0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

ตอนที่ 7 จดหมายจากโอลิมปัส

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

0ctogus

0ctogus
Admin

ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่โอเซฮุน เด็กผู้ชายผู้สืบสายเลือดมาจากเฮอร์มีส เทพเจ้าแห่งการสื่อสารและการขโมย ที่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวอยากจะผันตัวไปเป็นขีปนาวุธที่ตกลงมาจากฟากฟ้า และภัยพิบัติแห่งนรก ที่ถูกฮาเดส เทพเจ้าแห่งความตายพิโรธเสียเหลือเกิน




"นายลงไปทำอะไรในนั้นน่ะ!!!" ชานยอลตะโกนถาม เด็กหนุ่มร้องอวดครวญก่อนจะตอบกลับมาเสียงอู้อี้



"ช่วย เอาผมขึ้นไปที" ร่างโปร่งตั้งท่าจะช่วยอีกคนขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทันใจฮาเดส เมื่อเทพเจ้าตวัดมือเพียงครั้งเดียวก่อนที่เจ้าตัวการแห่งความวุ่นวายวันนี้ จะกลับขึ้นมาข้างบน ชานยอลหันไปสบตากับคริสอย่างเจี๋ยมเจี๊ยม



"สงสัยเราคงไม่เป็นที่ต้องการ" ร่างโปร่งกระซิบ คริสถึงกับหลุดยิ้มก่อนจะหันไปสนใจสถานการณ์ต่อ เมื่อพ่อของเขาถามเซฮุนเสียงกร้าว



"เจ้า มีธุระอะไรกับอาณาจักรของข้า!!!"เทพเจ้าโมโห ดวงตาคมคู่นั้นไม่ฉายแววขบขันอย่างที่คริสกับชานยอลมี เทพเจ้ากำลังหัวเสีย เขาไม่ชอบให้เกิดความวุ่นวายในนรก และเกลียดที่สุดเมื่อมันเกิดจากพวกกึ่งเทพตัวยุ่ง



"คือ เอ่อ ผม...แค่ก แค่ก..." เซฮุนไอโขลกๆก่อนที่อะไรบางอย่างจะกระเด็นออกมา ลูกตาของมนุษย์กลิ้งรุนๆไปตามพื้น เด็กหนุ่มแทบจะอ้วกออกมา นี่เขาเผลอกลืนลูกกะตาพวกซากศพในหลุมนั่นลงไปหรอเนี่ย ให้ตายเถอะ!! จะกลืนอะไรที่มันดีๆกว่านี้ไม่ได้รึไง ทำไมจะต้องเป็น...ไอ้ลูกตาน่าเกลียดน่ากลัวนี่ด้วย



"คือว่า ผม..." เซฮุนกลับมาพูดอย่างปกติอีกครั้ง



"คือ ผมกำลังรับจ็อบพิเศษส่งเอกสารให้พ่อผมอยู่นะครับ แล้วบังเอิญว่าาาา....." เด็กหนุ่มเหล่มองไปทางเพตาซัสที่บินพันแข้งพันขาราวกับลูกสุนัขสองตัวที่ กำลังดีใจเมื่อเจอเจ้าของ



"เจ้าจะบอกว่าอย่างไร"


"คือว่า.....เพตาซัส001ของ ผมคู่นี้มันเกิดรวนแล้วพุ่งฉิวมาจากข้างบนโน่น ก่อนจะตกลงมาที่นี่แหละครับ" เซฮุนยิ้มแหยๆพร้อมกับชี้นิ้วขึ้นไปด้านบน ชานยอลกลอกตาตบหน้าผากดังฉาด ให้ตายเถอะ เพตาซัสรุ่น001 นั่นหมายความว่าไม่ใช่ ของจริง แต่เป็นสินค้ารุ่นแรกอย่างนั้นน่ะหรอ แล้วนี่ไอ้เด็กป่วนนี่ใส่มาเนี่ยนะ คิดบ้าอะไรเนี่ย งานนี้ฮาเดสต้องเล่นงานหนักแน่



"เจ้า คิดว่าเจ้าเป็นบุตรแห่งเฮ เฟสตัสหรืออย่างไร!!! เจ้ากล้าดียังไงลงมาป่วนในอาณาจักรของข้า!!!!!" เทพเจ้าถามด้วยความพิโรธ เซฮุนหันซ้ายหันขวาก่อนจะตอบ



"คือแบบว่า...ใต้ดินนี่มันก็ขาดสีสันจนเกินไป ผมก็เลย..."



"เจ้าว่าอย่างไรนะ!!!!" ฮาเดสตวาด คริสรีบช่วยกู้สถานการณ์


"ท่าน พ่อครับ เมื่อกี้เขาบอกว่ามาส่งเอกสารแทนท่านเฮอร์มีสไม่ใช่หรอ ทำไมเราถึงไม่ถามเขาเรื่องนั้นก่อนที่จะลงโทษเขาล่ะ" เซฮุนหันไปถลึงตาใส่ ก่อนที่คริสจะส่งสายตาว่าให้ช่างมัน เทพเจ้าชักสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยก่อนจะยอมถาม



"เจ้าลงมาส่งอะไร" เซฮุนรีบคว้าจดหมายขึ้นมาให้ดู


"สารลับจากโอลิมปัสส่งตรงมาให้กับนางเงือกครับ!"



