0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

ทะเลดำตอนที่ 8.2

4 posters

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

1ทะเลดำตอนที่ 8.2 Empty ทะเลดำตอนที่ 8.2 Wed Jun 19, 2013 11:26 pm

0ctogus

0ctogus
Admin

-------------------------------------------
  ไคเดินเข้ามายังห้องพยาบาลที่ควรจะมีร่างเพื่อนของเขาแต่กลับว่างเปล่าร้างผู้คน  คิ้วได้รูปขมวดเข้าหากันก่อนขายาวจะเริ่มออกเดินหาเพื่อนสนิท น้ำเสียงที่แฝงความห่วงใยและกังวลถูกเอ่ยออกมาจากริมฝีปากซ้ำไปซ้ำมาแต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา  
“ชานยอล ไอ้ชาน”น้ำเสียงที่กระชากและเต็มไปด้วยความจริงจังถูกเปล่งออกมา ก่อนที่เขาจะหยุดชะงักที่ประตูหลังที่ถูกเปิดทิ้งไว้  อะไรบางอย่างทำให้เขาสังหรณ์ใจว่าชานยอลออกไปแล้ว และไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเขาก็ไม่ควรที่จะตามไป เพราะการกระทำนี้ชัดเจนอยู่แล้วว่าชานยอลต้องการจะหนีเพื่อไปหลบอยู่คนเดียวยังสถานที่ที่แม้แต่เขายังไม่เคยได้ไป สถานที่เดียวที่ชานยอลไปหลบยามที่อ่อนแอที่สุด…



“มันเกิดอะไรขึ้นกับนายกัน  ชานยอล…”ไคที่มองออกไปยังเส้นทางที่ชานยอลเคยใช้พูดขึ้น ก่อนที่เขาหรี่ตาลงเมื่อสายลมหอบหนึ่งที่พัดเอากลิ่นไอทะเลผ่านมาปะทะหน้าของเขา ก่อนที่มันจะพัดเลยผ่านไป





                    ชานยอลลอบมองเพื่อนตัวเองก่อนจะถอนหายใจแล้วเดินรอดประตูหลังของโรงเรียนออกไป  เขายังไม่พร้อมเจอใครในตอนนี้ แม้ว่าคนที่มาจะเป็นเพื่อนสนิทของเขาก็ตาม หัวใจของเขาถูกอัดแน่นไปด้วยความอับอายและสูญเสียซึ่งศักดิ์ศรีและเกียรติยศมากเกินไป มากเกินกว่าที่เขาจะกล้าสู้หน้าใครได้  ซ้ำยังกลัวว่าหากถูกถามแม้เพียงนิด ตัวเองจะพรั่งพรูความอ่อนแอและสิ่งที่อัดอั้นอยู่ทั้งหมดออกมา  



ไม่ได้อยากปิดบัง

แต่ยังไม่พร้อมจะถ่างรอยแผลตัวเองให้ใครดู




                   ชานยอลสูดลมหายใจลึกก่อนจะพยายามประคองสติและขุดความเข้มแข็งที่ตัวเองเคยมีมาให้กลับมาอีกครั้ง  แต่สุดท้ายเขาก็ทำได้เพียงแค่ลืมเรื่องราวไปได้ชั่วคราวเท่านั้น  ชานยอลพาร่างและหัวใจที่บอบช้ำของตัวเองขึ้นรถแท็กซี่ เดินทางจนมาถึงสถานที่ที่เขารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยที่สุด




                  กลิ่นเกลือจากทะเลลอยคลุ้งขึ้นมาตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ แสงแดดยามเย็นตกกระทบพื้นน้ำจนทอประกายวิบวับราวกับเวิ้งสีน้ำเงินเป็นอัญมณีเรืองค่า  หาดทรายสีขาวสะอาดเม็ดละเอียด ผุดผ่องบริสุทธิ์ ต้นมะพร้าวและต้นปาล์มพลิ้วลู่โบกกิ่งก้านโงนเงนไปตามแรงลม บางก้านใบล่อเรี่ยเคลียน้ำ  บางก้านโบกสะบัดเอื้อมแตะท้องนภา  ระลอกคลื่นสาดซัดเข้าสู่ชายฝั่ง กระทบโขดหินจนก่อเกิดเป็นเสียงดังแฉะ แฉะ ที่ฟังลื่นหูและสดชื่นแก่ผู้ที่ได้ยิน





