครับ”พี่หมอยิ้ม ก่อนจะกดตรงนั้นซ้ำๆ เรายัดตัวขึ้นมามองไปที่ข้างล่าง เบ็นเท็น!!! พี่หมอเอานิ้วเข้ามาอีกสองนิ้วตั้งแต่เมื่อไร!!! ทำไมไม่รู้เรื่อง พี่หมอไม่ปล่อยให้เราตกใจนาน นิ้วยาวกดซ้ำๆที่จุดนั้นหลายๆครั้ง
“อ้า อ๊ะ อื้อออออ พี่ หมอ” พี่หมอขยับนิ้วเข้าออกเป็นจังหวะ ทุกครั้งที่เข้ามาก็จะกดนิ้วโดนจุดนั้นไปด้วย ทำอยู่อย่างนั้นจนเราเป็นไข้ตัวแทบแตก เมื่อไรจะเก็บสมุนไพรบ้านั้นเสร็จสักที จะตายอยู่แล้ว!!!
“ถ้ำนี้ทั้งแคบ ทั้งร้อน อืมมม”พี่หมอครางต่ำในลำคอ ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าพี่หมอพูดอะไร พี่หมอยิ้มน้อยๆ ก่อนจะถอนนิ้วทั้งหมดออก ผมรู้สึกได้ถึงเนื้อจากถ้ำบ้านั่นที่กำลังเต้นตุ๊บๆ มันคืออะไรกัน ทำไมมันถึงเป็น
พี่หมอไม่ตอบอะไรแต่กลับสอดช้างน้อยดัมโบ้ยักษ์นั่นเข้ามาแทน
“อ๊า พี่ หมอ อื้อออ!!” งานนี้เราจะตายมั้ย!!!
“อื้มมมม ชานยอล” มือหนายกสะโพกเราขึ้น ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบที่หูของเรา ไอ้ร้อนชื้นนั่นเลียใบหูของเราสลับกับดูดเม้มเบาๆ ทางด้านล่างนั่นก็ค่อยๆขยับเข้าออกจากช้าๆไต่ระดับเป็นเร็วขึ้นเรื่อยๆ จากที่รู้สึกเจ็บ ตอนนี้กลับรู้สึกดี เหมือนเรากำลังลอยอยู่บนสวรรค์เลย เหมือนอยู่บนก้อนเมฆที่ทำมาจากสายไหมหวานๆ พี่หมอกระแทกช้างยักษ์เข้ามาโดนจุดนั้นอีกหลายๆที
“อื้ออออ พี่หมอ พี่หมอ”
“ชานยอล อืมมม” พี่บิ๊คชิล พี่เอคโค่ เรา เรา เรามีความสุขจังเลย
“อือออ อีกนิด ชาน” พี่หมอยิ้มก่อนจะถอยทัพออกไป จากนั้นยกทัพเข้ามาใหม่อีกสองสามที แล้วก็มีอะไรไม่รู้เข้ามาในตัวเรา เอเลี่ยนหรอ!!!
“อะ อะไร เอ เอลี่ยน!!!”
“ไม่ใช่ ดีกว่าเยอะ” พี่หมอเคาะหน้าผากเราหนึ่งที เราอยากจะสู้กลับไป แต่ตอนนี้แรงทั้งหมดเหมือนถูกพี่หมอสูบไปหมดเลย ทำไมแค่ตามหาสมุนไพรในถ้ำมันถึงได้เหนื่อยอย่างนี้ล่ะ
“ผมเหนื่อย”
“พักสิ” พี่หมอค่อยๆเอาช้างยักษ์ออก ก่อนจะโน้มหน้าพรมจูบไปทั่วหน้าเรา อย่าสิ เดี๋ยวไข้เรากลับมาอีก มันเพิ่งลดไปนะ
“ได้ สมุนไพร มามั้ย”
“ได้มาทั้งไร่เลยล่ะครับ ชานยอลชนะแล้ว พักเถอะครับ” อย่ายิ้มอย่างนี้ได้มั้ย ไข้กำลังจะกลับมาแล้วนะ ไม่เอาแล้วนะ ตัวจะแตกตาย
“ยังไม่นอนอีก............หรือจะให้พี่หมอหาสมุนไพรอีก”
“มะไม่ นอนๆ” เรารีบพูด ถึงจะรู้สึกดี แต่เรา เราเหนื่อยแล้วนะ วันหลังค่อยไปเก็บก็แล้วกัน ไม่ไหวแล้ว
เรามุดเข้าไปในผ้าห่มก่อนจะซุกหน้ากับอกของพี่หมอ มืออุ่นๆของพี่หมอลูบผมเราเบาๆ พร้อมกับโน้มหน้าลงมาจูบหน้าผากเรา อยากจะเขียนป้ายแปะจังเลย ว่าตัวจะแตกแล้ว หรือไม่ก็ ผมเป็นไข้อยู่ พี่หมอจะได้เลิกแตะตัวเราสักที เราพยายามคุมตัวเองไม่ให้เป็นไข้อีก แต่มันก็พังทลายลงทันทีเมื่อพี่หมอกระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหู
“หลับฝันดีนะครับ คุณภรรยา”
“ผมเป็นสามีต่างหาก.....”เราเถียงเสียงเบา ก่อนจะบ่นงับๆกับคุโรรรรร บุตะต่อ จนในที่สุดเจ้ากบเขียวก็ร่ายมนตร์ทำให้เราหลับไปหาพี่หมอในฝัน....