"ห๊ะ!? ฉันหรอ???" ร่างโปร่งชี้ตัวเองด้วยความประหลาดใจ เซฮุนพยักหน้าให้พร้อมกับยื่นจดหมายสีขาวที่ขลิบทองที่จ่าด้านหน้าว่า



สารลับจากโอลิมปัส ถึงชานยอล บุตรแห่งโพไซดอน


โปรดอ่านด้วยความระมัดระวัง และจงเก็บเรื่องนี้เป็นความลับที่สุด



"ฉัน ว่ามันไม่ลับแล้วล่ะ.." ชานยอลพึมพำเสียงเบาเมื่อตอนนี้ทุกสายตากำลังจับจ้องมาที่เขาอย่างรอคำตอบ ร่างโปร่งลอบกลืนน้ำลาย ก่อนจะดึงเนื้อในจดหมายขึ้นมาอ่าน


ณ วันวสันตวิษุวัตนี้ ข้า มหาเทพซุส มีความประสงค์อยากให้เจ้าขึ้นมาประชุมเหล่า12มนุษย์กึ่งเทพแห่งโอลิมปัส ในนามของโพไซดอน บิดาของเจ้า ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าจะมาเข้าร่วมประชุมครั้งนี้...


ซุส



"ประชุม มนุษย์กึ่งเทพ..." คริสรำพึงอย่างสนเท่ห์ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเห็นซุสเรียกประชุมอะไรแบบนี้มาก่อน ถ้าอย่างนั้นแล้ว การประชุมครั้งนี้จะจัดขึ้นเพื่ออะไรกันล่ะ นี่เทพองค์นั้นกำลังวางแผนอะไรอยู่รึเปล่า



"อีกไม่กี่นาทีการประชุมก็จะเริ่มแล้ว....เซฮุน นายได้รับคำเชิญด้วยรึเปล่า"ชานยอลหันไปถาม เซฮุนชูการ์ดให้ดู



"แบบนี้ก็เหมือนประชุม12สายเลือดแห่งโอลิมปัสงั้นสิ"



"ฉันว่านายควรรีบไปได้แล้ว ดูนี่สิ" คริสชี้ไปที่ข้อความตัวเล็กๆที่เขียนอยู่ริมสุดของกระดาษ



ประตูแห่งโอลิมปัสจะเปิดเพียงเวลา 12.00-12.05 เท่านั้น หากผู้ใดมาไม่ทัน จะไม่มีการเปิดประตูให้อีกเด็ดขาด



"ตอนนี้เที่ยงสองนาทีแล้ว!!!" ร่างโปร่งโวยวาย ก่อนจะหันไปคว้าแขนเซฮุนไว้



"งั้นเราก็ต้องรีบไปกันแล้ว ถ้าไปไม่ทันล่ะก็มีหวังซุสได้ฆ่าเราตายแน่!!!"



"โอ๊ย เดี๋ยวๆ ผมยังส่งจดหมายไม่เสร็จ!" เซฮุนร้องบอกพร้อมกับรั้งแขนอีกคนไว้



"ยังมีคนในนรกที่ผมต้องส่งจดหมายให้อีก" เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับค้นหาจดหมายในกระเป๋า



"ใคร.."ชานยอลถามอย่างฉงน ในขณะที่ทุกคนก็หันมามองอย่างสนใจ



"นี่ไง!!!" เด็กหนุ่มร้องอย่างดีใจพร้อมกับหยิบจดหมายขึ้นมา



"โย ดา และโยฟาน สองคนนี้ก็ได้บัตรเชิญด้วยเหมือนกัน" ทุกสายตาหันไปมองเด็กน้อยทั้งสองคนที่ยืนอยู่ท้ายสุดของกลุ่ม คู่แฝดมองกลับมาด้วยความงงงวย



"หนูต้องไปด้วยหรอคะ" โยดาเอ่ยถาม เซฮุนเบิกตากว้างราวกับเพิ่งรู้การมีอยู่ของพวกเขาเป็นครั้งแรก



"โอ้!! พวกเธออยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร นี่แขกของโอลิมปัสคือพวกเธอสองคนหรอกหรอ!!!"



"ประชุมคืออะไรหรอครับคุณป่าป๊า" โยฟานหันไปถามคริส เซฮุนยิ่งตาโตเข้าไปใหญ่



"ป่าป๊า ป่าป๊า ป่าป๊า พวกพี่สองคน....."เด็กหนุ่มชี้นิ้วสลับไปมาระหว่างคริสกับชานยอล ร่างโปร่งรีบดึงน้องตัวเองมากระซิบข้างหู



"เดี๋ยว ฉันจะเล่าให้ฟังทีหลัง เอาจดหมายนั่นมาสักที!!!" เซฮุนยื่นจดหมายให้ทั้งๆที่ตายังคงจับจ้องไปที่เด็กน้อยทั้งสองคน ชานยอลคว้ามาก่อนจะเปิดอ่าน



ณ วันวสันตวิษุวัตนี้ ข้า มหาเทพซุส มีความประสงค์อยากให้เจ้าขึ้นมาประชุมเหล่า12มนุษย์กึ่งเทพแห่งโอลิมปัส ในนามของเฮรา ผู้สร้างเจ้าขึ้นมา ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าจะมาเข้าร่วมประชุมครั้งนี้...