                 ชานยอลสูดเอากลิ่นทะเลเข้าเต็มปอดก่อนจะพาร่างที่เปราะบางของตัวเองเดินเรียบไปตามทางเดินริมหาด แล้วเดินเข้าไปยังบ้านไม้สีฟ้าอ่อนหลังเล็กๆหลังหนึ่ง  แผ่นกระดานดำด้านหน้าถูกเขียนชื่อเมนูขนมหวานประจำวันไว้หลายเมนู   แต่เพียงแค่ชื่อของพวกมันก็มากพอที่จะทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาอาจจะเข้ามาลิ่มลองขนมของที่นี่  แต่พวกเขาโชคร้ายนิดหน่อยที่ร้านนี้ปิดแล้ว




กรุ๊ง กริ๊ง


เสียงกระดิ่งที่อยู่หน้าประตูดังขึ้น บอกให้รู้ว่ามีคนเดินเข้ามาในร้าน



“ร้านปิดแล้วค่ะ มาใหม่วันพรุ่งนี้นะค่ะ”เสียงหญิงวัยกลางคนดังมาจากห้องครัว ก่อนที่เธอจะหันมามองลูกค้า สีหน้าตกใจระคนดีใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า    ร่างสันทัดของเธอรีบวิ่งออกมาจากหลังร้านมาต้อนรับเด็กหนุ่ม



“ลมทะเลอะไรหอบลูกรักของป้ามาได้”เธอฉีกยิ้มกว้าง หากแต่รอยยิ้มนั่นกลับแฝงไปด้วยความห่วงใย เพราะทุกครั้งที่ชานยอลมา เด็กหนุ่มต้องมีเรื่องไม่สบายใจมาทุกครั้ง



“คุณป้า”ชานยอลพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะโผเข้ากอดแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก




            อ้อมกอดที่อบอุ่นดูเหมือนจะกำลังฉีกหน้ากากความเข้มแข็งของเขามากขึ้นเรื่อยๆจนตัวตนอีกด้านที่อ่อนแอค่อยๆเผยตัวตน  หยาดน้ำตาแห่งความรู้สึกที่กั้นมาตลอดพรั่งพรูออกมาเป็นสายราวกับเขื่อนแตก     หมดแล้วซึ่งความเข้มแข็งที่มี คลื่นความรู้สึกแห่งความเศร้า เสียใจ และอับอายฉีกกระชากหัวใจดวงน้อยให้ยอมศิโรราบต่อความเจ็บปวด




             ภาพเหตุการณ์เลวร้ายนั่นไหลย้อนกลับเข้ามาตอกย้ำให้เขาทุกข์ทรมานอีกครา ทุกการกระทำ ทุกเสียงที่เกิดขึ้นราวกับมีมีดมาตัดหลอดลม แล้วบีบรัดให้เขาหายใจไม่ออกอยู่อย่างนั้น เด็กหนุ่มหลับตาแน่น ส่ายหน้าไปมา พยายามไล่ภาพเหล่านั้นออกไปจากสมอง แต่ยิ่งปฏิเสธมันเท่าไร มันก็ยิ่งดูชัดเจนในใจมากขึ้นเท่านั้น




            มือเรียวกำเสื้ออีกคนแน่นราวกับถ้าไม่มีเธอเขาจะหมดซึ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ  ดวงหน้าหวานซบไหล่ของเธอพร้อมกับร่ำไห้อยู่อย่างนั้นโยปราศจากเสียงสะอื้นและถ้อยคำอธิบาย เขาเพียงแต่ร้อง ร้อง และร้องไห้เท่านั้น



“ร้องออกมาชานยอล ร้องออกมาให้หมด”หญิงคนนั้นพูดพร้อมกับลูบหลังเด็กหนุ่ม  ร่างโปร่งร้องไห้ต่อไปอีกเรื่อยๆก่อนจะค่อยหยุดช้าๆ โดยตลอดเวลาที่เขาเศร้าเสียใจ อีกฝ่ายก็ไม่ขัดหรือถามไถ่
ใดๆทั้งสิ้น เธอทำเพียงแต่ยืนนิ่งให้เขาร้องออกมาเท่านั้น