ในความฝันเราฝันว่าเรากับพี่หมอว่ายบนทะเลก้อนเมฆ ทะเลก้อนเมฆจริงๆนะ และที่สำคัญนะ เราสองคนไม่ได้ใส่เสื้อผ้า!!! ย๊า ดัมโบ้ๆ เราว่ายน้ำไปหาพี่หมอพี่นอนอาบแดดอยู่ แล้วก็.......ฮิ!!! เราเอื้อมมือ กำลังจะไปจับดัมโบ้ แต่ภาพความฝันก็หายไปเสียก่อน แล้วเราก็ตื่น!!!
“ตื่นทำไมอ่ะ!!! ฮึ่ย!!!” เรากอดอก ขัดใจมากๆเลย ทำไมไม่ให้เล่นก่อน แล้วค่อยตื่นล่ะ เทพแห่งความฝันนี่ไม่รู้เรื่องเลย พอกับไอ้พี่หมอเลย!!! ชอบไม่เข้าใจเรา
เราลุกขึ้นนั่ง มองซ้าย มองขวาไปรอบๆห้อง พี่หมอกำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างๆ ตอนหลับเราน่ารักกว่าตอนตื่นอีก ตอนตื่นอะชอบแกล้ง ชอบขัดใจ น่าเบื่อ!!!
แต่นี่ทำไมเราต้องตื่นด้วยนะ ทำไม ทำไม อดเล่นกับดัมโบ้ตัวน่ารักเลย เซ็ง!!! แต่เดี๋ยวนะ ดัมโบ้หรอ ดัมโบ้ ฮิ!! เราหันไปมองหน้าพี่หมอ พร้อมกับค่อยๆดึงผ้าห่มออก ถ้าดึงแรงเดี๋ยวพี่หมอตื่นมาดุเราได้ ดัมโบ้ตัวน่ารักโผล่หน้ามาทักทายเรา ย๊า น่ารักจังเลย แต่ว่าตอนนี้ดัมโบ้กำลังหลับ ถ้าเราไปเล่นด้วย เดี๋ยวดัมโบ้ตื่น ไม่ดีๆ เรานั่งมองมันนอนดีกว่า
เราคลานไปนอนมองดัมโบ้ตัวน่ารักใกล้ๆ ฮิ น่ารักจังเลย หน้าเหมือนช้างจริงๆเลย แต่ว่ามองไปมองมา ก็เหมือนเรานะ เพราะเราก็เป็นดัมโบ้ ม๊าชอบบอกว่าเราเหมือนดัมโบ้ เพราะหูกางบินได้ เราไม่เคยดีใจเลย แต่วันนี้เราดีใจละ เพราะเราจะได้เป็นพี่น้องกับดัมโบ้ของพี่หมออออ ว่าแล้วเรามาถ่ายรูปคู่พี่น้องเก็บไว้ดีกว่า ฮิ เราหยิบมือถือพี่หมอขึ้นมา นั่งงมหากล้องสักพัก พี่หมอใช้เหมือนของม๊า กล้องมันก็คงเหมือนกันละมั้ง กล้องอยู่ไหนนะ อยู่ไหนๆ อ๊า เจอละ ได้เวลาถ่ายรูปแล้วววว
“ดัมโบ้พร้อมนะ หนึ่ง สอง ซั่ม!” เราโพสท่าชูสองนิ้วถ่ายคู่กับดัมโบ้ตัวน่ารักที่กำลังนอนหลับอยู่ น่ารักจังเลยยย ต่อไปนี้ จะขอพี่หมอเล่นกับดัมโบ้บ่อยๆ ดัมโบ้น่ารัก ไม่ดื้อไม่ซน ไม่เถียงเราด้วย ชอบ ฮิ! เรานั่งมองดัมโบ้ตัวน่ารักอยู่นาน จนเราผล็อยหลับไป....