ซุส



"เฮ รา!!!" ชานยอลอุทานอยากแปลกใจ เฮรา เทพเจ้าผู้ประทานเด็กทั้งสองคนนี้ให้เขาน่ะหรอ แล้วนี่การประชุมนี้มันสำคัญถึงขั้นต้องเขาครบทั้งสิบสองสายเลือดจากเทพเลย หรอ แล้วทำไมลูกเขาถึงต้องไป หรือจะเป็นเพราะว่าเฮราไม่มีลูกกับใครนอกจากซุส แล้วกึ่งเทพที่มีสายใยร่วมกับเธอก็มีแค่โยดากับโยฟาน ถ้าอย่างนั้นอธีน่ากับอะทีมิสที่ถือครองพรหมจันทร์ และดีมิเทอร์ที่ไม่มีลูกที่เป็นมนุษย์กึ่งเทพก็คงจะทำแบบนี้ด้วยเหมือนกัน พวกเขาอาจส่งสายเลือดที่ไม่ใช่สายตรงเข้า



ประชุมแทน...


"ข้า ว่าเจ้าหยุดตกใจแล้วควรจะรีบไปไม่ดีกว่าหรือ....เหลือเวลาอีกหนึ่งนาทีเท่า นั้นก่อนที่ประตูจะปิด" เสียงทรงพลังของเทพเจ้าเอ่ยเตือน ชานยอลรีบตาลีตาลานจูงมือลูกๆ ก่อนจะบอกให้เซฮุนรีบพาพวกเขาไปที่งานประชุมอย่างเร็วที่สุด


"พี่ จะต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังด้วย!!" เด็กหนุ่มบอกพร้อมกับมองเด็กน้อยทั้งสองด้วยสายตาที่เหมือนเซลล์ขายประกัน ที่กำลังเจอเหยื่อ ก่อนที่ชานยอลจะกลอกตาไปมาแล้วรับปากกับอีกฝ่าย



"ก็ ได้" แล้วทั้งสองก็หายวับไปในพริบตา เมื่อรองเท้าติดปีกของเซฮุนเริ่มออกบิน คริสมองขนนกสีขาวปลอดที่ปลิวอยู่ในอากาศเบื้องหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนที่ฮาเดสจะพูดขึ้น


"เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้"



"ซุสคงไม่เรียกประชุมด้วยเรื่องธรรมดาแน่ นั่นน่าจะสำคัญมากทีเดียว..."



"นั่นอาจเป็นข้อสันนิษฐานของเจ้า แต่เจ้าจะคิดไปพิสูจน์ความจริงบนนั้นไม่ได้ ความ ตายไม่เป็นที่ต้อนรับบนสรวงสววรค์" เทพเจ้าพูดก่อนจะหายวับไปพร้อมกับซากความวุ่นวายที่เซฮุนก่อไว้ คริสมองไปที่เบื้องหน้าด้วยสายที่ยากจะอ่านออก ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นเบาๆ...



"แต่ผมไม่เคยสนใจสวรรค์ซะด้วยสิ" เขาพูดก่อนที่จะหายไปจากตรงนั้น...





-------------------------------




"สรุป พวกพี่ได้เด็กสองคนนี้มาได้ยังไง แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณป้าจอมขี้หึงนั่นด้วย"เซฮุนถามในขณะที่ทั้งกลุ่มมาถึง โอลิมปัสเรียบร้อยแล้ว ดวงตาเด็กหนุ่มมองเด็กน้อยทั้งสองคนที่กำลังตื่นตาตื่นใจกับความอัศจรรย์ของ พระราชวังต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปตามเจ้าของของมันด้วยแววตาสนอกสนใจ ชานยอลอยากจะลบความทรงจำของเด็กคนนี้จริงๆ เซฮุนเป็นสุดยอดเด็กเกเรและทำตัวพิสดารที่สุดในศตวรรษ นี่ถ้าเขาให้เจ้าตัวป่วนนี่มารู้จักลูกเขาเยอะกว่านี้แล้วล่ะก็....



หึ๋ย!! ไม่อยากจะคิด ต้องพากันไปทำอะไรเสี่ยงอันตรายแน่ๆ!!!



"สัญญาก่อนได้มั้ยว่านายจะไม่ชวนลูกพี่ไปทำอะไรเสี่ยงอันตราย"



"แน่นอนว่างานถนัด"



"โอเซฮุน.." ชานยอลมองตาเขียวปั๊ด เด็กหนุ่มทำหน้าเหรอหราก่อนจะตอบรับ



"ได้เลย ผมไม่ทำอะไรอย่างนั้นแน่นอน คราวนี้นางเงือกจะบอกผมได้รึยังอะ" ร่างโปร่งพรูลมหายใจก่อนจะตอบ



"คือว่าพี่ไปขอ..."



