0ctogus
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
0ctogus

0ctogus


You are not connected. Please login or register

สถานีบำบัดคนบ้า ตอนที่20

+4
YRAUNAJ_YEOL
Sky_fff
watershadow
0ctogus
8 posters

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

0ctogus

0ctogus
Admin

“ชานยอลจำผมได้แล้ว!?” ผมอุทาน เมื่อแม่ของชานยอลโทรมาบอกข่าวว่าเจ้าตัวแสบจำผมได้แล้ว


“ค่ะ คุณหมอ นี่ชานยอลไม่ได้บอกหรอค่ะ  ใช่ไม่ได้เลย เด็กคนนี้นี่”


“แล้วจำได้เมื่อไรครับ”



“พอซักว่ารู้ตั้งแต่เมื่อไร ก็ไม่ยอมบอก แล้ววิ่งขึ้นบ้านไปเลย”



“หรอครับ  แต่ยังไงเขาก็จำผมได้แล้ว” ผมพูดอย่างอารมณ์ดี พลางหักเลี้ยวพวงมาลัยไปตามเส้นทาง


“ค่ะ ฉันรีบมาบอก ไม่อยากให้คุณกังวลเรื่องชานยอล แล้วนี่เมื่อคืนเขาไม่ได้ก่อปัญหาให้คุณใช่มั้ยคะ”


“เรื่องกวนใจนี่คงไม่หรอกครับ แต่เรื่องกวนร่างกายนี่อาจใช่”ผมพูดยิ้มๆ  ก็จริงมั้ยล่ะ ก็ไม่ได้เป็นปัญหาทางใจอะไร แต่เป็นปัญหา..............ทางกาย


“ตายจริง! ไหนว่าเป็นเด็กดี  คงจะไปซนจนคุณหมอเจ็บตัวใช่มั้ยคะ ขอโทษแทนลูกดิฉันด้วยนะคะ”


“ไม่เป็นไรครับ” ผมพูดก่อนจะจอดรถที่ลานจอด  แล้วก้าวลงมาจากรถ “คุณแม่ครับ วันนี้ชานยอลอยู่บ้านทั้งวันมั้ย”


“ใช่ค่ะ”


“หรอครับ  โอเคครับ  เดี๋ยวผมต้องวางสายก่อนนะครับ  ไว้เดี๋ยวผมจะแวะไปเยี่ยมที่บ้านนะครับ คุณแม่” คุณแม่ตอบกลับมาสั้นๆ ก่อนจะวางสายไป  ผมเดินยิ้มหน้าบานเข้าบ้าน พลางคิดถึงข่าวที่เพิ่งรู้มา



ชานยอลจำคุณหมอได้แล้วนะคะ!!!


ถ้าจำได้ แล้วทำไมไม่บอกละ...


งานนี้มันน่าเอาขืนซะให้เข็ด!!!




“เควิน”


“แม่ครับ  ธุระวันนี้ ผมขอเลื่อนได้มั้ยครับ พอดีผมมีเรื่องด่วนต้องไปทำ”



“ลูกจะไปทำอะไร ” ผมเว้นวรรคการสนทนาไปชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มออกมา แล้วหันไปตอบ


“ไปแกล้งคนครับ”






----------------------------------------------







“ย๊า!!!!   ม๊า!!  ม๊าไปบอกเขาทำไมอ้ะ!!!”  



“อ้าว  เราจำเขาได้ เราก็ควรจะบอกเขาไม่ใช่หรอ จะปล่อยให้เขาเครียดทำไมล่ะ”


“โหย แต่ม๊า  โหย............ผมยังไม่ได้เตรียมใจก่อนเลยนะ” ผมกระแทกก้นนั่งกับโซฟาอย่างคนจนปัญญา  


“นี่ ชานยอล  ลูกจะต้องทำใจอะไร ไม่เห็นเสียหายตรงไหน”


“เสียสิม๊า เสียภาพพจน์มาก ถ้าเขารู้ว่าผมจำได้เพราะอะไรอะ!!”


“แล้วลูกจำได้เพราะอะไรล่ะ”


“ครับ!? ……………………เพราะ  เพราะ.........นั่นน่ะ จะไปสนใจทำไมม๊าก็จำได้แล้วอ้ะ” ผมรีบแถ พร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม จะให้บอกไปว่าไงล่ะ  ก็ดันจำได้เพราะ.......


“ลูกนี่ยังไงเนี่ย  ทำซะเรื่องที่ทำให้จำได้ เป็นเรื่องน่าอายงั้นล่ะ”


“ก็  ก็มัน.........โหย  ม๊าไม่เข้าใจผมอะ ไม่มีใครเข้าใจผมเลย  ผมไม่คุยด้วยแล่ว” ผมแกล้งเนียนเดินขึ้นบ้านไป ทั้งๆที่เมื่อสิบวิที่แล้วเพิ่งจะลงมาเพื่อหาของกิน แต่ก็ดันเจอข่าวเด็ดที่ว่า...............แม่โทรไปบอกพี่หมอเรียบร้อยแล้วว่าผมจำได้


“อ้าว ลูกคนนี้นี่ นี่!! ชานยอล   วันนี้คุณหมออาจจะมาเยี่ยมนะ”


“ม๊าบอกไปนะ ว่าผมไม่อยู่บ้านอะ”


“ม๊าบอกไปว่าอยู่บ้านทั้งวันไปแล้ว”


“ม๊าอ้ะ!!!” ผมยู่ปาก ก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดเข้าห้องไป  โหย  ม๊านะม๊า  ถ้าเขารู้ว่าผมจำได้  เขาก็ต้องถามว่าจำได้ตอนไหน  แล้วจะให้ตอบยังไง  อ๋อออ ผมจำได้เพราะเราเดินป่ากันงี้หรอ โหย  มันไม่ใช่อะ ผมไม่ได้เอ๋อแบบเมื่อก่อนแล้วนะ  ผมโตแล้ว  โตพอจะรู้ว่าไอ้เดินป่า มันไม่ใช่เกมส์หาของป่า ถ้ำสมุนไพรไรนั้นอ่ะ  โหย  ม๊านะม๊า!!!





        ผมยืดแก้มตัวเองไปมา  พลางนึกถึงความรู้สึกตอนที่ตื่นขึ้นมาเมื่อเช้านี้  ผมจำเขาได้ ใช่ จำได้หมดเลย หมดทุกอย่าง  ถึงบางอย่างจะไม่ค่อยชัดเจน แต่มันก็มากพอจะปะติดปะต่อกันได้แล้ว ความจริงผมก็พอจำได้ลางๆตั้งแต่ที่หัวโขกแล้ว  แต่พอมาเจอเรื่อง.............ย๊า นั่นน่ะ  ทุกอย่างมันก็ยิ่งเน้นย้ำและชัดเจนมากขึ้น  มันเหมือนผมรู้สึกคุ้นเคยกับมัน เคยผ่านอะไรแบบนี้มาก่อน  ตอนแรกผมคิดว่าผมคิดไปเอง แต่ระหว่างที่เราสองคน เอ่อ นั่นน่ะ  ภาพของพี่หมอก็ซ้อนทับขึ้นมาเหมือนเดจาวู แต่ตอนนั้นผมไม่มีเวลามาสนใจความทรงจำที่ไหลเข้ามาหรอก  พอผมตื่นเช้าขึ้นมา พอผมคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ทุกๆอย่างมันก็เริ่มเข้ามาในหัว   ทั้งภาพเหตุการณ์ คำพูด การกระทำ ทุกๆอย่าง  ตอนแรกผมก็อยากบอกเขานะ แต่ว่า...........จะให้บอกว่าจำได้เพราะ........นั่นน่ะนะ  โหย  ไม่ไหวมั้งงงงงง  สุดท้ายผมก็เลยนั่งเงียบมาตลอดทางนั่นแหละ