----------------------------------------
แสงแรกของวันค่อยๆกรีดม่านแห่งความมืดออกเป็นริ้วๆ ก่อนจะเปิดรอยแยกของมันให้กว้างออก แล้วแทรกสอดแสงสว่างเข้ามาแทนที่ พระอาทิตย์ดวงโต ค่อยๆตื่นขึ้นมา เคลื่อนร่างตัวเองชูขึ้นเหนือเส้นขอบฟ้า ทุกสรรพสิ่งกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังจากการพักผ่อนในยามราตรี
ชายร่างสูงที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ค่อยๆตื่นขึ้นมา ความง่วงงุนยังคงครอบงำเขาอยู่เล็กน้อย แต่สุดท้ายมันก็ถูกปัดเป่ากระเจิดกระเจิงออกไปด้วยความตกใจ ดวงตาคมเบิกกว้างเล็กน้อย เมื่อเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังนอนซบต้นขา ใกล้กับส่วนสงวนของเขาอยู่
“ชาน ทำไมมานอนตรงนี้” ผมเรียกชานยอล แต่เขาก็ไม่ยอมตื่น ให้ตาย แล้วนี้ใครสอนให้มานอนใกล้ตรงนั้นครับ แล้วดูหน้าตอนนอนสิ พริ้มเชียว
“ชานครับ” ชานยอลก็ยังคงหลับอยู่ ผมเลิกล้มความตั้งใจ ไม่ปลุกแต่ขอนั่งมองแทนละกัน ตอนหลับนี่ก็น่ารักไปอีกแบบนะ ไม่ดื้อ ไม่ซน และที่สำคัญไม่ยั่ว.....
ความจริงเมื่อคืนผมไม่กะจะทำอะไรเขาด้วยซ้ำ แต่พอเจ้าตัวแสบนี่ดันยั่วกันซะอย่างนั้น สุดท้ายเส้นความอดทนก็ขาดผึง จรรยาบรรณถูกพับเก็บลงในหลืบ ความต้องการเข้ามายึดครองสติจนหมด สุดท้ายเลยลงเอยที่......ได้เข้าถ้ำ แล้วก็ไม่ได้สมุนไพรกลับมา แต่ได้ความบริสุทธิของเด็กคนหนึ่งแทน
คิดไปคิดมา ผมก็ตลกตัวเอง มุขหลอกล่อตัวแสบ คิดได้ไง ตามหาสมุนไพร บ้าบอมาก บอกตามตรงเลยนะครับ ว่าผมไม่ได้บ้าจี้คิดไรเพี้ยนๆอย่างนี้ทุกครั้งที่......เอ่อ....เออทำอย่างนั้นน่ะ แต่ต่อจากนี้คงต้องพึ่งมุขบ๊องๆนี่อีกเยอะ เพราะผมจะเดินป่ากับแค่เด็กคนนี้คนเดียวเท่านั้น พูดแล้วก็นึกถึงเจ้าตัวแสบ เมื่อคืนล่ะพอบอกให้ร้องดังๆ ก็ร้องซะลั่น ผมนี่ก็กลัว แทบแย่ เกิดคนอื่นได้ยิน
ล่ะ เป็นเรื่องแน่ แต่ความเป็นเด็กของเขาก็ทำเอาผู้ใหญ่อย่างผมแทบคลั่ง การกระทำที่ยั่วยวนโดยไม่ตั้งใจ ถ้าเป็นคนอื่นผมคงรำคาญ หรือคิดว่านี่คือการเสแสร้ง แต่สำหรับเด็กคนนี้ ผมรู้ดีว่ามันไม่ใช่ ผมหันไปมองหน้าตัวแสบที่กำลังนอนหลับพริ้มอยู่ตรงต้นขาผม ดูหน้าเขาสิ ทำไมถึงได้น่ารักอย่างนี้นะ ผมเอื้อมมือไปลูบแก้มเนียนเบาๆ อ่า แค่ทำแค่นี้เราก็มีความสุขแล้วหรอ ผมโน้มหน้าลงไปจูบจมูกเจ้าตัวแสบเบาๆ แต่แล้วสายตาก็ดันไปสบกับวัตถุทรงสี่เหลี่ยม ที่หน้าตาดูคุ้นตามาก นั่นมันโทรศัพท์เรานี่หว่า ทำไมมาอยู่ในมือเจ้าเด็กแสบนี่ได้ ผมหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาดู
............