"เซฮุน! ชานยอล!!" เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กๆของผู้ชายหน้าหวานคนหนึ่งที่กำลังโบกมือมาให้พวกเขาจากอีกฝั่งหนึ่ง



"ลู่ หาน!" ร่างโปร่งยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ลู่หานส่งยิ้มตอบกลับมาก่อนจะเตรียมพูดอะไรบาง แต่แล้วเสียงเล็กๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นขัดเสียก่อน



"ใคร หรอครับ คุณหม่าม๊า" ลู่หานที่เดินเข้ามาพอดีถึงกับเบิกตากว้าง ปากเล็กอ้าปากพะงาบๆ ก่อนจะชี้โยฟานตัวน้อยสลับไปมากับชานยอลด้วยความงุนงง



"หม่า ม๊า!? หม่า ม๊า??? นี่นายไปแอบมีลูกตั้งแต่เมื่อไรเนี่ยชานยอล!!!" เซฮุนหัวเราะชอบใจใหญ่ก่อนจะพูดขึ้นด้วยท่าทางอารมณ์ดีเกินเหตุ



"ผม ว่าเรามีคนอยากฟังเรื่องของนางเงือกเพิ่มขึ้นแล้วล่ะ" ชานยอลแยกเขี้ยวใส่ ก่อนจะหันกลับมาเจอสายตารอคำตอบจากลู่หาน ร่างโปร่งพรูลมหายใจก่อนจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ทุกคนฟัง...




---------------------------



"ห๊ะ!!! นี่เฮราประทานเด็กสองคนนี้ให้กับนายเองเลยหรอ โอลิมปัสจะต้องตะลึงแหงๆ" ลู่หานอุทานด้วยความตกใจเมื่อได้ฟังเรื่องทุกอย่างจบ ชานยอลพยักหน้ารับก่อนจะหันไปจูงมือลูกข้ามประตูแห่งโอลิมปัสเพื่อเข้าไป ด้านใน



"เดี๋ยวนี้เทพองค์นั้นนิสัยดีขึ้นแล้วหรอเนี่ย ปกติมีแต่เหวี่ยงๆ แล้วก็เหวี่ยง"ร่างเล็กยังคงบ่นกระปอดกระแปด



"เหมือนใครก็ไม่รู้เนอะ"เซฮุนพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง ลู่หานหันไปค้อนขวับ ก่อนจะหันกลับมาสนใจเด็กน้อยทั้งสองต่อ



"โยดาควบคุมความตายได้เหมือนพ่อ โยฟานควบคุมน้ำได้เหมือนแม่ โห งั้นอย่างนี้ก็เป็นสุดยอดคู่แฝดเลยงั้นสิ!"



เป๊าะ!!!


เซฮุนดีดนิ้ว



"คู่ แฝดมหาประลัย!!! ขอบคุณนะช่างเสริมสวยที่ทำให้ผมคิดออก!! นางเงือก!! สนใจมั้ย! ผมขายคอสสอนลูกให้กลายเป็นอาชญากรได้ภายในสามวันกับผม โอเซฮุนพระราชาแห่งเด็กเกเรและคนจรจัด ซื้อคอสวันนี้ผมลดให้50%เลย ถือซะว่าคนเก่งเอง" เด็กหนุ่มส่งยิ้มการค้าพร้อมกับชูเลขห้าขึ้นมา ชานยอลถลึงตาใส่พร้อมกับแยกเขี้ยวให้ จะบ้าหรอ ให้ลูกเขาไปเป็นอาชญากรกับตาโอเซฮุน สุดยอดแห่งความป่วนของโอลิมปัสเนี่ยนะ จ้างให้เขาก็ไม่เอาหรอก!!!



"เอาไปเสนอขายคนอื่นเลยไป!"



"โถ่ นางเงือก นี่คอสที่เด็กทุกคนต่างใฝ่หานะ" ร่างโปร่งอยากจะกุมขมับ เด็กทุกคนที่เซฮุนว่านี่มีแต่เขาคนเดียวรึเปล่าน่ะ



"ใครจะอยากเรียนกับนายห๊ะ โอเซฮุน ตาสมองเฟื่อง!!!" ลู่หานแหวใส่ เด็กหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความงุนงง



"มันออกจะดีนะ มีแต่เรื่องสนุกๆ" ชานยอลกับลู่หานสบตาพร้อมกับก่อนจะพรูลมหายใจ



"ฉัน ว่าเราเข้าไปข้างในกันเถอะ" ร่างโปร่งออกความเห็นขณะที่พวกเขามาถึงหน้าประตูห้องประชุม ประตูสีมุกขนาดใหญ่ สูงเกือบสิบฟุตตั้งตะหง่านอยู่ตรงหน้า ที่บานประตูถูกแกะสลักเป็นรูปเสมือนจริงของเหล่าเทพโอลิมเปี่ยนทั้ง12องค์ เด็กน้อยทั้งสองแหงนหน้ามองอย่างตกตะลึ่ง ก่อนที่จู่ๆบานประตูจะถูกเปิดออกมาจากด้านใน



"โอ๊ะ!!! นี่คงจะเป็นท่านชานยอล บุตรแห่งโพไซดอน ท่านเซฮุน บุตรแห่งเฮอร์มีส ท่านลู่หาน บุตรแห่งอะโฟร์ไดท์ และสุดท้าย..." ชายคนนั้นเว้นช่วงพร้อมกับก้มมองเด็กน้อยทั้งสองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความ เครียด