“คืนนี้ผมขอค้างกับคุณป้าได้มั้ยครับ”



“ได้สิจ๊ะ”เธอฉีกยิ้ม แม้ในใจจะระสับระส่าย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีสักครั้งที่ชานยอลจะนอนค้างที่นี่ แสดงว่าปัญหาครั้งนี้ใหญ่มากจริงๆ  แต่….มันคืออะไรกันล่ะ




        พอตกดึกชานยอลก็ขอมานอนห้องเดียวกับเธอ ท่าทางของเด็กหนุ่มดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยแต่ก็ยังคงแฝงแววขมขื่นอยู่ในดวงตา  ร่างโปร่งล้มตัวนอนลงบนตักของเธอ ก่อนจะหยิบมือที่หยาบกร้านของเธอขึ้นมาเล่น



“ถ้าผมจะขออยู่ที่นี่ตลอดไปเลยได้มั้ยครับ”



“ชานยอล เราไม่ใช่เด็กแล้วนะ เราโตแล้ว เราต้องเรียนหนังสือนะ”เธอตำหนิ เมื่อเด็กน้อยที่ชอบมาวิ่งซนในร้านของเธอ และร้องไห้จ้ายามที่มีเรื่องไม่สบายใจกำลังงอแงอยากทำตัวไร้ความรับผิดชอบอีกครั้ง



“งั้นผมย้ายมาเรียนแถวนี้ก็ได้”



“อย่าหนีปัญหาชานยอล” ชานยอลนิ่งเงียบไปก่อนจะค่อยๆถามออกมา



“แล้วถ้าปัญหามันใหญ่มากจนเราหาทางแก้ไม่ได้ล่ะครับ”



“ก็ต้องพยายามจนกว่าจะได้”เป็นอีกครั้งที่ชานยอลเงียบไป เปลือกตาบางมองมือของเธออย่างเลื่อนลอย ก่อนที่จะค่อยๆหลับตาลงช้าๆ แล้วซุกหน้าลงกับมือของเธอ ดวงตากลมโตภายใต้เปลือกตา
หลุกหลิกไปมาอย่างคนที่กำลังรู้สึกไม่ดี มือเรียวกำมือของเธอแน่นก่อนจะค่อยๆผ่อนแรงลงบางครั้งเมื่อกลัวว่าเธอจะเจ็บ




          มือหยาบกร้านของหญิงคนนั้นลูบผมปลอบประโลมเด็กหนุ่มบนตักเบาๆ อนที่ดวงตาหวานหยดจะเหลือบมองดูนาฬิกา




“ชานยอล นอนได้แล้ว นี่มันดึกมากแล้วนะ”



“คุณป้ากอดผมไว้ทั้งคืนได้มั้ย”เธอยิ้มรับบางๆ ก่อนจะโอบกอดเด็กหนุ่มเอาไว้ ชานยอลยิ้มบางๆก่อนจะซุกตัวเข้าหา  กลีบปากของเธอกดลงบนหน้าผากของเขาช้าๆก่อนที่เธอจะเอ่ย



“จำไว้ชานยอล ไม่มีอะไรทำร้ายเราได้ถ้าเราไม่ยอม  นอนซะ เด็กดีของป้า”




               คำพูดของเธอดังก้องอยู่ในห้วงความคิดของชานยอลซ้ำๆ จนในที่สุดเขาก็ผล็อยหลับไป สิ่งสุดท้ายที่นึกกึงก่อนนอนคือ…



ไม่มีอะไรทำร้ายเราได้ ถ้าเราไม่ยอม




               หญิงวัยกลางคนทอดตามองเสี้ยวหน้าของเด็กหนุ่มก่อนจะมองออกไปยังท้องทะเลนอกหน้าต่าง พลางรำพึงออกมาเบาๆ




“วันนี้ท้องทะเลไม่สวยงามเลยนะ ท่านโพไซดอน”





---------------------------------------




  คยองซูนึกฝันอยากให้ตัวเองสามารถย้อนเวลากลับไปได้ จะได้ไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์วิวาทกันในที่ประชุมเครือญาติอย่างในตอนนี้...
   