“ฮือออออออออออออออ แล้วนี่ยังมาบอกว่าจะมาเยี่ยมอีก ฮึ่ย! ไม่ได้ๆ เราต้องชิงออกจากบ้านก่อนที่เขาจะมา!!!” ผมรีบกระเด้งตัวขึ้นมา ก่อนจะวิ่งไปยังตู้เสื้อผ้า  ถึงจะยังเจ็บสะโพกอยู่ แต่ ณ ตอนนี้  ไม่มีอะไรฉุดรั้งผมได้ครับ




     ผมรีบแต่งตัว ในหัวคิดเร็วจี๋ว่าจะหนีไปไหนดี  แต่เรื่องนั้นช่างมัน  ออกไปเดินเล่นที่ห้างฯสักสองสามชั่วโมงก็จบมั้ง  ใช้เวลาไม่กี่นาทีผมก็แต่งตัวเสร็จ ผมรีบคว้าคุโรบะตุมาด้วย (ไม่ได้ติดนะ แค่รู้สึกว่าอยากเอาไป เผื่อต้องไปค้างแรมที่อื่น แล้วไม่มีกอด) แล้ววิ่งลงมาข้างล่าง   ก่อนจะร้องไม่ออกเมื่อเจอกับ......





“อ้าว ชานยอล ลงมาพอดีเลย  ม๊ากำลังจะให้คนไปตามลงมาหาคุณหมอพอดี”



“มาไมอ้ะ!!!” ผมตะโกน  พี่หมอยกยิ้มก่อนจะหันไปคุยกับแม่ผมแทน


“คือวันนี้ผมว่างน่ะครับ เลยอยากจะชวนชานยอลไปเที่ยวหน่อย เห็นว่าเขาไม่ค่อยได้เที่ยวเท่าไร เพราะต้องรักษาตัวอยู่ตลอด”


“ได้สิ...........//  ผมไม่ว่าง!!!”


“ลูกจะไปไหน  แต่งตัวเต็มยศเชียวน่ะ”


“ไป  ไป....ไปห้างฯครับ”


“งั้นพี่หมอไปด้วยก็ได้”


“ไม่ เปลี่ยนแล้ว ไปสวนสนุกแทน  พี่หมอโตแล้ว คงไม่อยากไปที่เด็กๆแบบนั้นใช่มั้ยล่ะ เพราะฉะนั้น ม๊า ผมไปคนเดียวได้”


“สวนสนุกไม่ได้ห้ามให้คนอายุเกินยี่สิบเข้าไม่ใช่หรอครับ  โอเคงั้น ไปสวนสนุกกัน”


“ม๊า ผมไม่ไปนะ”


“ลูกนี่ยังไง  เมื่อคืนก็ไปซนกับพี่หมอ  ไปเที่ยวกับเขาเลย  ถือว่าไถ่โทษที่ไปทำให้เขาเดือดร้อน” ผมอ้าปากพะงาบๆเตรียมจะเถียง  แต่สุดท้ายก็นึกคำพูดไม่ออก ตายอย่างอนาถคาพื้นแถวนั้น


“งั้นผมยืมตัวชานยอลวันหนึ่งนะครับ คุณแม่”


“ใครแม่ใคร”ผมบ่นอุบอิบ


“เรียกไปเถอะจ๊ะ  ไม่ห่างเหิน ดูครอบครัวเดียวกันดี  ยังไงก็ฝากดูแลชานยอลด้วยนะ  ถ้าดื้อก็จัดการได้เลย แม่อนุญาต”


“ม๊าอ้ะ!!”


“อย่าดื้อ  อย่าซน ไม่งั้น เราจะโดนดี ไปได้แล้วไป  ม๊าจะไปทำสปา”


“ม๊า! // งั้นขอตัวนะครับ  คุณแม่” พี่หมอยิ้มพร้อมกับโค้งศีรษะลา ก่อนจะลากผมไปขึ้นรถ  อะไรมันจะประจวบเหมาะขนาดนี้นะ  ผมขึ้นไปแต่งตัว ลงมาก็เจอพี่หมอ เสร็จก็โดนลากออกมาทันที รู้งี้จะไม่ขึ้นไปแต่งตัวหรอก จะถ่วงเวลานานๆ ให้รอไม่ได้ แล้วหนีกลับบ้านไป!!!  


“ชานครับ”


“ห๊ะ!!!” ผมตะโกนเสียงดัง เพราะตกใจที่จู่ๆถูกเรียก  


“มีอะไรจะบอกพี่หมอมั้ย”


“ห๊ะ  ไม่มี  ไม่มีนี่  ไม่มีอะไร  ไม่มีอะไรต้องบอก”


“หรอครับ” พี่หมอยิ้มกรุ่มกริ่ม  ก่อนจะพูดต่อ


“เมื่อเช้า คุณแม่ชานยอลโทรมาบอกพี่หมอว่าชานยอลจำพี่หมอได้แล้ว” เอาแล้วไง  ผมนั่งนิ่ง  แกล้งเปิดเพลงในรถเสียงดังๆ เพื่อขัดจังหวะการสนทนา


“ไม่ต้องมาเบี่ยงเบนประเด็น  ทำไมเราไม่บอกพี่หมอ”


“ก็  ก็....ลืม!!!”


“ที่ไม่บอก เพราะเรื่องที่ทำให้จำได้มันไม่น่าบอกหรอครับ”


“ปะ เปล่า  ไม่รู้ โอ่ยยย เพลงนี้เพราะจังเลย” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง  พี่หมอหรี่ตามอง ก่อนจะหยุดรถเมื่อเห็นสัญญาณไฟแดง แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆผม


“หรือที่จำได้เพราะ...........................เราไปเดินป่ากัน”


“อะ อะ  อะไร  ไม่ใช่  ไม่ใช่สักหน่อย  มั่ว  มั่วแล่ว  ใครจะจำได้เพราะไปเดินป่ากันล่ะ”  พี่หมอหรี่ตามองผมสักพัก ก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วหันกลับไปขับรถต่อ ผมเผลอถอนหายใจอย่างโล่งอก  รอดแล้วเรา...


“เข้าใจแล้วครับ”


“ดีมะ...”


“เข้าใจแล้วหรอ ปาร์คชานยอลจำอู๋อี้ฟานได้เพราะเรามีอะไรกัน เพราะถ้าจำไม่ได้..........................ชานยอลคงไม่รู้ความหมายของคำว่าเดินป่า ใช่มั้ยครับ”พี่หมอพูดพร้อมกับจอดรถที่ลานจอดรถ  ผมอ้าปากพะงาบๆ  เถียงไม่ออก ใบหน้าร้อนผ่าว ทั้งอายทั้งเขิน ทั้งโกรธ  อยากจะแหกปากตะโกนใส่หน้า แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่......