"ท่าน โยดาและโยฟาน ตัวแทนมนุษย์กึ่งเทพจากท่านเฮรา....ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การประชุม ครับ ตอนนี้ทุกคนกำลังรอพวกท่านอยู่.." เขาบอกพร้อมกับเปิดประตูออกให้ ชานยอลแทบกลั้นหายใจกับภาพที่เห็น เขาเคยมาเข้าร่วมการประชุมที่ยิ่งใหญ่มาแล้วมากมาย ทั้งวันครีษมายัน และวันเหมายัน แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป การจัดที่นั่งเป็นไปตามสัญญลักษณ์ตัวโอเมก้าของกรีก โดยมีซุสนั่งอยู่ระหว่างช่องว่างของตัวโอม และแม้บังลังก์ทั้งสิบสองที่รายล้อมเขาจะไม่ยิ่งใหญ่และอลังการเท่า แต่คนที่นั่งอยู่บนบัลลังค์นั้นล้วนแล้วแต่เป็นมนุษย์กึ่งเทพคนดังทั้งสิ้น ทั้งรุ่นพี่ซีวอน รุ่นพี่ที่เขารู้จักกำลังนั่งอยู่บนบังลังก์แห่งสายฟ้า ทุกอย่างก่อขึ้นมาจากเมฆพายุ และประกายจากสายฟ้า กลิ่นไอโอโซนคลุ้งไปทั่วห้อง ถัดออกไปอีกสามสี่บัลลังก์คือรุ่นพี่ฮีซอล บุตรแห่งเอรีส บัลลังก์นั้นถูกประกอบขึ้นมาจากศาสตราวุธ และป้ายด้วยเลือดนักรบสีแดงฉาน ในขณะที่บัลลังก์ ที่อยู่เยื้องกันกลับเรียบง่ายกว่านั้น ทุกอย่างถูกสรรค์สร้างและบรรจงขึ้นมาจากต้นข้าว และพืชพันธ์ต่างๆ กลิ่นหอมของต้นไม้โชยมาอ่อนๆ เด็กผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือดีโอ บุตรแห่งเพอร์ซิโฟเน ราชนัดดาแห่งดีมิเทอร์



"ดีใจ ที่ได้เจอกันอีกครั้งนะ" เด็กหนุ่มส่งยิ้มอ่อนๆที่ดูอ่อนโยนมาให้ชานยอล ร่างโปร่งยิ้มตอบกลับไป ก่อนจะเดินตรงไปที่บัลลังก์ของตัวเองเมื่อกึ่งเทพคนอื่นๆเริ่มมองเขาอย่าง ตำหนิแล้ว แต่แล้วเขาก็ต้องแปลกใจ เมื่อบัลลังก์นั้นกลับกลายเป็นเก้าอี้ธรรมดา ร่างโปร่งเหลือบไปมองโยดากับโยฟาน และเซฮุนกับลู่หาน ของพวกเขาก็เป็นเหมือนกัน แต่ทว่าซีวอนกลับส่งสายตาพร้อมพยักหน้าให้เขานั่งลง



ร่างโปร่งหันกลับมามองเก้าอี้ไม้อย่างลังเล ก่อนที่เขาจะค่อยๆนั่งลงช้าๆ ฉับพลันนั้นเสียงคลื่นทะเลก็ดังกึกก้องกัมปนาทราวกับมีท้องทะเลอยู่ที่นี่ เก้าอี้ไม้กลายเป็นบัลลังก์ที่ก่อขึ้นมาจากน้ำทะเล โดยมีพนักเป็นรูปคล้ายตรีศูลขนาดมหึมา ร่างโปร่งหันกลับไปมองเซฮุนกับลู่หาน ของพวกเขาเองก็เหมือนกัน ของเซฮุนเป็นขนนกที่ด้านหลังตีตรารูปคาดีซุส ในขณะที่ของลู่หานเป็นบังลังก์แก้วที่แกะสลักด้วยรวดรายวิจิตงดงาม มีเพียงบังลังก์เดียวที่ยังคงเป็นเก้าอี้ไม้อยู่ตอนนี้คือ.......ของเฮรา



"มัน คือการทดสอบคุณสมบัติ....ถ้าเจ้ามีสายเลือดแห่งโอลิมปัสมากพอ พวกเจ้าถึงจะได้เข้ารวมการประชุมนี้..." ซุสพูดขึ้นด้วยเสียงราบเรียบ ทว่าดวงตาทรงพลังคู่นั้นกลับมองไปทีโยดาและโยหานราวกับกำลังคาดหวังอะไร บางอย่าง ร่างโปร่งกำมือแน่นอย่างประหม่า โยดากับโยฟานไม่ใช่กึ่งเทพธรรมดา เขาเกิดจากการรวมเลือดเนื้อของพ่อกับแม่ และหากจะพูดกันตามตรงแล้ว เฮราไม่ใช่ผู้ให้กำเนิดพวกเขาโดยตรง แล้วถ้าอย่างนั้นแล้ว....บังลังก์ของทั้งสองจะเป็นอย่างไร...



"นั่ง ลงสิ กึ่งเทพจากเฮรา" มหาเทพเร่ง เด็กน้อยทั้งสองสบตาผู้เป็นแม่อย่างไม่มั่นใจนัก ชานยอลพยักหน้าให้กำลังใจทั้งๆที่ตัวเขาก็ไม่ได้มั่นใจอะไรนัก ก่อนที่คู่แฝดจะค่อยๆก้าวเดินไปยังบัลลังก์แล้วนั่งลงช้าๆ...




ไม่เกิดอะไรขึ้น...




ทุก สายตาต่างจ้องมองไปที่เด็กทั้งสอง เกิดความตื่นตระหนกกันภายในที่ประชุม บ้างถกเถียงว่าเขาต้องไม่ใช่สายเลือดโอลิมปัสตัวจริงๆแน่ บ้างบอกว่านี่ต้องเป็นเรื่องตลกของเฮรา



"คุณแม่..." โยดาเรียกแม่ด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว เด็กน้อยวัยเพียงห้าขวบไม่เคยพบเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อนในชีวิต



"นี่มันคือการเล่นตลกรึเปล่า พวกเขาใช่สายเลือดจากโอลิมปัสจริงๆหรอ!!" เสียงกึ่งเทพจากอะพอลโลพูดขึ้น เด็กน้อยทั้งสองหันไปคว้ามือกัน


"นั่นสิ ได้ข่าวว่าพวกเขาไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติไม่ใช่หรอ"



"แล้ว ยังไง! เขาก็ได้รับจดหมายเชิญ ทำแบบนี้เท่ากับไม่เชื่อใจในสายตาของท่านซุสสินะ" ชานยอลลุกขึ้นมาปกป้องลูก ก่อนที่อีกเสียงหนึ่งจะดังขึ้น


"หรือเพราะครึ่งหนึ่งของพวกเขาคือความตายอันต่ำช้าของคริสคนนั้นกันล่ะ..." กึ่งเทพจากอะทีมิสพูดขึ้น



"ห้าม ว่าพ่อหนูนะ!!!" ทั้งสองเถียงกลับด้วยความโมโห ฉับพลันนั้นเสียงแผ่นดินสั่นไหว ท้องทะเลคลั่งแค้นก็ดังเขย่าที่ประชุมให้สั่นสะท้าน ลำแสงสีดำที่ถูกล้อมด้วยสายน้ำผ่าลงที่หน้าบัลลังก์ของคนที่ว่าพวกเขาโดย เฉ๊ยดร่างไปแค่ไม่กี่มิลลิเมตร เก้าอี้ไม้พลันส่งเสียงลั่นเปี๊ยะๆ ก่อนที่พวกมันจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆเมื่อโครงกระดูกและสายน้ำพุ่งทะยานขึ้นจาก พื้นดิน แล้วสอดประสานเรียงตัวกันเป็นบัลลังก์ขนาดมหึมา ก่อนที่สัญลักษณ์แห่งฮาเดส คฑาสองง่าม และตรีศูลแห่งโพไซดอนจะตีตราไขว้กันอยู่บนพนักบัลลังก์โดยมีสัญลักษณ์แห่งเฮ รา นกยูงรำแพงหางจะตะประทับอยู่ตรงกลาง



ทั้งที่ประชุมต่างตกอยู่ในคความเงียบ ทุกสายตาจับจ้องไปที่บังลังก์นั้นด้วยความพรั่นพรึง ไม่ใช่เพราะมันสอดประสานระหว่างสองพลัง ไม่ใช่เพราะตราสัญลักษณ์ถึงสามตราที่ประทับอยู่บนนั้น แต่เป็นเพราะ..บัลลังก์ของทั้งคู่มีขนาดเกือบเทียบเท่าของซุส ทั้งๆที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้...



"ยัง มีใครสงสัยในคุณสมบัติของเด็กทั้งสองหรือไม่" ซุสถามขึ้นกลางที่ประชุม ทุกคนต่างเงียบกริบ ชานยอลหันไปยิ้มให้ลูกๆ ซีวอน ฮีซอล และลู่หานลอบยิ้มอย่างโล่งอก ในขณะที่เซฮุนยกนิ้วโป้งให้อย่างไม่สนใจสายตาคนอื่น



"ฮิฮิ เราโดนชม" โยฟานกับโยดาหัวเราะคิกคัก ก่อนที่เทพเจ้าจะกระแอมเบาๆ



"ตอน นี้ก็ถึงเวลาที่พวกเราจะเริ่มการประชุมเสียที วันนี้ข้ามีเรื่องที่อยากให้ทุกคนลงมติกันก็คือ...."เทพเจ้าเว้นช่วง สายตาคมกวาดตามองผู้เข้าร่วมประชุมว่าทุกคนยังคงสนใจดีอยู่มั้ย



"โอลิมปัสจะเปิดโรงเรียนสำหรับสอนมนุษย์กึ่งเทพโดยเฉพาะ.." ที่ ประชุมต่างส่งเสียงฮือฮา การจะเปิดโรงเรียนสำหรับมนุษย์กึ่งเทพโดยเฉพาะไม่ใช่เรื่องง่าย การทำอย่างนั้นอาจเป็นไปได้ทั้งในทางที่ดี และร้ายก็ได้ เพราะถ้าหากทุกคนเข้ากันได้ดี ความสัมพันธ์ระหว่างกึ่งเทพย่อมดีตามไปด้วย แต่ถ้าหากเกิดความร้าวฉานนั้นอาจหมายถึงความวุ่นวายชนิดที่ควบคุมไม่อยู่อาจ จะเกิดขึ้นเช่นกัน



"ทำไมท่านถึงได้อยากจัดตั้งมันขึ้นมาล่ะครับ" กึ่งเทพคนหนึ่งเอ่ยถาม



"แล้วจะ มีประโยชน์อะไรที่พวกเจ้าจะอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย การมารวมกันเป็นหนึ่งจะสร้างความสามัคคีให้แก่พวกเจ้านอกจากนี้พวกเจ้าจะได้ เข้ารับการศึกษาทุกศาสตร์ที่พวกเจ้าควรจะรู้เกี่ยวกับโอลิมปัส"



"แต่เราก็รู้เรื่องนั้นกันดีอยู่แล้วไม่ใช่หรอคะ" กึ่งเทพจากอะทีมิสเอ่ยขึ้น



"ถ้าอย่างนั้นสัตว์ที่เจ้าเพิ่งล่าได้มาเมื่อคืนมีชื่อว่าอะไร" เธอเลิกลั่ก ก่อนจะตอบไปอย่างตะกุกตะกัก



"ลิวโลคอตตา"



"ไม่ใช่ นั่นมันนีเมียนต่างหาก" เทพเจ้าตอบกลับ เด็กคนนั้นหน้าเสีย ในขณะที่กลุ่มของชานยอลกลับยิ้มขำ



"พวก เจ้าคงเห็นความสำคัญของมันแล้ว พวกเจ้ามีความเห็นกันว่าอย่างไรบ้าง" ทุกคนหันไปมองว่าจะมีใคครเสนอความคิดเห็นขึ้นมามั้ย ก่อนที่ฮีซอลจะยกมือขึ้น



"ถ้าจัดขึ้นจริง แล้วใครจะมาสอนพวกเรา"ซุสพยักหน้าอย่างพึงพอใจ



"ถามได้ดี เหล่าเทพเจ้าชั้นรองลงมา พวกเขายินดีที่จะสอนให้พวกเจ้า" ดีโอยกมือขึ้น



"สถานที่ล่ะครับ เราจะเรียนกันที่ไหนหรอ"


"เรา จะเรียนกันที่สวนเอสเพอร์ริเดส ที่นั้นกว้างพอสำหรับพวกเจ้า" ที่ประชุมกลับมาฮือฮากันอีกครั้ง สวนเอสเพอริเดส หรือสวนแอปเปิ้ลทองคำ เป็นสวนที่เฮร่าหวงมากถึงขนาดต้องมีนางฟ้าและมังกรคอยเฝ้า ถ้าซุสขอที่นั้นมาใช้ได้จริง แสดงว่างานนี้แม้แต่เฮร่าก็คงจะเห็นด้วย



"มีใครสงสัยอะไรอีกไหม สามารถถามข้าได้" เทพเจ้าเอ่ยขึ้น พร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนที่ชานยอลจะยกมือขึ้น



"แล้วถ้าไม่ใช่กึ่งเทพที่เกิดจากสิบสองเทพโอลิมปัส พวกเขาจะยังเข้าเรียนได้อยู่มั้ยครับ" เทพเจ้าแย้มยิ้มก่อนจะเอ่ยตอบ



"แน่ นอนว่าย่อมได้ มีใครจะถามอะไรอีกไหม ถ้าไม่ ข้าจะให้เริ่มลงมติกันได้แล้ว" ที่ประชุมตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีใครเอ่ยถามอะไรอีก เด็กน้อยทั้งสองผู้ยังไม่ประสรประสาในชีวิต ไม่คิดว่าการก่อตั้งโรงเรียนครั้งนี้จะส่งผลอะไรมากนัก พวกเขาแค่คิดว่ามีที่ให้เล่นใหม่ มีที่ให้วิ่งซนเล่นเพิ่ม เช่นเดียวกับชานยอลที่ขอให้มีคริสอยู่ด้วยเขาก็อุ่นใจแล้ว ส่วนลู่หานก็ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรมากนัก จะอยู่ที่ไหน เขาก็เรียนได้อยู่ดี ในขณะที่เซฮุนกลับกำลังขบคิดว่า เขาจะใช้วิธีไหนโดดเรียนในโรงเรียนที่ปกครองด้วยเทพแล้วไม่โดนจับได้ดี...



"ถ้าไม่มี..."



วูมมมมมม



จู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ชานยอลหันขวับไปตามเสียง หมอกควันสีเขียวพุ่งมาจากทุกทิศทาง กลิ่นหอมเอี่ยนๆลอยคละคลุ้งไปทั่ว อะไรบางอย่างกำลังคลืบคลานเข้ามา ร่างโปร่งเตรียมตั้งรับพร้อมกับหันไปร้องบอกลูกๆให้ระวัง



"โยดา โยฟาน!!!" เขาตะโกนสุดเสียง แต่กลับไม่มีใครตอบกลับมา ชานยอลหันกลับไปหาด้วยด้วยความฉงน



"ไม่ มีใครได้ยินเจ้าหรอก" ซากศพหญิงชราคนหนึ่งพูดกับเขาในระยะประชิด ควันสีเขียวพ่วงพุ่งมาจากปากของเธอ ชานยอลผละถอยหลังจนติดผนักบัลลังก์



"เดลฟี่.."



"ข้า มีเวลาไม่มากนัก จงฟังคำของข้าให้ดี" เสียงนั้นตอบกลับมาด้วยเสียงแหบแห้ง ดวงตาที่เรืองแววด้วยแสงสีเขียวของเธอเหมือนกำลังเหลือบมองอะไรบางอย่างอยู่ เป็นระยะ แต่ไม่ว่านั่นคืออะไรมันต้องไม่ใช่สิ่งดีแน่ เพราะในโลกนี้แทบไม่มีสิ่งใดทำให้จิตวิญญาณดวงนี้หวาดกลัวได้ เดลฟี่ค่อยๆพรั่งพรูคำพยากรณ์บทใหม่ให้เขาฟังอย่างรีบร้อน



"ทวย เทพจะพลิกผัน ศัตรูจากน่านฟ้า สองกึ่งเทพต้องร่วมมือ สวรรค์กำหนดชะตา สู่สันติสุขหรือสงคราม อำนาจอยู่ในมือเด็กทั้งสอง โอลิมปัสจักถึงคราวพินาศ" ชานยอลมองเดลฟี่ค้าง คอของเขาแห้งพราก สมองเหมือนถูกหยุดนิ่งด้วยคำพูด เด็กทั้งสอง.. โยดาโยฟาน จะเกิดอะไรขึ้นกับลูกๆของพวกเขา จะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของเขา แล้วสงครามนั้นคืออะไร แล้วโอลิมปัสจักถึงคราวพินาศคืออะไร..



"สง สง สงคราม.."เดลฟี่พุ่งเข้ามาหา



"จง หนีไปซะ โอลิมปัสจักไม่ปลอดภัยกับพวกเจ้าอีกต่อไป" คำเตือนของเดลฟี่สั่นพร่าเหมือนเสียงโทรทัศน์ถูกคลื่นแทรก จิตวิญญาณค่อยๆบิดเบี้ยว คำเตือนสุดท้ายของเธอดังขึ้นก่อนที่เธอจะหายไป



"จงหนีไปซะ..."



"มี อะไรรึเปล่าชานยอล เหลือเจ้าคนเดียวที่ยังไม่ได้ลงคะแนน" เสียงซุสดังขึ้นพร้อมกับทุกอย่างที่กลับคืนสู่ปกติ ชานยอลนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น สติของเขาเหมือนถูกถ่วงอยู่ในมหาสมุทรที่เย็นเยียบ ร่างกายเหมือนที่ไฟช็อตให้แข็งทื่อ สมองของเขาค่อยๆประมวลอย่างช้าๆ ก่อนที่เขาจะหันไปมองลูกๆ



ลูกๆของเขายังอยู่ดี


แต่หัวใจของเขากลับเต้นรัว ที่นี่จะไม่ปลอดภัยอีกแล้ว



"ชาน ยอล..เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า" ซุสถามย้ำอีกครั้ง ร่างโปร่งกระพริบตาถี่ๆ ก่อนที่เขาจะหันไปมองดูคะแนนเสียงที่อยู่บนกระดานสีทองที่ตั้งอยู่กลางห้อง



เห็นด้วย 5


ไม่เห็นด้วย 5


ไม่ออกเสียง 1


เหลือเสียงสุดท้ายสำหรับการตัดสิน ร่างโปร่งกำมือแน่น เสียงอะไรบางอย่างกำลังกระซิบเตือนเขาอยู่ในใจ จงอย่าเห็นด้วย จงอย่าเห็นด้วย



"ชานยอล.."



"ผม ไม่เห็นด้วยครับ" ร่างโปร่งพูดออกมาในที่สุด เกิดเสียงครางอย่างเสียดายจากพวกที่เห็นด้วยในขณะที่อีกกลุ่มกลับยิ้มด้วย ความยินดี แต่ไม่ว่าจะอย่างไรชานยอลกลับมีอีกความรู้สึกที่เข้ามาแทรกแทรงเขา...



"งั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นโครงการนี้ก็คงต้องยกเลิกไป" ซุสยืดตัวพูดขึ้นด้วยความสุขุม



"เอา ล่ะ ถ้าเป็นอย่างนี้เราก็คงต้องปิดการประชุมแล้ว ขอบคุณพวกเจ้าที่มาเข้าร่วม"เทพเจ้าแย้มยิ้ม เหล่ามนุษย์กึ่งเทพทั้งหมดโค้งคำนับให้ก่อนที่พวกเขาจะแยกย้ายกันกลับ ชานยอลรีบพาลูกๆกลับไปหาคริสอย่างเร็วที่สุด เขามีเรื่องต้องบอก เขามีเรื่องต้องไปเตือนคิด


"กลับเร็วอีกตามเคย"ซีวอนบ่นอย่างไม่จริงจังนักขณะที่มองรุ่นน้องกำลังกลับ



"ซีวอน.."ซุสเรียกเขาด้วยน้ำเสียงยากที่จะเดาอารมณ์ผู้พูด ร่างสูงสง่าหันกลับไปหาบิดาของตน



"อยู่คุยกับข้าสักประเดี๋ยวสิ ข้ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเจ้า" เทพเจ้าออกเดินนำเขาไป ซีวอนหันมามองฮีซอลเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเดินตามไป

http://0ctogus.forumth.com

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