 ดวงตาคมกริบของคริสจับจ้องไปที่ใบหน้าของบิดาด้วยแววตาไม่เป็นมิตรและไร้ซึ่งความเคารพอย่างที่ลูกทั่วไปพึงมี  สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยันและอยากเอาชนะอย่างถึงที่สุด




“ท่านพ่ออยากให้ผมทำอย่างนั้นหรอครับ”เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่ยี่หระ ราวกับว่าเรื่องที่ฮาเดสพูดไปเมื่อครู่เป็นเรื่องไร้สาระที่ไม่น่าจะถูกเอ่ยออกมาจากเทพเจ้า


“ในฐานะที่เป็นลูก  เจ้าควรจะศึกษาการทำงานของนรก  เพราะในอนาคตเจ้าอาจได้มาช่วยงานของข้า”


“ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องช่วยงานของท่านพ่อ”


“เจ้า!!!”


“ท่านฮาเดสหยุดก่อนเถิด ในเมื่อท่านคริสไม่อยากทำ เราก็อย่าบังคับท่านเลย มิเช่นนั้นรังแต่จะเกิดปัญหาตามมาได้นะครับท่าน” เทพเจ้าองค์หนึ่งที่มีผิวขาวมากจนเกือบโปร่งแสงและเส้นผมสีดำทมิฬที่รับกับดวงตาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่เอื่อยเฉย แต่กลับอัดแน่นไปด้วยความโศกเศร้า ผิดหวัง และความตาย หากผู้ฟังไม่มีแรงต้านพอก็คงจะทรุดฮวบลงและตรอมตรมไปแล้ว



“ทานาทอส!* แต่เขาเป็นลูกข้า!”  (*ทานาทอส คือ เทพแห่งความตาย หนึ่งในผู้ช่วยของฮาเดส)




“หึ! ในเมื่อเขาไม่อยากทำแล้วท่านจะให้เขาทำทำไมกันเล่า ท่านฮาเดส”เสียงหญิงสาวหนึ่งเดียวในห้องเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เสแสร้งเกินกว่าจะฟังว่าเห็นใจชายหนุ่ม  ตาคมกริบจับจ้องไปที่เธออย่างไม่เกรงกลัว เครื่องหน้าที่สมบูรณ์แบบที่หญิงสาวทั่วโลกอยากมี น้ำเสียงที่ไพเราะเสนาะอย่างนกไนติงเกล  และความสง่างามราวหงส์ขาวผู้สูงส่งไม่อาจทำให้คริสรู้สึกเลื่อมใส หรือเคารพได้ สำหรับเขาผู้หญิงคนนี้ก็เป็นแค่ปีศาจในคราบเทพเจ้าเท่านั้น


“ไม่คิดว่าเทพแห่งฤดูใบไม้ผลิอย่างท่านเพอเซโฟเน่*จะเก่งเรื่องเสแสร้งด้วยนะครับ”  (*เพอเซโฟเน่ คือ เทพธิดาแห่งฤดูใบไม้ผลิ ผู้เป็นชายาของฮาเดส )




“สามหาว!! ข้าจะสาปให้เจ้ากลายเป็นต้นไม้ที่น่าเกลียดที่สุดในโลก”



“พอที! เลิกวิวาทกันสักที!!!” คริสกรอกตาไปมา ก่อนจะแสยะยิ้มให้เพอเซโฟเน่ที่จับจ้องตัวเองมาอย่างเคียดแค้น  ฮาเดสสูดลมหายใจลึกอย่างข่มอารมณ์ก่อนจะเอ่ยสั่งลูกชายของตัวเอง


“คริส เจ้าจะต้องไปทำการศึกษาเรื่องงานจากทานาทอส และฮิปนอส* ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยห้ามมีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น!!!” (*ฮิปนอส คือ เทพแห่งการหลับใหล หนึ่งในผู้ช่วยของฮาเดสเจ้าแห่งนรก)



“ผมไม่ทำ!”



“เจ้าต้องทำ! ถ้าเจ้าปฏิเสธ ข้าจะทำลายหลุมศพนั่นเสีย!!!” ตาคมจ้องหน้าพ่ออย่างโกรธแค้น ก่อนจะค่อยๆหลับตาลงเพื่อข่มอารมณ์ภายในที่กำลังปะทุขึ้นมา   ต่อให้ฆ่าเขาตาย เขาก็จะไม่ยอมให้ใครทำลายหลุมศพนั่นเด็ดขาด  





หลุมศพของคนที่เขารัก


จะต้องไม่ถูกมือสกปรกๆนั่นแตะต้องเป็นอันขาด!!!




“ถ้าท่านพ่อต้องการอย่างนั้น.....”คริสเว้นช่วงก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับบิดาแล้วพูดเสียงหนักแน่น



“ผมก็จะไม่ขัดอะไร แต่ขอให้รู้ไว้ว่าพ่อไม่มีทางบังคับผมได้ และจะไม่มีวันทำร้ายเธอคนนั้นได้อีกเป็นครั้งที่สอง!!!” คริสประกาศกร้าวก่อนจะผลุดลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องประชุมอย่างไม่เกรงกลัวต่อโทสะของเทพเจ้า



“คริส!!! กลับมา!!!”



“ไม่มีวัน!”คริสเอ่ยเสียงเย็นก่อนที่จะถล่มห้องประชุมด้วยกองทัพวิญญาณผีตายโหงที่กำลังคลุ้มคลั่ง




               ฝูงภูตผีอาละวาดไปทั่วห้อง มือโครงกระดูกโปรงแสงของพวกมันปัดป่ายและรุมทึ้งทุกสิ่งทุกอย่างให้เสียหาย  ปากกลวงโบ๋ของพวกมันกำลังอ้าปากร้องอย่างโหยหวนและกราดเกรี้ยว ดวงตาที่เรืองแสงสีแดงฉายแววบ้าคลั่งอัดแน่นอยู่ในนั้นบ่งบอกว่าพวกมันพร้อมที่จะฉีกกระชากทุกสิ่งที่ขวางหน้า




         ฮาเดสจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความโกรธ ก่อนจะกระแทกสองง่ามอาวุธประจำกายลงกับพื้น ฉับพลันนั้นก็เกิดแสงสีดำสนิทก็แผ่คลุมกลืนกินฝูงวิญญาณไปจนหมดเหลือแต่ความพินาศของห้องประชุม




“ดูลูกชายของท่านสิ”เพอเซโฟเน่พูดพร้อมกับเสกดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง





  ฮาเดสเหลือบตามามองก่อนจะหายตัวไป แม้เขาไม่ได้แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยวแต่ก็เห็นประกายความไม่พอใจอยู่ในนั้น เพอเซโฟเน่เปรยตามองไปที่ที่ฮาเดสเคยยืนอยู่ก่อนจะสลายหายตัวไปพร้อมๆกับเทพเจ้าองค์อื่นๆ ทั้งห้องประชุมจึงเหลือแต่คยองซูที่นั่งอยู่บนบัลลังก์อยู่เพียงคนเดียว โดยมีซากปะหลักหักพังต่างๆหลายล้อม




       ดวงตาโตก้มมองซากดอกไม้ในมือด้วยแววตากังวลระคนเศร้าโศก ก่อนที่จะค่อยๆกำมือเข้าหากันช้าๆ แล้วมองไปยังที่ที่คริสเดินจากไป




“เปลี่ยนไปมากขนาดนี้เลยหรอ.......ท่านพี่” เขาพูดก่อนจะหายตัวไปทิ้งไว้แต่ดอกไม้ที่กลับมาเบ่งบานอีกครั้งท่ามกลางความแห้งเหี่ยวของความตาย....

http://0ctogus.forumth.com

swearhp



สงสารชานยอลอ่ะ เป็นใครเจอแบบนี้ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน

คริสก็ทำไมเป็นคนแบบนี้ นั่นกับพ่อตัวเองยังเอาแต่ใจ

เป็นอะไรนักหนา ห้ะ!? #ตบ

ขอบคุณสำหรับฟิคนะคะ รักชยอล

Oomim



ดีโอเป็นน้องพี่คริส....?
คริสไม่เคยฟังอะไรเลยยย

RainbowKY



ไม่มีใครอะไรทำอะไรเราได้ถ้าเราไม่เต็มใจ แสดงว่าชานยอลเต็มใจให้คริสรังแกใช่มั้ย ในห้องน้ำอ่ะ หึหึ

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