“ชานยอล!!! นี่มันอะไรเนี่ย!!!”
“ห๊ะ หา ใคร มีอะไร!!! พี่หมอ!!!”ชานยอลกระเด้งตัวตื่นทันที
“นี่อะไรครับ” ผมหันมือถือไปหาชานยอล ไอ้รูปเด็กแสบยิ้มแฉ่ง ชูสองนิ้ว ถ่ายคู่กับ........ มันคืออะไร!!!
“ก็รูปคู่พี่น้องไง ดัมโบ้หนึ่ง กับดัมโบ้สองงงงง ฮิ ดัมโบ้ตัวน่ารักตื่นรึยังงงงง” แล้วเจ้าเด็กแสบก็นอนทับตัวผม มือเรียววางแหมะอยู่ใกล้ตรงนั้น พระเจ้าเถอะ!!!!
“จะทำอะไร ไม่ต้องเลย หยุดเลยครับ!!!”
“ไม่ๆๆๆ จะเล่นกับดัมโบ้ ดัมโบ้ตัวน่ารักกกก”
“เดี๋ยวก็ได้เรื่องไปเดินป่าอีกหรอก หยุดเลย หยุด”
“ขอเล่นหน่อย นะ นะ นะครับบบบ” แล้วเจ้าตัวแสบก็นั่งคุกเข่า ประสานมือ พร้อมกับส่งแววตาอ้อนวอนมาให้ โอ่ย อยากจะบ้า ผมนั่งกุมขมับ จะเอาไงดีเนี่ย
“เล่นนะ ดัมโบ้ตัวน่ารักอยากให้เล่น”
“หรอ” ผมมั่นใจมากว่ามันไม่ได้อยากให้เล่นก้วยเลย สักนิดก็ไม่ ไม่เลย
“อื้อ!!! มันบอกผม เมื่อคืน”
“มั่วมาก พี่หมอไปอาบน้ำล่ะครับ บายยยย” ผมรีบพูด รีบวิ่งเข้าห้องน้ำ แต่ไม่วายเจ้าตัวแสบก็รีบวิ่งตามมาอยู่ดี
“จะเล่นดัมโบ้ ดัมโบ้ ดัมโบ้” ตัวแสบวิ่งล้อมหน้าล้อมหลัง
“ไม่ แล้วนี่วิ่งมา.....ไม่เจ็บ?”
“เจ็บบบบบบ พี่หมอทักทำไม ผมเจ็บเลยเห็นมั้ย” ชานยอลหยุดกระดุกกระดิก นั่งร้องโอดครวญตรงหน้าผม ไม่ใช่ความผิดผมนะ ผมไม่ได้สั่งให้วิ่งสักหน่อย
“วิ่งเองนี่”
“ดัมโบ้ ดัมโบ้ ช่วยให้ผมหายเจ็บได้ ดัมโบ้ ขอเล่นหน่อย” จะช่วยให้หายหรือจะช่วยให้เป็นหนักกว่าเดิมกันแน่....
และแล้วห้องน้ำของผมก็เกิดศึกสงคราม วิ่งไล่จับระหว่างผมกับชานยอล คือ ห้องน้ำก็ไม่ได้กว้างพอจะให้ผู้ชายตัวสูงโย่งมาวิ่งไล่กันนะครับ แล้วนี่ก็ไม่ใช่สนามหญ้าที่เด็กน้อยจะได้วิ่งได้อย่างปลอดภัย นี่มันห้องน้ำ ชื้นๆแฉะๆ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการ......
โคร่ม
“ชานยอล!!!”
“อู่ยยย”
“ได้เรื่อง!!!” สุดท้ายผมก็ต้องไปพยุงเจ้าเด็กแสบที่นอนแผ่อยู่บนพื้นห้องน้ำขึ้นมา เท่านั้นยังไม่พอ ต้องอาบน้ำให้ด้วย คือมันก็ดีล่ะครับ แต่จะดีกว่านี้มาก ถ้าไม่ใช่เพราะล้มฟาดพื้น กว่าเราสองคนจะอาบน้ำเสร็จก็ปาไปเกือบชั่วโมง พอเสร็จผมก็ต้องมาแต่งตัวให้เด็กแสบ อันนี้ก็ลำบากอยู่เพราะชานยอลซน จากนั้นผมก็สั่งให้ตัวแสบนั่งรอผมแต่งตัว และแน่นอนครับ ถ้าคนบ้านั่งอยู่เฉยๆได้ วันนั้นลิงก็คงพูดได้เหมือนกัน เจ้าตัวแสบนั่งดุ๊กดิ๊ก ไม่อยู่สุขบนเตียง เล่นนู่นเล่นนี่อีกเยอะแยะ เดี๋ยวหยิบหนังสือ เดี๋ยวหยิบปากกา อ่า แล้วนั่นก็กำลังหยิบดินสอสี นั่งวาดรูปต่อ เจ๋งไปเลย
ผมเลิกสนใจชานยอลแล้วเดินไปใส่เสื้อผ้า ตรวจดูความเรียบร้อยในกระจกนิดหน่อย พอทุกอย่างโอเค ก็หันหลังกลับไปหาตัวแสบที่นั่งยิ้มแฉ่ง โบกปฎิทินอยู่ในมือ....