“ไอ้ ไอ้  ไอ้ บ้า!” ผมพูดก่อนจะรีบลงจากรถ  พี่หมอหัวเราะ ก่อนจะรีบดึงผมมา เมื่อผมเดินไปผิดทาง  จะหนีเขาแล้วยังมาหน้าแตกใส่เขาอีก


“เขินแล้วไปไม่เป็นเลยหรอครับ”


“ไปซื้อตั๋วเลยไป!!!”


“ครับบบบบ  คุณภรรยา” ผมอ้าปากพะงาบๆ เถียงไม่ออก เพราะตอนนี้หน้ามันแดง แก้มมันร้อน ใจมันเต้นแรงไปหมด ไอ้บ้านี่  ไม่ทำให้เขินสักวินาทีหนึ่งจะได้มั้ยเนี่ย  เดี๋ยวก็รู้ทันเรื่องความจำ เดี๋ยวก็เรียกว่าภรรยา  เอาทีละเรื่องสิ  คนเรามันเขินได้ไม่มากหรอกนะ เขินมากไป เดี๋ยวหัวใจจะวาย รู้มั้ย  รู้มั้ยเนี่ยที่บ่น  นั่นๆ ยังจะมายิ้มหวานให้อีก  รู้ป่ะว่า ยิ้มแล้วมันละมุนอะ  หยุดเลยได้ป่ะ เฮ้ย หยุดสิ


“หยุดยิ้มได้มั้ยเนี่ย!!”


“คนมันมีความสุขให้หน้าบึ้งรึไง  ป่ะ  ไปกันครับ   นึกซะว่าเป็นรางวัลที่จำพี่หมอได้แล้ว” พี่หมอว่าก่อนจะจูงมือผมไป


“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะที่ต้องได้รางวัล”


“อืม  จริง ไม่เด็ก........”พี่หมอเว้นช่วงก่อนจะหันมาสบตาผม “จากเมื่อคืนก็เห็นแล้วว่าไม่เด็ก” ผมอ้าปากค้าง ตัวจะแตกเป็นรอบที่ล้าน  ในขณะที่พี่หมอแค่หัวเราะ แล้วหันไปดูแผนที่สวนสนุก  ไอ้  ไอ้  ไอ้หมอบ้า!!!!


“หยุดด่าในใจได้แล้ว  พี่หมอพูดความจริงล้วนๆนะครับ  อ่า..................ที่นี้นี่กว้างจริงๆ อยากไปโซนไหนก่อนล่ะชาน Magic  หรือ Adventure”


“อะไรก็ได้!!!”


“งั้น Adventure” แล้วไอ้พี่หมอก็ลากผมเดินข้ามสะพาน ตรงไปยังโซน Adventure ทันที  ผมตาค้าง ยืนจ้องสวนสนุกที่อยู่ตรงหน้า  ความอลังการของมันทำให้ผมลืมไปว่าเขินไอ้หมอบ้านี่อยู่  เครื่องเล่น  ของตกแต่งทุกอย่างอย่างกับหลุดออกมาจากเทพนิยายที่ผมเคยดู  โห  นี่มันของจริงป่ะเนี่ย  สุดยอดไปเลย  ดูโน่นสิปราสาทสีลูกกวาด แล้วก็นั่นอย่างกับวังในเทพนิยายกรีกแหนะ โหยยยยยยย  สุดยอดไปเลย


“ตาจะถลนแล้วน่ะ” พี่หมอหัวเราะ ก่อนจะลากผมไปเล่นเครื่องเล่นที่เหมือนเรือแกว่งไปแกว่งมา  และทันทีที่มันแกว่ง  ผมก็แหกปากร้องลั่น ในขณะที่พี่หมอแค่...............หัวเราะ




  ผมถูกแกว่งไปแกว่งมาอยู่สักพัก ด้วยตำแหน่งที่นั่งหน้าสุด(เพราะพี่หมอบอกว่าตรงนี้ไม่เสียว แต่ความจริงมันเสียวมาก) ทำให้ผมเสียวกว่าคนอื่นๆหลายเท่า  ผมแหกปากร้องเสียงทุ้มๆของตัวเองอยู่อย่างนั้น กว่าจะลงมาได้นี่เส้นเสียงแทบแตก แต่จะว่าไปมันก็สนุกมากๆเลยนะ  เพิ่งรู้ว่าสวนสนุกมันสนุกขนาดนี้นะเนี่ย เกิดมายังไม่เคยเข้าเลย เข้าแต่โรงพยาบาลบ้า





“พี่หมอ ผมจะเล่นอีก”


“เอาสิ อยากเล่นอะไรล่ะ”


“นั่น!!”ผมชี้ไปที่เครื่องเล่นที่อยู่ถัดไป ที่มันมีน้ำๆ รถไฟวิ่งมาน้ำกระจาย  น่าสนุก!!!  จากนั้นผมก็เหมือนย้อนกลับไปเป็นตัวเองเมื่อสิบสองขวบ ที่วิ่งร่อนไปทั่วโรงพยาบาล แต่คราวนี้ผมวิ่งร่อนไปทั่วสวนสนุก โดยมีพี่หมอเดินตามต้อยๆ  ฮิ!!!  ช่วยไม่ได้  ไม่ได้ขอให้มาสักหน่อย




                หลังจากเล่นเครื่องเล่นนั้นเสร็จ ผมก็เดินไปเล่นเครื่องเล่นนั้นต่อ  จากนั้นก็ย้ายไปเครื่องเล่นนู้น  แล้วก็ต่ออีกหลายเครื่องจนตอนนี้มานั่งหอบแฮ่กอยู่ที่ม้านั่ง  




“อยากเล่นไรต่อครับ ตัวแสบ”พี่หมอพูดพร้อมกับยื่นน้ำมาให้ผม  ตัวพี่หมอเปียกน้ำนิดๆ แล้วไอ้เสื้อสีขาวนั่นก็ทำให้เห็นไปถึงไหนต่อไหน บวกกับไอ้หน้าตาหล่อแบบแบดบอยและท่าทางที่ดูดีจนเกินเหตุ ทำให้คนที่เดินผ่านไปแถวนั้นมองเขาเป็นตาเดียว



“ฮึ่ย!!” ผมฟึดฟัด ก่อนจะหยิบหน้ากากดัมโบ้(อย่าคิดลึกนะ  ก็แค่ตัวการ์ตูนดัมโบ้อะ)ที่ได้มาระหว่างเล่น สวมหน้าเขา  ใส่ไปเลย คนจะได้ไม่เห็นหน้า จะได้ไม่มีใครจ้อง เป็นอย่างงี้ ยังจะหล่อมั้ย ห๊ะ!!!



“จะไปดูพาเหรดหน้ากาก”


“แต่งตัวเตรียมเข้างานไวไปนะ” พี่หมอหัวเราะ ทำหน้ารู้ทันผม จากนั้นก็เดินจูงมือผมไปดูขบวนพาเหรด  ผมหันกลับมาแลบลิ้นใส่พวกผู้หญิงที่มองพี่หมออยู่ ก่อนจะหัวเราะคิกคักเดินตามไป  ฮิ! รู้ซะมั่ง คนนี้ลิขสิทธิ์ของปาร์คชานยอลลลลลลลลล  ใครห้ามยุ่ง!!!


           

      พี่หมอจูงผมมาเรื่อยๆ  ไม่นานนักเราก็มาถึงโซนพาเหรดหน้ากาก  ไฟในสวนสนุกเริ่มส่องสว่างเมื่อท้องฟ้าเริ่มมืด  ทั่วทั้งสวนสนุกจึงเหมือนเมืองเวทมนตร์ในความฝันที่ผมเคยจินตนาการ  ลมเย็นๆพัดผ่านผิวหน้าให้รู้สึกสดชื่นขึ้น  เสียงดนตรีดังแว่วมาจากที่ไกลๆ แต่ผมไม่ได้สนใจอะไรมันมากนัก เพราะม่านหมอกที่ค่อยๆลอยออกมาจากโซน Mask Paradise ก่อนจะตามมาด้วยเสียงดนตรีครึกครื้นที่ค่อยๆเร่งจังหวะให้เร้าใจขึ้น  จากนั้นเสียงตัวการ์ตูนก็ดังขึ้นพร้อมๆกับการปรากฏตัวของขบวนพาเหรด  เจ้าหญิงเจ้าชายที่เคยเห็นแต่ในการ์ตูนค่อยๆเดินออกมาทักทายคนดู   พวกเขาสวมชุดที่ประดับไฟเรืองแสงสีลูกกวาด  จากนั้นก็ตามมาด้วยรถที่ถูกทำเป็นปราสาทเรืองแสงมีเจ้าชายกับ เจ้าหญิงหมียืนอยู่บนนั้น  ขบวนกระต่าย และกระรอก วิ่งตามออกมาอย่างร่าเริง  พร้อมกับโบกไม้โบกมือให้คนดู  
           




   ผมยิ้มกว้าง มองเจ้าหญิงเจ้าชายที่เดินออกมาเหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนอยู่อย่างนั้น พร้อมกับโบกมือให้เขาไปมา  ไฟในบริเวณนั้นปรับสีเปลี่ยนไปเรื่อยๆ  แสงจากรถปราสาทสาดลงมาบนถนน หมอกควันจากเอฟเฟ็คยิ่งทำให้ขบวนพาเหรดเหมือนกับหลุดออกมาจากความฝันของผมจริงๆ....





-----------------------------------------------------
         




  ผมมองเสี้ยวหน้าที่มีความสุขของชานยอลอยู่อย่างนั้น ดวงตากลมโตที่เปล่งประกายอัดแน่นไปด้วยดวงดาวแห่งความสุข  รอยยิ้มกว้างที่สดใส  ตรึงสายตาของผมเอาไว้ จนไม่สามารถละสายตาไปไหนได้ แม้ว่าแสงไฟ และความสวยงามของขบวนพาเหรดจะขับเคลื่อนอยู่ข้างหน้าผม  บางทีสมองส่วนประมวลผลความสวยงามของผมอาจพังไปแล้วก็ได้...


“สวยจังเลย” ชานยอลพูดโดยสายตายังจับจ้องอยู่ที่ขบวนพาเหรด


“ใช่ สวยมากๆ”


“เนอะ พี่หมอ  ผมชะ.....” ชานยอลหันกลับมามองหน้าผมก่อนจะชะงักไป  


“สวยมากๆเลย” ผมพูดโดยไม่ละสายตาจากชานยอล  ปากอิ่มเม้มแน่น  ก่อนจะแลบลิ้นออกมาอย่างประหม่า


“อะ  อะ อะไรเล่า  พาเหรดใช่มั้ย ใช่พาเหรด”  


“เปล่า  หมายถึงชานยอล”  กลีบปากสีแดงสดที่ชุ่มชื่นด้วยน้ำสีใส เผยอออกเล็กน้อย ดวงตากลมโตลอกแลกก่อนจะหลุบตามองต่ำ


“พะ พูดอะไร ............มะ” ผมโน้มหน้าลงไปจูบปากชานยอลเบาๆ หน้ากากที่ห้อยอยู่บนคอถูกใช้กำบังเราจากสายตาของคนอื่น  ตากลมเบิกโพล่งมองผมอย่างตกใจ ก่อนจะค่อยๆหลับตาลงช้าๆ  ผมบีบมือที่ประสานกันเบาๆ พร้อมกับจูบค้างไว้อย่างนั้นเนิ่นนาน  จนกระทั่ง....


“ขอโทษนะคะ  รบกวนถ่ายรูปให้หน่อยได้มั้ยคะ   อุ๊ย!!!  ตายแล้ว! ขอโทษค่ะๆ  ไม่เป็นไรแล้วค่ะๆ  ไม่เป็นไรๆ”  


“ไอ้  ไอ้  ไอ้พี่หมอบ้า”ชานยอลว่าก่อนจะเดินหนีออกมาจากขบวนผู้ชม  


“จะไปไหน”


“กลับบ้านสิ  ไอ้พี่หมอบ้า” ผมคงคิดว่าเขาโกรธ ถ้าไม่ติดว่าหูกางๆนั่นกำลังแดงอยู่  ผมวิ่งตามหลังไป ก่อนจะโอบไหล่เขาไว้


“เขินหรอ”


“ใครจะเขินพี่หมอกัน  แล้วไม่ต้องมาโอบไหล่เลย  อึดอัด!!!”ชานยอลว่าพร้อมกับจับมือผมที่โอบไหล่เขาออก


“งั้นจับมือแทนก็ได้”ผมว่าก่อนจะจับมือชานยอลเอาไว้  โดยคว่ำฝ่ามือตัวเองจับมือเขาไว้  ชานยอลทำหน้าไม่สบอารมณ์(แต่หูแดง) ก่อนจะเดินไปเงียบๆไม่พูดอะไร  ผมลอบมองเสี้ยวหน้าที่ดูกำลังถกเถียงกันอยู่ว่าควรจะเขินหรือควรจะโกรธดีของเขาอย่างขำๆ พลางมองมือที่จับกันเอาไว้


“รู้มั้ย จับมือแบบนี้ทางจิตวิทยาหมายความว่าไง”


“ไม่ได้เป็นหมอจะรู้ได้ไง”


“ก็จริง” ผมว่าก่อนจะกดปลดล็อครถ แล้วหันมาตอบเขา “แต่เป็นภรรยาหมอก็น่าจะรู้หน่อยนะ”


“ไอ้ ไอ้บ้า!!!”


“จับมือแบบนี้ มันแปลว่า  ผู้ชายคนนี้กำลังตกหลุมรักคนที่จับมือด้วยแบบ.............................ถอนตัวไม่ขึ้น”ผมว่ายิ้มๆ ก่อนจะขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับ  ส่วนชานยอล..........................ยืนหน้าแดง  อ้าปากพะงาบๆอยู่นอกรถไม่ยอมเข้ามาสักที


“เอ้า  ไม่ขึ้นอีก เดี่ยวก็ปล่อยไว้ตรงนี้เลยนี่” ชานยอลรีบขึ้นรถ ก่อนจะหันหน้าหนีออกไปนอกหน้าต่าง แล้วไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย แต่รอยยิ้มเขินๆที่อยู่ที่ริมฝีปากนั่นดูขัดกับท่าทางที่ดูงอนๆของเขานะ .....




         ผมยิ้มขำๆให้กับท่าทางของเขา พร้อมกับขับรถต่อไปเรื่อยๆ โดยจุดหมายวันนี้เป็นโรงพยาบาลของผม ไม่ใช่บ้านของชานยอล เพราะผมติดงานด่วนเข้ามา ต้องรีบเข้าไปดู  กะว่าเสร็จแล้วจะพาเจ้าตัวยุ่งไปส่งที่บ้าน




       ผมขับรถเลี้ยวเข้ามายังลานจอดรถของโรงพยาบาล  ชานยอลกระโดดลงจากรถก่อนจะหอบหิ้วเอาถุงขนมสารพัดถุงสารพัดรสของเขาลงจากรถ แล้วเดินตรงเข้าตึกทันที  ดูท่าจะยังเขินไม่หายแฮ่ะ ผมเดินตามไปอย่างไม่เร่งรีบนัก  เจ้าตัวแสบเดินลิ่วหายเข้าไปในโรงอาหาร  ผมกำลังจะตั้งท่าเดินตามไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อพยาบาลคิมวิ่งมาหาเพื่อคุยเรื่องงานที่สั่งไปเมื่อวาน สุดท้ายผมเลยจำใจต้องเดินออกมา  แต่ยังดีหน่อยที่ลู่หานที่เพิ่งจะออกจากหาตรวจเดินไปนั่งเล่นกับชานยอลพอดี  ถึงจะหายแล้วแต่ก็ไม่ไว้ใจให้อยู่คนเดียวละนะ  ก็เล่นแสบซะขนาดนี้....





--------------------------------------






“ชานยอล! ดูถุงขนมอันนี้สิหน้าเหมือนนายมั้ย” คุณคนนี้ชูถุงขนมสีแดงที่มีตัวการ์ตูนแปะอยู่ข้างหน้า



“ฮ่าๆ เหมือนเลยๆ ดูสิ” ผมว่าก่อนจะเอาซองขนมมาทาบหน้า พร้อมกับทำหน้าทำตาให้เหมือนตัวการ์ตูน


“ฮ่าๆ เหมือนเป๊ะเลย  ถ่ายรูปๆ” คุณคนนี้หัวเราะ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปผมไว้  


“เหมือนเป๊ะ!” คุณคนนี้พูดพร้อมกับดูรูปในมือถือ แล้วโชว์ให้ผมดู


“ผมหล่อกว่านะ”


“เหมือนมาก  น่ารักอะ” ผมยิ้มกว้าง  นานๆทีจะมีคนชมว่าน่ารักนี่นา  แต่แล้วผมก็ต้องหุบยิ้มลงนิดหน่อยทันที เมื่อสิ่งมีชีวิตตัวขาว ที่ชอบทำหน้ากวนประสาท เดินเข้ามาร่วมวงสนทนา  ไอ้เอเลี่ยนชะโงกหน้ามามองมือถือ ทำหน้าครุ่นคิด พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองผมสลับกับถุงขนม แล้วพูดออกมา


“อืม ก็น่ารักจริง”


“ห๊ะ  ว่าไงนะ  นี่เอเลี่ยนตัวจริงป่ะเนี่ย”


“จริงดิ  พูดจริงนะ  น่ารักจริงๆ” ผมหรี่ตามอง  เอเลี่ยนน่ะนะจะมาชมผม


“อื้ม  จริงๆ น่ารักจริงๆ”


“จริงอะ”


“อื้มจริงสิ” ผมค่อยๆยิ้ม  ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก็ปกติเอเลี่ยนชมผมที่ไหนล่ะ


“ขอบใจคุณที่ชมนะ”


“ไม่เป็นไร  เพราะที่ชมน่ะการ์ตูน ไม่ใช่นาย  นายน่ะมันลิงกังหน้าเอ๋อชัดๆ ดูตาดิ  เหลือกซะ เฮ้ยยยย แต่หูนี่เหมือนตัวการ์ตูนเป๊ะ  กางมากกกกกกกกกกกกกกกก วันไหนว่าง รบกวนไปที่บ้าน จะให้บินโชว์พ่อแม่ฉันสักหน่อย”  


“ไอ้เอเลี่ยน!!!!”


“ไม่ขานรับนะ เพราะไม่ใช่ชื่อฉัน”


“ไอ้หล่อ!!!” คุณคนนี้หันไปแยกเขี้ยวใส่  แต่ไอ้เอเลี่ยนกลับลอยหน้าลอยตา แล้วโฉบเอาลูกอมของผมไปกิน


“ใครให้!!!”


“อนุญาตตัวเองแล้ว”


“ไอ้เอเลี่ยน  ฮึ่ย!!!! อ๊ากกกกกกกกก  ไอ้บ้าไอ้บอ!!!”


“อย่าๆ  โกรธมากเดี๋ยวหูกางยิ่งกว่าเดิมนะ  นั่นๆ  กางกว่าเดิมแล้วน่ะ”


“ไอ้!!!............”


“นั่นๆ กระพือหูเตรียมบินแล้วน่ะ”


“ไอ้เอเลี่ยน!!!! ไม่ทนแล้ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ผมตะโกนก่อนจะวิ่งไปตะครุบไอ้เอเลี่ยน แต่มันไวกว่า หลบผมได้


“ชานยอล  ไอ้หล่อ  เฮ้ย หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!”


“ตายซะ ไอ้บ้า ไอ้เอเลี่ยน กางแล้วมันทำไมห๊ะ ไอ้เอเลี่ยน  หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!!”


“หยุดให้โง่สิ!!!”


“ไอ้หล่อ ชานยอล  อย่าวิ่งกันสิ  โอ๊ยยย  พี่คริส!!!”ผมเห็นคุณคนนี้วิ่งไปหาพี่หมอที่เพิ่งเดินเข้ามา  แต่ตอนนั้นผมไม่มีอารมณ์จะมาสนใจหรอก เป้าหมายเดียวที่ต้องพุ่งชนตอนนี้คือ ไอ้เอเลี่ยนบ้านั่น!!!  กางหรอ  บินได้หรอ  แล้วทำไม  กางแล้วมันทำไม  ว่าเรื่องอื่นพอทน แต่กางนี่ไม่ทน!!!


“ชานยอล!! หยุด  เซฮุน!!!” เสียงพี่หมอวิ่งเข้ามาห้ามพวกเรา จังหวะนั้นเอง ผมก็คว้าคอเสื้อไอ้เอเลี่ยนได้พอดี


“เสร็จ!!! //  กลัวที่ไหน”เสียงผมกับไอ้เอเลี่ยนประสานเสียงกัน


“ปาร์คชานยอล //  โอเซฮุน!!!”เสียงพี่หมอกับคุณคนนี้พูดพร้อมกัน


“ผมไม่ผิด!!!”


“ไอ้หล่อออกมาเดี๋ยวนี้  //  ชานปล่อยเขา  มาหาพี่หมอ”


“แต่ว่า...”


“ชานยอล”


“ก็ได้!!!” ผมเดินกระฟัดกระเฟียดมาหาพี่หมอที่ยืนกอดอกทำหน้าดุอยู่  หึ!!


“เกิดอะไรขึ้น”


“ก็ไอ้เอเลี่ยนหลอกให้ผมดีใจที่ชมว่าน่ารัก  แล้วก็ยังมาว่าว่าผมเป็นลิงกังหน้าเอ๋อ แล้วก็ล้อเรื่องหูของผมด้วย มาว่าเรื่องหูผมไม่ยอม!! กางแล้วมันทำไม ห๊ะ  กางแล้วมันไปตีหน้านายรึไง ห๊ะ ไอ้เอเลี่ยน”


“ก็เกือบตีล่ะ”


“ชานยอล // เซฮุน” พี่หมอกับคุณคนนี้พูดเสียงเข้ม  


“เซฮุนขอโทษชานยอลเดี๋ยวนี้เลย  ไม่มีแต่  ทำ-เดี๋ยว-นี้”  คุณคนนี้ดุไอ้เอเลี่ยน  เอเลี่ยนอ้าปากจะเถียง แต่พอเห็นสายตาดุๆของคุณคนนี้ ก็เลยยอมหันมาขอโทษผม   ผมลอยหน้าลอยตา ทำหน้ากวนประสาทใส่  หึ   สมน้ำหน้า   ตัวเองทำผิดนี่ ช่วยไม่ได้!!!


“ชาน ขอโทษเซฮุนด้วย”


“ห๊ะ!! ไม่!!!”


“ชานยอล”


“ผมไม่ผิด  ผมไม่ขอโทษ!!!”  พี่หมอถอนหายใจ ก่อนจะใช้สายตาดุผม  ผมกอดอก หันหน้าหนี  งานนี้ผมไม่ผิด!!!


“พี่หมอไม่รักเด็กดื้อ” ผมเม้มปากแน่น ไม่รักก็ไม่ต้องรักสิ!!!


“จะไม่ขอโทษเขาใช่มั้ย   อืม ไม่เป็นไร ชานยอลที่พี่หมอรักคงหายไปแล้วจริงๆสินะครับ  เซฮุน  ฉันขอ...”


“ขอโทษ!!! พอใจรึยัง!!!”


“ก็แค่นี้  ดื้ออยู่นั่นแหละ  อยู่กับเซฮุนลู่หานไปก่อน เดี๋ยวพี่หมอต้องไปทำงานต่อ  แล้วห้ามตีกันอีกเข้าใจมั้ยครับ” ผมยัดลูกอมเข้าปาก ระบายอารมณ์โมโห  พี่หมอยิ้มขำๆ แล้วเดินออกไป ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่ไอ้เอเลี่ยนทันที  


“ชานยอล!!” พี่หมอเรียกผมเสียงเข้ม


“เปล่าทำนะ!!!”


“ทำไมโตแล้วดื้ออย่างนี้  กลับห้องเลย  อยู่ด้วยกันทีไรทะเลาะกันทุกที” พี่หมอพูดก่อนจะลากผมกลับห้อง  ตลอดทางผมก็ทำหน้าบูดบึ้ง แลบลิ้น ปริ้นตาใส่ ถึงมันจะทำไรเขาไม่ได้ แต่ผมของี่เง่าหน่อยล่ะกันน่า  ฮึ่ย!! อีกนิดเดียวจะจัดการไอ้เอเลี่ยนได้แท้ๆ


“รอพี่หมอในห้อง  ห้ามไปซนข้างนอก เข้าใจมั้ย” พี่หมอจับผมนั่งบนเตียงก่อนจะชี้หน้าคาดโทษไว้


“ผมโตแล้ว!!!”


“ขอให้ได้เถียงเถอะ  รออยู่ในนี้นะชาน เดี๋ยวพี่หมอต้องไปเคลียร์งานนิดหน่อย ห้ามดื้อ ห้ามซน เข้าใจมั้ย ตัวแสบ”ผมเบ้ปากใส่แทนคำตอบ


“ดื้อจริงๆ เดี๋ยวมานะครับ”พี่หมอพูดก่อนจะลูบแก้มผมเบาๆ แล้วเดินออกจากห้องไป แต่คิดหรอว่าผมจะเชื่อฟัง  ไม่มีทาง!! ผมโตแล้วนะ  ผมวิ่งไปที่ประตู เตรียมจะเปิดประตู แต่มันกลับ......



โดนล็อค!!!



“ไอ้พี่หมอบ้า!!!”  ผมกระโดดขึ้นมานั่งบนเตียง ก่อนจะฟัดคุโรบุตะอย่างโมโห  แล้วนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง  ทำไมต้องมาติดแหง็กอยู่ในนี้ด้วยนะ  ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้เอเลี่ยน!!!!!!!!!!!!!!!!





----------------------------------------------




         ผมนั่งเคลียร์งานต่างๆกว่าจะเสร็จก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมง ป่านนี้เจ้าตัวยุ่งคงอาละวาดห้องแตกแล้วมั้ง ก็ดันไปล็อคประตูไว้  ก็จะไม่ให้ล็อคได้ไง รู้อยู่ว่าซนแค่ไหน  เดี๋ยวก็ได้เรื่องออกมาวุ่นข้างนอก ตีกับไอ้เซฮุนอีก  แล้วไอ้นี่ก็อีกคน ขอให้ได้แกล้งเถอะ  ผมล่ะอยากจะบ้ากับสองคนนี้จริงๆ  ไม่รู้ว่าโตรึยังถึงได้ตีกันเป็นเด็กๆไปได้  




           ผมเก็บเอกสารลงลิ้นชัก  ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้อง  ชานยอลกำลังหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอน  โดยมีเจ้าตุ๊กตากบอยู่ในอ้อมกอด  คงจะเพลียมากสินะ วันนี้เล่นทั้งวันแถมยังไปตีกับไอ้เซฮุนอีก  ว่าแต่นี่ผมจะปลุกเขายังไงดีละเนี่ย  ต้องกลับไปส่งที่บ้านอีก  ผมอ้าปากเตรียมจะปลุกชานยอล แต่มือถือในกระเป๋าก็สั่นเสียก่อน



“สวัสดีครับ คุณแม่ชานยอล”


“คุณหมอคริสคะ รบกวนดูแลชานยอลจะได้มั้ยคะ  คือดิฉันต้องไปต่างประเทศหลายเดือนน่ะค่ะ  ไม่ไว้ใจให้เขาอยู่บ้านคนเดียวเลย”


“อ้อ ได้สิครับ  ไม่มีปัญหา”


“ค่ะ ฝากด้วยนะคะ ขอบคุณมากเลยนะคะ”


“ครับ เดินทางโดยสวัสดิภาพ” ผมว่าก่อนปลายสายจะวางไป  โรงพยาบาลผมต้องแตกแน่ๆล่ะคราวนี้.....




       ผมทรุดนั่งลงข้างๆเขา ทอดตามองใบหน้ายามหลับที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนเด็กน้อย ก่อนจะลูบผิวแก้มเนียนละเอียดของเขาเล่นเบาๆ  ตอนหลับก็ดูน่ารักอยู่หรอก แต่ตื่นขึ้นมาทีนี่วุ่นวายไปหมด  ไม่เคยจะอยู่สุกไม่ว่าจะตอนเด็กหรือตอนโตเลย  แต่ก็แปลกที่ผมกลับไม่เคยรำคาญความซุกซนของเขาเลยสักครั้ง...




“หื้อออ” ชานยอลครางในคอเบาๆ ก่อนจะปรือตาขึ้นมามองผมแล้วบ่นงึมงำ “พี่หมอ” เจ้าตัวแสบพึมพำเหมือนคนไม่ได้สติก่อนจะคลานมานอนหนุนตัก เอาหน้าซุกท้อง แล้วกอดเอวของผมเอาไว้  ผมยิ้มบางๆ ก่อนจะลูบผมเขาเล่นเบาๆ



“ลูกแมวตัวยุ่ง” ผมพูดพร้อมกับเอนศีรษะพิงกำแพง พลางนึกถึงคำพูดของเซฮุนและลู่หาน



“นี่ถ้า ชานยอลมาอยู่ที่นี่เหมือนเดิมมันจะวุ่นวายแค่ไหนเนี่ย ไม่ต้องตีกันไปทุกวันรึไงเซฮุน”


“มาอยู่ก็ดีสิ”


“จะได้ตีกัน?”


“เปล่า......ที่นี่มันจะได้สมบูรณ์แบบสักทีไง ”




    อาจจะจริงอย่างที่เซฮุนพูด  เพราะชานยอลคือส่วนหนึ่งของที่นี่  คือคนที่มาปรุงความสุขและเสียงหัวเราะให้ทุกคน   บ่อยครั้งที่อาจทำให้ทุกคนวุ่นวายไปบ้าง  อลหม่านไปบ้าง  แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ทำให้ที่นี่มีแต่ความสุข ทำให้ครอบครัวที่ได้ชื่อว่าสถานีบำบัดคนบ้าแห่งนี้สมบูรณ์แบบ...




  ผมยิ้มบางๆให้เจ้าตัวแสบที่นอนหนุนตักอยู่  ก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มเขา แล้วเอื้อมมือไปหยิบไดอารี่ขึ้นมาอ่าน  เรื่องราวทั้งหมดที่ผมเล่าให้คุณฟังคือสิ่งที่อยู่ในไดอารี่นี่ทั้งหมด  มันเป็นเหมือนบันทึกรักของเรา (อ่ามันเป็นบันทึกที่บ้าบอมากใช่มั้ยล่ะ  ผมก็รู้สึกงั้นเหมือนกันล่ะ) ผมเหลือบดูตัวเลขหน้าที่เป็นเหมือนจำนวนวันที่ไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่หน้าสุดท้ายของไดอารี่ ไม่น่าเชื่อว่าผมจะรู้จักกับชานยอลมาสี่เดือนแล้ว วันเวลาดูผ่านไปเร็วจนผมไม่ทันสังเกตุ  ผมหยิบปากกาขึ้นมาเขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ความเงียบสงัดทำให้ผมมีสมาธิที่จะเขียน ไม่นานนักตัวหนังสือตัวสุดท้ายก็จรดลงบนหน้ากระดาษ พร้อมๆกับไดอารี่ที่หมดหน้าและเสียงชานยอลที่ดังขึ้น


“ไอ้เอเลี่ยน !!! ตายซะเหอะ  มานี่เดี๋ยวนี้นะ!!!”  นั่นไงสัญญาณวุ่นวายมันมาแล้วไง  ผมคงจะต้องจบการเล่าบันทึกรักของผมแต่เพียงเท่านี้แล้วแหละครับ  เพราะถ้าไม่รีบนอนตอนนี้ คาดว่าวันพรุ่งนี้ผมคงไม่มีแรงไปปราบเจ้าตัวแสบนี้แน่ โตแล้วแต่กลับดื้อยิ่งกว่าเดิมซะอีก ผมละปวดหัวจริงๆ ไม่อยากจะคิดว่าเลยว่าวันพรุ่งนี้มันจะวุ่นวายขนาดไหน  

แล้วสำหรับใครก็ตามที่กำลังอ่านบันทึกรักเพี้ยนๆเล่มนี้อยู่ ผมขอจุดพลุยินดีกับคุณด้วยนะครับ เพราะคุณคือผู้ที่ถูกเจ้าดัมโบ้ตัวน่ารักของชานเท็นเลือกให้เป็นแขก VIP ให้ได้อ่านเจ้าบันทึกเล่มนี้!!! จากนี้ไปคุณก็ลองเจริญรอยตามพวกเราดูนะครับ  เผื่อว่าบางทีคุณอาจจะได้พบเจอความรักแบบพวกเราบ้าง ยังไงก็ตามแต่.....ถ้าได้เจอก็อย่าลืมมาเล่าให้พวกเราฟังด้วยละ  (ถ้าไม่เล่าผมจะส่งช้างศึกกับเจ้าปีศาจกบไปจัดการถึงบ้านเลยนะครับ!!! ผมเอาจริงนะ ไม่ได้ขู่) แล้วก็....


“อื้อออออออ  ปิดไฟสักทีสิพี่หมอ  ผมจะนอน” เจ้าตัวแสบพูดเสียงงัวเงีย  


ผมต้องรีบไปจริงๆแล้วหล่ะ ก่อนจะไปผมขอเตือนพวกคุณก่อนว่า อย่าไปช่วยเจ้าตัวแสบทำแบบฝึกหัดที่ผมให้ทำเชียวนะ ให้เขาทำเอง แล้วก็ลูกอมหนะ!!! กินแล้วอย่าลืมแปรงฟันกันนะครับ เดี๋ยวฟันผุ !!!


“จะนอนนนนนนนนนนน!!!!!” โอ่ยยยย ผมต้องไปแล้ว สุดท้ายนี้ก็ขอให้อำนาจและอิทธิฤทธิ์ของคุโรบุตะและดัมโบ้ดลบันดาลให้พวกคุณเจอรักแท้ไวๆนะครับ ไปนอนแล้วครับบบบบบ  ฝันดีนะครับ คุณคนไข้ VIP ของผมทุกคนนน





--------------------------------





แบบฝึกหัด



สถานีบำบัดคนบ้า ตอนที่20 470.3

สถานีบำบัดคนบ้า ตอนที่20 Ys0.2




ขนมชานยอล



สถานีบำบัดคนบ้า ตอนที่20 12untitled-2




--------------------------------





ประกาศ

ผักกาด ผักกาด  ผักกาด ไม่ช่ายยยยยยยย คุโรบอกว่าประกาศ ใช่ๆ ต้องประกาศ ไม่ใช่ ผักกาด แหะๆ

วันนี้ผมชานเท็นได้รับหน้าที่ให้มาแถ ลง ไม่ แถลงว่าพี่ออคโทกัสแห่งกรมช่างประปา เขารวมเล่มฟิคเรื่องนี้แล้วนะ

อยากได้ใช่มะ ฮิ! ผมรู้ๆว่าอยากได้ ถ้างั้นก็ตามไปดูรายละเอียดที่ลิ้งค์นี้กันเยยยยยย


http://0ctogus.forumth.com/t81-topic


จบการแถลง  ผมไปกู้โลกต่อละ

ขอขอบพระคุณครับทุกๆคน คน  คน คน คน



แก้ไขล่าสุดโดย 0ctogus เมื่อ Fri Dec 06, 2013 8:41 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง

http://0ctogus.forumth.com

watershadow



แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง้ Crying or Very sad Crying or Very sad Crying or Very sad Crying or Very sad Crying or Very sad
จบแล้วหรอ Y_Y กำลังหลงรักไอ้หล่อเลย รู้สึกว่าเรื่องราวเพิ่งดำเนินไปไม่เท่าไหร่เอง พี่หมอ ชานชาน

บอกตรงๆเลยค่ะไรเตอร์ เรื่องกำลังสนุกเลย ใจหวิวๆ ที่รู้ว่ามันจบลงแล้ว (ถึงจะสั่งซื้อแล้วก็เถอะ)
ความรักของพี่หมอ และชานชาน โอ๊ยยยยยยยยยยยย คงคิดถึงตัวละครน่าดู ทำไงได้ก็รักไปแล้ว

อ่อ สรุปว่าที่ผ่านมาเราอ่านไดอะรี่ของพี่หมออยู่ ไดอะรี่หมดเด๋ว เค้าซื้อให้เขียนใหม่ก็ได้ >0<

ป.ล.ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆ เรื่องราวสนุกๆที่ไรเตอร์ได้แบ่งปันมาให้ได้อ่านกัน ขอเป็นกำลังใจให้ในเรื่องต่อๆไปนะค่ะ ^^



แก้ไขล่าสุดโดย watershadow เมื่อ Tue May 07, 2013 1:00 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง

Sky_fff

Sky_fff

จบแล้วหรอออออ ยังไม่อยากให้จบเลย TT

มันรู้สึกแบบตามมาตลอด พอจบแล้วมันโหวงๆ 55555

แต่ไงเราก็สั่งจองไปแล้วอยากได้มาเก็บไว้มากกก ชอบๆ พี่หมอละมุน ชานชานน่ารัก แล้วมันจะมีตอนพิเศษมั้ยอ่ะ -3

วันนี้จะรีบไปโอนแล้ว ลุ้นๆ อยากได้ลูกอม 55555

แล้วก็จะติดตามเรื่องต่อๆไปนะคะ แต่งอีกนะเราสนับสนุนอยู่ Very Happy

YRAUNAJ_YEOL

YRAUNAJ_YEOL

สนุกมากค่ะ ละมุนเป็นที่สุด จะติดตามอ่านเรื่องต่อไปนะค่ะ

KRISYEOL'S REAL

NikyNook

NikyNook

คุณแม่นี่เหมือนเข้าข้างพี่คริสนะฮ่าๆ มีอะไรโทรบอกตลอด
ท่าทางลูกเขยคนนี้จะถูกใจมากซินะคึคึ =w=
ชานดูไม่ค่อยโอเคเลยเวลาเจอพี่หมอ...นางอายซฺนะ(สรุปให้)
เป็นใครๆก็อาย...เดินป่าแล้วจำได้แค่นึกยังเขินเลย -///-
พี่หมอดูฉลาดเกินไป(สำหรับคนโง่ๆอย่างเรา)ขี้แกล้งเกินไปแล้ว ><
ชานไม่ชอบเพราะพี่หมอชอบรู่ทันใช่มั๊ยฮ่าๆ กิ้วๆ

จบแล้วหรอ?? เราว่ายังหรอก...ไรเตอร์ไม่ใจร้ายขนาดไม่มีสเปเชี่ยลหรอกใช่มั๊ย(อ้อนวอนฮ่าๆ)

wanirpc

wanirpc

แง้งๆๆจบแล้วเหรอทำไมจบหล่ะจบทำไมไม่เข้าใจเขียนต่อสิให้ชานเท็นกลับมากู้โลกใหม่สิถ้าชานเท็นไปแล้วใครจะมาปกป้องโลกหล่ะอ๊ะะะะะะะะะะนี่เราเม้นท์เรื่องอ่ะไรไป
ถถถถถถถถ...ที่แท้น้องชานจำพี่หมอได้ก็เพราะการเดินป่านี้เองงงงแถมจะบอกให้น้องชานครับน่ะเป็นคนมาชวนที่หมอถึงที่เลยน่ะว่าอยากเจอดัมโบ้วววบ้างหล่ะ...5555
พี่หมอน่ะก็รออยู่แต่อีน้องชานมั้นนนนดันปลุกดัมโบ้วววให้ตื่นขึ้นมาเองพี่หมอก็เลยชวนทำกิจกรรมเดินป่ากับน้องชานซะหน่อยยย5555จำพี่หมอได้ก็ไม่บอกเค้าหล่ะ...กลัว
เค้าถามอะเด๊ะะะะะว่าที่จำได้เพราะเรื่องไรแต่...ไม่เป็นไรพี่หมอเราเก่งและหล่อคร้าบบบบบบบบบบบบบบบพี่หมอรู้ว่าชานครับจำพี่หมอได้เพราะอารายยยยยย55555
พี่หมอนี่นอกจากจะเป็นพี่หมอที่เก่งกาจและหล่อเหลาเอาการแล้วยังมีสุดยอดดดดดดดดดดัมโบ้ววววที่ทำให้น้องชานของเราความจำกลับมาด้วยอ่ะสุดยอดมั้ยหล่ะพี่หมอของเรา....555555

ปล.ต่อไปนี้ชีวิตช่วงหนึ่งของเราจะต้องไม่มีสีสันเหมือนชีวิตฉันขาดอะไรไปสักอยาก...ต่อไปไม่มีน้องชาน ไม่มีน้องคุโรรร ไม่มีพี่หมอรูปหล่อดัมโบ้ววววหย่ายยยยย...ไม่มีใครชวนกันเดินป่าให้เราอ่าน
แล้วชีวิตออมม่าจะทำอย่างไร...ออมมม่าต้องตายแน่ๆมันเหมือนขาดอากาศอัดกระป๋องที่พร้อมระเบิดปุ๋งงงงงงงงงงแล้วอากาศกระจายใส่หน้าให้เราสดชื่นหัวใจจริงๆๆๆ...พูดไปแล้วออมม่าจิร้องงงได้
คิดถึงน้องชานครับน่ารัก+พี่หมอรูปหล่อดัมโบ้วใหญ๋แน่นอนเลยต่อไปนี้

ปล.ส่งจม.ฝากไปแล้วอย่าลืมมาเยี่ยมออมม่าบ้างน่ะครับ...ออมม่าพักอยู่ห้องข้างๆน้องชานครับที่รพ.จำได้มั้ยครับ...

*****รักและคิดถึงน้องชานกับพี่หมอน่ะค่ะ******

https://www.facebook.com/profile.php?id=100001127107507

akanishibluecat

akanishibluecat

จบแล้วอะ จบแล้ว จิงๆๆ หรอไรท์ ฮืออ ไม่อยากให้จบเลย
แบบนี้คงจะคิดถึง ชานเท็น กะ พี่หมอมากมายแน่ๆ

แต่ไม่วาย ตอนสุดท้ายก่ยังจบได้น่ารักอีก อิอิ ไรท์จะมี ภาคสเปเชียลให้อ่านอีกปะ แบบว่า ชอบมากเลย
ปล... ขอบคุณไรท์ที่ เขียนนิยายสนุกแบบนี้ให้อ่าน ถ้ามี fic ต่อไป ก่ สุ้ๆๆ นะคร้า จะรอ ติดตามผลงาน

รักชานเท็นกะพี่หมอมากกกกก

bezyenjoy



โหยหวน จบแล้วววว จริงๆหรอเนี่ย
ว๊า าาา แย่จัง
ชานยอลทำให้เราหลงรักมากๆเลย

ขอบคุณนะคะไรเตอร์ ><

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