“วันนี้วันเกิดพี่หมอหรอ” ตัวแสบชี้ไปที่ตัวเลขในปฏิทินที่โดนวงเอาไว้ บอกก่อนว่าผมไม่ได้วง แต่พี่สาวผมวงเอาไว้ เพราะว่าผมเป็นโรคชอบลืมวันเกิดตัวเอง
“อ่า ใช่ครับ อีกสามวัน วันเกิดพี่หมอ”
“ฮิ แก่แล้ว แล้ววันเกิดเขาต้องให้ไรกันหรอพี่หมอ”
“ให้ดัมโบ้มั้งครับชานยอล อยากให้ไร เขาก็ให้กันหมดล่ะครับ” ผมกวนประสาทกลับไป ก่อนจะหันไปหยิบของ
“ไม่เอา ไม่ให้ดัมโบ้ เขาให้อะไรก็ได้หรอ แล้วจำเป็นต้องให้มั้ย”
“แล้วแต่สิครับ บางทีเพื่อนพี่หมอบางคนมันก็ไม่ให้ เพราะมัน.....งก”
“ฮิ ผมไม่งก ผมให้ แต่ว่าไม่รู้จะให้อะไร คิดไม่ออก”
“แค่ของขวัญ ไม่ต้องให้ก็ได้ ป่ะ ไปกินข้าวกันครับ หิวจะแย่”ผมยื่นมือไปให้ชานยอลจับ ตัวแสบวางมือลงก่อนจะหันไปคว้าคุโรบุตะ จากนั้นก็ค่อยๆเดินตามผมมา
เราใช้เวลานั่งกินมื้อเช้ากันเอ่อ......นานอยู่ กว่าจะเกลี้ยกล่อมให้กินแต่ละอย่าง(แบบดีๆ)ได้ เล่นเอาเหนื่อย นี่เราเป็นจิตแพทย์หรือ กุมารแพทย์เนี่ย แต่ถึงจะบ่นไป ยังไงผมก็เต็มใจจะดูแลเด็กคนนี้อยู่ดีละครับ
“แหม กินข้าวด้วยกันนนน คู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามัน” พยาบาลจองเจ้าเก่าเดินเข้ามาทักผม ตายยากจริงๆ
“ข้าวใหม่ปลามันหรอ มันอร่อยมั้ยครับ”
“ฮ่าๆ มากเลยล่ะค่ะ คุณชานยอล”
“งั้นผมจะกิน!!!!”
“คงมีแต่คุณหมอคริสเท่านั้นล่ะค่ะ ที่ให้กินได้”
“หยุดเลย คุณพยาบาลจอง นี่ถ้าไม่มีอะไร เชิญไปกินข้าวที่โต๊ะนู่นนนน เลยครับ”
“แหม ที่ฉันล่ะทำเป็นไล่ มีมันก็มีอยู่ค่ะ อาจารย์หมอคิมเรียกให้ไปหาน่ะค่ะ”
“อาจารย์หมอน่ะหรอ โอเคๆ งั้น......ผมฝากพาชานยอลไปรวมกับคนอื่นหน่อย พาไปเล่นข้างนอกก็ได้ เดี๋ยวผมมา ชานครับ เดี๋ยวพี่หมอมานะ ห้ามดื้อ ห้ามซนล่ะ”
“ผมโตแล้ว!!!”
“ครับๆ โต โต ไปล่ะ” ผมขยี้ผมชานยอลก่อนจะรีบเดินออกมา ขืนไปสายล่ะ เป็นเรื่องชัวร์ อาจารย์คนนี้ก็รู้อยู่ว่าโหดมาก
แก้ไขล่าสุดโดย 0ctogus เมื่อ Fri Feb 08, 2013 9:56 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง